บทที่ 2 ตอนที่ 8: ในที่สุด
ถึงพวกเราจะพบกับคนพวกนั้นภายในสวน แต่พวกเราก็ยังกลับมาถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย
ภายในรถม้า ท่านพ่อกับท่านแม่ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างกันอยู่ ท่านพี่วิลล์เองก็กำลังกังวลอะไรบางอย่างอยู่เช่นกัน เขาพูดกับชั้นซักพัก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของเด็กสาวผมบอร์นทรงสว่านคนนั้นกับมาดามเวอร์รันเดลนะ
หลังจากกลับมาถึงคฤหาสน์ ชั้นก็ลาท่านพี่วิลล์และกลับไปยังห้องนอนของตัวเองเพื่อพักผ่อน
ท่านพ่อ,ท่านแม่,และก็ชั้นมักจะทานอาหารเย็นด้วยกันในฐานะครอบครัวบ่อยๆ ดังนั้นเมื่อพวกเราทานเสร็จ ชั้นก็ถามท่านพ่อกับท่านแม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นออกไปตรงๆ
“เออ ท่านพ่อคะ ท่านแม่คะ… คนที่เราเจอวันนี้เป็นใครหรอคะ?”
“มาดามเวอร์รันเดลกับลูกสาวของเธอ… พวกเขาคือ… เอออ…”
ท่านพ่อพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย ท่านแม่ก็พูดขึ้นมาอย่างใจเย็นเพื่อตอบกลับชั้น
“อลิซ ลูกเป็นเด็กที่ร่าเริงและเนื่องจากลูกเองก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชาทางสังคมต่างๆด้วย แม่คิดว่าลูกก็ควรจะรู้เอาไวเด้วยละนะจ้ะ”
“อืม ก็คงจะอย่างนั้นละนะ” ท่านพ่อพูดขึ้นพร้อมกับพยักหน้า เขาได้เริ่มพูดต่ออย่างช้าๆ
“ลูกก็น่าจะรู้แล้วว่าตระกูลของเอเลนอร์นั้นก็คือตระกูลเจมี่ที่พ่อไปเยี่ยมเยือนเมื่อวันก่อนหน่ะ ตระกูลดยุคเจมี่นั้นเป็นตระกูลที่เก่าแก่มากๆ และพวกเขาเองก็ยังมีสายเลือดของราชวงศ์ด้วย พวกเราตระกูลมาร์ควิสอาเชอร์เลซเองก็เก่าแก่อยู่ แล้วก็อย่างที่ลูกได้เห็น ทั้งสองตระกูลนี้ใกล้ชิดกันมาก”
“ค่ะ” ชั้นพยักหน้า
ท่านพ่อกำลังอธิบายสิ่งต่างๆให้กับชั้นโดยพยายามให้ตัวชั้นเข้าใจด้วยการใช้คำฟุ่มเฟือย
ชั้นนำข้อมูลพวกนั้นใส่หัวขณะที่จัดการกับข้อมูลพวกนั้นไปด้วย
“แต่ตัวตระกูลมาร์ควิสเวอร์รันเดลนั้นต่างออกไป พวกเขาเป็นตระกูลที่ใหม่มากๆ ถึงจะมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 100 ปีก็เถอะ ตระกูลดยุคเอ็ดมันด์เองก็มีสัมพันธ์อันดีกับตระกูลเวอร์รันเดลด้วย”
มีชื่อใหม่โพล่ขึ้นมาแล้ว ตระกูลดยุคเอ็ดมันด์…
“ตระกูลดยุคเอ็ดมันด์เองก็เป็นตระกูลใหม่เหมือนกัน ทว่าในอดีต พวกเขาได้ทำผลงานใหญ่แล้วได้รับองค์หญิงเข้ามาในตระกูลจนได้ไต่เต้าขึ้นมาเป็นดยุค พวกเขาเป็นตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในหมู่ตระกูลที่เกิดจากการเลื่อนตำแหน่งจนกลายเป็นขุนนางเลยละ และ… ตระกูลดยุคเจมี่กับตระกูลดยุคเอ็ดมันด์นั้นไม่ถูกกันอย่างมาก”
“โอ๊ะ งั้นหรอคะ…”
ชั้นพูดออกไปอย่างหม่นหมองโดยที่ไม่เข้ากับลักษณะของเด็กอายุ 5 ขวบเลย
“ขุนนางรุ่นใหม่นั้นสนับสนุนตระกูลเอ็ดมันด์ และขุนนางเก่าแก่ก็สนับสนุนตระกูลเจมี่ ถึงจะมีฝ่ายที่เป็นกลางอยู่ก็จริง แต่นี้ก็คือ 2 ฝ่ายหลักๆของประเทศนี้แล้ว”
หรือก็คือ ตระกูลอาเชอร์เลซกับตระกูลเวอร์รันเดลนั้นอาจจะเป็นอันดับ 2 ของแต่ละฝ่ายสินะ ยิ่งไปกว่านั้น ท่านแม่เองก็เป็นถึงลูกสาวของหัวหน้าตระกูลของฝ่ายนี้ด้วย
“แล้วฝ่ายไหนละคะที่ผู้ปกครองประเทศนี้มีแนวโน้มจะเข้าร่วมด้วยน่ะค่ะ?”
อยู่ๆชั้นก็สงสัยในสถานการณ์ทางการเมืองขึ้นมาแล้วถามออกไป ครั้งนี้ท่านแม่เป็นคนตอบคำถามของชั้นเอง
“ท่านราชาเกรแฮม(Grihelms)นั้นกำลังตกที่นั่งลำบากอยู่ในตอนนี้น่ะจ่ะ เหล่ารัฐมนตรีทั้งซ้ายและขวาต่างก็แบ่งออกไปเข้าร่วมกับฝ่ายเจมี่กับเอ็ดมันด์กันทั้งนั้นเลย ดังนั้นท่านก็เลยเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ง่ายๆจ่ะ ถ้าทำให้เหล่าขุนนางเก่าแก่อารมณ์เสียละก็ อาจจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นได้ รวมถึงการป้องกันชายแดนก็จะยิ่งอันตรายขึ้นไปอีก แต่กลับกัน ถ้าทำให้เหล่าขุนนางรุ่นใหม่อารมณ์เสีย ประเทศก็อาจจะล้มละลายได้เลยน่ะจ่ะ…”
ว้าว ซับซ้อนขนาดนั้นเลย ถ้าชั้นเป็นเขาละก็ สถานการณ์แบบนี้อาจจะทำให้กระเพาะของชั้นทะลุได้เลยนะ ชั้นดีใจจริงๆที่ไม่ได้เกิดมาเป็นจักรพรรดิ
“อลิซ ตอนนี้ลูกเองก็จำเป็นจะต้องปรากฏตัวสู่สาธารณะเหมือนกัน ลูกจะต้องเปิดตัวทางสังคม ดังนั้นลูกจะต้องคิดถึงเรื่องฝักฝ่ายและขั่วอำนาจด้วยนะก่อนจะตัดสินใจทำอะไร ตั้งแต่แรกแล้ว พวกเรา,เหล่าคนรับใช่,และคนคุ้มกันนั้นจะอยู่เคียงข้างลูกเสมอเพื่อสอนลูกให้ทำยังไง”
“ค่ะ หนูจะทำให้ดีที่สุด!”
ชั้นดีใจมาก ตัวชั้นจำหน้าคนไม่ค่อยเก่ง ดังนั้นมันจึงดีที่มีคนคอยสอนชั้นอยู่
“นอกจากนี้นะจ๊ะ ลูกสาวของมาร์ควิสเวอร์รันเดลนั้นค่อนข้างอารมณ์รุนแรงด้วย”
“โอ๊ะ เด็กคนนั้นอยู่รุ่นเดียวกับอลิซด้วย ข้าเป็นกังวลว่าพวกเขาจะต้องเจอกันบ่อยมากแน่ๆเลย”
ท่านพ่อถอนหายใจออกมา รุ่นเดียวกันงั้นหรอ?
“ที่ท่านพ่อพูดว่ารุ่นเดียวกันนี้หมายถึงโรงเรียนยังงั้นหรอคะ? พอพูดแบบนั้นแล้ว หนูจะได้เข้าโรงเรียนไหนหรอคะ?”
ชั้นไม่เคยได้ยินเรื่องโรงเรียนมาก่อนเลย ชั้นไม่อยากเข้าโรงเรียนประถมเลยอะ เพราะมันจะต้องยุ่งยากกับการจัดการกับเด็กหัดเดินพวกนั้นแน่ๆอะ
“หืม? โอ๊ะ อลิซจะได้ไปยังสถานที่ที่ถูกเรียกว่าสถาบันเวทมนตร์แห่งจักรวรรดิโลเวนหน่ะ”
“………ห่ะ?”
จะ-จะ…จักร…วรรดิ…เว-เว เว-เว…?
“ลูกจะได้เข้าเรียนชั้นปีแรกในปีหน้า!”
เวทมนตร์…
…สถาบันเวทมนตร์?!?!?
ชั้นรู้สึกตกใจมากจนถึงขนาดที่เอาบทสนทนาสบายๆของท่านพ่อกับท่านแม่ออกไปจากหัวไม่ได้เลย จากนั้นชั้นก็ตะโกนดังๆในใจ
อะ-อะไร-อะไรกัน ฉากแฟนตาซีสุดแสนจะอัศจรรย์และน่าตื่นเต้นแบบนี้มันอะไรกัน?!?!
ขนาดชื่อของมันยังติดอยู่ในหัวของชั้นอยู่เลย เป็นชื่อที่ดีจริงๆ
ยอดเยี่ยมไปเลย!!!!
“นึกถึงความหลังขึ้นมาเลยละ พวกเราได้หมั้นหมายกันในตอนที่พวกเรายังอยู่ในโรงเรียนด้วยสินะคะ”
“อือ-อืม ตอนนั้นมีผู้คนมากมายที่อยากจะได้ตัวเอเลนอร์ ดังนั้นข้าก็เลยใช้เวลาของข้าไปทั้งหมดเพื่อหยุดพวกนั้นหน่ะ”
“โอ๊ะ ตายจริง…”
ท่านพ่อกับท่านแม่กำลังจู๋จี๋กันพร้อมกับรำลึกความหลังไปด้วย ทว่าต้องขอบคุณสิ่งนั้นที่ทำให้ชั้นไม่ได้ฟังพวกเขาเลยและกำลังอยู่ในโลกของตัวเอง พวกเขาเองก็ไม่ได้สังเกตุเห็นถึงพฤติกรรมที่ไม่ปกติของชั้นด้วย ดังนั้นมันจึงไม่เป็นไร
ถ้าตัวชั้นไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะละก็ ชั้นคงจะร้องให้ออกมาพร้อมกับชูกำปั้นขึ้นฟ้าแล้วทำการกรีดร้องออกมาราวกับแบนชีจากก้นบึ้งของจิตใจไปแล้ว
ชั้นสงสัยจังว่าพวกเขาจะมีห้องเรียนเหมือนกับในโรงเรียนพ่อมดแห่งหนึ่งหรือปล่าวนะ ทั้งเหล่าอาจารย์ลึกลับและห้องแปลกๆ รวมถึงอุปกรณ์เวทมนตร์ต่างๆด้วย!!
ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณ ขอบคุณ—การเกิดใหม่! ขอบคุณโลกใบนี้!! เย้ๆๆๆ!!!!
…ความตื่นเต้นทั้งหมดนี้มันเกินไปหน่อยสำหรับร่างกายที่อ่อนแอของชั้น
รวมกับความเหนื่อยล้าของวันนี้ด้วย ตัวชั้นที่รับไม่ไหวจึงสลบลงไปบนโต๊ะและทำให้ท่านแม่ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นตกใจเลย
MANGA DISCUSSION