บทชีวิตใหม่ - ตอนที่ 13 หลี่ซานไห่หง
บทที่ 13 หลี่ซานไห่หง
ถอย!
ถานเสี่ยวเทียนถอยหลังหนึ่งก้าวจนพ้นคมของใบมีด
สาวงามในชุดแดงพลิกข้อมือของเธอและมีดก็ฟันจากล่างขึ้นบนมาที่ไหล่ซ้ายของถานเสี่ยวเทียน
ถอยหลังอีกครั้ง!
คมมีดพลาดเป้าหมายอีกครั้ง!
สาวงามในชุดแดงประหลาดใจ จากนั้นเท้าของเธอก็ก้าวออกข้างหนึ่ง ครั้งนี้คมมีดเล็งไปที่คอของถานเสี่ยวเทียน
คราวนี้ถานเสี่ยวเทียนไม่ได้ถอยหนี ด้วยมือซ้ายที่เคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด เขาคว้าไปที่ข้อมือขวาของสาวงามในชุดแดงแล้วบิดแขนขวาทั้งแขนของเธอไปติดกับแผ่นหลัง
สาวงามในชุดแดงเอนตัวเข้าไปในอ้อมแขนของถานเสี่ยวเทียนด้วยความตกใจ ตอนนี้เธอไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไรแล้ว เธอกลัวว่าถานเสี่ยวเทียนจะไม่พอใจเพราะตอนนี้ถานเสี่ยวเทียนสามารถหักแขนของเธอได้ด้วยการออกแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“สาวน้อย ไม่รู้หรือไงว่าเด็กนั้นไม่ควรจะเล่นของมีคมนะ” แม้ว่าฝีปากของถานเสี่ยวเทียนจะดูผ่อนคลาย แต่สีหน้าของเขากลับแข็งราวกับหิน ทำไมผู้หญิงลึกลับคนนี้ถึงโจมตีฉัน? แล้วหลังจากนี้จะยังมีปัญหาตามมาอีกไหม?
ถานเสี่ยวเทียนเอื้อมมือลงไปหยิบมีดจากพื้นและตกใจกับน้ำหนักที่เบาของมันอย่างมาก นี่มันไม่ควรจะเป็นน้ำหนักที่โลหะควรจะมีเลย
แต่หลังจากสังเกตดูดีๆ เขาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ปรากฏว่ามันเป็นมีดพับที่ถูกทำมาจากพลาสติก
เขาปล่อยมือออกจนสาวงามในชุดแดงล้มลงกับพื้นและอี้จื่อฮวาก็รีบเข้าไปช่วยเธอด้วยใบหน้าตื่นตระหนก
สาวงามในชุดแดงลูบไหล่ขวาของเธอและดึงบุหรี่หงเหอออกมาอีกมวนอย่างเฉยเมยแล้วหันไปพูดกับถานเสี่ยวเทียนด้วยน้ำเสียงไพเราะว่า “ขอยืมไฟหน่อยสิพ่อหนุ่ม”
แช็ก! ไฟแช็กในมือของถานเสี่ยวเทียนติดขึ้น
ทั้งสองคนนั่งอยู่ริมถนนพร้อมกับบุหรี่ในมือ
บุหรี่ถูกสูบไปจนเกือบจะหมดมวน ในที่สุดสาวงามในชุดแดงก็อ้าปาก “ซานอิงพูดถูก เมื่อเทียบกับนายแล้ว พวกเราไม่ต่างจากมือสมัครเล่นจริงๆ”
“ซานอิงคือใคร?” ถานเสี่ยวเทียนจงใจแกล้งทำเป็นไม่รู้ เกาหัวและถามออกมาด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ก็คนหัวล้านหัวโตที่นายทุบตีไปเมื่อวันเสาร์ที่แล้วไง” สาวงามในชุดแดงพ่นควันบุหรี่ออกมา ยืนขึ้นแล้วตบฝุ่นที่บั้นท้าย จากนั้นก็ยื่นมือเล็กๆ ที่ขาวราวกับหิมะออกมา “สวัสดีฉันไห่หง คนอื่นๆ เรียกฉันว่าหลี่ซานไห่หง”
“หือ?!” ถานเสี่ยวเทียนตกตะลึง “คุณเป็นผู้หญิง… ไห่หงคือผู้หญิง?”
“ใช่ ฉันเป็นผู้หญิง” ไห่หงยิ้ม
ในซานเฉิงนั้นมีไม้เท้าที่มีชื่อเสียงหลายอัน (เจ้าถิ่น) เช่น เต้าตงเหลาก่านจื่อ (ไม้แก่จากตะวันออก) , หลี่ซานไห่หง (ภูเขาลูกแพร์จากทะเลแดง) , จิ่วเป่าเถี่ยเกอ (ไทสันจากป้อมปราการทั้งเก้า)
มีความแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างไม้เท้ากับเถ้าแก่ใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วเหล่าไม้เท้านั้นจะใช้พลังเป็นตัววัดคุณค่าของตนเอง ส่วนเถ้าแก่ใหญ่นั้นจะพึ่งพาเงินเพื่อวัดสถานะของตน
ในชีวิตก่อนหน้านี้คนเหล่านี้เพียงได้ยินชื่อของถานเสี่ยวเทียนก็ไม่กล้าโผล่หน้าออกมาให้เขาเห็นแล้ว และเขาก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าหลี่ซานไห่หงที่มีชื่อเสียงจะเป็นหญิงสาวที่ดูละเอียดอ่อนแบบนี้
“พ่อหนุ่ม ตอนนี้นายเป็นหนี้ฉัน 20,000 หยวนนะ! นายจะจ่ายคืนยังไง?” ไห่หงยิ้มและเดินเข้ามาใกล้ถานเสี่ยวเทียน
ครั้งนี้มันดูอันตรายยิ่งกว่าครั้งก่อนเสียอีก ถานเสี่ยวเทียนถอยกลับจนหลังติดกับผนังและถอยต่อไปไม่ได้
“ซานอิงกระจายข่าวไปทั่วเมืองซานเฉิงว่าจุนเย่เสนอรางวัลค่าหัว 20,000 หยวนเพื่อให้ใครสักคนมาหักขานาย ตอนแรกฉันแปลกใจจริงๆ ที่รู้ว่าคนที่ทำให้จุนเย่พังยับเยินขนาดนั้นจะเป็นแค่เด็กม.ปลาย! แถมซานอิงยังมากระซิบบอกฉันด้วยตัวเองอีกว่านายไม่เหมือนเด็กม.ปลายทั่วไป”
“ตอนแรกฉันคิดว่าที่ซานอิงมาพูดกับฉันแบบนั้นก็เพื่อที่จะกระตุ้นให้ฉันลงมือจัดการกับเด็กม.ปลาย… ฉันไม่ได้เชื่อในสิ่งที่ซานอิงพูดเลยแม้แต่น้อยจนกระทั่งอี้จื่อฮวามาหาฉันเมื่อสองวันก่อน แต่มันก็น่าเสียดายที่หลังจากนั้นจุนเย่ได้ถูกตำรวจจับไป ด้วยโทษครอบครองปืน มันก็น่าจะทำให้เขาไม่ได้ออกมาภายใน 78 ปีนี้แน่นอน และมันก็ช่างบังเอิญจริงๆ ที่วันนี้ฉันได้รับหน้าที่ให้มาเป็นกรรมการคุมสอบที่โรงเรียนนี้ ฉันจึงพาอี้จื่อฮวามาด้วยเพื่อจะดูว่านายเป็นเด็กม.ปลายแบบไหน”
ไห่หงพูดพร้อมกับใช้นิ้วของเธอหมุนวนรอบๆ หน้าอกของถานเสี่ยวเทียน
ดูเหมือนเธอจะชอบลวนลามเด็กน้อยคนนี้จริงๆ
ถานเสี่ยวเทียนเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่มีร่างกายแข็งแรงและจิตวิญญาณของเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านประสบการณ์มามากมาย มันจึงทำให้เขาสามารถทนต่อการยั่วยวนของไห่หงได้ ตาของเขาหรี่ลงและอ้าปากพูดอย่างหยาบคาย “พี่หง ถ้าพี่ยังทำแบบนี้ต่อไป ผมจะจัดการพี่ตอนนี้ที่นี่ทันที…” หลังจากพูดจบ เขาก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที เมื่อเทียบกับนางจิ้งจอกที่อยู่ในวงการมาหลายปี นักเรียนม.ปลายแบบเขานั้นกล้าข่มขู่เธอออกไปแบบนั้นได้ยังไง?
“ฮ่าฮ่า!” โชคดีที่ไห่หงไม่สนใจ เธอหัวเราะขึ้นฟ้าแล้วโบกมือของเธอ “หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว เราสองคนถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องมาเจอกัน ถ้าน้องมีเวลาเมื่อไหร่ก็ให้ไปตามหาพี่ที่หลี่ซานนะ พี่สาวคนนี้สัญญาว่าจะเล่นเป็นเพื่อนกับน้องชายเอง”
หลังจากพูดจบเธอก็เดินกลับไปที่โรงเรียน ถานเสี่ยวเทียนเดินเข้าไปเอนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งและโทษตัวเองเป็นเวลานาน หากในตอนนี้คุณเป็นนักเรียนมัธยมปลาย คุณต้องเล่นบทบาทนี้ให้ดีที่สุด เพราะถ้าตอนนี้เขาอยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำ ความผิดพลาดครั้งนี้มันก็คงจะทำให้เขาตายไปแล้ว
เมื่อกลับไปถึงโรงเรียน เหล่ากรรมการผู้คุมสอบและไห่หงก็เดินกลับออกมาพอดี
“พี่สาว พี่เป็นกรรมการผู้คุมสอบจริงๆ เหรอ?”
“แน่นอนว่าฉันเป็นกรรมการผู้คุมสอบการสอบจริงๆ และฉันก็เป็นโค้ชชวนหวู่ด้วยนะ”
เมื่อนึกถึงการโจมตีที่รวดเร็วของเธอก่อนหน้านี้ ถานเสี่ยวเทียนก็พยักหน้าเข้าใจทันที “ชวนหวู่! ไม่น่าแปลกใจเลย!” (ชวนหวู่ = ศิลปะการต่อสู้)
สมาชิกของทีมบาสเกตบอลไม่ได้เข้าร่วมการศึกษาด้วยตนเองในตอนเย็น ทั้งสิบคนรวมเงินกันและขออาจารย์ออกไปที่ร้านอาหารเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไหลจากโรงเรียนเพื่อฉลองที่สอบใบรับรองนักกีฬาระดับ 2 ได้สำเร็จ
ทั้งอาจารย์การกีฬาและนักเรียนทั้งกินทั้งดื่มกันจนดึกดื่น เมื่อเห็นว่าเบียร์จะมีไม่พอเสิร์ฟ เถ้าแก่ร้านจึงออกไปซื้อมาเพิ่ม
ส่วนถานเสี่ยวเทียนนั้นไม่ได้ดื่มกับทุกๆ คน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากดื่ม แต่เพราะว่าเขากลัวว่าเขาจะพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกมาหลังจากที่ดื่มมากเกินไป
เมื่อเขากลับถึงบ้านและได้นอนลงบนเตียง ถานเสี่ยวเทียนก็นึกถึงคำพูดของไห่หงและรู้สึกกลัวไปครู่หนึ่ง โชคดีที่ฉันจัดการหลิวจุนได้ทันเวลา มิฉะนั้น ด้วยเงินรางวัล 20,000 หยวนนี้คงจะมีผู้คนมากมายมาท้าทายฉันแน่นอน
******
หลังเลิกเรียนตอนเที่ยงของวันเสาร์ ทันทีที่ฉู่ถิงเก็บกระเป๋านักเรียนเสร็จ เธอก็ออกจากโรงเรียนไปด้วยสีหน้าข่มขื่น ฉู่เฉียงที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนมานาน เมื่อเห็นว่าลูกสาวของตนออกมาแล้วเขาก็เดินเข้าไปถือกระเป๋านักเรียนของลูกสาวทันที หลังจากฉู่ถิงขึ้นรถ ฉู่เฉียงก็เดินไปหาถานเสี่ยวเทียนที่ยืนอยู่ข้างถนนอย่างไม่พอใจและพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “อย่ามารบกวนลูกสาวของฉันอีกในอนาคต” ก่อนที่เขาจะขับรถซานทาน่าจากไป
ถานเสี่ยวเทียนเฝ้าดูซานทาน่าหายไปบนถนนอย่างเงียบๆ จากนั้นเขาก็ก้าวขึ้นคร่อมจักรยานอย่างช่วยไม่ได้ เขามีบันทึกที่คัดลอกมาจากฉู่ถิงแล้ว ตอนนี้เขาสามารถศึกษาทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง แต่ท้ายที่สุดมันก็ไม่ได้ดีเท่ากับการเรียนด้วยกัน
ตัวเขาเองนั้นเข้าใจความคิดของครอบครัวฉู่ มันก็จริงที่คงจะไม่มีใครอยากจะให้ลูกสาวของตัวเองมาแต่งงานกับพ่อค้าหาบเร่
ดูเหมือนว่าฉันจะต้องใส่ใจกับการหาเงินอย่างจริงจังแล้วสิ เพื่อที่พ่อแม่จะได้ทำงานน้อยลงด้วย
แต่ถานเสี่ยวเทียนก็ไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้มากนักเพราะเขามีแผนสำหรับความมั่งคั่งรออยู่แล้ว แต่แผนทั้งหมดจะถูกจัดเตรียมหลังจากที่เขาสอบเข้าวิทยาลัย เพราะในชีวิตก่อนหน้านี้ที่เขาไม่สามารถเข้าไปเรียนในวิทยาลัยได้ มันคือความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา
และทัศนคติของตระกูลฉู่ในวันนี้ก็ทำให้เขาตระหนักได้ว่าถ้าคุณมีเงิน ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ มันก็จะไม่มีใครกล้าดูถูกคุณ