บทที่ 2 ตอนที่ 51
เมื่อราชันศักดิ์สิทธิ์และเอิร์ลจากไป ก็เหลือเพียงแค่ผมกับเอลซังเท่านั้นที่อยู่ในห้อง เอลซังนั่งลงที่ที่ราชันศักดิ์สิทธิ์เคยนั่งพร้อมกับพูดว่า “เออ, ในที่สุด” เหมือนกับคนไม่เอาอ่าวเลย… แบบกระต่าย
「เออ, ก่อนอื่นก็อ่านเนื้อหาก่อนขอรับ」เขาพูดพร้อมกับเลื่อนกระดาษที่มีเนื้อหาของสัญญาข้ามโต๊ะมา
ผมนึกถึงสิ่งที่น็อนซังสอนผม
——เรย์จิคุง เมื่อทำสัญญาเวทมนตร์ต้องตรวจดู 3 สิ่งนะ
(อย่างแรกก็คือกระดาษ นี้เป็นกระดาษที่ทำจากพืช)
การใช้ม้วนหนังจะได้ผลมากกว่า และมันยังยากที่จะร่าย “ละเว้นเวทมนตร์” ด้วย ในทางกลับกัน ร่าย “ละเว้นเวทมนตร์” ใส่กระดาษที่ทำจากพืชนั้นง่ายมาก ดังนั้นกระดาษแผ่นนี้นั้นเป็นแบบที่ผมต้องการเลย
ที่น็อนซังหมายถึงในตอนที่เธออธิบายถึงการ “ละเว้นเวทมนตร์” ก็คือ “การหลุดรอดจากเวทย์พันธสัญญา”
(อย่างที่สองก็คือรูปแบบของพันธสัญญา)
——ถ้าผู้ใช้ไม่ได้ร่ายเวทมนตร์ใส่ผู้ทำสัญญาโดยตรง แต่เป็นการร่ายใส่กระดาษละก็ ผลของมันจะต่ำมากจนบางครั้งสัญญาก็อาจจะไม่สำเร็จก็ได้
ครั้งนี้ เวทมนตร์ถูกร่ายเอาไว้บนกระดาษ
(อย่างที่สามก็คือวิธีการทำพันธสัญญา)
——มีเวทย์พันธสัญญาอยู่ 4 รูปแบบที่นิยมใช้กัน อันที่ใช้ในระดับชาติ, อันที่ใช้โดยโบสถ์, อันที่ใช้โดยกิลด์, และอันที่ใช้โดยบุคคลทั่วไป สองอันที่เป็นทางการนั้นถูกใช้กันมาอย่างยาวนาน ดังนั้นจึงมีการศึกษาเรื่องช่องว่างของมันมาแล้ว
กระดาษแผ่นนี้เป็นพันธสัญญาของราชอาณาจักรครูวานศักดิ์สิทธิ์
(น็อนซัง พวกเราทำได้! มันแทบจะเป็นเวทย์พันธสัญญาที่ต้องการเป๊ะๆเลย)
ถ้าเป็นกรณีนี้ละก็ หลังจากที่ยอมรับสัญญาแล้ว ผมก็สามารถยกเลิกมันโดยใช้วิธีการลับของโบสถ์ได้ ในขณะที่ผมคิดแบบนั้น–
「เออ, มันก็ไม่ได้มีเนื่อหาอะไรมากหรอกขอรับ, แต่ถ้าท่านกังวลเกี่ยวกับมันละก็ ท่านก็ไม่จำเป็นต้องเซ็นสัญญาก็ได้ขอรับ」
「…อะไรนะครับ?」
「ยังไงซะ, มันก็ไม่มีสัญญาไหนที่เก็บความลับไม่ให้หลุดออกไปได้หรอกขอรับ, เออ, ไม่มีทางปิดปากของผู้คนได้จริงๆอยู่แล้วขอรับ」
「……」
น็อนซังครับ กระดาษสัญญาได้ถูกเก็บไปแล้วละครับ
น็อนซังครับ ดูเหมือนเรื่องที่คุณสอนผมจะเสียเปล่าซะแล้วละครับ
「…มะ-มันจะดีจริงๆหรอครับ?」
「มันก็แค่เพื่อภาพลักษณ์เท่านั้นแหล่ะขอรับ」
เอลซังเขียนชื่อของผมลงไปในเอกสารอย่างรวดเร็ว และเวทมนตร์ก็ได้ทำงานพร้อมกับกับแสงสว่าง
「เออ, แล้วก็, มันมีวิธีที่เรียกว่า “ละเว้นเวทมนตร์” สำหรับเวทย์พันธสัญญาแบบนี้อยู่ด้วยขอรับ ถ้าท่านสนใจละก็, กระผมสามารถสอนให้ท่านได้นะขอรับ」
「มะ-ไม่เป็นไรครับ…」
อีกฝ่ายยก “ละเว้นเวทมนตร์” ขึ้นมาเองเลย?!
เหงื่อเย็นๆไหลลงมาที่หน้าผากของผม
「งั้นหรือขอรับ?」
ทำไมคุณถึงดูผิดหวังซะงั้นละครับ! อ้า ถึงเขาจะเป็นกระต่าย แต่ผมก็เริ่มจะเข้าใจสีหน้าของเขาขึ้นมาแล้ว
「จะดีหรอครับ? ไม่ใช่ว่าเมื่อวานเกิดเรื่องที่มันสำคัญมากๆขึ้นไม่ใช่หรอครับ?」
「เออ, มันก็จริงขอรับ, แต่ว่า, กระผมคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่าที่ข้อมูลนี้แพร่หลายออกไปขอรับ」
「จริงหรอครับ?」
「ขอรับ, มันไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ที่จะเก็บเป็นความลับขอรับ, มันก็ทำได้แค่ทำให้ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ดูลึกลับขึ้นเท่านั้นแหล่ะขอรับ, กลับกัน, การกระจายความรู้เรื่องหินสกิลไปทั่วโลก, เออ, กระผมคิดว่าทางนั้นมันจะได้ประโยชน์มากกว่าขอรับ」
ระดับของเรื่องราวครั้งนี้มันชักจะใหญ๋โตขึ้นซะแล้วสิ
「นั่นก็หมายความว่าผมสามารถถามเรื่องที่ผมอยากรู้ก็ได้ใช่ไหมครับ?」
「เออ, ถ้ามันอยู่ในขอบเขตความรู้ของกระผมละก็, ได้แน่นอนขอรับ」
「งั้น อะไรคือ “โลกอื่น” แล้วอะไรคือ “พันธสัญญา” กันครับ?」
「มันถูกเรียกอย่างง่ายๆว่า “โลกอื่น” จากผู้คนบนโลกนี้ขอรับ, เออ, ว่ากันว่า “โลกอื่น” เป็นโลกเดียวกับโลกใบนี้แต่อยู่เบื้องหลังขอรับ, ส่วน “พันธสัญญา” นั้นดูจะเป็นกฏที่เกี่ยวข้องกับ “หินสกิล” ที่ได้ตกลงก้นไว้กับ “โลกอื่น” ขอรับ」
ผมไม่คาดคิดว่าจะได้คำตอบจริงกลับมาเลย ทว่า ถึงจะได้ยินแบบนั้น ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าพวกนั้นมันหมายถึงอะไร
「ขออภัยด้วยครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เลย」
「เออ, ในตอนนี้, ก็คงใช้ขอรับ, พวกเราไม่สามารถตรวจสอบ “โลกอื่น” ได้เลยขอรับ, ดูเหมือนจะมีการเชื่อมต่อกันระหว่างสองโลกในอดีตกาลอยู่ขอรับ, ทว่าเพื่อที่จะหยุดการเชื่อมต่อนั้น, พวกเราเลยได้ปิดประตูที่เชื่อมต่อโลกเอาไว้ขอรับ」
ประตู เจ้าคนกลางนั่นได้พูดเอาไว้ว่า — 「ความมืด, เปิดประตู, แสงสว่าง, นำทาง」
「อูโรโบรอส… ประตูนั่นใช่ที่งูยักษ์ออกมาหรือเปล่าครับ?」
「เออ, ถูกต้องขอรับ, งูกินหาง(อูโรโบรอส)เป็นสำนวนที่น่าสนใจมากขอรับ, ขอนำไปใช้นะขอรับ」
เอลซังนำม้วนกระดาษออกมาจากกระเป๋าเสื้อก่อนจะเริ่มวาดมันลงไป พอพูดถึงแล้ว ราชันศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้พูดถึงอูโรโบรอสเลยนี้นา สงสัยว่ารายงานจะยังไม่มาถึงละมั้ง
「ตอนนี้, พวกเราไม่สามารถไปมาระหว่างโลกได้อย่างง่ายๆเพราะ “พันธสัญญา” นั่นขอรับ, เออ, ทว่า, มีเพียงแค่คนกลางเท่านั้นที่ทำได้ขอรับ」
「คนกลางหรอครับ… มังกรเองก็เป็นคนกลางด้วยหรอครับ?」
「โอ๊ะ? ท่านรู้เรื่องนั้นด้วยหรือขอรับ? เออ, ขอรับ, มังกรเป็นคนกลางของโลกใบนี้ขอรับ」
「มังกรนั่นพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการลงโทษพวกมนุษย์ตาม “พันธสัญญา” หน่ะครับ」
「โอ๊ะ? ท่านเคยคุยกับมังกรยังงั้นหรือขอรับ?」
ซวยละหลุดปากไป ผมรีบปิดปากของตัวเองอย่างเร่งรีบ ทว่าเอลซังก็ไม่ได้สนใจอะไร ก่อนจะพูดต่ออย่างสดใส
「เออ, นั่นเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่งขอรับ, ว่ากันว่ามังกรนั้นสามารถพบได้ในพื่นที่เฉพาะเท่านั้นขอรับ คอยเฝ้าดูว่าพันธสัญญาได้ถูกละเมิดหรือไม่ขอรับ」
「”พันธสัญญา” อีกแล้วสินะครับ?」
「ขอรับ, ว่ากันว่า “พันธสัญญา” นั้นมีส่วนที่สำคัญอยู่หลายอย่าง, และหนึ่งในนั้นบอกเกี่ยวกับว่าไม่ให้ถือครองหินสกิลมากเกินไปอะไรแบบนั้นขอรับ」
「ไม่ถือครองมากเกินไปหรอครับ?」ผมถามขึ้น
กระต่ายได้พยักหน้าตอบรับ
「หินสกิลนั้นถูกเรียกกันว่า “สิ่งที่พระเจ้าประทาน” ขอรับ… ทว่ากระผมคิดว่ามันเองก็เป็น “สิ่งที่หมุนเวียน” ด้วยเหมือนกันขอรับ, เออ, ถึง, กระผมจะเป็นคนเดียวที่เชื่อแบบนั้นในพระราชวังแห่งนี้ก็เถอะขอรับ, กระผมมีทฤษฎีที่ว่าหินสกิลที่หายไปจากโลกนี้ มันจะไปยัง “โลกอื่น” ขอรับ, และหินสกิลที่หายไปจาก “โลกอื่น” ก็จะมายังโลกใบนี้ขอรับ」
「————」
ผมอ้าปากกว้าง ผมไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นมาก่อนเลย แต่ก็แปลกที่จะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่งอกออกมาจากกำแพงของเหมือง เหมือนกับเห็ดแบบนั้น
แต่ ถ้าพวกเราคิดจากเรื่องการหมุนเวียนนี้แล้ว ไม่ใช่มันหมายความว่าหินมันมีจำนวนจำกัดหรอ? ถ้าจำนวนประชากรพุ่งพรวดขึ้นมาละก็ จำนวนผู้คนที่ไม่ได้รับหินสกิลก็จะมากขึ้นไม่ใช่หรอ?
「เออ, ดูเหมือนกระผมจะทำให้สับสนสินะขอรับ」
「ก็นิดหน่อยหน่ะครับ…」
「พูดตามตรงเลยนะขอรับ, นี้ไม่ใช่ทฤษฎีของผมหรอกขอรับ, มันถูกคิดค้นโดย ดร.ฮินกา ผู้ที่เป็นผู้นำทีมวิจัยด้านการถอดหรัสเอกสารโบราณเกี่ยวกับ “พันธสัญญา” ขอรับ, ทั้งเรื่องของ “โลกอื่น”, และการศึกษาเกี่ยวกับ “หินสกิล” นั้นมาจากเอกสารงานวิจัยเมื่อ 20 กว่าปีก่อนขอรับ」
「————」
ผมตกตะลึงจากชื่อนั้นที่อยู่ๆก็ปรากฏขึ้นมา
「ขออภัยนะครับ แต่ว่า… คุณพูดถึงใครนะครับ?」
เสียงของผมนั้นแผ่วเบา
「ดร.ฮินกาขอรับ, ผู้ที่ถูกเรียกว่า “มันสมองแห่งราชอาณาจักรฟอร์ชา(Brain of Forsha Kingdom)” ในสหพันธ์คีทแกรนขอรับ」เอลซังพูดอย่างคล่องแคล่ว
「มันมีการขัดแย้งกันภายในสหพันธ์และราชอาณาจักรก็ล่มสลายไปขอรับ, ตัวของเขาได้ถูกประกาศว่าเป็นบุคคลสูญหายในตอนนั้นด้วยขอรับ, เออ, โชคไม่ดี, เขาอาจจะตายไปแล้วขอรับ」
========================================================
TL: คลายไปหลายปมเลยก็จริง แต่กลับไม่รู้สึกว่ามันลดลงเลยแห่ะ
MANGA DISCUSSION