Chapter : 7 ไอดอลสุดคูลผู้เกลียดผู้ชาย
.
.
.
ไม่กี่วันผ่านไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่ที่ฉันรู้ว่าตัวจริงของรินคือมิสึกิซัง
และวันนี้คือวันพฤหัสบดี
ในวันมะรืนนี้พวกเรากับคุรุมิซากะซังวางแผนจะเล่นเกมออนไลน์ด้วยกันสามคน
“โฮ่ยๆ อายาโนะโคจิ ร่าเริงหน่อยซี่ น่า?”
“ใช่แล้วล่ะ อายาโนะโคจิคุง นายควรจะรู้สึกขอบคุณเทพเจ้านะ ที่ให้โอกาสนายได้ไปโรงอาหารพร้อมกันกับมิสึกิซัง แม้จะเพียงครั้งเดียวก็ตามน่ะ”
“…ฉันไม่ได้หดหู่อะไรสักหน่อยนะ”
ในเวลาพักกลางวัน ณ ห้องเรียนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ
ฉันกำลังทานอาหารเที่ยงร่วมกับเพื่อนสองคนนี้ตามปกติ
ฉันไม่ได้พูดคุยกับมิสึกิซังที่โรงเรียนเลยตั้งแต่วันจันทร์
เหตุผลก็คือหลังจากที่ฉันไปโรงอาหารกับมิสึกิซัง ทำให้เริ่มมีข่าวลือเล็กๆน้อยๆ แพร่กระจายไปทั่วโรงเรียน
เมื่อพิจารณาถึงงานไอดอลของเธอแล้ว มันจะดีกว่าถ้าเราไม่ไปข้องเกี่ยวกันในที่สาธารณะ
สุดท้ายแล้ว เราจึงได้ใช้เวลาพักกลางวันด้วยกันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง
“ช่วงเนื้อหอมของอายาโนะโคจิคงมาได้เท่านี้สิน้า~”
“เนื้อหอมเนี่ยนะ…ฉันบอกพวกนายไปแล้วไง ว่าก็แค่เพื่อนของฉันเป็นไอดอลคนดังเท่านั้นเอง”
“แค่เนี่ยนะ ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่สุดยอดออกจะตายไป”
ทาจิบานะพูดขณะกัดขนมปังยากิโซบะ
…อ๊ะ ไอ้หำนี่มันทำเศษยากิโซบะหกลงบนโต๊ะของฉัน
“แต่ว่านายก็ยังแชทกับมิสึกิซังในช่วงพักอยู่ใช่ไหม?”
“ก็นะ”
อย่างที่ไซโตะพูด ในช่วงพักฉันก็คุยกับมิสิกิซังผ่านสมาร์ทโฟนของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม วิธีพูดคุยของมิสึกิซังก็คือรินนั่นเอง
เธอเปลี่ยนคาแรคเตอร์ผ่านข้อความเป็นเป็นธรรมชาติเลยงั้นเหรอเนี่ย?
“คร้าบๆ อายาโนะโคจิ”
“อะไรฟะ ทาจิบานะ ต่อไปถ้านายทำอาหารหกใส่โต๊ะฉันอีก ฉันจะโมโหจริงๆแล้วนะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เดี๋ยวฉันเลียให้หมดเอง”
“ลองทำดูสิ เราขาดกันตรงนี้แหละ”
ฉันรู้สึกขยะแขยงทันทีเมื่อนึกภาพทาจิบานะกำลังเลียโต๊ะของฉัน
“ฮ่าฮ่า ล้อเล่นหรอกน่า แล้วทำไมอายาโนะโคจิถึงไม่เรียกมิสิกิด้วยชื่อล่ะ”
“จ-จู่ๆก็ถามอะไรเนี่ย ฉันจะไปมีความกล้าพอจะเรียกอย่างงั้นได้ยังไงกันเล่า”
“แต่มิสึกิเรียกนายว่าคาสึโตะคุงไม่ใช่รึไง?”
“ก็…อืม”
พอมานึกดูแล้วก็ถูกเธอเรียกด้วยชื่อตั้งแต่แรกเลยสินะ
ถึงจะคิดว่ามันเป็นเพราะบุคลิกของมิสึกิซังก็เถอะ แต่…
“มันไม่ใช่เรื่องปกติหรอกนะที่มิสึกิจะเรียกผู้ชายด้วยชื่อน่ะ”
“อย่างงั้นหรอกเหรอ?”
“ใช่แล้ว เป็นเรื่องที่ฉันได้ยินมาเมื่อครึ่งปีก่อน…เหมือนว่าจะมีหนุ่มรูปหล่อคนนึงเรียกมิสึกิด้วยชื่อ เพื่อที่พยายามจะเข้าใกล้เธอน่ะ”
“เห แล้วไงต่อ?”
“ฉันได้ยินว่าเขาโดนปฏิบัติอย่างเย็นชาเลยเชียวล่ะ”
“…ภาพฉากนั้นลอยเข้าหัวมาเลยแฮะ”
“แต่เจ้ารูปหล่อนั่นเข้าใจผิด เขาเข้าใจผิดไปว่ามิสึกิกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ แล้วเข้าไปกอดเธอเบาๆจากข้างหลัง”
“ล-แล้วเป็นไง”
“เธอเหวี่ยงเขาจากด้านหลังแล้วกระแทกเขาลงกับพื้น…!”
“ย-ยอดเลยแฮะ…!”
เอาเถอะ ฉันบอกได้เลยว่าผู้ชายคนนั้นนั่นแหละที่ผิด
มันเป็นการล่วงละเมิดทางเพศครั้งใหญ่เลยชัดๆที่จู่ๆไปเรียกคนอื่นด้วยชื่อแล้วเข้าไปกอดจากข้างหลังเนี่ย
“โชคยังดีที่ชายคนนั้นได้แค่รอยฟกช้ำเท่านั้น แต่…นั่นก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีแล้วว่ามิสึกิคนนั้นไม่ชอบผู้ชาย”
“เกลียดผู้ชายงั้นเหรอ ไม่ใช่ว่ามันก็แค่การป้องกันตัวรึไง?”
“แต่มิสึกิคนนั้นเรียกอายาโนะโคจิด้วยชื่อเลยนะ?”
ทาจิบานะยังคงดำเนินบทสนทนาต่อไปโดยไม่สนใจคำพูดของฉัน
“…อยากจะพูดอะไรกันแน่”
“ก็นายนั่นแหละ ไอ้นั่นไง”
ทาจิบานะพูดด้วยบรรยากาศปริศนา
ไซโตะที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มออกมา
“จากการคำนวณของผมแล้ว มีโอกาส 84% ที่มิสึกิซังจะตกหลุมรักอายาโนะโคจิคุง!”
“ห-หาา~า!? พ-พ-พูดเรื่องอะไรของนายอยู่น่ะ!?”
ไซโตะพูดออกมาด้วยความมั่นใจมาก ทำให้ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วตะโกนเสียงดังออกมา
ในขณะนั้นเอง ฉันรู้สึกได้ถึงสายตาจากทั่วทั้งห้องเรียน
“……”
หน้าของฉันร้อนผ่าวราวกับจะเดือด
ฉันรีบกลับนั่งลงบนเก้าอี้ทันที
“พุฟฟ! อายาโนะโคจิคุงร้อนรนเกินไปแล้วใช่ไหมล่ะ”
“ก-ก็นายพูดอะไรแปลกๆนั่นแหละ! ม-มิสึกิซังคนนั้นเนี่ยนะจะมาตกหลุมรักคนอย่างฉัน…!”
“ไม่หรอกน่าอายาโนะโคจิคุง ผมคิดว่ามันเป็นไปได้ค่อนข้างมากเลยล่ะ”
“ไม่ใช่แล้ว ฉันกับมิสึกิซังเป็นแค่เพื่อนในเกม ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้นแล้ว”
“จะใช่งั้นแน่เหรอ? ช่วงนี้ผมสังเกตเห็นมิสึกิซัง และดูเหมือนเธอจะค่อนข้างสนใจอายาโนะโคจิคุงนะ”
“ทำอะไรไม่เข้าเรื่องอีกแล้ว…”
ฉันพูดด้วยความประหลาดใจและยื่นตะเกียบไปคีบข้าวสีขาวในกล่องอาหารกลางวัน
อ๊ะ เวรล่ะ มือฉันสั่นจนคีบข้าวไม่ขึ้นเลย…!
ฉันยังอารมณ์เสียไม่หายเลย!
“ดูเหมือนอายาโนะโคจิคุงจะไม่ได้สังเกตนะ แต่มิสึกิซังก็มองมาที่อายาโนะโคจิคุงทุกครั้งที่เธอมีโอกาสเลย”
“อ๊ะ เรื่องนั้นข้าเองเห็นด้วยเหมือนกัน ไม่ผิดแน่นอน”
“…ม-ไม่มีทางหรอกน่า”
[[ TL : ทาจิบานะมันแทนตัวเองด้วย 俺様 (โอเระซามะ) อะ ]]
ไอดอลคนดัง มิสึกิ รินกะคนนั้นเนี่ยนะจะมาตกหลุมรักคนอย่างฉัน คนที่ถูกเรียกว่าเด็กเนิร์ดติดเกมออนไลน์เนี่ยนะ…?
มันไม่ใช่เรื่องที่น่าเชื่อถือเลยสักนิด
“ถ้าพูดไปแบบนั้น นายจะทำยังไง?”
“โกหกกันหรอกเรอะ! ฉันเผลอดีใจนิดหน่อยเลยเนี่ย!”
“ไม่หรอก มันคือความจริงนั่นแหละ”
“อะไรฟะนั่นน่ะ…!”
แย่แล้วแฮะ โดนไซโตะกับทาจิบานะเล่นเอาแล้วไง
ฉันต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วคืนสติของฉันกลับมา
“ถ้านายสงสัยนัก ทำไมไม่ลองเรียกมิสึกิด้วยชื่อดูล่ะ”
“…ถ้าเธอเมินหรือเหวี่ยงฉัน ฉันคงฟื้นกลับมาไม่ไหวแน่ๆ”
“นี่ไซโตะ ความน่าจะเป็นที่อายาโนะโคจิจะเรียกเธอด้วยชื่อสำเร็จมีเท่าไหร่”
“จากการคำนวณของผม คงมีประมาณ 70% ล่ะมั้งครับ”
“ช่างเป็นความน่าจะเป็นที่น่ากลัวเกินกว่าที่ฉันจะกล้าลอง แล้วมันก็ต่ำเกินกว่าที่เธอจะมาตกหลุมรักฉันด้วย”
การคำนวณของไซโตะยังคงไม่สมเหตุสมผลต่อฉัน
ฉันยิ้มกริ่มแล้วนำออมเล็ตของไซโตะเข้าปากของฉัน
――โอ้ย ฉันกัดโดนลิ้นตัวเอง
มิสึกิซังกำลังตกหลุมรักฉันอยู่
เมื่อฉันกำลังจินตนาการราวกับเทพนิยาย ในหัวมันก็สับสนไปหมด
“นี่ นายคืออายาโนะโคจิ คาสึโตะคุงใช่ไหม?”
“เอ๊ะ——?”
ฉันหันหน้าไปตามเสียกเรียกนั้น
ตรงนั้นมีนักเรียนหญิงที่ไม่คุ้นตากำลังยืนอยู่
เธอไม่ใช่เพื่อนร่วมห้อง
แต่จากสีของผ้าที่คอแล้ว เธอคงจะอยู่ปีเดียวกันกับฉัน
“ช่วยออกไปกับฉันสักครู่ได้รึเปล่า?”
“เอ่อคือ ฉันกำลังกินข้าวอยู่น่ะ…”
“อ๊ะ โทษที ยอมเถอะนะ ฉันจะมีปัญหาเอาถ้าไม่ใช่ตอนนี้น่ะ”
นักเรียนหญิงคนนั้นไม่ยอมแพ้และข้อร้องต่อไป แม้เธอจะโค้งคำนับและพูดขอโทษก็ตาม
เธอมีบรรยากาศที่อ่อนโยน แต่เธอดูเหมือนจะไม่มีความต้องการให้ฉันปฏิเสธได้เลย
“ฮ-เฮ้ย เฮ้ย…! ว่าแล้วเชียวอายาโนะโคจิกำลังเข้าช่วงเนื้อหอมจริงๆ…!”
“อ๊ะ ไม่ใช่อย่างงั้นหรอกค่ะ แล้วฉันก็มีแฟนแล้วน่ะ”
เด็กผู้หญิงพูดออกมาเป็นธรรมชาติกับทาจิบานะที่ตะโกนออกมาอย่างเกินจริง
ฉันวางตะเกียบลงแล้วถามเธอ
“ฉันน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่บอกได้ไหมว่ามีธุระอะไรงั้นเหรอ”
“ฉันพูดดังมากไม่ได้ แต่นานะจังเป็นคนเรียกน่ะ”
“คุรุมิซากะซังน่ะเหรอ?”
มีธุระอะไรกันนะ?
อย่างไรก็ตาม ถ้าอีกฝ่ายเป็นคุรุมิซากะซัง ฉันคงไม่สามารถเมินเธอได้
ฉันเก็บกล่องอาหารกลางวันอย่างรวดเร็วแล้วลุกขึ้น
“งั้นไปกันเลยเถอะ”
“เข้าใจแล้ว”
เมื่อฉันพยายามเดินตามเธอไป ทาจิบานะและไซโตะก็เบิกตากว้างและใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ก-โกหกใช่ไหมเนี่ย หลังจากมิสึกิก็ตามด้วยนานะจัง!? แกเป็นสัตว์ประหลาดรึไงกันเนี่ย…!”
“จ-จากการคำนวณของผมแล้ว มีโอกาสที่อายาโนะโคจิคุงจะเริ่มเป็นที่นิยมคือ…100%!”
……
พูดเรื่องอะไรกันอยู่เนี่ย เจ้าพวกนั้น
ฉันกำลังเดินออกจากห้องเรียนโดยรู้สึกถึงสายตาของพวกเขาที่กำลังจ้องมองมาที่หลังของฉัน
.
.
.
*———-จบตอน———-*
MANGA DISCUSSION