(นิยายแปล) The Daughter of the Albert House Wishes for Ruin - ตอนที่ 5-3
ตอนที่ 5-3
นอกจากคำพูดที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้ว พ่อของแมรี่นั้น ซึ่งเป็นถึงผู้นำตระกูลอัลเบิร์ต ยังเป็นผู้ชายที่เป็นที่รักของผู้คนอีกด้วย
เขาเป็นที่รักของผู้คนมากมาย แม้ว่าอาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ลือกันไปต่างๆ นานา แต่งานเลี้ยงยามเย็นของวันนี้ก็เป็นการรวมตัวของผู้คนมากมายจากพื้นที่ห่างไกล
“เอ่อ… ฉันชื่ออลิเซียค่ะ ฉันเรียนที่เดียวกับท่านแมรี่ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ ยินดีด้วยนะคะสำหรับวันนี้!”
คุณจะประหม่ามากไปไหม แต่ถ้ามองจากมุมมองของคนทั่วไปอย่างอลิเซีย มันเป็นเรื่องปกติที่จะวิตกกังวลเพราะหัวหน้าตระกูลอัลเบิร์ตเป็นคนที่อยู่เหนือคนอื่นๆ ถึงแม้อลิเซียที่กำลังสับสน จะแสดงความยินดีและให้ช่อดอกไม้ เจ้าของที่ได้รับมันก็เพียงแค่ยิ้มอ่อนๆ
“ขอบคุณนะ ว่าแต่หนูเป็นเพื่อนของแมรี่เหรอ?”
“ใช่ค่ะ!”
“น่าแปลกที่ แมรี่จะมีเพื่อนที่ซื่อสัตย์เหมือนกับหนูได้เลยนะเนี่ย … เด็กคนนั้นมีบุคลิกแปลก ๆ แต่ยังไงฉันก็ขอฝากลูกสาวไว้ด้วยนะ”
“แน่นอนค่ะ!”
อลิเซียพยักหน้าตอบรับอย่างมีความสุข และเจ้าของงานเลี้ยงก็ยิ้มราวกับว่าเขากำลังดูแลลูกหลานตัวเองอยู่
แมรี่และอาดี้ที่มองพวกเขาจากทางด้านหลัง มองหน้ากันราวกับว่าพวกเขาเข้าใจสิ่งที่กำลังจะคุยกัน
“อาดี้ นายเห็นแล้วใช่ไหมล่ะ”
“แน่นอนครับ ผมเห็นแล้ว”
พวกเขามองหน้ากันอย่างจริงจังและพยักหน้าให้กัน
“ท่านพ่อไม่ได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่างในตัวอลิเซ๊ยเลยหรอ ทั้งๆที่เขาได้เจอกับราชวงศ์เป็นประจำแท้ๆ … ฉันสงสัยว่ามีพลังบางอย่างกำลังทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อให้สิ่งต่าง ๆ ดำเนินไปตามเกมหรือเปล่า”
“นายท่านของผมนี่อ่อนโยนและใจดีจริงๆ! มองอลิเซียด้วยสายตาอบอุ่นแบบนั้น! สมแล้วที่ท่านเป็นหัวหน้าตระกูลอัลเบิร์ต!”
…….
“เฮ้ อาดี้ ฉันกำลังสงสัยว่าเสียดเสี้ยวความภักดีที่นายมีให้ท่านพ่อของฉันจะมีให้ฉันบ้างนะ แถมฉันคิดว่าเราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่กลมเกลียวกันได้มากกว่านี้อีกนะ”
แมรี่หันไปมอง อาดี้ที่กำลังทำท่าตื่นเต้น
สำหรับอาดี้ที่อายุเกิน 20 ปีไปแล้ว ชอบแสดงท่าทางชื่นชอบ ให้กับท่านพ่อที่อายุเกิน 40 ปีไปแล้วอยู่บ่อยๆ ถึงจะไม่ทำท่าทางชื่นชอบให้เห็นชัดๆก็ยังดูน่าขนลุกมากอยู่ดี เวลาที่เขาทำแบบนี้มันช่างน่าปวดหัวเหลือเกิน
ท่านพ่อคะ ทำไมหนูถึงคิดว่าหนูจะมีเพื่อนที่ตรงไปตรงมาแบบนี้ไม่ได้?
การบอกว่าลูกสาวแท้ๆ มีบุคลิกแปลก ๆ หมายความว่ายังไง …?
นอกจากนี้ อาดี้ ฉันคิดว่าลำดับความสำคัญในตัวนายน่ะมันแปลกๆนะ …
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจพวกเขา
นายท่านคนโปรดของ อาดี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร และแมรี่เองก็มีข้อโต้แย้งกับความคิดพ่อของเธออยู่แล้วด้วย
เหนือสิ่งอื่นใด อดีตไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว และมีหลายเรื่องที่ไม่คิดที่จะแก้ไขมัน ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เปล่าประโยชน์ที่จะคิดอะไรเกี่ยวกับมันที่นี่
เป็นช่วงเวลาที่แมรี่ ยอมแพ้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และก็เริ่มที่จะสังเกตการณ์ต่อ
“เฮ้”
ฉันรีบหันกลับไปมองทันที
แพทริค อยู่ที่นั่น เขาสวมชุดที่เป็นทางการซึ่งดูสมกับที่เป็นลูกชายของขุนนาง แสงที่ส่องจากตราประจำตระกูล ที่เป็นดอกกุหลาบสีแดงบนหน้าอก ทำให้เขาดูเหมือนเจ้าชายในอุดมคติของหญิงสาวอย่างแท้จริง …… หากคุณลบนิพจน์ที่น่าสงสัย
“ไง แพทริค สวัสดีตอนเย็นนะคะ”
ทันทีที่เธอเห็นเขา เธอก็รีบหยุดท่าทางแปลกๆ และแมรี่ยิ้มด้วยรอยยิ้ม ท่าทางของการจับชายกระโปรงเบา ๆ และย่อเล็กน้อย ด้วยท่าทางที่ดูสมกับเป็นลูกสาวของตระกูลอัลเบิร์ต
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาว่าเธอซ่อนตัวอยู่ในเงามืดและเฝ้าดูพ่อแท้ๆของตัวเองเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว การแก้ไขมันตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับฝ่ายตรงข้ามที่เป็นแพทริค
“ทำไมเธอไม่ลองหยุดพฤติกรรมแปลกๆในงานเลี้ยงที่ตระกูลเธอจัดบ้างนะ”
“คำพูดนายนี่ช่างหยาบคายจริงๆเลยนะคะ”
เธอพองแก้มและก็หันหลังหนีทันที
การแสดงเจตนาที่ดูเข้าใจง่ายมันจะต้อง “น่ารัก” เป็นที่แน่นอนสำหรับทุกคนที่คิดว่าแมรี่เป็นเพียงสาวน้อยธรรมดา บางคนอาจถึงกับสงสัยว่าการแสดงออกที่เห็นนี่คือการต้องทำอะไรซักอย่างให้เธออารมณ์ดีขึ้นหรือไม่ และบางทีอาจแสดงให้รู้ว่าอยากให้สนใจเธอ
การที่แมรี่จ้องหน้าและการพองแก้มของเธอมันดูน่าเอ็นดู และเหมาะกับคำว่าน่ารัก
แต่แน่นอน แพทริคไม่ได้หลงกลด้วยท่าทางแบบนั้นแน่นอน เขานั้นรู้จักแมรี่เป็นอย่างดีเพราะเขามีความสัมพันธ์อันกับเธอมานาน เลยกลายเป็นว่าที่แมรี่ทำเป็นแค่เรื่องตลก ที่ทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจ
อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าตัวเขา นั้นไม่สามารถที่จะเข้าใจความหมายของการกระทำของแมรี่ได้ แพทริกก็ถอนหายใจราวกับว่าเขาเหนื่อยใจ
“มาถอนหายใจ ทั้งที่นี่เป็นงานเลี้ยงฉลองนี่นะ แย่จริงๆเลยนะคะ”
“ถ้าเธอเป็นคนเรียบร้อยกว่านี้ผมก็คงไม่ถอนหายใจหรอกนะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ ได้โปรดถอนหายใจให้มากกว่านี้ได้เลยนะคะ”
แพทริคถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อแมรี่บอกแบบนั้น
จากนั้น เมื่อเขามองไปที่ข้างๆ ของแมรี่ อาดี้ก็กำลังขำกับท่าทางของแมรี่อยู่ เขาคิดว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาดูน่าสนใจ
ขุนนางสองคนที่มีชื่อเสียงระดับสูง การที่มีพ่อบ้านนึงมีทัศนคติแบบนี้ และถ้าเป็นเรื่องปกติแพทริค นั้นคิดว่าเป็นการหยาบคายและคงดุต่อหน้าแมรี่ไปแล้ว ที่มีคนทำท่าทางแบบนี้
แต่นี่เป็นการตัดสินโดยแพทริคที่รู้จักแมรี่เป็นอย่างดี หากมีคนอื่นในที่นี้ แล้วดุว่า อาดี้ ที่เป็นคนรับใช้ที่หยาบคาย … มันจะเป็นการกระทำที่จะทำให้แมรี่โกรธสุดๆ
แพทริคที่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนั้นในอดีต เขากลืนคำพูดลงคอไป และเหลือบมองแมรี่ ซึ่งยังคงสังเกตพ่อของตนอย่างสง่างามอยู่ และถอนหายใจอีกหลายครั้งในวันนี้
จากนั้นเขาก็แตะไหล่ของอาดี้
“สำหรับผมน่ะแมรี่ นี่เกินจะรับมือไหวจริงๆ ผมอยากจะรู้จริงๆว่าจะใครจะรับมือไหวไหม ถ้ามีก็คงดี ว่าไหมอาดี้”
“เอ่อ…”
“คิดอย่างนั้นไหมล่ะ ผู้ชายคนนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่สามารถแข่งขันกับคุณหนูแมรี่ อย่างเท่าเทียมกันได้หรอก”
“ผมก็คิดแบบนั้นนั่นแหละครับ …”
แพทริคยิ้มให้อาดี้ ซึ่งจู่ๆ ก็มีท่าทางสับสนแปลกๆ
จากนั้นเขาก็หันไปหาแมรี่อีกครั้ง เขาก้มศีรษะแล้วยื่นมือข้างหนึ่งออกไป
“พ่อของคุณขอให้ผมมารับคุณในคืนนี้ ขออภัยด้วย คุณช่วยประนีประนอมกับผมหน่อยได้ไหมครับ”
“ช่างดูแล้วเป็นคำพูดที่ชวนจะทำให้ผู้หญิงได้ยินแล้วจะเป็นลมเอาเลยนะคะ …. แต่คงเป็นแบบนั้นสินะคะ … คุณได้เป็นผู้ดูแลของฉํน”
“เป็นอะไรไปหรือเปล่า?”
แมรี่คิดในขณะก้มมองที่มือของตัวเอง
แพทริคยังมองไปที่ใบหน้าของแมรี่ และก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
ตระกูลไดซ์มีความสัมพันธ์อันยาวนานกับตระกูลอัลเบิร์ตและมีอำนาจพอๆกับตระกูลอัลเบิร์ต หากมีชายหญิงอายุเท่ากันในทั้งสองครอบครัว ก็คงไม่แปลกที่จะมีการฝากให้ดูแลกัน
เหนือสิ่งอื่นใด แมรี่ที่มีบุคลิกลักษณะนี้ สามารถเล่นเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบได้หากต้องการ แต่ก็คงจะดีกว่าถ้าได้ไปกับคนที่เข้าใจเธอ
แม้ในมุมมองของแพทริค การทำตามคำขอของพ่อแม่นั้นเหมาะสม และเขาสามารถจะทำตัวสบายๆกับแมรี่ได้ แต่จะดีกว่าถ้าได้ไปกับคนที่รัก
สังคมชนชั้นสูงมักมีปัญหาในการตัดสินใจว่าควรคุ้มกันใครและเชิญใครมาเต้นรำ ในแง่นั้น ถ้าคุณเชิญแมรี่ คนรอบข้างคุณจะมั่นใจทันที และผู้หญิงคนอื่นๆ ก็มองมาที่แมรี่แล้วพูดเรื่องต่างๆด้วย
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงทางฝั่งพ่อและแม่เลย นอกจากการเป็นครอบครัวที่คู่ควรที่จะฝากลูกไว้ด้วยกันแล้ว ถ้ามีอะไรผิดพลาด เช่น “ถ้าเกิดว่า” มีเรื่องเกิดอะไรขึ้นโดยบังเอิญ ถึงมันจะเกิดขึ้นก็ไม่มีปัญหาอะไรเมื่อพิจารณาถึงสถานะของทั้งสองฝ่ายแล้ว
สำหรับความคิดทุกคนแล้ว การคุ้มกันแมรี่โดยแพทริคเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งสองคนรู้จักกันดีและมักจะปฎิบัติตามโดยไม่บ่น
แต่วันนี้เท่านั้น แมรี่ลังเลที่จะจับมือแพทริค การแสดงสีหน้าที่มีรอยย่นระหว่างคิ้วและรูปลักษณ์ที่จริงจังเกินไปไม่สมหญิง แต่มันก็ยังดูสมเป็นแมรี่ดี
“นี่เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“เอ่อ … ฉันไม่เป็นไร แล้วก็ไม่มีเรื่องอะไหรอกนะ นายให้เกียรติจะดูแลฉันใช่ไหม?”
“อือ แน่นอนสิ”
แมรี่ค่อยๆ วางมือของเธอลงบนมือของแพทริค
จากนั้น เมื่อฉันค่อยๆ มุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงาน ฉันได้ยินความชื่นชมเรื่องของพวกเขาทั้งสอง และไหนจะความริษยาบางอย่างที่แมรี่ได้ยิน เพราะ ได้พาแพทริคคนนี้มา
มันไม่ได้เกินจริงเลยที่รอยยิ้มของชายหนุ่มและหญิงสาวคู่นี้นั้น เป็นเหมือนภาพวาดของผู้ชายที่หล่อและผู้หญิงที่สวยงาม
เดิมที แมรี่ไม่ได้ตั้งใจจะขอให้ใครเป็นคู่มางานเลี้ยงอาหารค่ำคืนนี้ด้วยซ้ำ
ในเกมดั้งเดิม ตัวละครที่ม่าความชอบมากที่สุดของลิเซีย จะถูกบังคับให้มาคุ้มกันแมรี่ แต่ไม่ว่าจะมุ่งสู่ความหายนะมากแค่ไหน การกระทำที่น่าอึดอัดนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ต้องทำก็ได้
แพทริคที่คุ้นเคยกับเธอมานานดูไม่น่าเหนื่อยใจเท่าการที่ถ้าต้องไปติดต่อหาเลขาสภานักเรียนหรือคุณครูแทน
ในตอนแรก ยังน่าสงสัยด้วยซ้ำว่าอลิเซียจะแสดงความไม่พอใจกับเพื่อนผู้คุ้มกันของเธอแบบไหน
แม้ว่าตอนนี้ อลิเซียจะดูตื่นตาตื่นใจเมื่อเห็นแพทริคและแมรี่ ที่เป็นคนสนิทของเธอดูสนิทสนมกันดี แต่ไม่มีความหึงหวงในดวงตาอันน่าหลงใหลของเธอเลย จึงเป็นเหตุให้แมรี่พลาดเรื่องที่หวังไป
แพทริคนั้นน่าจะมาเพราะเหตุผลที่เขามีค่าความชอบสูงสุด …
หลีงจากคิดแบบนั้นไปซักพัก แพทริคจึงจับมือแมรี่อีกครั้ง
“มาเต้นรำกันเถอะ” เปลวไฟแห่งความหึงหวงและริษยานั้นถูกจุดขึ้นในส่วนหนึ่งของงานเลี้ยงด้วยคำๆเดียว แต่แมรี่นั้นไม่ได้รับรู้เลย
เพราะมองเห็นพวกสายตาอิจฉาตาร้อน แต่ฉันคงไม่ทำอะไรด้วยข้อแก้ตัวดีๆ อย่าง “ซ่อนอยู่ในอกของเขา” แถมเธอยังคิดจะเอาใจช่วยสาวบ้านนอกที่โผล่มาด้านข้างคนนั้นอย่างอลิเซีย แทนพวกคุณหนูขี้อิจฉาที่เอาแต่มองล่ะนะ
แมรี่จับมือแพทริคด้วยความหน่ายใจ โดยเธอนั้นไม่ได้เห็นใจคุณหนูพวกนั้นเลย