บทที่ 3 ตอนที่ 9
อย่างไรก็ตาม ผู้คนชาวเลฟจัดการกับออโตมาตรอนแบบนั้นได้ยังไงกัน? ชาวเลฟใช้หินสกิลไม่ได้นี้นา คงจะใช้อาวุธหนักกันเอาละมั้ง
…ให้ตายเหอะ อยากจะเห็นอาวุธพวกนั้นจัง
「ดันเต้ซัง ข้างหน้าดูจะไม่มีอะไรนะครับ」
「โอเค งั้นไปกันเถอะ」
พวกเราผ่านถ้ำขนาดใหญ่แล้วตรงไปตามทางเดิน เส้นทางได้หักไปทางขวา
ออโตมาตรอนเมื่อกี้มาจากไหนกันหน่ะ? แผนกยึดครองเขาวงกตที่มาก่อนหน้าพลาดไปงั้นหรอ? ชิ้นส่วนของออโตมาตรอนตัวนั้นถูกแยกส่วนแล้วเก็บเอาไว้ที่ถาดรับน้ำหนักของเนโกะจัง—เพราะไม่ได้ต้องการชิ้นส่วนโลหะ ดังนั้นจึงมีแค่อุปกรณ์เวทยมนตร์ข้างใน ซึ่งก็มีไม่เยอะเท่าไหร่ ผมยังคิดว่ามันน้อยเกินไปเลย ทว่ามูเกะซังกลับเต็มเปลี่ยมไปด้วยความสุข สงสัยจังว่าทั้งหมดนั้นเป็นชิ้นส่วนหายากหรือเปล่านะ?
「…หืมมม?」เซอรี่ซังส่งเสียงออกมา
「มีอะไรหรอครับ?」ผมถาม
「ฮึมมม… เค้ารู้สึกเหมือนกับว่าอากาศมันเปลี่ยนไป บางทีอาจจะเป็นแค่เค้าก็ได้」
「งั้นเคลื่อนที่กันอย่างระมัดระวังกันดีกว่าครับ」
「ไปกันเถอะ」ดันเต้ซังพูดพร้อมพยักหน้า
พวกเราเคลื่อนตัวไปข้างหน้ากันอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ ทว่าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และที่ข้างหน้าประมาณ 100 เมตร ห้องถัดไปก็ปรากฏขึ้นสู่สายตา
「หะ-เห้ย นี้มัน…」
ผมเดินไปอยู่ข้างๆดันเต้ซังแล้วส่องไฟไป… มันเป็นทางกว้างๆ
「เหมือนกับที่ทางเข้าเลย ทางลาดลงไปข้างล่างพร้อมรูปปั้นหิน」
รูปปั้นหินพร้อมอาวุธมากมายเรียงรายกันทั้งซ้ายและขวา ทางลาดเอียงเหมือนกับที่ทางเข้าเด๊ะๆ
「มันดูเหมือนกันก็จริง แต่พวกมันมีอาวุธไม่เหมือนกันครับ」
「หมายความว่าไง?」
「ตรงทางเข้านั้นเรียงเป็นดาบ, โล่, คทา, ขวาน, หอก, ค้อน – แล้วก็วนไปครับ แต่ที่นี่นั้นเรียงเป็นดาบ, ดาบสั้นโค้ง(scimitar), ขวาน, มีด, หอก, กรรไกรยักษ์ครับ」
「โว้ว! นายจำของแบบนั้นได้ด้วยหรอเนี้ย」
ใช่ ผมยังไม่ได้บอกดันเต้ซังกับคนอื่นถึง【World Ruler】กับความสามารถจดจำสมบูรณ์แบบเลย
「เซอรี่ซัง คุณได้กลิ่นอะไรไหมครับ? หรือเสียงแปลกๆอะไรแบบนั้น?」ผมถาม
「เค้าได้กลิ่นน้ำมัน」เซอรี่ซังพูดขณะที่ดมฟุดฟิด ใบหน้าของเธอมีสมาธิผิดปกติ
「นี้คือน้ำมัน?」
จมูกของผมเองก็จับกลิ่นอ่อนๆได้ ถึงจะอ่อนมากเลยก็ตาม
「ดูจะค่อนข้างเก่าเลยนะครับ」ผมพูด
「เป็นกับดักหรือเปล่า?」
ทั้งผมและเซอรี่ซังก็ไม่สามารถตอบคำถามของดันเต้ซังทันทีได้ ผมคิดไม่ออกเลยจริงๆ
「ดันเต้ซัง อยากจะให้ผมลองยิงด้วย【เวทย์ไฟ】ไหมครับ?」
「หืมม? ตรวจดูว่ามีแก๊สไหมสินะ หา?」
ในอดีต มีเรื่องราวเกี่ยวกับ “นกขมิ้นในเหมืองถ่านหิน (canary in the coal mine)” อยู่ที่โลก เรื่องราวจริงๆของคนงานเหมืองที่เข้าไปในอุโมงค์พร้อมกับนกขมิ้นในกรง อุโมงค์ที่ไม่ได้ใช้นานๆนั้นอาจจะมีออกซิเจนน้อยหรือเต็มไปด้วยคาร์บอนมอนอกไซด์ไม่ก็แก๊สพิษ นกขมิ้นถูกใช้ในฐานะตัวตรวจจับเพราะมันจะตายด้วยแก๊สพิษก่อนมนุษย์
จริงๆแล้ว ขนาดในเหมืองที่ 6 เอง พวกนักผจญภัยที่จะเข้าไปสำรวจพื้นที่ลึกๆบางครั้งก็นำนกตัวเล็กๆไปกับพวกเขาด้วยเช่นกัน
「ข้าไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรเนื่องจากออกซิเจนนั้นไหลเวียนอยู่ภายในดันเจี้ยนอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีพวกแผนกยึดครองเขาวงกตที่มาก่อนหน้าพวกเราด้วย」
「ครับ…」
จริงด้วย เนื่องจากมีคนอยู่ข้างหน้าพวกเราแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำมันเลย
แต่ว่าถึงยังนั้น ผมก็ยังรู้สึกว่าผมต้องทำมันอยู่ดี ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน? ไม่ใช้สัญญาณเตือนจาก【World Ruler】แต่เป็นแค่ความรู้สึกไม่ชอบมาพากลเท่านั้นเอง
「ถ้าเธอมีมานาเหลือละก็ จะลองดูก็ได้นะ ให้ยิงไปทางนั้นนะ อย่างน้อยๆพวกเราก็จะได้เห็นข้างหน้าชัดขึ้นด้วย」มิมิโนะซังพูด
ผมพยักหน้าแล้วยิง【เวทย์ไฟ】ออกไป มันเป็นลูกไฟขนาดเท่าบาสเก็ตบอล มันบินผ่านรูปปั้นพร้อมกับเสียงฟลิ้ว บริเวณที่มันผ่านสว่างขึ้นแปปนึง
การเรียงตัวของรูปปั้นหินยังคงไปเรื่อยๆ… รูปแบบอาวุธเองก็เหมือนเดิม… ท่าทางเปลี่ยนไปเล็กน้อย? สีของอาวุธเองก็ด้วย?
ท้ายที่สุด ลูกไฟก็กระทบกับกำแพงทางออกที่อีกฝั่งแล้วหายไป
「ทุกอย่างดูเหมือนกันหมดเลย」
ดันเต้ซังพูด มิมิโนะซังเองก็พยักหน้าเห็นด้วย
ไม่ครับ ไม่เหมือน ไม่เหมือนกันซะทีเดียวครับ มันมีความต่างอยู่เล็กน้อยจริงๆ
แต่อะไรกันละที่ผมเห็น?
ผมนึกถึงสิ่งที่ผมเห็นด้วย【World Ruler】ท่ายืนกับสีของอาวุธนั้นต่างกัน ที่ด้านหน้าของแถว รูปปั้นนั้นยืนตัวตรง ทว่าที่ด้านหลังของแุถว พวกมันอยู่ในท่าดาวน์สวิง(downswing) ด้วยอาวุธ และสีของอาวุธเองก็รู้สึกเหมือนกับว่ามันมีความเงาวับเลยด้วย…
(ที่นี่คือเขาวงกตเห็นความกลัว… ความกลัว… อาวุธ… รูปปั้น… อ้าาาาา ไม่เข้าใจสักนิด!)
ผมอาจจะสังเกตเห็นบางอย่างถ้าผมมีไหวพริบเหมือนกับเอิร์ลซิวลิซส์ แต่โชคไม่ดีที่ผมคิดอะไรไม่ออกเลย
「เอาละ ไปกันเถอะ」
ดันเต้ซังเดินนำหน้า แล้วพวกเราก็เดินตาม
พวกเราเดินไปตามทางเดินในขณะที่ถูกจ้องมองโดยรูปปั้น เป็นทางลาดลงอีกแล้ว ทำให้กลับมารู้สึกไม่ดีอีกครั้ง เมื่อพวกเราเดินลงเนิน คุณจะต้องเบรคพร้อมๆกับเดินลงไป และในทางกลับกัน คุณก็จะรู้สึกเหมือนกับว่าถูกพลักดันให้ไปข้างหน้าเรื่อยๆ อะไรแบบ “เร็วกว่านี้! เร็วกว่านี้!”
เซอรี่ซังเองก็เดินเหมือนกับเธอยังคิดไม่ตกถึงความรู้สึกนี้ บางทีคงเพราะเซอรี่ซังกับผมนั้นเคร่งเครียดมาก เลยไม่มีใครพูดอะไรเลย – มีเพียงแค่เสียงเครื่องจักรไอน้ำของเนโกะจังดังออกมาเท่านั้น
(…ความกลัว… อาวุธ… รูปปั้น… อาวุธนั้นต่างจากตรงทางเข้า ทำไมกัน?)
ตอนแรกนั้นมีดาบ, โล่, คทา, ขวาน, หอก, ค้อน
ครั้งนี้มีดาบ, ดาบสั้นโค้ง, ขวาน, มีด, หอก, และ กรรไกรยักษ์
แล้วไอ้กรรไกรยักษ์นี้มันคืออาวุธอะไรกัน มีอาวุธ 3 อันเหมือนกันในขณะที่อีก 3 อันต่างกัน ทำไมถึงต่างกันละ…
(โอ๊ะ! พวกมันทั้งหมดเป็นใบมีดนี้นา)
อาวุธทั้ง 6 ประเภทในทางเดินนี้ล้วนแล้วแต่เป็น “ของมีคม”
แต่ แล้วมันหมายถึงอะไรกัน…?
(ใบมีด, ใบมีด, ใบมีด — น้ำมัน หมายความว่ามันมีกับดักงั้นหรอ…?)
ตรงนี้เป็นทางเดินลาดลง
「อ๊ะ-」
ผมรู้สึกตัวแล้วหันกลับไปมองด้านหลัง
มันไม่มีเสียง บางทีคงเพราะมันถูกทาด้วยน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม… เสียงของอากาศที่ถูกตัดผ่านนั้นไม่สามารถลบออกไปได้
ทันทีพร้อมกันกับผม เซอรี่ซังเองก็หันกลับมามองด้านหลังด้วยเช่นกัน เนื่องจากเธอนั้นมีหูที่ดี เธอเลยได้ยินเสียงเหมือนกัน – เสียงของใบมีที่ตัดผ่านอากาศ
「หมอบลง!!」ผมตะโกน
พวกเรานั้นเอาแต่มองด้านบนอยู่ตลอด มันก็เป็นเรื่องปกตืเนื่องจากมีเพียงแค่รูปปั้นหินเท่านั้นที่ต่างจากตรงทางเข้า
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งพวกเราเดินผ่านมันไป – ช่องว่างที่สร้างอยู่ในทางลาดลง
ใบมีดหมุนยาวมากกว่า 1 เมตรถูกยิงมาทางพวกเรา
「คุ๊…」
มูเกะซังนั้นตอบสนองช้าไม่เหมือนกับพวกเรา ผมรีบกระโจนเข้าหาเขาแล้วลากเขาออกจากที่นั่งคนขับเนโกะจัง
「อุหว่าาา!」
เกือบไปแล้ว
ใบมีดนั้นพลาดไปไม่กี่มิลลิเมตร ตัดปลายผมของผมไปเล็กน้อย ขนาดต่อให้มันตัดปล่องไฟของเนโกะจังไปแล้วก็ตาม มันก็ไม่ได้หยุดลงเลย
ตอนที่ดันเต้ซังเห็นมัน เขาดูจะเหมือนกับพยายามจะบล็อคมันไว้ด้วยโล่ของเขา ทว่ารีบวางมันลงแล้วหมอบทันที ใบมีดนั้นถูกยิงด้วยแรงที่สามารถตัดผ่านโล่ให้เป็นสองซีกได้เลย
ใบมีดผ่านพวกเราแล้วหายราวกับถูกดูดเข้าไปในช่องว่างที่ถูกสร้างเอาไว้ตรงด้านบนของทางออก
เอาจริงดิ? ขนาดจุดปลายทางก็ยังคำนวนเอาไว้แล้วงั้นหรอ?
「ฟลิ้ว…」
ผมเหงื่อโชกตัว
「เดี๋ยวนะ! นี้มันเหมือนกับว่า…」
เนื่องจากพวกเราเคยประสบอะไรแบบนี้มาแล้ว ผมจึงรู้สึกตัวทันที พวกเรากำลังหมอบอยู่กับพื้น—ราวกับพบเจอใครสักคนที่สูงส่งกว่า หรือจะบอกว่า ราวกับพวกเรากำลังเผชิญกับตัวตนของสิ่งที่เหมือนกับ “พระเจ้า”
ใช่ พวกเราดูเหมือนกับกำลังหมอบกราบอยู่บนพื้น และถูกกลืนกินด้วยความกลัว
MANGA DISCUSSION