บทที่ 2 ตอนที่ 2 คอนนี่
“คอนนี่มี… คอนนี่มีความสุขสุดๆไปเลยค่า!!”
หลังจากที่ชั้นบอกลาท่านพ่อกับท่านแม่มา ชั้นก็กำลังเดินไปด้วยกันกับคอนนี่ที่กำลังสูดน้ำมูกฟึดฟัดอยู่โดยที่จับมือชั้นเอาไว้ ชั้นหยุดที่จะปลอบเธอไปแล้วเพราะว่ายิ่งบอกให้หยุดร้อง เธอก็จะยื่งร้องหนักกว่าเดิมซะอย่างนั้น
“คุณหนูอาการดีขึ้นแล้ว… และนายท่านกับนายหญิงเองก็กลับมาคืนดีกัน… ภายในคฤหาสน์ก็สว่างสดใสมากขึ้น… ฮึก—ยอดเยี่ยมที่สุดเลยค่า!”
“อืมม… ขอบคุณนะ คอนนี่”
ใช่แล้ว สำหรับคอนนี่ผู้ซื่อตรงและไร้เดียงสาสุดๆนั้น เธอต้องจิตใจแหลกสลายกับสถานการณ์ในตอนนั้นแน่ๆ
คู่สามีภรรยาที่แทบจะไม่คุยกันเลย ไม่เจอหน้ากันซะด้วยซ้ำ
ลูกสาวไม่สมประกอบที่ดูเหมือนเธอกำลังจะตาย
แน่นอนว่ามันคงจะเป็นเรื่องน่าใจหายสำหรับทุกคนที่ทำงานอยู่ที่นี่อยู่แล้วละนะ
“นี่ คอนนี่ คือ… ถึงจะมีอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้น… แต่ก็ขอบคุณนะที่ไม่ได้ลาออกไปหน่ะ”
ชั้นอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันเก่าๆ
ตอนที่ชั้นยังเป็น “อลิซ” ชั้นสร้างความลำบากให้กับคอนนี่เยอะมากเลยละ
ก่อนที่ตัวชั้นจะค้นพบว่าตัวเองเป็นโรคกลัวหนังสือ ชั้นถึงกับตบหนังสือที่คอนนี่หวังดีซื้อมาให้ชั้นเลย
บางครั้งชั้นก็กรีดร้องออกมาในตอนที่คอนนี่ยืนหน้าของเธอเข้ามาในห้องของชั้นพร้อมกับพูดว่า “เช้าแล้วนะคะ!” ด้วย
ชั้นเป็นแหล่งรวมจุดชนวนความชอกช้ำทางจิตใจและความวิตกกังวลเลย ชั้นทำเรื่องโหดร้ายกับคอนนี่ไปมากมายจนถึงขั้นที่ชั้นรู้สึกว่าชั้นทำให้เธอชอกช้ำทางจิตใจไปแล้วเลย
ชั้นตอบสนองไปเองโดยที่ปฏิเสธตัวตนของเธอที่พยายามเข้าหาตัวชั้นอย่างเป็นมิตร เพื่อที่จะปกป้องหัวใจของตัวชั้นเอง
เมื่อชั้นแสดงสีหน้าเจ็บปวดและขอโทษออกไป คอนนี่ก็ได้ย่อตัวลงหลังจากหยุดนิ่งไป เธอสบตาของชั้นด้วยดวงตาที่อ่อนโยน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณหนู… ชั้นไม่เคยพูดเรื่องนี้มาก่อนก็จริง แต่ตัวชั้นจริงๆแล้วมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าค่ะ”
คอนนี่พูดบางอย่างที่ทั้งกระทันหันและไม่ได้คาดคิดเอาไว้ออกมาด้วยน้ำเสียงตามปกติของเธอ
นั่นหมายความว่าตัวของเธอนั้นไม่มีครอบครัว ถึงอย่างงั้น เธอกลับพูดว่าเธออยากให้ครอบครัวในบ้านหลังนี้มีความสุขโดยที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆเลย
“ตอนที่ชั้นได้ยินว่าคุณหนูกำลังจะคลอด ตัวชั้นก็ถูกจ้างมาในฐานะเมดเพื่อเตรียมพร้อมเรื่องนั้นค่ะ แล้วหลังจากที่คุณหนูเกิดมา ทั่วทั้งคฤหาสน์ก็เต็มไปด้วยความปิติยินดีค่ะ”
คอนนี่พูดออกมาแบบนั้นพร้อมกับรำลึกความหลัง
“ตอนแรกตัวชั้นอิจฉามากเลยค่ะ การได้เห็นใครบางคนที่เกิดมาพร้อมกับความรักมากมายขนาดนี้… ทว่าเมื่อตัวชั้นได้เห็นคุณหนู ชั้นก็เข้าใจทันทีว่าทำไมทุกคนถึงรู้สึกแบบนั้น… คุณหนูหน่ะน่ารักมากเลย มือน้อยๆของคุณหนูจับมาที่นิ้วของชั้นอย่างหลวมๆด้วยละค่ะ นอกจากนี้ นายหญิงกับนายท่านเองก็ใส่ใจในตัวของพวกเราคนรับใช้ค่ะ ถึงจะเพราะด้วยสถานะที่แตกต่างกันจึงเรียกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ได้ แต่พวกท่านก็ดูแลพวกเราอย่างดี พูดว่าพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของคฤหาสน์หลังนี้แล้ว ขนาดตอนที่เรื่องราวในครั้งนั้นยังไม่จบลง การดูแลพวกเราก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยค่ะ”
“คอนนี่…”
ดวงตาของคอนนี่เปียกชื้นไปด้วยน้ำตาขณะที่ย้อนนึงถึงเรื่องเมื่อก่อน
“นะ-นั่นแหล่ะค่ะว่าทำไม คะ-คอนนี่ถึงรู้สึกมีความสุข มะ-มากๆเลยค่ะ—และ” คอนนี่เริ่มร้องให้ออกมา
ชั้นรีบปลอบเธอทันที
“ไม่เอาสิ คอนนี่! อย่าร้องไห้เลยนะ โอเคไหม?”
แต่เธอก็ร้องออกมาหนักกว่าเดิมซะอีก
ชั้นลืมไปเลยว่าถ้าปลอบเธอแล้วมันจะยิ่งหนักกว่าเดิมหน่ะ
ชั้นลนลานไปมาตรงหน้าของคอนนี่ที่ตอนนี้ดูน่าเป็นห่วงว่าร่างกายจะขาดน้ำ ชั้นพาเธอไปนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆ มันอยู่ตรงบริเวณหน้าต่างบนระเบียง
“โอ๊ะ-โอ้ ชั้นต้องขออภัยที่ต้องให้คุณหนูมาเห็นภาพไม่น่าดูของชั้นนะคะ…”
เพื่อที่จะเช็ดน้ำตาของคอนนี่ ชั้นจึงขอให้เมดที่อยู่ใกล้ๆนำผ้าขนหนูมาให้
“ไม่เป็นไรหรอก คอนนี่ร้องไห้ออกมาเพราะทุกคนในคฤหาสน์แห่งนี้กำลังมีความสุขกันใช่ไหมละ?”
เมื่อชั้นพูดแบบนั้น คอนนี่ก็น้ำตานองหน้าอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เธอคุมตัวเองเอาไว้ได้
“ฮึก… คุณหนู… ช่างเลอค่าจริงๆ…”
“อะไรหรอ?”
คอนนี่พึมพำบางอย่างออกมาแต่ตัวชั้นไม่ได้ยินก็เลยถามออกไป ทว่าคอนนี่ก็รีบบอกชั้นว่าไม่มีอะไรก่อนจะทำเป็นเก่งโดยการยืนขั้นจากเก้าอี้
“…เอาละ ขออภัยที่ทำให้รอนะคะ ไปกันเถอะค่ะ คุณหนู!”
ชั้นรู้สึกโล่งใจทันทีที่คอนนี่พูดออกมาแบบนั้นด้วยรอยยิ้มมีความสุข จากนั้นพวกเราก็เดินมุ่งหน้าไปยังวิหารโดยที่จับมือกันไว้อีกครั้ง
***
พวกเราเข้าไปในวิหารเป็นที่สุดท้ายของส่วนสาธารณะที่อยู่ที่ชั้นล่าง
อย่างที่คอนนี่เคยบอกเอาไว้เมื่อก่อนหน้านี้ ทางเดินที่นำไปยังวิหารนั้นสร้างจากหินเพียงแค่ครึ่งทาง แถมมันก็เก่ามากๆเลยด้วย
ทางเดินหินถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิศวงด้วยการหักเหสองอัน ไม่รู้ทำไมชั้นถึงนึกขึ้นได้ว่าบริเวณที่คฤหาสน์ตั้งอยู่นั้นแต่เดิมแล้วเป็นของวิหาร ชั้นคิดว่าพวกเขาคงจะเหลือวิหารเอาไว้แล้วสร้างคฤหาสน์ขึ้นมาเชื่อมต่อเข้ากับวิหาร
“ที่นี่มักจะงดงามเสมอในทุกครั้งที่ชั้นมาเลยค่ะ”
เหมือนกับที่คอนนี่พูดเอาไว้ ตัววิหารเล็กๆนั้นพูดได้คำเดียวเลยว่า “งดงาม”
มันไม่ใช่อะไรอย่างวิหารต่างชาติที่เห็นได้ตามรายการท่องเที่ยวหรอกนะ — มันเล็กกว่านั้นมาก มันอาจจะใหญ่ไม่เกิน 2 เท่าของโบสถ์ในญี่ปุ่นที่มักจะใช้สำหรับงานแต่งงานหรอก
อย่างไรก็ตาม ด้วยเพดานที่สูงและกระจกหลากสีจำนวนมากบวกกับงานหินสไตล์เก่าแก่ มันจึงให้บรรยากาศความขลังอย่างมากออกมา
“คุณหนูคะ คุณหนูทราบไหมคะว่าเรื่องราวที่ถูกวาดอยู่บนเพดานนั่นคือเรื่องอะไร~?”
ชั้นมองขึ้นไปบนเพดานตามที่คอนนี่บอก และเห็นภาพวาดปูนเปียกอยู่บนนั้น
มองแวบแรกก็จะเห็นว่าภาพถูกแบ่งออกเป็นมืดกับสว่าง มันมีภาพของกลุ่มคนที่รายล้อมไปด้วยพืช, สายฟ้า, น้ำ, และก็เปลวไฟ
หมายความว่าอาจจะเป็นสิ่งนั้น
“เรื่องของตำนานผู้สร้างใช่ไหม?”
“สมแล้วที่เป็นคุณหนูของชั้น!”
คอนนี่ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ
จากนั้น เธอก็เริ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ ราวกับกำลังเล่านิทานให้ฟัง
MANGA DISCUSSION