บทที่ 1 ตอนที่ 2 เด็กสาวผมเงินปรากฎตัว!
ผมสีเงินเป็นประกายราวกับดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า
ดวงตาสีทองสดใสราวกับน้ำผึ้ง
ผิวขาวดุจมาร์ชเมลโล่ แก้มและริมฝีปากสีกุหลาบ
กระจกได้สะท้อนรูปลักษณ์ที่ไม่คุ้นตา อย่างน้อยก็สำหรับชั้นละนะ ตัวชั้นที่เป็นคนญี่ปุ่นธรรมดาสามัญด้วยผมสีดำและตาสีดำ
เห็นได้ชัดว่า ชั้นคือ อลิซ รีเบคก้า อาเชอร์เลช เด็กสาวอายุ 5 ขวบหน้าตาน่ารัก
ที่ชั้นใช้คำว่า “เห็นได้ชัด” เพราะถ้าชั้นจำไม่ผิด ชั้นควรจะเป็นชาวญี่ปุ่น และเท่าที่จำได้ ชั้นเป็นหญิงสาวชาวญี่ปุ่นอายุ 29 ปีที่เป็นทาสของบริษัทสิ
แต่ตอนนี้ ที่สะท้อนภายในกระจกเต็มตัวหรูหราก็คือเด็กสาวผมสีเงินที่มีผิวสีขาวและหน้าตาน่ารัก
ขณะที่ชั้นเอามือนวดคิ้วด้วยท่าทางขัดกับรูปลักษณ์หน้าตาของเด็กสาว ชั้นก็ตัดสินใจจะประติดประต่อเรื่องราวที่ทำให้ชั้นกลายมาเป็นแบบนี้
***
ไม่ว่าจะคิดเท่าไหร่ ชั้นก็จำอะไรพิเศษๆเกี่ยวกับชาติก่อนไม่ได้เลย ชั้นไม่มีความทรงจำและจำไม่ได้ว่าชั้นตายได้ยังไง ชั้นเข้านอนหลังจากที่ดูเหมือนจะเป็นวันธรรมดาทั่วไปสำหรับชั้น แล้วเมื่อตื่นขึ้นมาก็อยู่ในร่างนี้ซะแล้ว
ถ้าจะให้ชัดเจนกว่านี้ก็คือ ชั้นจำเรื่องที่ใช้ชีวิตเป็นอลิซจนถึง 5 ขวบได้ แล้วทันใดนั้นอยู่ๆชั้นก็จำเรื่องราวในชาติก่อนขึ้นมาได้ซะงั้น
บางทีอาจจะเป็นเพราะข้อมูลจำนวณมากที่ชั้นมีก็ได้ แต่ชั้นมีความรู้สึกถึงการเป็นตัวชั้นเองในชาติก่อนค่อนข้างรุณแรงมาก หรือจะบอกว่าความรู้สึกของการเป็นอลิซนั้นถูกบดบังด้วยเหตุผลบางอย่างดี ดังนั้นชั้นจึงเกือบจะเหมือนตัวเองในชาติก่อนทั้งหมดเลย
ห้องที่ชั้นอยู่เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 30 เสื่อทาทามิวัดด้วยสายตา มันเป็นห้องส่วนตัวของชั้นเอง
แสงส่องเข้ามาจากกระจกบานใหญ่ที่กำแพงและสะท้อนกับกำแพงสีขาว เพดานสีอำพันบริสุทธิ์จากงานไม้ฝีมือยอดเยี่ยม
และมีเตียงขนาดใหญ่ที่มีหลังคาสีชมพูอ่อน มีผ้าม่านหนากับพรมสีเดียวกันเข้าคู่กับเตียงนั้น
เครื่องเรือนหรูหราคลุมไว้ด้วยผ้าลูกไม้สีขาว มีดอกไม้จัดวางประดับด้วยดอกไม้จำนวณมาก
นั่นเป็นบรรยากาศโดยรอบที่ชั้นในตอนนี้ตื่นขึ้นมา
อนึ่ง เมดของชั้น คอนนี่ ที่ยืนรออยู่ตรงกำแพงเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เธอรู้สึกตกใจจนกระโดดขึ้นลงเมื่อเห็นชั้นตื่นขึ้นมาจากเตียง แล้วเธอวิ่งออกไปพร้อมกับตะโกนอะไรบางอย่าง
“ไม่ใช่ว่านี่มันสมจริงเกินไปสำหรับความฝันงั้นหรอ…?”
ชั้นถามกับตัวเองพร้อมกับหยิกแก้มนุ่มๆของตัวเอง ชั้นไม่ได้พูดอะไรนานมาก ขนาดที่ทำให้มันยากที่จะพูดอะไรออกสักคำมาเลย เสียงของชั้นแหบเล็กน้อยจากการที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาเป็นเวลานาน
ใช่แล้ว สิ่งที่ชั้นใฝ่ฝันมานาน ผิวอันขาวใส, สีผมกับสีตาที่แปลกใหม่ และนอกจากนั้น การที่โอตาคุอายุเกือบ 30 ปีได้กลับชาติมาเกิดใหม่นี้มันเหมือกับความฝันเลยละ มันเกือบจะเหมือนกับปุ่มเริ่มเกมใหม่สำหรับชีวิตเลย
อย่างไรก็ตาม ถ้านี่เป็นแค่ความฝันละก็ ชั้นจะยินดีกับมันมากเลย แต่ถ้ามันเป็นความจริงละก็ มันจะไม่ง่ายดายขนาดนั้นหน่ะสิ
ชั้นหยิกแก้มตัวเองให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมันเจ็บมากๆเลย ชั้นเริ่มเหนื่อยกับการเดินไปมาด้วยเท้าของเด็กตัวเล็กๆแล้วเริ่มที่จะเคลื่อนไหวน้อยลง มันไม่มีความรู้สึกนุ่มนิ่มเหมือนกับความฝันเลย มันเป็นเพัยงแค่ตัว ‘ชั้น’ ที่อยู่ตรงนี้พร้อมกับความทรงจำของอลิซและความทรงจำเกือบ 30 ปีของชั้นเอง
และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น: ชั้นจำชื่อของตัวเองในชาติก่อน ก่อนที่จะมาเป็นอลิซไม่ได้เลย
ชั้นมีความทรงจำเกี่ยวกับครอบครัว, ญาติพี่น้อง, และเพื่อนขอนชั้นในญี่ปุ่นได้ ความทรงจำที่ได้รับความรัก, การทะเลาะกันในครอบครัว,และตัวชั้นที่ถูกเลี้ยงดูมา ทว่ามีเพียงแค่ใบหน้ากับชื่อของชั้นที่เลือนราง นี่มันอะไรกัน… อัลไซเมอร์งั้นหรอ?
ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องปลอบใจก็จริง แต่ว่าอย่างน้อยๆ ความทรงจำของร่างกายนี้ก็ดูจะทำงานปกติดี
จากที่ได้พูดไปเมื่อกี้ ชื่อของชั้นคือ อลิซ ชั้นอายุ 5 ขวบ เกือบจะ 6 ขวบแล้วด้วย
ชั้นเติบโตขึ้นมากับครอบครัวของชั้นที่คอยดูแลชั้นอยู่ แต่อยู่มาวันนึง เมื่อชั้นอายุได้ 3 ขวบ ชั้นก็ประสบอุบัติเหตุจนทำให้ชั้นมีปัญหาทางจิตจนไม่สามารถพูดได้ ขนาดที่ชั้นแทบจะไม่ส่งเสียงกระซิบออกมาเลย
หลังจากนั้นครอบครัวของชั้นก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป พวกเขาดูจะหัวเราะหรือร้องไห้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ราวกับมีก้อนเนื้องอกเริ่มเติบโตขึ้นในความสัมพันธ์ของพวกเขา พวกเขาอยู่ตรงปลายสุดขอบของหน้าผาเหมือนกับสายธนูที่พร้อมจะขาดได้ทุกเมื่อ
ในตอนนี้ชั้นได้ความทรงจำมาแล้ว ชั้นสามารถคุยกับพวกเขาเหมือนกับปกติได้อีกครั้ง อลิซคนก่อนแทบจะไม่มีความสามารถด้านการสื่อสารเลย แต่ด้วยประสบการณ์เป็นทาสของบริษัทเกือบ 30 ปี ชั้นจึงไม่มีปัญหาในเรื่องนั้นเลย
ดูเหมือนการที่ความทรงจำชาติก่อนกลับมาจะทำให้ชั้นรู้สึกมีความมั่นใจขึ้นมา ทำให้ชั้นสามารถพูดได้เหมือนปกติอีกครั้ง ชั้นเริ่มพูดส่งเสียงออกมาเพื่อทดสอบดู
“หืมมม… ดูถ้ากฏของโลกนี้จะแตกต่างออกไปนะ เรื่องที่นิสัยของชั้นเปลี่ยนไปก็น่าจะไม่เป็นอะไรตราบใดที่ชั้นระมัดระวังตัวเองเอาไว้ ตัวชั้นยิ่งมีนิสัยบ้าๆอยู่ด้วยสิ…”
ใกล้ถึงเวลาที่เมดคนนั้นจะกลับมาแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้น ต้องรีบวางแผนอะไรบางอย่างซะแล้วสิ
“บางทีเธออาจจะไปพาพ่อกับแม่มาหาชั้นแน่ๆ ถึงจะทำให้เรื่องมันกระอักกระอวนยิ่งขึ้นไปอีกก็เถอะ…”
ใช่ พ่อกับแม่ของชั้น
ชั้นไม่สงสัยเลยว่าพวกเขาต้องรักชั้นมากแน่ๆ แต่พวกเขาดูจะเข้ากันไม่ได้นี่สิ
หรือบางทีจะต้องบอกว่าพวกเขาใช่คนที่แย่อะไร แต่ผิดที่พวกเขาทำตัวแย่ๆใส่กันต่างหาก
มันมีบางเวลาที่พวกเขาทำตัวไม่สนใจฝ่ายตรงข้ามเลย และผลที่ได้จากการบังคับตัวพวกเขาเองให้คุยกันแบบผิวเผินก็คือ ทำบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยออกมา แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ไม่ได้ดูเหมือนเป็นคู่รักจอมปลอมกันหรอกนะ
“เหมือนกับคู่รักที่มีเรื่องอยากจะพูดกับอีกฝ่าย แต่กลับอดทนไว้เพราะไม่อยากทะเลาะกันมากกว่า ก็ไม่ได้แย่นะ แต่เพราะขาดการพูดคุยกันจึงทำให้พวกเขาไม่คืนดีกัน แล้วตีตัวออกห่างจากกันเรื่อยๆเลย…”
เอาตรงๆนะ นั่นเป็นความเห็นจากมุมมองของผู้ใหญ่ที่ชั้นรู้สึกได้อะนะ ทว่า จากมุมมองของชั้นที่เป็นเด็กสาวตัวน้อยที่มีปัญหาด้านการสื่อสาร ครอบครัวของชั้นดูจะไม่ถูกกัน
เหตุผลที่ชั้นต้องหาทางทำอะไรซักอย่างกับเรื่องนี้ก็เพราะว่า ถ้าไม่ทำอะไร มันมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะหย่าร้างกันในอีกไม่กี่วันนี้แล้วนะสิ
พี่ชายของแม่ของชั้น (ลุงของชั้นเอง) ได้มาที่บ้านหลังนี้ไม่กี่วันก่อนแล้วต่อว่าพ่อของชั้นอย่างฉุนเฉียวไปหน่ะสิ เขาพูดว่าเขาจะบังคับหย่าร้างทันทีถ้ายังขืนเป็นแบบนี้ต่อไป
นี่ถือเป็นสถานการ์ที่เลวร้ายแล้ว แม่เลี้ยงเดี่ยวมักจะพบกับความยากลำบาก ชั้นไม่อยากให้คนที่ให้กำเนิดชั้นต้องเจอกับเรื่องแบบนั้นหรอกนะ
พ่อของชั้น จากความทรงจำที่เลือนรางจนถึงอายุ 3 ขวบ ดูเหมือนเขาจะรักชั้นมากๆเลย ชั้นไม่อยากจากไปเลย การแยกจากกันไปของครอบครัวของชั้นจะต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตของพ่อไปตลอดกาลแน่นอนเลย
และก็อีกอย่าง ชั้นรู้มาจากความทรงจำของอลิซว่าโลกนี้เต็มไปด้วยเวทมนตร์แฟนตาซีทั้งนั้นเลยด้วย
ชั้นเป็นพวกคลั่งเรื่องแฟนตาซีมาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว ชั้นชอบอ่านเรื่องประมาณว่าตัวเอกไปโรงเรียนเพื่อเรียนเวทมนตร์มากๆ ดูเหมือนชั้นจะเป็นอะไรอย่างที่เขาเรียกกันว่าโอตาคุจากการที่ชั้นหมดเงินเป็นหมื่นๆกับนิยายและของจุกจิกแนวแฟนตาซีตลอดทั้งปีเลย มันก็น่าอายนิดหน่อยนะ แต่ชั้นถึงขั้นชอบเก็บพวกหนังสือลึกลับเอาไว้เลย
ชั้นอยากจะรู้เกี่ยวกับชีวิตในฐานะนักเรียนในโรงเรียนเวทมนตร์อะ ก็เลยเรียนพวกเกี่ยวกับพวกสมุนไพรกับการทำนายดวงเอาไว้ด้วยนี่สิ
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ การได้เกิดใหม่ในโลกที่แสนมหัศจรรย์นี้เป็นเหมือนกับโบนัสสำหรับชั้นเลยละ…
…แต่ชั้นจะไปสนุกได้ยังไงถ้าครอบครัวของชั้นไม่มีความสุขหน่ะ!
นั่นแหล่ะว่าทำไมชั้นถึงอยากจะปกป้องครอบครัวนี้ ทั้งจากเหตุผลที่บริสุทธิ์กับไม่บริสุทธิ์เลย
เอาเถอะ แล้วใครกันละ คนที่คิดจะอธิบายเรื่องที่ครอบครัวของเด็กอายุ 5 ขวบกำลังหย่าร้างกัน?
คนร้ายสำหรับปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น กับอีกคนๆนึง
ชั้นเห็นได้ชัดเจนเลยละว่าทั้ง 2 คนคือต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของชั้นไม่มีความสุข
MANGA DISCUSSION