บทชีวิตใหม่ - ตอนที่ 19 การสอบเข้าวิทยาลัย
บทที่ 19 การสอบเข้าวิทยาลัย
7 กรกฎาคม ในวันที่แดดจ้า
หลัง 7 โมงเช้า ห้องสอบของโรงเรียนมัธยมศึกษาที่เป็นสนามสอบหมายเลข 14 ก็อัดแน่นไปด้วยผู้เข้าสอบและผู้ปกครอง
เหรินชูเฟินเดินผ่านฝูงชนและเมื่อพบกับนักเรียนของเธอ เธอก็เข้าไปแนะนำพวกเขาทันที นี่เป็นการสอบเข้าวิทยาลัยครั้งที่สิบห้าตั้งแต่เธอเริ่มทำงานเป็นอาจารย์
ตลอดปีแล้วปีเล่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 15 แล้วที่เธอมาส่งนักเรียนม.ปลายสอบ จนตอนนี้เธอมีผมหงอกขึ้นมาบ้างแล้ว
ถานเสี่ยวเทียนตัวสูงยืนเด่นท่ามกลางฝูงชน โดยมีถานเยว่จินและซ่งชุนฮวายืนเคียงข้างเขา ทั้งคู่ฝากร้านให้ลูกพี่ลูกน้องดูแลเพื่อที่จะมาเป็นกำลังใจให้ถานเสี่ยวเทียนเป็นพิเศษ พวกเขาทั้งตื่นเต้นและประหม่า
“ครูเหรินสวัสดีสวัสดีครับ!” ถานเสี่ยวเทียนโค้งคำนับด้วยความเคารพ
“โอ้! เสี่ยวเทียน เธอไม่ต้องกังวลนะ ปกติเธอก็ทำได้มากกว่า 500 คะแนนอยู่แล้วและเธอยังมีคะแนนพิเศษอีก 20 คะแนนด้วยนะ สำหรับเธอแล้วการสอบนี้ไม่ได้ยากอะไรเลย” เหรินชูเฟินพยายามมอบรอยยิ้มที่อบอุ่นที่สุดของเธอให้กับนักเรียน เธอพยายามอย่างเต็มเพื่อให้พวกเขาผ่อนคลาย
“ไม่ต้องห่วงครับครู ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้ครูผิดหวังครับ” ถานเสี่ยวเทียนยกแขนขึ้นเพื่อแสดงกล้ามเนื้อของเขา
เวลา 07.30 น. เปิดห้องสอบให้ผู้เข้าสอบเข้าไปทีละคน
เมื่อถานเสี่ยวเทียนกำลังจะเดินไปพร้อมกับจางต้าเผิงและหม่าเหว่ย จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นว่า “ตรวจสอบนาฬิกาก่อน ถ้าเวลาผิดจะลำบาก”
ฉู่ถิงที่เดินอยู่ข้างหลังเขา เหยียดแขนสีขาวราวหิมะออกมาแบนติดกับแขนของถานเสี่ยวเทียน…
เมื่อนั่งบนที่นั่ง ถานเสี่ยวเทียนก็แอบมองไปที่ฉู่ถิงที่อยู่ทางด้านหน้าขวาราวกับกำลังส่งกระแสจิต ฉู่ถิงและถานเสี่ยวเทียนมองหน้ากันเพียงไม่กี่วินาทีจากนั้นก็หันกลับ
ก่อนเริ่มการสอบ ฉู่ถิงเหยียดแขนซ้ายไปบนโต๊ะ นิ้วชี้ของมือซ้ายของเธอถูกวางไว้บนกิ๊บสีน้ำตาลอย่างเป็นธรรมชาติ และเล็บสีแดงสดของเธอเองก็สะดุดตามากเช่นกัน
คลิก คลิก สองครั้ง…
เล็บสีแดงขยับสองครั้ง
ถานเสี่ยวเทียนเข้าใจ: ฉู่ถิงบอกว่าพร้อม!
วิชาแรกเป็นภาษาจีนและไม่จำเป็นต้องให้ฉู่ถิงช่วย ถานเสี่ยวเทียนเริ่มหลับตาและพักสมอง
กริ๊งๆ ระฆังดังขึ้น ครูสองคนที่ถือกระดาษทดสอบเดินเข้ามาในห้องสอบ
ถานเสี่ยวเทียนหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ในที่สุดการสอบก็เริ่มแล้ว
ม้วนกระดาษถูกส่งไปยังมือของถานเสี่ยวเทียนและเขาก็อ่านมันอย่างรวดเร็ว
เยี่ยม ข้อสอบยังคงเป็นคำถามแบบปรนัยและการเขียนเรียงความสองเรื่อง หนึ่งเรื่องใหญ่และหนึ่งเรื่องเล็ก เรียงความเรื่องเล็กคือ‘ให้แม่ล้างเท้า’มี 20 คะแนน สำหรับเรียงความขนาดใหญ่คือ’ความอดทนและการเอาชนะความเปราะบางในจิตใจ’มี 40 คะแนน
เนื้อหาของเรียงความทั้งสองนี้ถานเสี่ยวเทียนจำได้ดี โดยไม่สนใจคำถามแบบปรนัย เขาเริ่มเขียนอย่างเงียบๆ
ถานเสี่ยวเทียนเขียนทีละคำ เขาเขียนทุกๆ คำอย่างระมัดระวัง เพราะเขารู้ดีว่าลายมือของผู้แต่งจะช่วยเพิ่มความประทับใจ โชคดีที่ลายมือปัจจุบันของเขามีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าชาติก่อนมาก
หลังจากผ่านไป 20 นาที เรียงความที่เขียนอย่างประณีตสองชุดก็เสร็จสมบูรณ์
เมื่อทำสมาธิได้แล้ว ถานเสี่ยวเทียนก็เริ่มต้นการทำข้อสอบแบบปรนัยคำถามแรก เมื่ออ่านคำถามเขาก็เริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับมันมากขึ้น จากนั้นความทรงจำในหัวของเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาทีละเรื่อง
เขาจำได้ว่าในฤดูหนาวปี 98 ในชีวิตก่อนหน้าของเขา ในค่ายทหาร ในฐานะทหารเกณฑ์ เขาบีบนาฬิกาไว้ในมือพร้อมกับน้ำตาไหลที่ไหลไม่หยุด แต่ตอนนี้ในเวลาเดียวกันเขากำลังสอบเพื่อที่จะเข้าสู่รั่วมหาวิทยาลัย
ความทรงจำเหล่านั้นโผล่ขึ้นมาซ้อนทับกับกระดาษข้อสอบตรงหน้า พร้อมกับคำตอบของคำถามที่ไหลเรียงตามกันออกมา
ความรู้สึกนี้มันเยี่ยมจริงๆ
เวลาในการสอบคือสองชั่วโมงครึ่ง และเสียงกริ่งก็มาถึงในไม่ช้า
ถานเสี่ยวเทียนตรวจสอบคำตอบแล้วห้าครั้ง เขามั่นใจว่าวิชาภาษาจีนของเขาจะได้อย่างน้อยก็ 125 คะแนนหรืออาจจะไปถึง 130 คะแนนเลยด้วย
เมื่อเขาเดินออกจากห้องสอบ เขาและฉู่ถิงก็มองหน้ากันอีกครั้งและเห็นความประหลาดใจในดวงตาของเธอ เรียงความที่เขาเคยพูดถึงเมื่อไม่กี่วันก่อนออกมาในข้อสอบจริงๆ
ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันและเดินออกไปตามบ้านพ่อแม่ของตัวเอง
ตอนบ่าย 14.30 น. ถานเสี่ยวเทียนเดินเข้าไปในห้องสอบอีกครั้ง วิชาที่จะสอบบ่ายนี้คือคณิตศาสตร์ วิชานี้จะเป็นตัววัดว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว
เริ่มสอบ 13.00 น.
ถานเสี่ยวเทียนเปิดกระดาษและก้มลงมองคำถามทีละคำถาม
เขากำลังเฝ้ารอความโชคดีและหวังว่าความทรงจำเกี่ยวกับข้อสอบของเขาในชาติก่อนจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะได้ยินคำอธิษฐานของเขา เมื่อมองดูคำถามคณิตศาสตร์บนกระดาษ คำตอบทีละคำตอบก็หลุดออกจากความทรงจำ
ถานเสี่ยวเทียนใช้ดินสอทำเครื่องหมายคำถามที่เขาพอจะเข้าใจและเขียนคำตอบของตัวเองไว้ด้านล่าง
เขามองผ่านคำถามแบบปรนัย และเน้นไปที่คำถามเกี่ยวกับการคำนวณ
ถานเสี่ยวเทียนจ้องไปที่คำถามข้อที่ 17 และสวดภาวนาในใจพร้อมกับเหงื่อเต็มหน้าผาก
นึกให้ออกสิๆ!
ความทรงนั้นเลือนรางคล้ายกับมองผ่านม่านน้ำ…
ด้วยความช่วยเหลือของฉู่ถิงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งคำถามข้อที่ 17 และ 18 ซึ่งเป็นคำถามการคำนวณที่ง่ายที่สุด ถานเสี่ยวเทียนเริ่มเขียนคำตอบทันที
แต่คำถามสองสามข้อต่อจากนั้น แม้ว่าจะฆ่าเขาให้ตายอีกครั้งเขาก็ตอบมันไม่ได้จริงๆ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นถานเสี่ยวเทียนก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาสูตรการคำนวณที่น่าจะถูกที่สุด!
หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้วถานเสี่ยวเทียนก็มองดูนาฬิกาของเขา ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งก่อนสิ้นสุดการสอบ เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ผู้คุมสอบสองคน คนหนึ่งยืนอยู่บนเวทีมองดูผู้สอบ ส่วนอีกคนกำลังเดินไปรอบๆ เพื่อสำรวจทุกๆ คน
ผู้คุมสอบด้านล่างเห็นถานเสี่ยวเทียนเงยหน้าขึ้นจึงแอบย่องเข้ามาหาเขา เมื่อเห็นกระดาษคำตอบที่ถูกเขียนจนหนาตา เขาเดินหน้าสำรวจคนอื่นต่อไป
ถานเสี่ยวเทียนยังคงขุดลึกลงไปในความทรงจำของเขา…
“ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง นักเรียนที่ยังทำไม่เสร็จให้เร่งมือด้วย” ผู้คุมสอบเตือนผู้เข้าสอบ
หัวใจของถานเสี่ยวเทียนเต้นเร็วขึ้น เขาลืมตาขึ้น ตอนนี้มือซ้ายของฉู่ถิงวางอยู่ที่กิ๊บแล้ว เธอกำลังรอสัญญาณจากเขา
คลิก!
เมื่อปากกาของถานเสี่ยวเทียนตกลงไปที่พื้น เขาก็ยกมือขึ้น “อาจารย์ครับ ผมทำปากกาตกครับ”
ผู้คุมสอบพยักหน้า ถานเสี่ยวเทียนลุกขึ้น ก้มตัวและหยิบปากกาขึ้นมา
นิ้วชี้ของฉู่ถิงขยับ เล็บสีแดงเคาะลงสั้นๆ ถานเสี่ยวเทียนเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่ารหัสที่เธอส่งคือ 1B
คนอื่นๆ ไม่สามารถสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของฉู่ถิงได้ การกระทำของเธอนั้นดูเหมือนกับความเคยชินของคนอื่นๆ อย่างเช่นการกัดดินสอเวลาคิดเรื่องยากๆ
คำถามแบบปรนัยสิบสองข้อแรกถูกส่งออกมาอย่างรวดเร็ว ถานเสี่ยวเทียนเปรียบเทียบพวกมันกับคำตอบที่เขาเขียนไว้ในตอนแรกและมีหกข้อที่เขาทำถูก
แต่ตอนนี้เขายังไม่มีเวลาแก้ไขพวกมัน เพราะฉู่ถิงกำลังจะส่งสัญญาณอีกครั้งแล้ว มันควรจะเป็นคำถามแบบเติมคำลงในช่องว่างทั้งสี่ข้อ
คำถามข้อแรกและคำถามที่สองถูกส่งออกมาอย่างราบรื่น
แต่เมื่อถึงคำถามข้อที่สามก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ผู้คุมสอบที่กำลังเดินตรวจอยู่เดินเข้ามาบังระหว่างถานเสี่ยวเทียนและฉู่ถิง ทำให้เขามองไม่เห็นคนตอบที่ถูกส่งออกมา
ถานเสี่ยวเทียนกังวลขึ้นมา แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
หลังจากส่งคำตอบด้วยการแตะนิ้วเบาๆ แล้ว ฉู่ถิงก็หันหน้ากลับมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวจนบังเอิญสบตากับผู้คุมสอบพอดี
“อย่ามองย้อนกลับมา ตั้งใจทำข้อสอบให้ดี” ผู้คุมสอบเตือนฉู่ถิง
ฉู่ถิงหันหน้ากลับด้วยความตื่นตระหนก และการกระทำนี้มันก็กระตุ้นความสงสัยของผู้คุมสอบ
เขาเดินไปที่ด้านข้างของฉู่ถิง หยุดและมองลงไปที่กระดาษคำตอบของฉู่ถิง
หัวใจของถานเสี่ยวเทียนแทบจะหลุดมาอยู่ที่คอ เขาไม่ได้กังวลแล้วว่าเขาจะทำข้อสอบได้ไหม ตอนนี้เขากลัวว่าผู้คุมสอบจะจับฉู่ถิงได้ที่สุด
ไม่ว่าในวันนั้นเธอจะพูดอะไรออกมา แต่ยังไงเขาก็ไม่ควรจะให้เธอช่วยเขาโกงเลยจริงๆ