บทที่ 1 ตอนที่ 8 เวทมนตร์ดำ
ด้วยอารมณ์ความรู้สึกก่อนการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น ชั้น อลิซ ได้ยินเสียงราวกับแตรรบดังก้องอยู่ในหัว เข้ามาสิ รูจ! มาจบเรื่องนี้กัน!
ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันที่จะได้กำจัดนังงูพิษนั่นออกไป
ยิ่งนานวันเข้า สถานการณ์ก็จะยิ่งอันตรายขึ้น เพราะงั้นชั้นเลยตัดสินใจที่จะใช่แผนระยะสั้น
หืม? ถามว่าทำไมเราไม่ไล่เธอออกไปทั้งๆอย่างนั้นเลยละยังงั้นหรอ?
ไม่ ทำแบบนั้นมันยังไม่พอหรอก
เพราะท่านพ่อคิดว่ารูจใช้เวทมนตร์ดำหน่ะสิ
เวทมนตร์ดำก็คือเวทมนตร์ประเภทคำสาป พวกเขาบอกว่ามันเป็นอะไรบางอย่างที่เก่าแก่ยิ่งกว่าเวทมนตร์ด้วยกฎและรูปแบบที่แตกต่างไปตามบุคคล
ทำไมท่านพ่อกับพ่อบ้านถึงไม่เคยสังเกตเห็นถึงการกระทำผิดที่ทั้งดุร้ายและโหดเหี้ยมของรูจเลยจนถึงตอนนี้ละ?
แล้วก็อีกอย่าง ทำไมตัวชั้นถึงไม่วิ่งไปหาท่านพ่อกับท่านแม่ หรือพยายามค้นหาความจริงเลยละ? ท่านพ่อกับท่านแม่เองก็ไม่ใช่คนที่ขี้อายกันตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นทำไมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองถึงซับซ้อนแบบนี้ละ?
ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้สูงที่เวทมนตร์ดำประเภทควบคุมจิตใจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
มันเป็นสิ่งที่โลกแฟนตาซีแบบนี้มี ซึ่งชั้นก็ไม่ได้ดีใจกับเรื่องแบบนี้เลยสักนิด
ตากคำบอกเล่าของออฟรานซ์ซังที่ตอนนี้มาคอยดูแลชั้น เมื่อมีการใช้งานเวทมนตร์ประเภทนี้ มันจะมีสัญลักษณ์บางอย่างเหมือนกับคำสาบานปรากฎขึ้นในดวงตาของผู้ร่าย (TL: กีอัสงั้นเรอะ?!)
จากความจริงที่ไม่ว่าจะเป็นท่านพ่อ,ออฟรานซ์ซัง,หรือแม้แต่ชั้นเองก็จำไม่ได้ว่าเคยมองเข้าไปในดวงตาของเธอนั้นเป็นหลักฐานที่มากพอจะสนับสนุนทฤษฎี (นอกจากกรณีของชั้นในตอนที่โดนข่มขู่)
ปกติมันก็คงไม่แปลกถ้ามีความแตกต่างกันทางด้านสถานะ เช่นระหว่างขุนนางกับสามัญชน ทว่ารูจนั้นเป็นลูกสาวของตระกูลบารอน ถึงจะเป็นตระกูลที่ล่มสลายไปแล้วก็เถอะ
เป็นที่เห็นพ้องกันว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติที่พวกเราไม่เคยเห็นดวงตาของเธอเลยสักครั้งตลอด 5 ปีที่เธอทำงานมานี้
“แต่สิ่งที่เป็นตัวตัดสินก็คือในตอนที่คุณหนูโดนข่มขู่ขอรับ ที่คุณหนูบอกว่าตอนที่สบตากับเธอแล้วเห็นถึงดวงตาที่เบิกกว้าง รวมถึงรู้สึกถึงหมอกสีดำที่อยู่ภายในหน่ะขอรับ นั่นคงเป็นสัญญาณของการใช้เวทมนตร์ดำขอรับ”
ออฟรานซ์ซังพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดที่ตัวเขาไม่อาจรู้สึกถึงมันได้มาก่อนหน้านี้
ชั้นเห็นด้วยกับทฤษฎีนั้น
แต่ถึงจะมีการใช้เวทมนตร์ดำ แล้วทำไมเราถึงไม่ขับไล่เธอออกไปละ? เราก็แค่ขับไล่เธอออกนอกประเทศหรือที่ที่ห่างไกลจากเราก็ได้นี้?
ถึงจะตัดสินใจไปแล้ว ชั้นก็ยังคงกังวลถึงความร้ายแรงของมันอยู่ ดังนั้นเมื่อท่านพ่อออกจากห้องไปพร้อมกับพูดว่าฝากทุกอย่างให้เขาจัดการเอง ชั้นก็ได้ถามออฟรานซ์ซังเกี่ยวกับมัน
“เวทมนตร์ดำนั้นเกี่ยวพันถึงชีวิตขอรับ ถ้าพวกเราขับไล่รูจออกไป คำสาปที่เธอร่ายไว้กับคุณหนูมันอาจจะแย่ลงยิ่งกว่าเดิม หรือกรณีเลวร้ายที่สุดก็อาจถึงแก่ชีวิตเลยขอรับ”
ชั้นกลืนน้ำลาย นั่นมันอะไรกัน—เหมือนกับโดนสาปโดยวิญญาณร้ายเลย!
ออฟรานซ์ซังยิ้มออกมา คิ้วของเขาลดต่ำลงราวกับว่ากำลังปลอบโยนตัวชั้นที่กำลังหวาดกลัว
“อย่าห่วงไปเลยขอรับคุณหนู กระผมจะปกป้องคุณหนูเองเมื่อเวลานั้นมาถึงขอรับ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตของกระผมก็ตาม”
“โอ๊ะ อือ…”
ชั้นสะดุ้งจากความคิดเห็นหล่อๆของพ่อบ้านของออฟรานซ์ซัง การที่มีพ่อบ้านแบบนี้มันสุดยอดจริงๆ
“แต่ก็โชคไม่ดี ถึงความตั้งใจของคุณหนูจะเอาชนะผลของคำสาปได้ก็จริง แต่ร่างกายกับจิตใจของคุณหนูก็ยังไม่ฟื้นตัวดีขอรับ ดังนั้นเราจึงไม่รู้ว่าผลของคำสาปจะกลับมาเมื่อไหร่ ขณะที่ตัวกระผมกับนายท่านที่ได้สติขึ้นมานั้นต้องขอบคุณพลังใจของคุณหนูจริงๆขอรับ ทว่าพวกเราเองก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่พวกเราจะกลับมาโดนปิดบังความคิดอีกครั้งนึงขอรับ มันเป็นการดีที่จะลงมือทันทีในตอนที่รู้สึกตัวขอรับ”
อืม มันก็จริงละนะ
ถึงตัวชั้นจะเริ่มลืมเลือนมันไปแล้วในตอนที่ชั้นใจเย็นลง แต่เมื่อลองค้นดูในหัวก็จะพบเข้ากับร่องรอยของควันสีดำที่ชั้นเคยรู้สึกเมื่อตอนนั้น คงเป็นมันนี้ละ
ตอนนี้ แผนที่วางไว้ก็จะเป็นไปตามนี้
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ท่านพ่อก็มักจะไปยังห้องทำงานของเขาเสมอ และตรงนั้นแหล่ะที่พวกเราจะวางกับดักอันแรก เขาบอกว่าเวลานั้นรูจมักจะเข้ามาชงชาให้เขาบ่อยๆ
จากนั้นเมื่อทั้งคู่อยู่กันสองต่อสอง ท่านพ่อก็จะหลอกล่อเธอให้เธอมาที่ห้องของเขาในตอนกลางคืน
แล้วก็อีกอย่างนึง ท่านพ่อบอกว่าเขาจะแวะไปที่ห้องของท่านแม่ก่อน… ชั้นกังวลเล็กน้อยถึงเรื่องนั้น เขาจะพูดอะไรกับท่านแม่กันนะ?
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลา ชั้นก็จะซ่อนอยู่ข้างหลังของออฟรานซ์ซังแล้วตามเขาไปยังห้องนอนของท่านพ่อ จากนั้นชั้นก็จะไปซ่อนก่อนจะปรากฏตัวออกมาในตอนที่รูจติดกับดักของท่านพ่อแล้ว
เหตุผลที่ว่าทำไมท่านพ่อถึงไม่จัดการเธอในห้องทำงานไปเลยก็เพราะว่าเขาอยากจะหาหลักฐานและจัดการกับเธอโดยที่เธอไม่ทันระวังตัว เธอจะได้ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆทั้งนั้น
และอีกเหตุผลก็คือการติดตั้งกับดักเวทมนตร์นั้นเหมาะสมกับห้องนอนของเขามากกว่า ท่านพ่อบอกว่ามันเป็นกับดักที่จะเผยเวทมนตร์ดำ ดังนั้นมันคงเป็นอะไรอย่างที่มีเรื่องราวแฟนตาซีแน่เลย
ชั้นได้พูดคุยกับออฟรานซ์ซังถึงสถานการณ์มาซักพักนึงแล้ว และก่อนที่ชั้นจะรู้ตัว ชั้นก็หลับไปซะแล้ว ดูเหมือนจะเป็นเพราะว่าชั้นทำอะไรหลายๆอย่างในทันทีด้วยแรงของเด็กสาวตัวน้อยๆละนะ
ดังนั้นชั้นเลยหลับไปซักพักโดยมีออฟรานซ์ซังคอยเฝ้าให้ และเมื่อชั้นตื่นขึ้นมา ชั้นก็ได้ทานอาหารประเภททานง่ายๆเป็นมื้อเย็นไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูห้องของชั้นดังขึ้น
“อลิซ พ่อขอเข้าไปนะ”
“ท่านพ่อ! เชิญเลยค่ะ”
ท่านพ่อยิ้มออกมาขณะที่เขาเห็นชั้นในตอนที่เปิดประตูเข้ามาอย่างเงียบๆ
“อาา อยู่ใกล้ๆลูกนี้มันรู้สึกปลอดโปร่งดีจริงๆ… ที่พ่อเจอมามันแย่มากเลยละ”
ตอนที่เขาพูดแบบนั้นออกมา ท่านพ่อก็ได้นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อน ดูเหมือนกับดักขั้นแรกจะสำเร็จไปได้ด้วยดี
“พ่อรู้สึกถึงเวทมนตร์ดำแล้วก็พยายามต่อต้านมันโดยที่ไม่ทำให้เธอรู้ตัว มันเป็นความรู้สึกแปลกๆที่พยายามชักนำความคิดของพ่อ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพ่อไม่รู้สึกถึงมันมาก่อนหน้านี้เลย”
โอ้ มันคงจะสาหัสน่าดูเลยนะ
“ทั้งนายท่านแล้วก็กระผมนั้นมีการต้านทานเวทมนตร์ที่สูงมากขอรับ ทว่าเวทมนตร์ดำนั่นก็ยังมีพลังมากพอที่จะทำให้พวกเราไม่รับรู้ถึงมันได้เลยขอรับ กระผมมั่นใจว่าเจตนาร้ายของเธอต้องแข็งแกร่งมากๆเลยละครับ”
ออฟรานซ์ซังขมวดคิ้วพร้อมกับออกความเห็น
“อย่างไรก็ตาม ข้าก็จะจบเรื่องนี้ให้ได้ มาที่ห้องของข้าในอีก 1 ชั่วโมงให้หลังนะ”
ออฟรานซ์ซังกับชั้นก็พยักหน้าให้กับเขาด้วยสีหน้าที่ได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว
MANGA DISCUSSION