บทชีวิตใหม่ - ตอนที่ 2
บทที่ 2 การให้อภัย
“ถานเสี่ยวเทียนเกิดอะไรขึ้น? ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?” คำถามที่ชัดเจนดังขึ้นจากแถวที่ 2 มาถึงแถวสุดท้าย เด็กสาวร่างสูงที่มีหน้าอกและเอวที่ชัดเจน และสวมแว่นตาก้นขวดเบียร์หนาๆ ยืนขึ้น ปากของเธอวาววับด้วยเหล็กจัดฟันสเตนเลส
บางทีอาจจะเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือบางทีอาจจะเป็นเพราะความโกรธจึงทำให้หน้าอกของเด็กสาวพองโตอย่างรุนแรงจนทำให้สามารถมองเห็นรูปร่างของเธอจากชุดนักเรียนทรงโตได้อย่างชัดเจน
“หัวหน้าห้องผมไม่รู้จักเธอจริงๆ นะ คุณช่วยไปตามอาจารย์ประจำชั้นมาได้ไหม? หรือถ้าจะให้ดีก็ตามอาจารย์ใหญ่มาด้วยเลย โรงเรียนมัธยมแห่งแรกเมืองซานเฉิงของเรานั้นไม่ได้เปิดให้คนนอกเข้ามา แล้วผู้หญิงคนนี้เข้ามาได้อย่างไร? ความปลอดภัยของพวกเรากำลังตกอยู่ในอันตราย สิ่งนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่มากนะ” ถานเสี่ยวเทียนยืนขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองอย่างชอบธรรม
“ได้!” เด็กสาวผู้ที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าห้องรับคำและวิ่งออกจากห้องเรียนไปด้วยความตื่นตระหนก จนกระทั่งเธอออกมาจากห้องเรียน เธอก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างขึ้นมาได้
ถานเสี่ยวเทียนเปลี่ยนไปงั้นเหรอ? ครั้งนี้เขาไม่เรียกฉันว่า’กั้งหยาเหม่ย’แล้วงั้นเหรอ? [1]
ถานเสี่ยวเทียนจ้องไปที่แผ่นหลังของหัวหน้าห้องจนลับตาไปแล้วหันกลับมามองหญิงสาวที่ยังคงนั่งยองๆ อยู่ที่พื้น จากนั้นเขาก็เอนตัวเข้าไปกระซิบใกล้ๆ หูของเธอด้วยน้ำเสียงที่มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่ได้ยิน “นี่คุณผู้หญิงจะทำอะไรคิดให้ดีๆ ก่อนนะ หากคุณไม่พูดความจริงออกมา ในภายหลังก็อย่าโทษที่ผมจะต้องฆ่าคุณ”
หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัว ดวงตาที่มืดมนของเด็กชายคนนี้ ดวงตาที่เหมือนสัตว์เดรัจฉานของเขา สีหน้าที่โหดเหี้ยมและดุร้ายราวกับไม่เห็นชีวิตอยู่ในสายตาแบบนี้ เธอเคยเห็นมาก่อนเพราะมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอทำงานนั่งอยู่บนเวทีในห้องคาราโอเกะ ในวันนั้นมีมือปืนผู้สิ้นหวังที่เป็นที่ต้องการตัวของตำรวจจากทั้งสี่จังหวัด
นักเรียนมัธยมปลายมีแววตาแบบนี้ได้อย่างไร?
งานนี้ควรจะเป็นงานง่ายๆ ไม่ใช่เหรอ?
ขณะที่หญิงสาวกำลังลังเลอยู่ก็มีเสียงคำรามก็ดังขึ้นจากประตูหลังของห้องเรียน เสียงที่น่ากลัวนี้ทำให้ทั้งห้องเรียนเงียบลงทันที “เกิดอะไรขึ้น ทำไมชั้นเรียนถึงดูวุ่นวายแบบนี้?”
จูต้าฉางผู้อำนวยการของโรงเรียนนี้ปรากฏตัวขึ้นที่หลังห้องเรียนพร้อมกับพุงกลมๆ ของเขาและใบหน้าที่กลายเป็นสีแดงเพราะความโกรธ เขาชี้ไปที่นักเรียนที่กำลังตัวสั่นอยู่ “อีกแค่ 3 เดือนการสอบเข้าวิทยาลัยก็จะถึงแล้ว ครูปล่อยให้พวกเธอเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นสิ น่าผิดหวังจริงๆ… แล้วผู้หญิงคนนั้นไปนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้น? คุณต้องการอะไร? ผมเป็นผู้อำนวยการของที่นี่ แค่บอกผมมาผมสามารถช่วยคุณได้”
ดวงตาเล็กๆ ทั้งสองแอบมองผ่านข้างหลังแว่นขอบทองไปที่หน้าอกและต้นขาของหญิงสาว แต่ไม่นานเขาก็กลับมาทำท่าทางเคร่งขรึมทันที
นักเรียนมักจะเรียกจูต้าฉางคนนี้ว่าจูต้าฉ่าง [2] และเขาก็เป็นคนที่มีนิสัยชอบดูถูกคนเป็นที่สุด ชาติก่อนเขาเป็นคนที่จ้างผู้หญิงกลางคืนคนนี้ให้มาทำลายชื่อเสียงของถานเสี่ยวเทียนซึ่งมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นนักกีฬาระดับประเทศ คุณต้องรู้ก่อนว่านักกีฬาระดับประเทศนั้นมีแต้มต่ออย่างมากในการสอบเข้าวิทยาลัย และในตอนนั้นถานเสี่ยวเทียนที่มีอารมณ์เหมือนกับระเบิดก็ได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่โดยการต่อยลำไส้หมู
ลำไส้หมูนั้นไม่ยอมจนถึงที่สุดและในที่สุดถานเสี่ยวเทียนก็ถูกไล่ออกจากโรงเรียนจนพลาดการสอบเข้ามหาวิทยาลัย และต้องจำใจเข้าร่วมกับกองทัพด้วยความเกลียดชัง เหตุการณ์นั้นได้เปลี่ยนชะตากรรมของถานเสี่ยวเทียนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เช่นนั้นจากผลการเรียนของถานเสี่ยวเทียนมันไม่เป็นปัญหาเลยที่เขาจะสอบเข้าสถาบันการกีฬาได้
และนี่คือเรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นของทั้งหมด!
ถานเสี่ยวเทียนมองดูลำไส้หมูที่กำลังประคองหญิงสาวขึ้นอย่างใจเย็น ทักษะการแสดงของทั้งสองคนนี้เงอะงะเกินไป
“ผู้อำนวยการ เขา เขา…” ตามบทที่เตรียมไว้ล่วงหน้า หญิงสาวชี้มาที่ถานเสี่ยวเทียนและเตรียมที่จะพูดตามบท แต่เมื่อเธอเห็นดวงตาที่มืดมนของถานเสี่ยวเทียน เธอก็ตกใจมากจนพูดอะไรไม่ออก…
“ไม่เป็นไร ค่อยๆ พูดช้าๆ เขาทำอะไรกับคุณ?” ท้ายที่สุดจูต้าฉางก็เป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนที่มีชื่อเสียงนี้ อารมณ์ที่เขาแสดงออกมานั้นดูน่าเชื่อถือมาก
ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นเขาก็เห็นรอยยิ้มและดวงตาที่ดุร้ายของถานเสี่ยวเทียน เมื่อเห็นอย่างนั้นเขาก็ชี้มือไปที่ถานเสี่ยวเทียนทันที “ถานเสี่ยวเทียนไปยืนชิดกำแพง!”
ถานเสี่ยวเทียนยืนขึ้นอย่างเกียจคร้านโดยไม่ได้ให้ความสนใจกับลำไส้หมู เขายืดเอวบิดขี้เกียจก่อนจะเอียงศีรษะแล้วกะพริบตา “ผู้อำนวยการจู คุณจะลงโทษนักเรียนแบบลวกๆ แบบนี้ไม่ได้นะครับ”
“เธอกล้าเถียงผู้อำนวยการนี่ถือเป็นทัศนคติที่ไม่ดี ในฐานะที่ฉันเป็นผู้อำนวยการ แน่นอนว่าฉันมีสิทธิ์ที่จะลงโทษเธอ” ลำไส้หมูพูดโดยไม่กะพริบตา ในใจของเขานั้นเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ไอ้สารเลว แกกล้าหักหน้าฉัน ฉันจะให้หญิงสาวคนนี้ทำลายอนาคตของแก!
ถานเสี่ยวเทียนต้องการกวนน้ำให้ขุ่น เขาจึงหันไปตะโกนกับนักเรียนคนอื่นๆ ว่า “เพื่อนๆ ทุกคน ผู้อำนวยการจูบอกว่าฉันเถียงกับเขา พวกนายทุกคนช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าฉันเถียงเขาหรือเปล่า? ก่อนหน้านี้ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ถูกต้อง ทุกอย่างมันก็เห็นๆ กันอยู่ว่าเป็นผู้อำนวยการจูที่ลงโทษนักเรียนโดยไม่ถามคำถามอะไรเลย” จางต้าเผิงเป็นคนแรกที่ต่อสู้เพื่อความไม่ยุติธรรมของถานเสี่ยวเทียน พ่อของเขาเป็นหัวหน้าคณะกรรมการการศึกษาที่มีอำนาจอย่างแท้จริง มันจึงทำให้เขาไม่เห็นลำไส้หมูอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อมีผู้นำออกหน้านักเรียนคนอื่นๆ ก็เริ่มโห่ร้องตาม ชั้นเรียนทั้งชั้นกลายเป็นตลาดผักตอนเช้าไปในทันที
เมื่อลำไส้หมูเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีเขาจึงคว้าข้อมือของหญิงสาวแล้วพูดอย่างกังวลว่า “เร็ว! พูดออกมาว่าเกิดอะไรขึ้น!”
ลำไส้หมูหันหน้าไปทางนักเรียน ดวงตาเล็กๆ หลังแว่นตาสีทองของเขากะพริบถี่
หญิงสาวรู้ว่าอุปสรรคครั้งนี้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แล้วและก็ด้วยเงิน 3000 หยวน เธอจึงพูดออกมาด้วยเสียงเบาราวกับกระซิบ “หลังจากหลับนอนด้วยกันเขา… เขาไม่ยอมจ่ายเงินให้ฉัน ฉันมาที่นี่เพื่อทวงเงิน”
เธอเขย่ากางเกงในในมือเบาๆ “นี่คือสิ่งที่เขาลืมไว้ที่บ้านของฉัน…”
ลำไส้หมูสูดลมหายใจ เขากำลังรอคอยคำนี้! ตอนนี้มีหลักฐานทั้งหมดแล้วฉันจะขับไล่แกออกจากโรงเรียน!
เขาหันหน้าไปเผชิญกับถานเสี่ยวเทียน “ฉันเสียใจมากจริงๆ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าในโรงเรียนมัธยมแห่งแรกเมืองซานเฉิงของเราจะมีขยะแบบแกมาเรียน…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ถานเสี่ยวเทียนก็ขัดจังหวะเขาอย่างไม่ไยดี “ไม่ต้องเสียใจไปหรอกครับ ผมสิต้องเป็นฝ่ายเสียใจที่ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นคนสารเลวอย่างคุณ!”
“แก…” ลำไส้หมูคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าถานเสี่ยวเทียนจะกล้าต่อต้านเขาขนาดนี้
วันนี้ถานเสี่ยวเทียนคนนี้ค่อนข้างแปลก? ทำไมเขาถึงดูหนักแน่นขนาดนี้ มันเกิดอะไรขึ้น?
“เมื่อกี้คุณผู้หญิง คุณกำลังจะพูดอะไรนะ? ทำไมคุณไม่พูดออกมาดังๆ ให้นักเรียนทุกคนได้ยินชัดๆล่ะ? หรือว่าคุณกับผู้อำนวยการจูกำลังสมรู้ร่วมคิดกัน?” ถานเสี่ยวเทียนเยาะเย้ย “กางเกงนั่นน่ะเหรอที่เป็นหลักฐาน? ประตูห้องล็อกเกอร์ของทีมบาสไม่ได้ล็อกตลอดทั้งปีและการที่จะเข้าไปขโมยกางเกงชั้นในสักหนึ่งตัวจากที่นั่นมันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย คุณนี่ช่างไร้เดียงสาจริงๆ”
ลำไส้หมูถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างตกตะลึง
การโต้แย้งของถานเสี่ยวเทียนนั้นไร้ที่ติ ด้วยคำถามไม่กี่คำ ถานเสี่ยวเทียนผลักสิ่งต่างๆ ย้อนกลับมาจนทำให้เขาก็พูดไม่ออก
สุดยอด! โคตรเจ๋ง! สุดๆ ไปเลยเพื่อน!
หลังจากที่จางต้าเผิงและหม่าเหว่ยตกตะลึงไปพักหนึ่ง พวกเขาก็เป็นผู้นำในการปรบมือให้กับถานเสี่ยวเทียน นักเรียนคนอื่นๆ นั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่งและก็ปรบมือตามอย่างกระตือรือร้น เสียงปรบมือดังสนั่นจนดึงดูดนักเรียนจำนวนมากจากชั้นเรียนอื่นๆ ให้เข้ามามุงดู
หลังจากคำพูดของถานเสี่ยวเทียนจบลง ลำไส้หมูก็กลอกตาและในขณะเดียวกันเขาก็ปรามให้นักเรียนทั้งหมดสงบลง ในโรงเรียนนี้ไม่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับไส้หมูก็จริง แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมกว่าคือคำพูดของถานเสี่ยวเทียนนั้นมีเหตุผลและไม่สามารถปฏิเสธได้
“เกิดอะไรขึ้น? เสี่ยวเทียนทำอะไรผิดงั้นเหรอ?” เหรินชูเฟินอาจารย์ประจำชั้นปี 3 เดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับอาจารย์ใหญ่หลี่กงเหลียง ข้างหลังเธอคือสาวฟันเหล็กหัวหน้าห้องแสนขี้อาย เธอแสดงท่าทางลับๆ ส่งสัญญาณให้กับถานเสี่ยวเทียน ถานเสี่ยวเทียนเข้าใจและพยักหน้าให้เล็กน้อย
โดยไม่รอให้ถานเสี่ยวเทียนพูดอะไร จูต้าฉางก็รีบวิ่งไปข้างหน้าและพล่ามออกมาด้วยน้ำตา “อาจารย์ใหญ่หลี่ อาจารย์เหรินพวกคุณมาที่นี่ก็ดีแล้ว ถานเสี่ยวเทียนคนนี้น่าละอายเกินไป เขาซื้อประเวณีจนทำให้หญิงสาวคนนี้มาถึงประตูโรงเรียนของเรา ผมได้สอนและให้ความรู้แก่นักเรียนในโรงเรียนนี้มาหลายปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ผมได้เจอเรื่องน่าละอายแบบนี้”
เหรินชูเฟินมองไปที่หญิงสาวที่แต่งตัวฉูดฉาดและส่ายหัวออกมาทันที ถ้าเป็นเด็กผู้ชายคนอื่นๆ เธออาจจะเชื่อ แต่ถ้าพูดถึงเสี่ยวเทียน มันไม่มีทางเป็นไปได้
ถานเสี่ยวเทียนสูง 185 เป็นกองหน้าตัวหลักของทีมบาสเกตบอลโรงเรียน เขามีรูปร่างที่ดีราวกับนายแบบ มีคิ้วเหมือนดาบ ดวงตาเหมือนดวงดาว หล่อเหลาจนสะท้านแผ่นดิน ช็อกโกแลตที่เขาได้รับในวันวาเลนไทน์มากจนกินไป 3 วันก็ยังไม่หมด แล้วเด็กแบบนี้จะไปซื้อหญิงสาวในวัยนั้นกินจริงๆ เหรอ? มันเป็นไปไม่ได้!
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมาที่นี่?
เหรินชูเฟินพยายามสงบใจและถามออกมาอย่างสงบ “ถานเสี่ยวเทียน เธอมีอะไรจะอธิบายไหม?”
สายตาที่ดูถูกเหยียดหยามของถานเสี่ยวเทียนก่อนหน้านี้ ในตอนนี้เมื่อเขาหันหน้าไปทางเหรินชูเฟิน เขาก็กลายเป็นเด็กเรียบร้อยไปในทันที เขาส่ายหัวเบาๆ “ผมไม่มีอะไรจะอธิบายครับอาจารย์”
นักเรียนทั้งชั้นตกอยู่ในความโกลาหล ไม่มีใครคิดว่าถานเสี่ยวเทียนจะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น…
แต่ประโยคถัดมาของถานเสี่ยวเทียนได้จุดประกายความกระตือรือร้นของพวกเขาอีกครั้ง
“อาจารย์ใหญ่หลี่ อาจารย์เหริน เนื่องจากผู้หญิงคนนี้บอกว่าผมนอนกับเธอ ผมว่าเราควรจะโทรแจ้งตำรวจน่าจะดีกว่านะครับ! การที่เธอบุกเขามาในโรงเรียนของเราแบบนี้ ทุกๆ อย่างก็ควรจะปล่อยให้ตำรวจเป็นคนจัดการ… หม่าเหว่ย พ่อของนายเป็นตำรวจใช่ไหม? นายโทรเรียกพ่อของนายมาได้ไหม? ถ้าฉันทำผิดจริงๆ ฉันก็ยินดีที่จะถูกลงโทษ แต่ถ้าเรื่องนี้มันเป็นการใส่ร้ายฉัน ฉันจะไม่มีทางยอมให้มันจบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน! 3 ปีที่ผมฝึกฝนอย่างหนักเพื่อชื่อเสียงของโรงเรียนนี้ เพื่อชุดนักเรียนนี้และเพื่อชื่อเสียงของผมเอง ผมสาบานว่าผมจะไม่มีทางยอมใครหน้าไหนทั้งนั้น!”
“ถานเสี่ยวเทียน เอ็งโคตรเจ๋งเลยว่ะเพื่อน!” จางต้าเผิงรู้สึกว่าเลือดในกายของเขากำลังเดือดพล่านจนเขาแทบจะฉีกเสื้อของตัวเองและคำรามใส่สายลม
“ถานเสี่ยวเทียน โคตรเจ๋ง!” เด็กนักเรียนชายคนอื่นๆ เองก็ลุกขึ้นทีละคน พวกเขาอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำพูดที่เท่และเด็ดขาดขนาดนี้
แต่เดิมสาวๆ ในชั้นเรียนทุกคนก็ล้วนแต่ปลื้มถานเสี่ยวเทียนอยู่แล้ว พวกเธอมักจะไปสูดกลิ่นเหงื่อของเขาที่สนามบาสเกตบอลเป็นประจำทุกวัน และด้วยคำพูดของเขาในตอนนี้ มันก็ได้ทำให้พวกเธอลืมข้อกล่าวหาที่เขาโดนก่อนหน้านี้ไปอย่างสิ้นเชิง
มีเพียงหม่าเหว่ยเท่านั้นที่ยังรักษาความสงบไว้ได้และเดินออกไป “ตกลง ฉันจะไปโทรหาพ่อเดี๋ยวนี้”
“อย่า! มันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้ อย่ารบกวนตำรวจเลย” ลำไส้หมูคว้าตัวหม่าเหว่ยไว้ด้วยความตกใจ เหงื่อของเขาไหลย้อยลงมา
เรื่องเท็จไม่อาจกลายเป็นจริงได้ ถ้าเรื่องนี้ไปถึงตำรวจจริงมันจะต้องถูกเปิดเผยแน่นอน ฉันประเมินศัตรูต่ำไป ถ้าฉันรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันน่าจะหาคนสักสองสามคนมาดักทำร้ายเขาจนเข้าโรงพยาบาลมันน่าจะง่ายกว่า
หญิงสาวนั้นตื่นตระหนกยิ่งกว่า เธอรีบก้าวไปทางประตู “เข้าใจผิด มันเป็นความเข้าใจผิด”
ถานเสี่ยวเทียนรีบวิ่งไปขวางประตู ดวงตาของเขามืดมนจนน่ากลัว “ไม่มีใครสามารถออกไปได้เว้นแต่คุณจะอธิบายเรื่องทั้งหมดออกมาให้ชัดเจน!”
หลังจากเป็นสายลับเป็นเวลาหลายปี เขาได้ฝึกฝนหัวใจของเขาจนเป็นเหมือนกับก้อนหินที่มีไว้สำหรับบดขยี้ความหน้าซื่อใจคด
การให้อภัยนั้นเป็นงานของพระเจ้า ทั้งหมดที่ฉันทำได้คือส่งคนเหล่านั้นไปพบกับพระเจ้า!
—
[1] “กั้งหยาเหม่ย”แปลว่า‘สาวฟันเหล็ก’หรือหากเรียกด้วยความสนิท มันจะผันเป็น’เจ้าฟันเหล็ก’
[2] “จูต้าฉ่าง”แปลว่า‘ลำไส้หมู’