[นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน - ตอนที่ 199 การประชุมล่าหมี
199 การประชุม
“――คุณหนูคะ ดูเหมือนในประเทศนี้จะมีวิธีการขนส่งที่ดีอยู่ล่ะค่ะ”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อริโนกิสพูดว่า「ฉันอยากให้เคลียร์โต๊ะหน่อย」พวกนักผจญภัยก็รีบลุกขึ้นจากที่นั่ง ส่วนฉันก็ขอบคุณ และนั่งลงโดยไม่ลังเล
จากนั้น ฉันก็เริ่มยืนยันกระแสทางหลังจากนี้กับริโนกิสที่ซื้อข้อมูลค่าหัวตามคำสั่งไว้แล้ว
โซเบลก็ยังอยู่ด้วย แต่ดูเหมือนเขาจะได้แค่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
มาเวเลียเป็นทวีปขนาดใหญ่ที่มีเกาะลอยฟ้าเพียงไม่กี่แห่ง เหล่าค่าหัวจึงกระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งทวีปแทน ฉันรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่อยู่ในที่ที่สามารถเดินไปถึงได้
เรือเหาะนั้นแม้จะสะดวกมาก แต่ก็ต้องใช้เวลาเตรียมการนานมาก
พวกเราหารือวางแผนเส้นทางที่มีประสิทธิภาพ วิธีที่จะเดินทางไป และจะฆ่ายังไง――ปัญหาอีกอย่างเดียวคือ การขนย้ายสัมภาระ
แต่
“ดูเหมือนว่าจะมีเรือเดี่ยวขนาดใหญ่สำหรับการขนส่งสินค้าที่แล่นระหว่างเมืองอยู่ค่ะ เหมือนว่าเดิมทีจะถูกใช้เพื่อขนส่งทหารจักรกลไปยังสถานที่ที่ต้องการ แต่ตอนนี้แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถเช่าได้ค่ะ”
โฮโฮ้ เรือเดี่ยวขนาดใหญ่สิน๊า
การเคลื่อนไหวทหารจักรกลจำเป็นต้องใช้พลังเวทมนตร์ ดังนั้นหากเปิดใช้งานก่อนการต่อสู้ ก็จะไม่มีพลังเหลือพอที่จะสู้ในกรณีฉุกเฉินได้
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาพัฒนาขาคู่นั้นขึ้นมาเพื่อใช้เดินทางไปยังเป้าหมาย หลีกเลี่ยงความเหนื่อยล้าจากการเคลื่อนที่ น่าจะเป็นอย่างงั้นมั้ง
ว่ากันว่าเทคโนโลยีเรือเหาะของมาเวเลียนั้นล้าหลัง แต่อาจเป็นเพราะว่ามีข้อจำกัดที่ไม่คาดคิด ที่เรียกว่า「การบรรทุกทหารจักรกล」ความล่าช้าอาจเนื่องมาจากข้อจำกัดนี้ก็ได้ ฉันแน่ใจว่ามันไม่สามารถบินสูงได้ เนื่องจากน้ำหนักตัวของมันเอง
ม๊า นอกเหนือจากนั้น จะสะดวกกว่าถ้าบอกว่ามันเป็นเรือเดี่ยวสำหรับขนส่งทหารจักรกล
“ด้วยเหตุนั้น ความสามามรถในการบรรทุกก็ค่อนข้างมากด้วยค่ะ”
แน่นอนว่าต่อให้วิ่งต่อเนื่องเอง ทั้งฉันและริโนกิสก็สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าม้าหรือรถม้า
ทว่า ปัญใหญ่คือ จะขนส่งเหยื่อที่จับได้ยังไง
อย่างที่คิด มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้เลย หากฉันต้องแบกทั้งหมดนั้น ในแง่ของน้ำหนักก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่แน่ใจเลยว่าจะทำให้ฉันช้าลง สุดท้ายร่างกายของฉันก็ยังเป็นเพียงร่างกายของเด็ก
ทว่า ดูเหมือนสิ่งนี้น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้
“คุณเคยควบคุมเรือเดี่ยวลำใหญ่นี้ไหมคะ?”
“เอ๊ะ อะ อืม…….”
ดูเหมือนว่าโซเบลจะควบคุมได้ ดังนั้นฉันจะฝากเรือเดี่ยวขนาดใหญ่ไว้กับเขา
“แล้ว ไม่อนุญาตให้เข้าเกินจากจุดนี้ค่ะ ประกาศอย่างเป็นทางการคือดินแดนที่ยังไม่ได้สำรวจ และอาณาจักรมาเวเลียกำลังทำการบุกเบิกอยู่ค่ะ……..ดูเหมือนว่าการรับรู้ทั่วไปจะเป็นเช่นนั้น”
แผนที่มีชื่อภูเขา แม่น้ำ และเมืองอื่น ๆ กำกับอยู่ แต่เมื่อเกินจุดหนึ่งไปแล้ว จะไม่มีการวาดอะไรเลย
ไอ้นั่นสินะ พื้นที่ที่อยู่ถัดจากนั้นน่าจะเป็นเขตแดนของแมลง
“จ๊า เอาไว้แวะขากลับแล้วกัน”
ก่อนอื่นก็มุ่งหน้าสู่ตะวันออกเฉียงเหนือ เปลี่ยนงานล่าค่าหัวให้กลายเป็นเทศกาลเลือด หลังเล่นสนุกอย่างเอิกเกริกกับพวกแมลงที่อยู่ไกลออกไปทางทิศตะวันออกแล้ว ก็จะกลับมายังเมืองหลวงของมาเวเลียจากทิศตะวันตกเฉียงใต้
หากวาดเล้นตามเส้นทางการเดินทางก็จะกลายเป็นรูปทรงวงรีพอดี
“นี้ จะทำทั้งหมดนี้ในวันเดียวเหรอกคะ?”
“เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำให้สำเร็จ ฉันคิดว่าจะเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ทิ้งพวกเด็ก ๆ ไว้นานเกินไปล่ะนะ”
“………นั่นสินะคะ ไม่มีชาวมาเวเลียคนไหนที่ไว้ใจได้จริงล่ะนะคะ”
ก็อย่างงั้นแหละ
หลังจากตัดสินใจเรื่องกำหนดการได้แล้ว ก็ถึงเวลาลงมือเรื่องอื่นอีกครั้ง
สถานที่นัดพบต่อไปคือ ทางออกของเมืองใต้ปราสาท
ฉันมอบหมายให้ริโนกิสจัดการเรื่องเรือเดี่ยวขนาดใหญ่
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะให้ความร่วมมือกับเธอไหม แต่โซเบลที่เป็นสารวัตรทหารก็อยู่ด้วย ดังนั้นฉันคิดว่าพวกเธอจะไม่มีปัญหาล่ะนะ
สถานที่ต่อไปที่ฉันกำลังมุ่งหน้าไปก็คือ สมาคมการค้า
จริงอยู่ว่าเป็นของที่มีความจำเป็น แต่ตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ากระเป๋าใบใหญ่นี้กำลังน่ารำคาญ กับขวางทางอยู่
“――ริเพียว! อยู่ไหม!?”
เมื่อฉันเข้าไปพร้อมกับตะโกนเรียกเสียงดัง พ่อค้าที่อยู่ใกล้ ๆ ก็มองมาที่ฉันอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“อะ เนียซัง!”
พนักงานต้อนรับสาวอยู่ที่เคาน์เตอร์ รีบขอตัวจากลูกค้าที่ให้บริการอยู่ และเดินเข้ามาหาทันที
“พวกเด็ก ๆ ล่ะ?”
“อยู่ที่บ้านพ่อแม่ของฉันค่ะ ทางฉัน ถึงจะอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็ยังเป็นขุนนางล่ะค่ะ”
โห๊ว อย่างงั้นก็ดี
ในดินแดนเช่นอาร์ตัวร์ ตำแหน่งของขุนนางและสามัญชนไม่ได้แตกต่างกันมากอีกต่อไป แต่ที่มาเวเลียยังคงเป็นสังคมแห่งชนชั้นอย่างเข้มแข็ง การยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจึงพบได้ไม่บ่อยนัก
“ยินดีที่ได้รู้จักน๊า ฉันจะไปรับพวกเขาตอนเย็นนะคะ อะ บ้านของคุณอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”
“ริโนกิสซังรู้แล้วล่ะค่ะ”
งั้นเหรอ ถ้าอย่างงั้นก็ไม่เป็นไร
“――โอ้ย เกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจของข้ากัน? ทำไมชาวต่างชาตินี้ถึงได้รับความสำคัญกันห๊า”
เขาเป็นพ่อค้าซึ่งเป็นลูกค้าที่ริเพียวกำลังให้บริการอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักฉัน
“จะจบลงเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นโปรดรอสักครู่ค่ะ”
“ห๊า? คิวของข้าอยู่――”
“ฉันมีข้อตกลงทางธุรกิจที่ใหญ่กว่าคุณมาก กรุณาหุบปากแล้วดูไปซะ”
ขณะที่พูดแบบนั้น ตึ๊ก ฉันก็วางกระเป๋าที่ถืออยู่ลง
“ฉันมีเงินประมาณพันแปดร้อยล้านครัม และโลหะมีค่าจำนวนหนึ่ง ช่วยเก็บไว้ที่สมาคมการค้าทีนะคะ ค่าตอบแทน…….ประมาณห้าสิบล้านดีไหม?”
“เอ๊ะ”
ริเพียว พ่อค้าที่รับบริการ และเหล่าพ่อค้าคนอื่นที่กำลังเฝ้าดูสถานการณ์ต่างมุ่งความสนใจไปที่กระเป๋าซึ่งกำลังนอนอยู่บนพื้นอย่างสง่างาม
“กะ กรุณารอสักครู่นะคะ ฉันจะไปเรียกใครสักคนที่ตำแหน่งสูงกว่ามาเดี๋ยวนี้ค่ะ”
หลังจากพูดอย่างงั้น ริเพียวก็หายตัวไปด้านหลัง และพาชายวัยกลางคนถึงสูงอายุกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาดูเหมือนผู้ชายธรรมดาที่ดูเป็นคนดี
ม๊า เป็นความรู้สึกที่เชื่อไม่ได้เลยเน๊
“กัดดัม ผู้บริหารของสมาคมการค้าครับ คุณบอกว่า คุณต้องการให้ทางเราจัดการเงินของคุณเช่นนั้นสินะครับ……..เอ่อ หนึ่งพันแปดร้อยล้าน?”
“ใช่ค่ะ”
“ขอตรวจสอบได้ไหมครับ?”
“เชิญเลยค่ะ”
กัดดัมเปิดกระเป๋าที่ผูกไว้แน่น มองเข้าไปข้างใน แล้วปิดทันที
“……….อาโน เงินนี้ มาจากที่ไหนครับ…………?”
“ฉันจำเป็นต้องบอกด้วยเหรอคะ? คุณอยากรบกวนลูกค้าที่มาใช้บริการมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”
“ขอประทานโทษด้วยครับ กรุณาตามไปที่ห้องอื่นก่อนนะครับ ――โอ๊ย มาแบกที!”
เนื่องจาก「มีเวลาไม่มาก」ฉันจึงพูดให้กัดดัมกับริเพียวฟังอย่างเร่งรีบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนก็มารวมตัวกันเพื่อยืนยันจำนวนเงิน
“………ครับ มีเงินหนึ่งพันแปดร้อยล้านครัม กับแปดหมื่นแปดพันหกสิบหกครัม และโลหะมีค่า คุณกำลังบอกว่าต้องการที่จะเก็บทั้งหมดไว้ที่นี่สินะครับ?”
“ใช่แล้ว ฉันพูดไปหลายครั้งแล้วนะ ว่าฉันไม่มีเวลา ถ้าไม่ได้ก็รีบ ๆ พูดมาซะ”
“ไม่ครับ! ทางเรายินดีอย่างยิ่งที่จะเก็บไว้เพื่อคุณครับ!”
กัดดัมรีบร่างใบสัญญาข้อตกลงขึ้นมาในพริบตา และขอลายเซ็นฉัน
ฉันอ่านผ่าน ๆ ตา
ไม่มีคำอธิบายที่เข้าใจยาก ดังนั้นฉันไม่คิดว่าจะมีปัญหาใด ๆ
ค่าตอบแทนคือ ห้าสิบล้าน ล่ะ
ฉันไม่แน่ใจว่าสูงเกินไปหรือเปล่า แต่เพราะสามารถดำเนินการเจรจาธุรกิจได้รวดเร็วมาก บางทีคงจะสูงกว่าราคาตลาดมากก็ได้
“เน๊ ฉันขอเพิ่มข้อตกลงอีกสักข้อได้ไหม?”
“ครับ?”
“――ฉันคงลำบากแน่ ๆ ถ้ามีใครดันมาบอกฉันว่า ไม่รู้จักกัน ทำมันหาย หรือจำไม่ได้ว่าเก็บไว้ ดังนั้นหากมีเงินไม่ตรงกับในใบสัญญานี้แม้แต่ครัมเดียว ฉันสามารถที่จะทำลายสมาคมการค้าแห่งนี้ได้ คุณสามารถเขียนมันลงไปได้ใช่ไหมคะ?”
คำถามคือกัดดัมจะทำงานของเขาในฐานะพ่อค้า และในฐานะผู้บริหารสมาคมการค้าอย่างจริงจังได้หรือไม่
เรื่องนั้นก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
ในห้องส่วนตัวนี้มีแต่พนักงานของสมาคมการค้า และชาวมาเวเลียอยู่เท่านั้น แปลว่าจะไม่มีใครเป็นพยานให้ฉันได้เลย หรือก็คืออาจจะมีเหตุให้เป็น「เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น」ได้เช่นกัน
นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องพูด
“หรือว่าคุณวางแผนที่จะโกงแต่แรกแล้วเหรอคะ? หรือว่าคุณตั้งใจที่จะรีดไถเงินจำนวนมากจากเด็กอยู่อย่างงั้นหรือคะ? สมาคมการค้ามาเวเลียคงจะไม่ทำอะไรเช่นนั้นจริงไหมคะ?”
“แน่นอนครับ”
“จ๊า ถ้าอย่างงั้นคุณก็เขียนลงไปได้เลยสินะคะ?”
“ครับ ถ้านั้นจะทำให้คุณมีความสุข เชิญเลยครับ”
――เป็นพ่อค้าอย่างที่คาดไว้ ฉันไม่สามารถบอกได้จากสีหน้าเลยว่า เขากำลังอารมณ์เสียหรือรู้สึกยังไงกันแน่
ทว่า จะแบบไหนก็ช่าง
ถ้าเขาผิดสัญญา และมอบเหตุผลแก่ฉันในการทำลายสมาคมการค้าได้ แบบนั้นแล้วยังไงก็ได้
ยังดีที่เขาตั้งใจทำธุรกิจอย่างจริงจัง และตลอดเวลาที่ใช้ด้วยกันก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ก็เพราะว่าสามารถทำเงินได้ล่ะนะ
“จะว่าไปแล้ว กัดดัมซัง”
ขณะที่กำลังเขียนข้อตกลงที่ได้รับการรับรองลงไป ฉันก็เริ่มคุยอย่างเป็นกันเองกับผู้บริหารของสมาคมการค้า
“คุณรู้จักดาร์จอล・ซาฟีไหมคะ”
“ซ้า ไม่รู้จักล่ะครับ”
“เหรอคะ งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ”
ที่บอกไม่รู้จักเป็นเรื่องโกหกอยู่แล้ว
การที่ผู้บริหารของสมาคมการค้าจะไม่รู้จักผู้นำแห่งโลกใต้ดินน่ะ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ม๊า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการโกหกครั้งนี้มีเจตนาที่แท้จริงคืออะไร
“เช่นนั้น เชิญเซนต์ได้เลยครับ”
ฉันกับกัดดัมเซนต์ชื่อลงในใบสัญญาทั้งสองฉบับ
การทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ขณะที่ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้ ฉันก็พูดทิ้งส่งท้าย
“นี่เป็นเงินที่ได้มาจากเขาค่ะ”
“ห๊ะ………?”
“ขอตัวนะคะ”
ตอนนี้กัดดัมน่าจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับดาร์จอล
นี่ถือเป็นความเมตตาครั้งสุดท้าย
เพราะฉันติดหนี้บุญคุณพนักงานต้อนรับสาวเป็นอย่างมาก
――ถ้าเขายังเพิกเฉย อย่างงั้นอย่างงี้ฉันก็จะไม่สนใจเหมือนกัน ฉันจะทำลายที่นี่ตามที่สัญญาเอาไว้
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ