ตอนที่ 12【ความโศกเศร้าของคาเทีย】
【สเต็กมังกร】มีสามเกรดด้วยกัน
เนื้อของมังกรน้อยจะมีระดับที่ C
เนื้อของมนุษย์มังกรจะอยู่ระดับ B
และสิ่งที่คาเทียนำมาคือเนื้อระดับ A จากมังกรแรงค์ A
เนื้อนุ่มๆนั้นเยี่ยมที่สุด และเมื่อเอามีดจิ้มไปน้ำเยิ้มๆก็ไหลออกมาเลยล่ะ
มันแพงก็จริงแต่ก็คุ้มค่ากับรสชาติ
มีเนื้อสัตว์อยู่หลายประเภท เช่น หมู วัว ไก่ และกระต่าย แต่ไม่มีอะไรอร่อยเท่าเนื้อมังกร
ไม่คิดว่าจะนำเนื้อดีๆขนาดนี้มาให้ผมกิน
「อืม…นี่เป็นครั้งแรกของข้าเหมือนกันที่ได้เข้าบ้านผู้ชาย แต่ดูเหมือนว่าจะรักความสะอาดน่าดูเลยนะ」
ทันทีที่เธอเข้ามาในบ้านก็พูดชมผม
ครั้งแรกเรอะ?
นั่นหมายความว่าผมจะเป็นชายคนแรกของคาเทียซังงั้นเหรอ
แจ่มไปเลยแฮะ !
「อืม….การตกแต่งเองก็ดูงดงามมากเลยนะครับ」
「ก็ดีแล้วล่ะที่รักความสะอาดในหัวข้านะคิดว่าผู้ชายน่ะมีแต่พวกสกปรก」
ไม่ นั่นอคติส่วนตัวละครับ
ทั้งผู้ชายและผู้หญิงก็ทำห้องสกปรกได้ทั้งนั้นแหละครับ
「อืม อยากจะย่างเนื้อสักหน่อย พอจะมีเตาผิงไหม?」
「เอ่อ มีครับ อยู่ทางนั้นจุดไฟแล้วย่างได้เลยครับ」
ผมชี้ไปที่เตาผิงที่อยู่ตรงกลางบ้าน
สิ่งเดียวที่ภูมิใจก็คือบ้านผมมีเตาผิงใหญ่นี่ล่ะ
เพราะว่าคุณย่าของผมนั้นเป็นพวกขี้หนาว เลยต้องทำให้มันใหญ่ขนาดนี้
คาเทียพยักหน้าหลังตรวจสอบเตาผิง
「อืม ถ้างั้นจะขอย่างมันหน่อยล่ะกัน ต้องขอโทษด้วยแต่ขอยืมครัวด้วยได้ไหม」
「อะ ครับ เชิญเลยครับ」
แม้ว่าจะเรียกว่าครัว แต่ก็มีแค่โต๊ะเล็กๆที่ห่างจากเตาผิงนิดหน่อย โอเคไหมล่ะเนี่ย
เครื่องมือที่มีก็คือมีดกับเขียง
คาเทียหยิบเนื้อมังกรที่ห่อกระดาษออกมา วางบนเขียงไม้ นำกระดาษออก แล้วใช้มีดตัดอย่างประณีต
ไม่มีการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่า และวิธีตัดก็ได้รูปทีเดียว
คาเทียซังโรยพริกไทยลงในเนื้อ จากนั้นก็หั่นมันให้พอดีคำ
เอ๋ พริกไทยงั้นเหรอ?
แม้ว่าพริกไทยจะมีราคาถูกลงเพราะการซื้อขายระหว่างประเทศ แต่ว่ามันก็แพงสำหรับคนทั่วไป
คาเทียที่โรยมันลงไปบนเนื้อมังกร อย่างไม่ใส่ใจ จะว่ายังไงดีผมควรจะทานจริงๆเหรอ
โดยไม่สนใจความสงสัยของผม คาเทียซังหยิบกระทะจากผนัง วางเนื้อไว้บนนั้นและเริ่มย่าง
เนื้อมังกรนั้นที่เต็มไปด้วยน้ำมันจึงย่างได้โดยไม่ให้เนื้อติดกัน
การย่างเองก็ง่ายมาก
คาเทียซังดูเหมือนจะเชี่ยวชาญสกิลงานบ้านน่าดูเลย เหมือนเชฟจากวังหลวง
เธออาจจะทำอาหารทานเองเป็นประจำ
มิฉะนั้นคงไม่สามารถใช้ทักษะระดับสูงอย่างการพลิกเนื้อด้วยการยกกระทะขึ้น
แถมเธอยังใช้ไฟแรงในการย่าง ซึ่งบ่งบอกว่าเธอกะระดับความร้อนได้ดี
เพราะถ้าทำไม่ดีเนื้อจะไหม้เอาได้
「คาเทียซัง ดูคุ้นเคยกับการทำอาหารมากเลยนะครับ」
「พอดีว่าข้ามีน้องสาวเยอะน่ะ」
「เอ๊ะ งั้นเหรอครับมีน้องสาวด้วยสินะครับ!」
มีน้องสาวแถมเยอะอีกด้วย !
แน่นอนว่าอยากเจอชะมัด!
「ข้าฆ่าแกแน่หากแตะต้องน้องสาวข้าแม้แต่ปลายนิ้ว」
「อะ ครับ」
※
มุมมองคาเทีย
หลังจากที่เนื้อสุกแล้ว ก็เอาเนื้อประกบกับขนมปังกลมที่ฉีกครึ่ง
ใส่ผักและราดซอสที่ทำขึ้นด้วยตัวเองก็เป็นอันเสร็จ
นี่แหละ『เบอร์เกอร์เนื้อมังกร』
เมื่อกัดเข้าไป น้ำที่มีกลิ่นหอมจะล้นออกมาจากเนื้อที่ชุ่มช่ำและขนมปังก็ดูดซับน้ำนั่นทำให้อร่อยยิ่งขึ้น
ผักและซอสยังช่วยชูรสชาติของเนื้อมังกรออกมา และเพิ่มสัมผัสกรุบกรอบให้กับเนื้อที่นุ่มและขนมปัง ทำให้เป็นอาหารจานพิเศษ
อาหารจานนี้นี่เป็นอาหารจานโปรดของคาเทียเลย
「อร่อยมากเลยครับคาเทียซัง!」
เซคุโดที่กิน『เบอร์เกอร์เนื้อมังกร』ก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
คาเทียคิดว่ารอยยิ้มของเขาดูน่ารักดี
「นี่ ไม่ต้องรีบกินขนาดนั้นก็ได้ ยังมีให้เติมอีก」
「ขอบคุณมากครับ!」
เด็กผู้ชายอายุ 15 ปีนี่กินจุขนาดนี้เลยเหรอ
กินเยอะกว่าพวกน้องสาวของฉันซะอีก
ฉันเองก็ดีใจที่เอาขนมปังมาทำเบอร์เกอร์ด้วย
การได้เห็นเซคุโดกินอย่างมีความสุขทำให้ฉันนึกถึงน้องสาวเมื่อนานมาแล้ว
ตอนนี้เหล่าน้องสาวของฉันต่างทำอาหารเป็นกันหมดแล้ว จึงไม่ยุ่งยากอีกต่อไป
ฉันเองโล่งใจในฐานะพี่สาวที่พวกเธอสามารถเริ่มดูแลตัวเองได้แล้ว แต่พูดตามตรงก็ทำให้ฉันรู้สึกเหงาไปด้วย
แต่เมื่อเห็นเซคุโดที่ทานอาหารของฉันอย่างอร่อย มันก็ช่างน่าสนุกและน่ายินดีที่ทำอาหารให้ใครสักคนได้ทาน
นอกจากนี้ ดูเหมือนที่บ้านนี้เขาจะอยู่คนเดียว ฉันเองก็เลยอยากจะช่วยเขาสักหน่อย
「เอ่อหัวหน้า ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็ ข้าจะช่วยเตรียมอาหารเย็นให้ทุกมื้อเอาไหม?」
「เอ๋!? เอ่อ ก็ขอบคุณสำหรับเรื่องนั้น แต่ว่าผมเกรงใจครับ!」
「ไม่เป็นไรน่า ยังไงก็ตาม น้องสาวข้าน่ะทำอาหารกินเองเป็นกันหมดแล้ว และข้าน่ะกำลังเบื่ออยู่พอดีเลย ดังนั้นก็เลยคิดว่าอยากจะเลี้ยงน้องชายตัวน้อยคนนี้ดูน่ะ」
「เอ่อ นั่นหมายความว่าจะทำให้ทุกวันเลยงั้นเหรอครับ?」
「ไม่ชอบเหรอ?」
「ไม่ใช่ไม่ชอบครับ ! ดีใจสุดๆไปเลยต่างหาก ! ยังไงก็ตาม ผมคิดว่าทางฝั่งคาเทียซังจะเสียประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียวเพราะทำให้ผมทานตลอด……」
「ข้าเองก็มีส่วนที่ได้ประโยชน์อยู่นะ」
「เอ๋?」
ใช่ ข้อดีที่ฉันได้คือการได้พูดคุยกับเซคุโดและค้นหาความลับในความแข็งแกร่งของเขา
นั่นเป็นหตุผล
「ข้าเองก็ได้เจอหน้าเจ้าบ่อยขึ้นด้วยและยังได้พูดคุยกันแบบนี้ ข้าคิดว่าข้าพอใจนะ?」
พอฉันพูดแบบนั้นเซคุโดก็หน้าแดงแจ๋
สักพักฉันเองก็ไม่เข้าใจทำไมเขาถึงหน้าแดงแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม หากฉันไตร่ตรองคำพูดดูดีๆแล้วและนึกถึงมัน ก็หมายความว่าฉันอยากจะเจอเซคุโดทุกวันเลย
คาเทียที่นึกได้แบบนั้นก็หน้าแดง
「อะ แฮ่ม ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ ! ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะเจอเจ้าขนาดนั้น ! ข้าคิดว่าเจ้าทานข้าวเย็นคนเดียวคงจะเหงา……」
พอพูดแบบนี้ก็จี้ใจดำตัวเองเหมือนกัน
ฉันควรจะพูดยังไงดีล่ะ
มันอาจจะดีกว่าถ้าถามเรื่องความแข็งแกร่งของเขาตรงๆ
「……คาเทียซัง ใจดีจังเลยนะครับ」
นั่นคือวินาทีที่เซคุโดพูดออกมาด้วยท่าทางมีความสุข
MANGA DISCUSSION