Chapter : 9 ความเป็นไปได้ที่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้
.
.
.
“—-ไปทำอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้นในช่วงพักของวันนี้งั้นเหรอ?”
ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น ฉันก็รู้สึกหนาวสั่นไปยันกระดูกสันหลัง
ฉันรู้สึกว่าหากฉันตอบพลาดไปเพียงนิดเดียวล่ะก็ ชีวิตฉันคงจบสิ้นแหง
เมื่อฉันเงียบขณะกำสมาร์ทโฟนไว้ในมือ ฉันก็ได้ยินเสียงอันเย็นยะเยือกของเธอ
“แน่นอนว่าฉันเชื่อใจคาสึโตะคุงอยู่แล้ว ใช่แล้วค่ะ ฉันเชื่ออย่างสุดหัวใจ ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยกับเด็กผู้ชายที่จริงใจอย่างคาสึโตะคุงหรอก”
“ห-หือ…?”
“ดังนั้น นี่จึงเป็นความสงสัยที่เกิดจากความอ่อนแอจากจิตใจของฉันเองค่ะ ต้องขอโทษคาสึโตะคุงด้วย แต่ช่วยให้ฉันยืนยันอีกทีได้รึเปล่าคะ”
—-ไปทำอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้น
คำพูดที่หนักแน่นและเย็นชาของมิสึกิซังทะลุแก้วหูของฉันแล้วทำให้สมองของฉันสั่นสะท้าน
อันตรายโครต
ไม่รู้ว่าเธอต้องการ ‘สงสัย’ หรือ ‘ยืนยัน’ อะไรกันแน่
แต่ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็คิดว่ามันต้องอันตรายแน่ๆ
สัญชาตญานในฐานะผู้ชายของฉันกำลังส่งสัญญาณเตือนอย่างรุนแรง
[[ TL : สัญชาตญาณผู้ชายหรือสัญชาตญาณพ่อบ้านใจกล้า ]]
“คาสึโตะคุง? ทำไมถึงเงียบล่ะ?”
“เอ่อ คือว่า…”
อันที่จริงแล้วคือโคโตเนะซังเพียงแค่พาฉันไปพบกับคุรุมิซากะซังเท่านั้น
เอ๊ะ ไปคุยเรื่องอะไรกันนะ?
เรื่องเกี่ยวกับปฏิบัติการลับกระชับความสัมพันธ์ของฉันกับมิสึกิซังไงล่ะ!
…จะพูดออกไปแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ
หากฉันหลุดพูดไปล่ะก็ มันจะเกิดรอยร้าวระหว่างความสัมพันธ์ของคุรุมิซากะซังกับมิสึกิซังเอาได้
ฉันไม่อยากให้พวกเธอแตกร้าวกันเพียงเพราะความผิดของฉัน
“คาสึโตะคุง ถ้าเธอหักหลังฉันล่ะก็ ฉันจะดำเนินคดีตามกฏหมายนะ”
“ดำเนินคดี อะไรนะ? เอ๊ะ หมายความว่ายังไงกันน่ะ?”
ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังเป็นสามีที่ถูกกล่าวหาว่านอกใจ
“กรุณาอธิบายมาด้วยค่ะ ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ยังทันนะคะ”
ม-ไม่เข้าใจความหมายเลย
มิสึกิซังเพียงแค่อยากรู้ว่าฉันไปทำอะไรกับโคโตเนะซังใช่ไหม?
เพียงแค่นั้นใช่ไหม แล้วไอ้ความสงสัยเอย การยืนยัน การหักหลัง การดำเนินคดี…–มันอะไรกันฟะเนี่ย
“รินกะ ได้เวลาฝึกต่อแล้ว”
ได้ยินเสียงแว่วห่างๆผ่านทางสมาร์ทโฟน
ฉันคุ้นเคยกับเสียงนี้ดี
มันคือเสียงของหนึ่งในสมาชิกของวง Star ☆ Mines
“เข้าใจแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ…คาสึโตะคุง ไว้มาคุยกันต่อคืนนี้ค่ะ”
“ไม่สิ เอ่อ เดี๋ยวก่อ–”
*ตื้ด*
โทรศัพท์ถูกวางสายอย่างไร้ความปราณี
“อะไรกันเนี่ย อะไรกันฟะ สถานการณ์นี้มันอะไรกันฟะเนี่ย…?”
ฉันไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง
ใครก็ได้ช่วยอธิบายให้ฉันฟังทีเถอะ!
“ทำไงดีล่ะเนี่ย ฉันสับสนไปหมดแล้ว”
ในเวลาแบบนี้ ต้องพึ่งพาเพื่อนพ้อง
ฉันเปิดแอพสำหรับแชทบนสมาร์ทโฟนของฉัน
ฉันเข้าไปกลุ่มแชทที่ถูกสร้างโดยทาจิบานะ ไซโตะ และฉันเอง
[ช่วยฟังฉันที เมื่อกี้ฉันได้รับสายจากมิสึกิซัง]
ไม่กี่นาทีต่อมา ฉันก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนสองครั้งดังขึ้นจากสมาร์ทโฟนของฉัน
ฉันรีบเช็กดูโดยทันที
[จะอวดรึไงฟะ ฉันจะให้นายกินพริกหยวกของฉัน]
[จากการคำนวณของผมแล้ว โอกาสที่จะเป็นการโอ้อวดคือ 100 ล้าน%]
คำตอบของพวกเขามันช่างโหดเหี้ยมและไร้หัวใจเกินไปแล้ว
…นี่มันโหดร้ายชะมัด
[ไม่ใช่แบบนั้น! ฉันบอกรายละเอียดไม่ได้ แต่ ฉันถูกถามเรื่องในช่วงพักกลางวันด้วยบรรยากาศที่โครตจะน่ากลัวเลย!]
[อย่างงั้นเหรอ ฉันหมายถึง นายไม่ได้บอกพวกเราด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงพักกลางวัน]
[ขอโทษ! แต่ฉันพูดไม่ได้!]
พวกเขาถามฉันอยู่หลายครั้งที่โรงเรียน แต่ฉันไม่ได้บอกอะไรเพราะด้วยจุดยืนของคุรุมิซากะซัง
และมันก็น่าอายเกินไปที่จะบอกพวกเขาเรื่องปฏิบัติการลับกระชับความสัมพันธ์
[อายาโนะโคจิคุง เพราะข้อมูลมันถูกปิดไว้มากเกินไป พวกเราเลยไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน]
ไซโตะพูดขึ้นฉันก็ตระหนักได้
ถูกอย่างที่เขาบอกจริงๆนั่นแหละ
ฉันให้พวกเขาสัญญาว่าจะเก็บสิ่งนี้ไว้เป็นความลับเฉพาะพวกเรา แล้วบอกพวกเขาสั้นๆ เกี่ยวกับบทสนทนาของฉันกับคุรุมิซากะซัง
จากนั้นทาจิบานะก็ส่งสติกเกอร์ยมทูตแสนน่ารักและแชทมาให้ฉัน
[อายาโนะโคจิ ยันเดเระมันมักจะ bad end นะรู้ป่าว]
[นี่อยากให้ฉันถูกแทงงั้นเหรอ!? แล้วมิสึกิซังก็ไม่ใช่ยันเดเระด้วย!]
[จากการคำนวณของผมแล้ว มิสึกิซังมีโอกาสเป็นยันเดเระ 120%]
แล้วไซโตะก็ส่งมาพร้อมกับสติกเกอร์แว่นตา
…ไอ้สติกเกอร์นี่มันอะไรกัน?
มันก็แค่แว่นตาธรรมดาๆนี่
ไม่เห็นจะฮาตรงไหนเลย
[ถ้ามิสึกิซังเป็นยันเดเระแล้วล่ะก็ มันก็หมายความว่าเธอตกหลุมรักฉันไม่ใช่รึไง]
[เออดิ]
[ก็ใช่ดิ]
ทั้งสองคนยืนยันโดยพร้อมเพรียงกัน
ฉันตกใจในความเร็วของการตอบกลับของพวกเขา
[…ไม่หรอกน่า ไม่มีทางหรอก]
[ถ้าคิดดีๆแล้ว มันก็คือมิสึกิหึงไม่ใช่รึไง?]
มิสึกิ รินกะไอดอลคนดังคนนั้นน่ะนะหึง…?
ไร้สาระสิ้นดี
[ฉันพูดอย่างแน่ชัดไม่ได้ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามิสึกิสนใจอายาโนะโคจิ]
[ใช่แล้วล่ะ สายตาของมิสิกิซังนั้นดูพิเศษเมื่อมองไปยังอายาโนะโคจิคุง]
[…]
แม้ว่าพวกเขาจะบอกฉันมามากขนาดนี้แล้วก็ตาม แต่ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเอาเสียเลย
ไม่ใช่ว่าฉันดื้อดึงหรอกนะ
สำหรับฉันแล้ว มิสึกิซังเป็นดั่งบุคคลวิเศษ เป็นผู้ที่ให้ความฝันและความหวังแด่ผู้คน
สำหรับฉันในฐานะคนธรรมดาก็ดั่งการมองแหงนมองดวงดาวและคอยโบกมืออยู่ร่ำไป
เด็กเนิร์ดติดเกมและไอดอลคนดัง…
จะคิดยังไงมันไม่ได้เหมาะสมกับเลย
เมื่อฉันคิดอยู่แบบนั้น ไซโตะก็ส่งข้อความที่ยาวและจริงจังอย่างหาได้ยาก
[ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่นายคิด อายาโนะโคจิคุง นายอยากจะเป็นยังไงกับมิสึกิซัง หากนายยังอยากคงความสัมพันธ์ไว้แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ นายก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร และหากนายอยากจะตอบสนองต่อความรู้สึกของเธอ นายสามารถก้าวไปหาเธออย่างนุ่มนวลตามจังหวะของตัวนายเอง และไม่ว่านายจะเลือกแบบไหน อายาโนะโคจิคุง หากนั่นเป็นสิ่งที่นายคิดใตร่ตรองอย่างจริงจิงแล้วล่ะก็ พวกเราก็จะเคารพการตัดสินใจของนาย]
“ไซโตะ…”
นายนี่มันคนดีจริงๆ…!
ฉันรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ!
เกือบจะลืมไปง่ายๆเลยเพราะว่าการคำนวณแปลกๆของนาย แต่ไซโตะก็เป็นผู้ชายที่ใจดีและใส่ใจเพื่อนคนนึง!
[แต่ยังไงก็ตาม จากการคำนวณของผมแล้วโอกาสที่ความสัมพันธ์ระหว่างอายาโนะโคจิคุงและมิสึกิซังจะไปได้ด้วยดีคือ…0.12% หรือก็คือ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้!]
“เฮ้ยยย! นั่นมันเป็นความเป็นไปได้ที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย!”
แล้วเขาก็ส่งคำที่ทำให้ทุกอย่างฟังดูไม่สมเหตุสมผลกันเลยสักนิด…!
ฉันรู้สึกเหมือนทุกอย่างพินาศไปหมดเลย
เอาความรู้สึกและความเคารพเมื่อกี้คืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ
[เพราะงั้นแหละ อายาโนะโคจิ ทำตัวดีๆกับมิสิกิซะล่ะ แล้วแนะนำพวกเราให้รู้จักกับไอดอลคนอื่นๆที!]
[ความคิดไม่เลวนี่ แล้วผมจะรอความร่วมมืออย่างคาดหวังแล้วกันนะ อายาโนะโคจิคุง!]
“…”
ฉันปิดแอพลงอย่างเงียบๆโดยไม่ได้ตอบกลับ
มันอาจจะเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของฉันเลยก็ได้ ที่คิดไปปรึกษากับเจ้าพวกนั้น
ฉันโยนสมาร์ทโฟนของฉันลงบนเตียงขณะนั่งลงบนเก้าอี้
ฉันถอนหายใจขณะมองขึ้นไปบนเพดาน
“ฮ่าาา~ …ประหม่าสุดๆไปเลยแฮะ”
มิสึกิซังอาจจะชอบฉันก็ได้
สมมติว่ามันเป็นเรื่องจริง
แล้วฉันควรจะทำยังไงดีล่ะ
“จะว่าไปแล้ว ฉันยังหาทางออกเรื่องคืนนี้ไม่ได้เลยนี่หว่า…!”
ฉันควรจะแก้ปัญหาให้ได้ในตอนนี้งั้นเหรอ
หากไม่งั้นล่ะก็คงดำเนินปฏิบัติการลับกระชับความสัมพันธ์ในวันเสาร์นี้ไม่ได้แน่
เพื่อการเตรียมการสำหรับคืนนี้ ฉันจึงจินตนาการ(หรือภาพลวงตา)ถึงบทสนทนากับมิสึกิซังภายในหัวของตัวเอง
.
.
.
*———-จบตอน———-*
MANGA DISCUSSION