บทที่ 2 ตอนที่ 5: สวน
ที่นี่สินะสวนจักรวรรดิ!
ชั้นลงมาจากรถม้าและยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าของสวน
พวกเรามากันทั้งหมด 5 คน มีชั้น, ท่านพ่อ, ท่านแม่, ท่านพี่วิลล์, และคอนนี่ที่ชั้นพามาด้วย
ท่านพ่อเอาใจชั้นมากจนตัวชั้นรู้สึกทั้งดีใจและเขินอายในเวลาเดียวกันเลย พึ่งตกลงกันว่าจะมาที่นี่เมื่อวานแท้ๆ แต่แล้ววันนี่ก็มากันซะแล้ว
นอกจากนี้ ที่ท่านพ่อหวานแหววกับท่านแม่และเอาใจตัวชั้นมาสักพักแล้วนั้น เขาบอกว่ามันคือช่วง “ระยะพักฟื้น” หลังจากที่ได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งเขาทำการหยุดพักร้อนจากงานของเขา — หรือต้องบอกว่าเขาได้โยนงานแทบทั้งหมดไปให้ออฟรานซ์ซัง
…มันทำให้ชั้นนึกขึ้นได้ว่าชั้นเห็นรอยคล้ำใต้ตาของออฟรานซ์ซังเพราะเรื่องนี้ด้วย ชั้นสงสัยจังว่าเขาจะยังโอเคดีไหมนะ
ขณะที่ชั้นกำลังกังวลถึงออฟรานซ์ซัง ชั้นก็พยายามฟังท่านพ่อที่กำลังพูดถึงสวนจักรวรรดิแห่งนี้อยู่
“มันถูกรู้จักกันในชื่อสวนจักรวรรดิก็จริง แต่ชื่ออย่างเป็นทางการของที่นี่ก็คือ เขตสงวนซากปรักหักพังทางโบราณคดีแห่งจักรวรรดิ มันมีทั้งสวนสมุนไพร, สวนกุหลาบ, และทะเลสาบอยู่ภายในเขตสงวนแห่งนี้ด้วย”
อะไรนะ? ไม่ใช่ว่ามันเหมือนกับสวนแฟนตาซีสำหรับพวกจูนิเบียวงั้นหรอ?! สุดยอดไปเลย!
ชั้นเข้าสู่โหมดไล่ล่าเรื่องสุดยอดพร้อมกับตาเป็นประกายและจ้องมองไปที่ท่านพ่ออย่างมุ่งมั่น เขาทำการอธิบานต่อไปด้วยสีหน้าเพลิดเพลินราวกับว่าเขาดีใจที่มีคนฟังเขาอย่างตั้งใจ
“ประวัติของที่นี่นั้นเก่าแก่มาก มันถูกกล่าวขานกันว่าพระราชวังแห่งแรกของประเทศนี้เคยอยู่ที่นี่ และยังคงมีบางส่วนของพระราชวังนั่นหลงเหลืออยู่ เมื่อเมืองหลวงถูกย้ายไปมาจนสุดท้ายก็กลับมายังที่นี่อีกครั้ง ที่แห่งนี้ก็กลายเป็นเขตสงวนทางธรรมชาติและได้สร้างพระราชวังขึ้นมาใหม่ที่เห็นได้ในปัจจุบัน”
“งั้นก็มีสิ่งของทางประวัติศาสตร์อยู่ด้วยสินะคะ!” ชั้นอุทานออกมาอย่างเงียบๆ และท่านพี่วิลล์ก็ได้ลูบหัวของชั้นเพราะประทับใจที่ชั้นรู้จักคำยากๆด้วย
“พ่อได้ยินมาว่าเพราะมันถูกทิ้งร้างเอาไว้ บางส่วนจึงเปลี่ยนไปจนจำไม่ได้แล้วว่ามันใช้ทำอะไร บางส่วนก็แทบจะคงสภาพเดิมเอาไว้ไม่ได้ พ่อยังได้ยินมาอีกว่าอาคารบางหลังใช้การไม่ได้แล้วด้วย ดังนั้นลูกห้ามเข้าไปข้างในอาคารพวกนั้นเด็ดขาดเลยนะ”
หืมมมมมม ชั้นพยักหน้าอยากระมัดระวังโดยที่พยายามจดจำข้อมูลพวกนี้ใส่หัวของตัวเอง ชั้นตัดสินใจแล้วว่าสักวันชั้นจะต้องกลับมาที่นี่เพื่อสำรวจสวนนี้ทุกซอกทุกมุมให้ได้เลย ไม่ใช่ว่าสวนจักรวรรดิแห่งนี้มันสุดยอดไปเลยงั้นหรอ?
“โอ๊ะ คุณหนูชอบเรื่องแบบนี้มากเลยใช่ไหมละค่า~?”
คอนนี่หันมาทางชั้น มันทำให้ชั้นยิ้มออกมาและรู้สึกเขินเล็กน้อย นี่ชั้นดูออกง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?
ชั้นใจเย็นลงเล็กน้อยก่อนจะมองไปรอบๆ
ตอนนี่พวกเราอยู่ที่ลานกว้างแห่งแรกจากประตูที่มียามเฝ้าอยู่
พื้นถูกปูด้วยหินเป็นลวดลายและมีน้ำพุขนาดใหญ๋พร้อมกับรูปปั้นอยู่ตรงกลาง มันถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มและทางเดินขนาดใหญ่แยกออกไป
ขนาดของต้นไม้นั้นสุดยอดมาก ขนาดของมันนั้นเรียบง่าย มันเหมือนกับต้นไม้ที่อยู่ในศาลเจ้าเก่าแก่อะไรแบบนั้นเลย พวกมันใหญ่มากๆจนถึงขนาดที่ชั้นต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อที่จะดูมัน
ข้างหน้าของชั้นก็คือท่านพ่อกับท่านแม่ มีคอนนี่ที่ถือล่มกันแดดให้กับท่านแม่อยู่ด้วย ท่านพี่วิลล์จับมือของชั้นไว้ข้างหนึ่งส่วนอีกข้างก็กำลังถือตะกร้าอาหารกลางวันอยู่ พวกเราเดินมายังเส้นทางที่อยู่ทางขวาจากลานกว้าง
ทางเดินนั้นปูด้วยหินกรวดและใหญ่พอจะให้คนสิบคนเดินไปพร้อมๆกันได้ เส้นทางตรงกลางและเส้นทางด้านซ้ายจากลานกว้างนั้นไม่รู้ว่าจะมีอะไรรออยู่ข้างหน้า แต่ทางที่พวกเรามานั้นเผยให้เห็นถึงปลายทางของมันแล้ว
“ว้าว…!”
ขณะที่พวกเราเดินผ่านเส้นทางที่รายล้อมไปด้วยต้มไม้ขนาดใหญ่นั้น สวนดอกทอเรเนียสีฟ้าและสีม่วงก็ได้เข้ามาอยู่ในสายตาของพวกเรา
ดอกไม้พวกนั้นเติบโตได้ดีแม้จะอยู่ในร่มเงา ดังนั้นจึงมีต้นอ่อนและใบไม้ปกคลุมไปทั่วบริเวณจนถึงตรงที่มีต้นไม้บดบังแสงแดดบ่อยๆด้วย
“สวยจัง…”
ไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้มาตั้งแต่ที่ชั้นเคยไปเที่ยวเมืองมินามิโบโซในชาติที่แล้วเลย มันสวยงามมากจริงๆ…
“…พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ชั้นรู้ว่าชั้นบอกว่ามาเกิดใหม่ก็จริง แต่ว่าตัวชั้นตายไปแล้วจริงๆหรอ? ชั้นไม่แน่ใจว่าชั้นตายไปขณะที่นอนหลับอนู่ หรือตายไปเพราะความอ่อนเพลียกันแน่นะ…?”
ชั้นไม่แน่ใจชั้นเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนหรือปล่าว แต่ตัวชั้นก็ทำงานหนักมากเกินไปจริงๆ…
ตอนที่ท่านพี่วิลล์เอามือของพวกเราออกจากกัน ชั้นก็คิดแบบนั้นในขณะที่มองไปยังดอกไม้พวกนั้นอย่างเหม่อลอย
“พี่รู้ว่าตรงนี้มันสวย แต่ถ้าน้องไปข้างหน้าอีกหน่อย น้องจะพบกับจุดที่เปิดกว้างและสวยงามกว่านี้นะ พวกเราจะไปกันเลยไหม?”
ชั้นตอบกลับไปว่า “คะ!” ก่อนจะเดินต่อไป
มีทางเดินตัดผ่านไปบนทุ่งดอกไม้บนเนิน พวกเราเดินไปตามเส้นทางนั้น
จากนั้นพวกเราก็ออกมาจากบริเวณที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และดอกทอเรเนียที่มีหญ้าและไม้พุ่มอยู่เยอะมาก
ชั้นมองไปรอบๆและถอนหายใจออกมาอย่างลับๆ
“…อลิซ แม่สงสัยว่าขาของลูกจะไหวหรือปล่าวหน่ะจ่ะ?”
อ่าห์ ถูกจับได้ซะแล้ว
พวกเราเดินขึ้นมาบนเนินแม้มันจะไม่สูงมาก แต่ร่างกายของชั้นก็เริ่มเหนื่อยอย่างที่ท่านแม่พูดเลย ชั้นเหนื่อยเร็วมากเกินไป แต่ถึงยังนั้น… ชั้นก็อายุ 5 ขวบแล้ว ดังนั้นชั้นจึงรู้สึกไม่ดีที่จะให้ใครสักคนอุ้มชั้นขึ้นไปบนเนิน ชั้นเลยตัดสินใจซ่อนความอ่อนแอของตัวเองเอาไว้
“หนูขอโทษค่ะ หนูไม่ทันรู้ตัว…”
ขณะที่ชั้นไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปยังไงอยู่นั้น ชั้นก็ถูกอุ้มขึ้นโดยอ้อมกอดของท่านพี่วิลล์ที่ส่งตะกร้าอาหารกลางวันให้กับคอนนี่ไปแล้ว
“อ้า! ทะ-ท่านพี่วิลล์ แน่ใจหรอคะ?”
“พี่ฝึกมาดีแล้วหน่าไม่ทำน้องตกหรอก ไม่ต้องห่วง พี่จะดูแลน้องเอง”
ท่านพี่วิลล์ยืดอกอย่างภูมิใจออกมา มันก็จริงที่ตัวเขากำยำกว่าที่ชั้นคิดเอาไว้ เพราะเขามีอายุเพียงแค่ 13 ปีเองและบางทียังอยู่ในช่วงเจริญเติบโตอยู่ด้วย เขาไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าผอมเพรียวในแบบที่ชั้นคิดเอาไว้เลย และอีกอย่างตัวเขาเองก็มีกลิ่นที่ดีด้วย พลังแห่งหนุ่มหล่อนี้มันสุดยอดจริงๆ
ดูเหมือนชั้นจะลืมเหตุผลที่ชั้นลังเลก่อนหน้านี้ไปแล้วพร้อมกับคิดว่ามันอาจจะสนุกดีก็ได้ ขณะที่ชั้นหัวเราะคิกคักพร้อมกับลูบหน้าอกของท่านพี่วิลล์ไปด้วยนั้น ชั้นก็ได้ยินเสียงผิดหวังออกมาจากท่านพ่อที่อยู่ข้างหลังของชั้นว่า “ข้าเองก็อยากทำแบบนั้นมั้งจัง…”
ท่านพ่อเองก็ค่อนข้างแข็งแรง ดังนั้นชั้นคิดว่าชั้นจะให้เขาอุ้มในครั้งหน้าละกัน
***
หลังจากถูกอุ้มขึ้นมาบนเนิน พวกเราก็พบกับพื้นที่ว่างพร้อมกับวิวของท้องฟ้าอันกว้างใหญ่
มันเกือบจะเหมือนกับสวนในประเทศอังกฤษเลย ดูเหมือนจะมีดอกไม้หลากหลายชนิดถูกปลูกเอาไว้ภายในสวนแห่งนี้
“นั่นไงคะ ท่านแม่!”
ที่ปลายสายตา ซุ้มดอกกุหลาบที่นำไปสู่ลานกว้างทรงกลมและมีเรือนกล้วยไม้อยู่ด้านหลังของมันเหมือนกับที่บ้าน
พื้นที่ถูกตกแต่งด้วยสีแดง,สีลูกพีชและสีขาวของดอกไม้ เถาวัลย์ที่ห้อยลงมาจากเรือนกล้วยไม้ขนาดใหญ่นั้นงดงามมากๆ
“ใช่แล้ว ที่นี่แหล่ะจ่ะ และมันยังเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของแม่กับพ่อของลูกอีกด้วยนะ”
ท่านแม่พูดแบบนั้นพร้อมกับรอยยิ้มเขินอาย ท่านพ่อเองก็ยิ้มออกมาเหมือนกัน
“ข้าสารภาพรักกับเธอที่นี่ใช่ไหม? ข้าไม่เคยลืมเลือนใบหน้ามีความสุขของเธอในตอนนั้นเลยนะ”
โอ้! ชั้นไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีเรื่องลับๆแบบนั้นอยู่ด้วย การสารภาพรักใต้เรือนเถาวัลย์กุหลาบนี้ฟังดูราวกับเรื่องเล่าในนิทานเลย ใช่ไหมละ?
แต่ว่ามันดีไปเลยนะที่พวกเขาสร้างเลียนสถานที่แห่งความทรงจำแบบนี้เอาไว้ที่บ้านด้วย ชั้นคิดว่าพวกเขาคงจะมีเอาไว้เพื่อรำลึกความหลังได้ตลอดเวลานะ ช่างหวานแหววอะไรกันขนาดนี้! พวกเขารักกันจริงๆ!
ขณะที่ชั้นเริ่มรู้สึกเป็นเบาหวานจากการรับรู้ถึงความใกล้ชิดกันของท่านพ่อกับท่านแม่ ชั้นก็ได้ยินเสียงคร่ำครวญบางอย่างดังออกมา
หืมมมม? เมื่อทุกคนมองหน้ากันและกัน พวกเราก็พบว่าคอนนี่กำลังหน้าแดงอยู่
“คอนนี่ รู้สึกหิวแล้วงั้นหรอ?”
ชั้นถามออกไป และคอนนี่ก็พยักหน้าด้วยความเขินอาย
“ข้าเองก็หิวแล้วเหมือนกัน มาทานอาหารกลางวันกันแถวๆนี้ดีไหม?”
ท่านพ่อพูดตามออกมาว่าเขาเองก็หิวแล้ว ดังนั้นพวกเราก็เลยไปทานอาหารกลางวันกันที่โต๊ะในสวนใกล้ๆกับเรือนกล้วยไม้
MANGA DISCUSSION