[นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน - ตอนที่ 161 วันหยุดฤดูร้อนจบลงด้วยความทรงจำช่วงฤดูร้อนที่โลลิได้เป็นผู้ใหญ่
- Home
- [นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน
- ตอนที่ 161 วันหยุดฤดูร้อนจบลงด้วยความทรงจำช่วงฤดูร้อนที่โลลิได้เป็นผู้ใหญ่
161 วันหยุดฤดูร้อนจบลงด้วยความทรงจำช่วงฤดูร้อนที่สนุกสนาน
“ควรจะทำยังไงดี”
หืม?
“ทำไมคุณถึงมาถามฉันล่ะคะ? กรุณาไปถามชิโชว”
“ไม่ ก็เพราะ…………”
…………..
อย่ามองนะกัปตัน…………
โจรสลัดอากาศ……หลังจากปควบคุมเรือเหาะทั้งสามลำของกลุ่มแฮมเมอร์เฮด(ฉลามหัวค้อนดำ)ได้สำเร็จ เรือความเร็วสูงที่หลบหนีไปก็กลับมา
เหล่าลูกศิษย์ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ม๊า ดังนั้นดูเหมือนว่านี่จะเป็นชัยชนะที่ง่ายดาย
พวกโจรถูกมัดและย้ายไปที่เรือความเร็วสูง ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกโยนเข้าไปในโกดัง ――การได้เห็นชายประมาณสี่สิบคนนอนกลิ้งไปมาอย่างไม่ระวังตัว นั้นค่อนข้างน่าขบขัน แต่ก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเช่นกัน ฉันไม่คิดว่าผู้ชายที่โตเป็นผู้ใหญ่มีอายุพอสมควรแล้วควรจะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้
“ถ้าจำไม่ผิดกลุ่มแฮมเมอร์เฮด คือกลุ่มโจรสลัดอากาศจากทางใต้ มีแหล่งหากินอยู่ใกล้ชายแดนระหว่างอาณาจักรทหารจักรกล มาเวเลียกับจักรวรรดิการบินแว็ง เดอ ครุช”
อย่างที่คาดไว้ ทอร์คเชี่ยวชาญในเรื่องการเดินทางเพื่อธุรกิจ ซึ่งทำให้ดูเหมือนจะมีความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์บนท้องฟ้าเป็นอย่างดี
“เดาว่าคงจะก่อเรื่องในพื้นหนักมือเกินไปจนเหยื่อลดลง เลยกะจะมาหากินต่างแดนในเขตแดนของอาร์ตัวร์ เพื่อรอให้เรื่องทางนั้นซาลงไปก่อน ก็น่าจะเป็นอะไรทำนองนั้น”
กัปตันคาดเดาออกมา เข้าใจล่ะ ทำงานต่างประเทศสินะ เหมือนกับพวกฉัน
“ถ้างั้นถ้าส่งมอบให้มาเวเลีย พวกเราน่าจะได้รับรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ มาบ้างใช่ไหม?”
เมื่อนักผจญภัยริโนะถาม ทอร์คก็ตอบว่า「ก็อาจจะนะครับ」
“ทว่า มาเวเลียเป็นประเทศปิด และทำสงครามอยู่ตลอดเวลา จากมุมมองของพวกเขา บริษัทเซโดนีก็ไม่ต่างจากคนนอก และพวกเขาไม่ค่อยต้องการเจรจาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินมากเท่าไหร่
มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกเอาเปรียบ ต่อให้มีรางวัลค่าหัวก็คงจะได้เพียงน้อยนิด และไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์จะออกมาเร็วแค่ไหน……”
พูดอีกอย่างหนึ่งคือ งานหนักในการเจรจา และผลประโยชน์ไม่สมดุลกัน
“เป็นประเทศที่ยุ่งยากมากเลยนะ?”
ฉันกระซิบเสียงแผ่วเบากับอันเซลที่อยู่ข้าง ๆ หลีกเลี่ยงการรบกวนการสนทนาของผู้ใหญ่ เขาพยักหน้าว่า「ก็นะ」
“ทางนั้นมีทหารจักรกลที่มีอัตราชัยชนะที่สูงล่ะนะ โดยพื้นฐานแล้วถึงได้ทำสงครามอยู่ตลอด ทว่า เทคโนโลยีเรือเหาะยังไม่ได้รับการพัฒนามากนัก ดังนั้นจึงมีหนทางใช้ทหารจักรกลไม่มากนัก นั่นเป็นสาเหตุที่พวกเขาไม่สามารถกระทำการรุกที่ก้าวร้าวได้ ซึ่งก็ทำให้ทุกอย่างคุกรุ่นมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว”
โฮโฮ
ฉันเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับทหารจักรกล แต่ไม่เคยเห็นว่าเป็นยังไง
เท่าที่ฟังมาดูเหมือนว่าจะเป็นชุดเกราะเต็มตัวที่ขับเคลื่อนด้วยหินเวทย์มนตร์……
“ฉัน ก็มาจากมาเวเลียล่ะ ม๊า ก็ย้ายออกจากที่นั่นตั้งแต่ยังเด็กแล้วล่ะนะ เลยไม่ค่อยรู้อะไรมากนักเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด แถมไม่ค่อยมีความทรงจำที่ดีเท่าไหร่ด้วย”
เห๊ เฟรซามาจากมาเวเลียสินะ
พูดไปแล้ว ฟิเลเดีย เจ้าสาวที่แต่งงานที่แว็ง เดอ ครุชไปเมื่อไม่นานมานี้ก็มาจากประเทศนั้นเหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิด เธอเป็นลูกสาวของตระกูลขุนนางที่เรียกว่าตระกูลคอร์คูลิส
“――ช่วยรอเดี๋ยวก่อน!!”
คนที่จู่ ๆ ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง คือกัปตันของกลุ่มโจรสลัดอากาศซึ่งมือถูกมัดไว้ด้านหลัง
เขาคุกเข่าทั้งสองข้าง มองตรงไปข้างหน้า……หรือจะพูดว่ามองตรงมาที่ฉันด้วยเหตุผลบางอย่าง
“ข้าไม่อยากถูกส่งไปมาเวเลีย! ถ้าไปที่นั่นทุกคนจะถูกตัดสินประหารชีวิตกันหมด! ถ้าเป็นคนเดียวก็ไม่เป็นไร……ม๊า ข้าก็ไม่ได้อยากตายเหมือนกัน และถ้าร้องขอชีวิตได้ จะให้ข้าเลียร้องเท้าของเจ้าและมอบก้นให้ก็ได้ แต่ว่าข้ารู้สึกเสียใจที่เจ้าพวกนี้ต้องถูกฆ่าตายไปด้วย!”
โอ้ว ……โอ้ว ก้นรึ อืท ฉันเข้าใจว่าหมายถึงเขาเตรียมใจไว้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงจ้องตาฉันกัน แต่ฉันก็สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเขา
“ข้าไม่ได้สำคัญอะไร? แม้ว่าเจ้าจะมอบข้าให้กับมาเวเลีย เจ้าก็อาจจะได้รับหรือไม่ได้รับสักเหรียญ เจ้าจะเจอความรู้สึกแย่ ๆ มากมายระหว่างการเจรจา สุดท้ายสมดุลจะติดลบ จะมีแต่เพียงการสูญเสียครั้งใหญ่เท่านั้น! ข้าขอสาบานด้วยความเป็นผู้นำของกลุ่มโจรสลัดอากาศไม่สำคัญ!”
อืม……ฉันคิดว่าไม่น่าเป็นความคิดที่ดีที่จะไม่เห็นคุณค่าในตัวเองเกินไปแบบนั้น แต่ ม๊า เขาก็พูดถูก ฉันได้กลิ่นของความไม่มีชีวิตชีวามาตลอดตั้งแต่ที่พบกัน
“แต่พวกแกปล้นสินค้าจากพ่อค้าไปเท่าไหร่แล้ว? บางสถานการณ์แกก็ฆ่าพวกเขาใช่ไหม? ไม่มีที่ว่างสำหรับความเห็นอกเห็นใจ”
น้ำเสียงของพ่อค้าทอร์คเย็นชา แตกต่างจากตอนที่เขาคุยกับริโนกิสหรือฉัน เขาเป็นผู้ชายที่อารมณ์ดีมีรอยยิ้มและใบหน้าที่เป็นมิตรเอาแต่พูดว่า「เกรงใจเกินไปแล้วครับ」
ท้ายที่สุดแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นพ่อค้า และก็มีด้านที่เย็นชาด้วยสินะ
“ไม่มีข้อแก้ตัวโว้ย! ข้าทำมาแล้วจริง ๆ! ฆ่ามาหลายคนด้วยซ้ำ! ข้าก็อยากจะแก้ตัวเพื่อให้อยู่รอด แต่ทำไม่ได้โว้ย!
ทว่า ข้าก็อยากเอาตัวรอด ไม่ต้องการที่จะตาย แต่หากเพียงแค่หัวของข้าคนเดียวล่ะก็! โปรดไว้ชีวิตเจ้าพวกนี้ด้วย!”
ตึง
ร่างกายท่อนบนหักลงมาข้างหน้า หน้าผากของเขากระแทกพื้น
“ขอแค่นี้! ได้โปรดไว้ชีวิตเจ้าพวกนี้ด้วย! ………….ถ้าเป็นไปได้ก็ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย! แค่ให้โอกาศก็ได้!”
ไม่มีอะไรเพิ่มจากนี้ เขาเป็นพวกไม่ตั้งใจจริง
คำพูดและทัศนคติของกัปตันดูเหมือนว่าจะดังก้องนิดหน่อย
“ควรจะทำยังไงดี”
ทอร์คหันมาถามฉัน
“ทำไมคุณถึงมาถามฉันล่ะคะ? กรุณาไปถามชิโชว”
“ไม่ ก็เพราะ…………”
ก็เพราะ
ก็เพราะ กัปตันที่กระแทกหน้าลงกับพื้นเงยหน้าหันมามองฉันอย่างคาดหวัง พวกโจรสลัดอากาศที่ได้สติก็ด้วย หรือแม้แต่พวกลูกศิษย์ของฉันรวมถึงนักผจญภัยริโนะก็หันมามองที่ฉันเช่นกัน――กำลังพยายามจะพูดอะไรกัน
สีหน้าแบบนั้นกำลังพยายามจะบอกว่า ฉันซึ่งมีอายุไม่ถึงสิบขวบควรเป็นผู้มีสิทธิ์ตัดสินใจงั้นเรอะ ……ต่อให้เนื้อแทนควรเป็นเช่นนั้น แต่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำอย่างชัดเจนแบบนี้ ดังนั้นอย่ามองอย่างโจ่งแจ้งสิ
“ทำไมถึงมองฉันกันคะ?”
แล้วสำหรับต้องเป็นกัปตันโจรสลัดอากาศไม่ใช่คนอื่น ๆ ที่เป็นคนพูดเรื่องตอนนี้ ยังไงก็ตาม ฉันก็ต้องการเหตุผลที่ชัดเจน
“ไม่ว่าจะมองยังไงเจ้าก็เป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุด เจ้าอาจจะดูเป็นแค่ยัยเด็กเปรตเร้าอารมณ์ แต่ยังไงข้าก็อดไม่ได้ที่จะคิดแบบนั้น ……อันที่จริง ข้ายอมเลียรองเท้าเจ้าเลย ช่วยทีได้ไหม? หากมีบางอย่างที่เจ้าไม่ชอบ เช่น แครอทหรือพริกเขียว ข้าจะกินให้เอง และถ้าเหนื่อย ข้าจะอุ้มให้ด้วย ข้าจะรับใช้เจ้าด้วยสุดใจเลย”
“――ไม่ได้ เรื่องนั้นไม่ได้เด็ดขาด”
ริโนกิสปฏิเสธด้วยเสียงเย็นชาทั้งที่ไม่ได้ถาม ฉันเดาว่าเธอกำลังคิดว่ามีแค่ตัวเองเท่านั้นที่สามารถรับใช้ฉันได้อย่างแน่นอน
……ซ้า แล้วจะทำยังกับเรื่องนี้ดี
เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่พวกเขาได้ทำลงไปแล้ว ก็ไม่มีทางปล่อยให้พ้นผิดได้
ยังไงก็ตาม ก็เป็นเรื่องจริงที่ฉันเกลียดพวกเขาไม่ลง การคิดว่าเขากำลังจะตาย กระตุ้นให้ฉันรู้สึกแย่นิดหน่อย แถมยังร้องขอชีวิตด้วยน๊า……
“ลิลลี่จัง รอสักเดี๋ยวได้ไหม มีบางอย่างที่ผมอยากจะยืนยัน”
“จ๊า ถ้าอย่างงั้นฉันจะปล่อยให้เป็นที่ของทอร์คซังแล้วกันนะคะ คุณจะได้ทำตามที่ชอบได้เลย? ฉันจะไม่คัดค้านการตัดสินใจใด ๆ หากมีเหตุผลพอ ――เน๊ะ ชิโชว?”
เนื่องจากตัวแทนของเราคือนักผจญภัยริโนะ ดังนั้นเธอจึงต้องเป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้าย ม๊า ก็เป็นสัญญา
ด้วยเหตุนี้ ฤดูร้อนของชั้นประถมศึกษาปีที่สองที่ฉันยุ่งอยู่กับการถ่ายทำและทำงานในต่างประเทศก็สิ้นสุดลง
พร้อมกับความทรงจำของเหตุการณ์สนุก ๆ ที่ได้เผชิญในช่วงท้ายสุด ใช่ พร้อมกับความหมายในแง่กายภาพด้วย จากนั้นก็กลับมาที่อาร์ตัวร์
และ ภาคการศึกษาที่สองก็เริ่มต้นขึ้น