[นิยายแปล] Tanin wo Yosetsukenai Buaisouna Joshi ni Sekkyou shitara, Mechakucha Natsukareta - ตอนที่ 8: เกมเซ็นเตอร์
- Home
- [นิยายแปล] Tanin wo Yosetsukenai Buaisouna Joshi ni Sekkyou shitara, Mechakucha Natsukareta
- ตอนที่ 8: เกมเซ็นเตอร์
กิจกรรมชมรมหมดก่อนเวลา 18:00 น.
หลังจากเคลียร์เกมเสร็จ ผม ไซโตะ และชินโดออกจากห้องแล็บ 1
“….รุ่นพี่เก่งเกินไปแล้ว”
ชินโดไหล่ตก หลังจากนั้นเอง ชินโดเข้าไปพัวพันกับประธานและเล่นเกมที่ประธานชวน แต่ดูท่าจะโดนซัดน่วมเลย
“โดนแต่คอมโบ จนกว่าจะทำอะไรได้ เลือดก็เหลือ 0 ละ”
“ยังไม่ยอมแพ้สินะ”
ผมรู้สึกผิดกับชินโดเลย ตอนที่ได้เล่นเกมกับประธาน เกมนั้นจะไม่มีวันสนุกอีกต่อไป
พวกผมเดินออกมานอกโรงเรียนและมุ่งหน้าลงเขา ในเวลานั้นเอง พระอาทิตย์ก็กำลังลับฟ้าผ่านตัวอาคารและสาดส่องมาหาเรา
“รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่เล่นเกมกับประธานเป็นครั้งที่สอง แม้จะคิดว่าตัวเองเล่นเก่งแล้ว แต่ประธานกลับทำลายความมั่นใจนั่นหมดไม่มีชิ้นดี แถมยังแสดงฝีมือต่างกันอย่างท่วมท้นจนฉันหมดแรงจูงใจ”
ไซโตะก็เป็นหนึ่งในผู้โชคร้ายให้กับประธานชมรมเช่นกัน หมอนี่ชอบเล่นเกมเบสบอลมาโดยตลอดและภูมิใจที่ตัวเองสามารถตีโฮมรูมได้ทุกลูก แต่ดูเหมือนจะไม่ได้สักแต้มเพราะการบุกทะลวงและการป้องกันของประธานถือว่าโหดมาก ยิ่งไปกว่านั้น ยังหมดแรงจูงใจตอนกลางเกมเพราะว่าประธานตีโฮมรูมรัวๆ ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าของไซโตะ
“ประธานนี่เข้าขั้นอัจฉริยะเลยนะ ปกติจะมีเกมบางเกมที่ไม่ถนัดบ้างแต่กับเล่นเป็นตั้งแต่แรกเฉย ถึงจะเป็นประธานชมรมวิทย์ก็เถอะ แต่แย่งแรงจูงใจของคนอื่นหมด อันนี้ก็เกินไปว่ะ”
ผมเห็นด้วยอย่างแรง ตอนนี้ผมก็เกลียดมาoิโอ้คาร์ทเข้าไส้เหมือนกัน
“มันก็สนุกอยู่หรอกที่ได้เห็นฝีมือสุดโหดจากฝั่งประธานอ่ะนะ ฉันว่าประธานดังแน่ถ้าเอาคลิปตัวเองลงบนเว็ปอัปโหลดวีดีโอน่ะ”
ไซโตะพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดผม
“แน่นอนอยู่แล้ว”
พอพูดแบบนี้ ก็รู้สึกอยากเล่นเกมในสภาพที่ไม่มีประธานขึ้นมาเลย เกมจะสนุกก็ต่อเมื่อมันไม่เห็นประธานเล่นเก่งนี่แหละ
ดังนั้นพวกผมจึงตัดสินใจว่าจะไปเกมเซ็นเตอร์ ถ้าลงเขามาถึงหน้าสถานีรถไฟนิดนึงจะเจอกับวงเวียน
พวกผมเดินเข้าประตูอัตโนมัติของเกมเซ็นเตอร์แล้วขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 2
มีตู้เกมหลากหลายรูปแบบตั้งสง่าไว้ มีกลิ่นติดบุหรี่นิดหน่อยเพราะที่นี่อนุญาตให้สูบได้
“เล่นนี่กัน”
ไซโตะกล่าวและชี้ไปที่หน้าจอเกมเต้น พวกผมค่อยๆ อยู่หน้าตู้เกมทีละคน
พูดตรงๆ ผมไม่ค่อยถนัดเกมเต้นสักเท่าไหร่ สำหรับผม เล่นพวกเกมแข่งรถดูจะง่ายกว่าด้วยซ้ำ ก็แค่ต้องฝึกทีละนิดทีละหน่อย
ผมหยอดเหรียญ 100 เยนและกดเริ่มเกม
เลือกความยากระดับ ‘นอร์มอล*’ ส่วนเพลงผมเลือกเพลงอนิเมะดังที่ผมรู้จัก
*[TL Note: Normal]
จากนั้นเกมก็เริ่ม ด้านหน้ามีแผงควบคุมแบ่งเป็นช่องสี่เหลี่ยมเหมือนกระดาน บางอันจะสั่นไปตามจังหวะเพลง เมื่อไฟสว่างขึ้นให้รีบขยับนิ้วกดมัน
เกมจำพวกนี้ ไม่ใช่แต่ต้องกดตามแสงเท่านั้น แต่ต้องกดตามจังหวะด้วย ผมตั้งสมาธิกับการกดปุ่มจนจับจังหวะไม่ทัน จากนั้นก็พลาดไม่เป็นท่า
จึงเข้าใจแล้วว่าตัวเองไม่ใช่สายเกมเต้น
ทันใดนั้น พอมองดูข้างๆ ไซโตะกำลังขยับนิ้วเบาๆ จนได้ไฮสกอร์*
*[TL Note: High Score]
“เฮ้อ กะไว้แล้วล่ะนะ นานๆ ทีได้เล่นเกมเต้นบ้าง ก็สนุกดีเหมือนกัน”
“เก่งแต่เกมแบบนี้นะเราอ่ะ”
ไซโตะยิ้มเจื่อนกับคำพูดของผม
“ก็นะ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันจึงเก่งกว่าคนอื่นดั้งแต่เด็กไง”
ไฮสกอร์ขึ้นบนหน้าจอและคะแนนของไซโตะยังสูงกว่าผมตั้งหลายเท่า ไซโตะเขียนชื่อบนคะแนนว่า “SNI”
“ไซโตะผู้นี้ยังเป็นอันดับ 1”
*[TL Note: SNI = Saito Number 1]
ไม่อายบ้างเลยรึไง? ใส่ตัวเลขไม่ได้ ก็ใส่ตัว ‘I’ ซะเลย
จากนั้นตารางคะแนนก็ขึ้นหน้าจอ
“เยส ที่สี่”
SNI ขึ้นมาติดอันดับที่ 4 รู้สึกประทับใจจริงๆ
“……”
แต่ทว่า ในไม่ช้าสีหน้ามีความสุขของไซโตะก็แข็งทื่อ ความรู้สึกปิติค่อยๆ แทรกซึมไปทั่วหน้า
ผมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่หันไปนั้น ผมมองดูตารางคะแนนใกล้ๆ
ด้านบนสุดของตารางคะแนนเขียนไว้ว่า — อันดับหนึ่งในปัจจุบัน “SEN” ชื่อนี้คุ้นมากๆ
“……”
อย่างไรก็ตาม ชื่อของประธานคือ ทาคุยะ เซโนะ และประธานชอบใช้ชื่อในเกมว่า SEN ผมคิดว่าคงใช้ชื่อเดียวกันกับตู้เกมนี้ด้วย
“นี่มัน….”
“….ฉันว่าเราคงถูกลิขิตให้ไม่มีวันชนะประธานหรอก”
ไซโตะสายตาเหม่อลอย ผมจึงพยักหน้า
ดูเหมือนชินโดจะคิดแบบเดียวกันและอ้าปากค้าง
“กลับบ้านเถอะ….”
เมื่อผมพูดอย่างนั้น ทั้งสองคนก็พยักหน้า
และนั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้น
ระหว่างที่เดินออกจากตู้เกม ใบหน้าของผมเผลอชนเข้ากับอะไรบางอย่าง
“โอ๊ย….”
ทันทีที่ได้ยินเสียง จึงรู้ว่าเป็นคน ผมกล่าวขอโทษและเดินจากไป
“เห้ย?”
ผมรู้สึกไม่ดีจึงเงยหน้าขึ้น มีกลุ่มเด็กมัธยมปลายดูเหมือนนักเลง ใส่เสื้อทีเชิ้ตสีม่วงแกะกระดุมทุกเม็ด ย้อมผมสีบลอนด์
“เห้ย คิดว่าชนแล้วจะหนีได้เหรอ? เอ็งเพิ่งเอาหน้าสกปรกมาเปื้อนเสื้อฉันนะเห้ย”
ผมว่าคงล้อเล่นมั้ง พวกนักเลงน่าจะอยากหาเรื่องที่เราเงียบก็แค่นั้น เขาหันไปมองเพื่อนที่อยู่ข้างหลังและหัวเราะเยาะ พวกนั้นหัวเราะดังจนผมรู้สึกรำคาญ
“รีบไปเถอะ….”
ไซโตะกระซิบ ผมคิดว่าผมควรทำอย่างนั้น ก็เลยเพิกเฉยและพยายามจากไป
แต่ผมก็ถูกกระชากไหล่อย่างแรง ชายที่อยู่ตรงหน้าวางมือบนไหล่พร้อมกับยิ้มเยาะบนใบหน้า
“อะไร จะหนีไปไหนกัน? ไอ้พวกโอตาคุ”
เป็นเรื่องแล้ว บางครั้งก็มีพวกนักเลงอยูตามตู้เกมนี่นะ ถือว่าวันนี้โชคร้ายละกัน
――――――――――――――――――――――――――――――
สามารถติดตามการอัพเดตได้ทางเพจ : Launchmind