[นิยายแปล] Tanin wo Yosetsukenai Buaisouna Joshi ni Sekkyou shitara, Mechakucha Natsukareta - ตอนที่ 9: อดีต〇〇
“ไอ้พวกโอตาคุหัดดูซะบ้างสิ”
แก็งนักเลงเมื่อก่อนหน้านี้ 5 คนในแก็งล้อมพวกเรา ผมได้ยินเสียงพวกนั้นเคี้ยวหมากฝรั่ง คิดว่ามันคลาสลิกดี
“ดูไอ้หมอนี่สิ หมอนี่อ้วนจังวะ ใช้ชีวิตมายังไงเนี่ย?”
ชินโดถูกจับที่หน้าท้องและขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด แต่ผมคาดว่าคงไม่อยากยั่วยุพวกนั้นด้วยอาการโอดอรวญ จึงเงียบอย่างงั้น
….ที่แห่งนี้คือในตรอกแคบๆ หลังร้านเกมเซ็นเตอร์ ซึ่งไม่สามารถหนีจากพวกนักเลงได้และถูกมาที่นี่แบบไหล่ชนไหล่ ในตรอกไม่มีใครอยู่จึงไม่มีใครสังเกตเห็น แม้ว่าจะหนียังไงแต่ทางก็แคบเกิน ซึ่งจะถูกวิ่งไล่ทันไม่ช้าก็เร็ว
“จริงๆ นะ เริ่มคันไม้คันมือเมื่ออยู่ใกล้พวกนี้แล้วล่ะสิ มีอะไรจะชดใช้ไหม?”
เด็กหนุ่มเสื้อทีเชิ้ตสีม่วงที่ชนผมเอาหน้าเข้ามาใกล้ ได้กลิ่นหมากฝรั่งติดจมูก หมอนี่น่าจะเป็นหัวโจกแก็งสินะ เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อไหร่ที่เขาพูด พวกนักเลงจะเงียบลง
“เอาเถอะน่า ส่งเงินมาให้ฉันซะ พวกเอ็งก็ได้เงินมากจากพ่อๆ แม่ๆ มาใช่ไหม”
กะแล้วเชียว สุดท้ายก็ต้องมาอีหรอบนี้ ผมถอนหายใจ
กับพวกนักเลงก็ช่วยไม่ได้นี่นะ พวกนั้นเองก็เป็นเด็กมัธยมปลายที่ชอบหาเรื่องด้วยเหตุผลบางประการ เพื่อจะได้ตอบสนองกับความประหม่าของตัวเอง พวกนั้นจึงสร้างสถานการณ์ที่ได้เปรียบและทำให้อีกฝั่งเสียศูนย์
พอผมมองไปทางไซโตะกับชินโดที่อยู่ถัดจากผม สีหน้าทั้งคู่ต่างซีดเผือก คาดว่าคงไม่เคยเจอสถานการณ์นี้มาก่อน อย่างน้อยๆ ก็เป็นครั้งแรกที่เราสามคนเกี่ยวข้องกับพวกนักเลงตอนที่เล่นเกมด้วยกัน
“ได้ยินที่ฉันพูดไหมเนี่ย? ฉันบอกว่าส่งเงินพวกเอ็งมา”
เขากำหมัดไปที่หน้าท้องผม ถึงจะเจ็บนิดหน่อยเพราะตัวชิดกำแพง แต่ไซโตะดูเหมือนจะเริ่มน้ำตาคลอเบ้าเมื่อเห็นผมอย่างนั้น
ผมกลัวว่าจะปล่อยให้ชินโดกับไซโตะหนีไปได้รึเปล่า รู้สึกว่าทั้งสองคนกำลังจะให้เงินพวกนั้น หากเราเผยความอ่อนแอกับคนพวกนี้แม้แต่ครั้งเดียว อาจจะถูกโกงไปอีกนาน
“อา คือว่า….”
พอเห็นไซโตะเริ่มขยับปาก ผมจึงรีบกล่าวทันที
“ปากนายเหม็นมาสักพักแล้วนะ กลิ่นเหมือนท่อน้ำเลย”
จากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง
“ห๊ะ?”
เขาดูแปลกใจเล็กน้อยที่จู่ๆ ผมขัดขืนขึ้นมา แต่ไม่นานก็รู้ว่าถูกใส่ร้ายป้ายสีและเริ่มขมวดคิ้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามปากเขาเหม็นจริงๆ ผมรู้สึกเหมือนได้กลิ่นปากมาจากหมากฝรั่ง
“เห้ย? พูดว่าไงนะ?”
ผมจ้องตรงไปที่หน้าและกล่าวอีกรอบ
“ปากนายเหม็นชะมัด เคยแปรงฟันมาบ้างมั้ย? ปากเหม็นจนหมากฝรั่งยังขจัดกลิ่นไม่ได้เลย”
“ฉันฆ่าแกแน่”
“โห ตอนนี้ก็ยังได้กลิ่นอยู่เลย”
นักเลงจับผมของผมและผลักหัวชนเข้ากับกำแพง ผมกล่าวไปว่าปากเหม็นมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้กลับอยู่ใกล้หน้าผมมากๆ ผมจึงบีบจมูกด้วยมือขวา
“จริงๆ เลยนะ ช่วยขยับหน้าหน่อยจะได้เปล่า? ปากเหม็นกว่าที่คิดอีกนะ ระดับที่คนเห่ยๆ อย่างผมอยากจะระบายออกมาเลย”
“หยุดพูดโง่ๆ สักที”
มือที่จับผมของผมเริ่มแรงขึ้น ผมถูกผละออกจากกำแพง หนังศรีษะผมรู้สึกเจ็บซ่าน
“ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ แม้แต่เด็กก็ยังรู้เลย ควรแปรงฟันทุกวันได้แล้ว”
“….ดูเหมือนอยากจะตายมากสินะ”
จากนั้นผมจึงกระแทกศอกไปที่หน้าท้องของเขา ปากเริ่มสั่นเทา
“….อ๊ะ”
ด้วยเหตุที่เขากระแทกหน้าท้องนิดเดียว ผมจึงรู้สึกเจ็บไม่มาก มั่นใจได้ทันทีว่าพวกนี้ไม่คุ้นชินกับการต่อสู้มากนัก ซึ่งเหมือนจะไม่รู้วิธีข่มเราตั้งแต่ต้น
“ที่ผมไม่เจ็บเลย ก็เพราะนายไม่เก่งเรื่องต่อสู้ไงล่ะ แม้ว่าจะเป็นหัวโจกแก็ง แต่พวกนายที่ตามหมอนี่น่ะคงเป็นพวกปอดแหกแน่ๆ”
พอกล่าวอย่างนั้น พวกที่เหลือหลังหมอนี่เริ่มออกอาการ ช่วยให้พวกนั้นเดือดดาลต่ำลง
พวกที่เหลือขยับเข้าใกล้ผม
ระหว่างนั้นเอง ผมส่งสัญญาณให้ไซโตะกับชินโด ทั้งสองคนเข้าใจความหมายผมและเริ่มวิ่งหนีจากพวกนักเลงทีละนิดๆ พอเข้าใกล้ทางออกก็เริ่มวิ่งทันที
“เห้ย เดิ๋ยว!”
— มีหนึ่งในนั้นสังเหตเห็นและตะโกนออกมา แต่มันก็สายไปแล้ว ทั้งสองคนวิ่งออกไปได้
ทั้งคู่อาจจะไปที่สถานีตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟและสถานีตำรวจอยู่ไม่ไกล
“ปล่อยให้หนีไปง่ายๆ ช่างน่าละอายใจจริงๆ นะ”
ผมกล้าพูดแบบนั้น
พวกนักเลงยกเท้าและง้างหมัดขึ้นเพื่อจะจัดการผม
ผมยิ้มจางๆ เมื่อมองดูพวกนั้น
* * *
“อึก…อึก”
เสียงอันเจ็บปวดรวดร้าว ผ่านไปไม่เกิน 30 วินาที ผมรู้สึกทึ่งนิดหน่อยแต่ก็นึกถึงอดีตของผม
ผมก้มมองและเห็นนักเลงที่เพิ่งจับผมของผม
เขาล้มกองไปกับพื้น น้ำลายเป็นฟอง ร่างกายบิดโค้งงอ
พวกที่เหลือหนีไปได้ ผมอาจจะทำเลยเถิดไปหน่อย มีเพียงแค่ผมกับเด็กหนุ่มเสื้อทีเชิ้ตสีม่วงที่ล้มลงแค่นั้น
ผมมองดูมือตัวเอง นี่ก็ผ่านมานานแล้วล่ะนะกับความรู้สึกนี้
แต่ผมไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แล้ว เพราะผมมีสิ่งที่ผมต้องทำ ผมต้องกลับไปเป็นนักเรียนอันทรงเกียรติเสียก่อน
ผมนาโอยะ โอคุซุ อายุ 16 ปี
อดีตนักเลง
――――――――――――――――――――――――――――――
TL: กลับมาแปลแล้วครับหลังจากหายไป 10 กว่าวัน ผมติดเข้าค่ายออนไลน์เลยหาเวลาว่างแปลไม่ได้ครับ แถมผมสอบติดเข้าค่ายรอบสองด้วยอาจจะหายไปอีกรอบนะครับ แฮะๆ
สามารถติดตามการอัพเดตได้ทางเพจ : Launchmind