Chapter : 5 การจู่โจมของพริกหยวก
.
.
.
เวลาผ่านไปอย่างสงบสุข
หลังเลิกเรียน เหล่านักเรียนรีบลุกออกจากห้องเรียน
พวกเขาอาจจะยุ่งอยู่กับพวกชมรมหรือไม่ก็เที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ
ฉันที่ไม่ได้มีอะไรสนใจจะทำเป็นพิเศษ กำลังนั่งชิลอยู่บนที่นั่งของตัวเอง
ฉันมองไปที่แผ่นหลังของมิสึกิซังด้วยความรู้สึกอันคลุมเคลือ
มิสึกิซังโบกมือให้ฉันเบาๆขณะที่ออกจากห้องเรียน
ฉันกำลังกลั้นตัวเองไม่ให้ยิ้มและโบกมือกลับไป
หลังจากนั้น มิสึกิซังก็เดินออกไปกับคุรุมิซากะซังที่มารับเธอที่ทางเดิน
ฉันไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่ฉันคิดว่าพวกเธอคงกำลังไปทำกิจกรรมของไอดอล
อย่างพวกซ้อมร้องและเต้น หรือพวกเธอก็อาจจะพยายามอย่างหนักในการอัดเสียง…
ฉันสงสัยจังว่านักเรียนที่เป็นไอดอลต้องใช้วันเวลาไปตั้งเท่าไหร่กัน
ฉันเริ่มกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันไม่เคยสนใจมาจนถึงตอนนี้
ฉันอยากจะรู้เกี่ยวกับมิสึกิซังมากกว่านี้
แต่เธอไม่ค่อยอยากจะพูดถึงเรื่องโลกความเป็นจริงนัก
ฉันสงสัยว่าฉันจะอดความอยากรู้นี้ได้ไหวหรือเปล่า
ฉันนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความงุนงงอยู่สักพัก และฉันก็ยืนขึ้นเพื่อที่จะกลับ
“อายาโนะโคจิคูงง~ง…! จะออกไปไหนเหรอ!?”
“จากการคำนวณของผม โอกาสที่จะหนีไปจากพวกเราได้คือ 0% นะ”
“…พวกนาย”
ทาจิบานะกางแขนออกขวางทางเดิน
ส่วนไซโตะก็ริบกระเป๋าของฉันไว้
เจ้าพวกนี้ เอาจริง
“ม-มั-มันไม่ใช่ว่านายจะไป…ใช้เวลาว่างส่วนตัวร่วมกับมิสึกิ รินกะหรอกใช่ไหม!?”
“ไม่ใช่หรอกน่า ฉันแค่จะกลับบ้านแล้วไปเล่นเกม”
“จริงหรอ!? จริงๆใช่ไหม!?”
“แน่นอน”
…ขอเก็บเรื่องที่คุยกันที่โรงอาหารไว้เป็นความลับละกัน
ฉันไม่รู้ว่าเจ้าสองคนนี้จะทำบ้าอะไรบ้างหากรู้ว่าคุรุมิซากะซังมีส่วนเอี่ยวด้วยอีกคน
“น่าๆ ใจเย็นๆก่อนทาจิบานะคุง อายาโนะโคจิคุง นายเองก็นั่งลงก่อนสิ”
“ไม่เอาอะ ฉันจะกลับบ้านแล้ว”
“นั่งลงซะ…ก่อนที่แว่นตาของผมจะลุกเป็นไฟ”
“…”
หลังงถูกบังคับอย่างงุนงง ผมก็นั่งลงอย่างไม่เต็มใจนัก
ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ว่าแต่มีแค่ฉันงั้นเหรอที่อยากเห็นแว่นตาของเขาลุกเป็นไฟ?
“เอาล่ะ อายาโนะโคจิ เล่าทุกอย่างมาให้ฟังเดี๋ยวนี้”
“ให้เล่าอะไร?”
“มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่รึไงกัน! เรื่องที่นายสนิทกับมิสึกิซังได้ยังไงกันเล่า!”
“เอ่อ…”
“แล้วฉันก็ได้ยินมาว่านายได้คุยกับนานะจังที่โรงอาหารอีกด้วย! ไอ้เวรตะกละนี่!”
“ถ้าพูดถึงตะกละ ไม่ใช่ว่าเป็นร่างกายของนายเองหรอกรึไง”
ฉันพูดในขณะที่มองไปที่พุงอ้วนของทาจิบานะ
“ว่าไงนะ ไอ้บ้านี่!”
“อุฟ! เคาน์เตอร์ได้สวย ผมให้ 100 เต็มเลยจากการคำนวณของผม!…อุฟ!”
“ไซโตะ แกด้วยเรอะ…! เลิกพูดเรื่องหุ่นของฉันได้แล้ว! ตอนนี้ต้องคุยเรื่องอายาโนะโคจิต่างหาก! นายไปสนิทกับมิสึกิซังได้ยังไง”
“ที่สำคัญ มิสึกิซังเรียกนายด้วยนามสกุล แต่คุรุมิซากะซังเรียกนายด้วยชื่อสินะ”
[[ TL : วอท รินกะเรียกพระเอกด้วยชื่อหนิ แล้วนานะก็เรียกพระเอกด้วยชื่อเล่นด้วย โครตงง เขาเขียนผิดรึป่าวนะ]]
“ใช่ มันไม่ตรงกับภาพลักษณ์ของพวกเธอใช่มะ? มิสึกิซังไม่ใช่ประเภทที่จะเรียกชื่อคนอื่นได้ง่ายๆ…แล้วนานะจังก็ดูเป็นมิตร”
“ฉันพอจะเข้าใจความรู้สึกนั้น เพราะงั้น…”
“นายน่ะเปลี่ยนเรื่องไม่เก่งเลยนะ บอกมาเถอะน่า”
“น-…”
[[ TL : โอ้ย ตรงนี้งงมากเลย ตกลงใครจะเรียกยังไงกันแน่เอาให้แน่ ฮ่าๆ ]]
ฉันควรทำไงดีเนี่ย
ถ้าความจริงที่มิสึกิซังเล่นเกมออนไลน์แพร่ออกมา…ไม่ใช่ว่าทุกคนคงช็อกกันหรอกเหรอ
ฉันไม่ได้จะดูถูกเรื่องเกมหรอกนะ แต่มันไม่เข้ากับภาพลักษณ์ของมิสึกิซังเอาซะเลย
บางทีคาแรคเตอร์ของเธอคงพัง…อาจจะพูดเกินไปหน่อย
แต่ถึงยังไงก็ไม่เรื่องดีแน่ๆที่รู้
“เฮ้ย อายาโนะโคจิ! รีบบอกมาไม่งั้นต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้พริกหยวกกับนายอีกแล้ว!”
“ฉันไม่ได้ชอบพริกหยวกสักหน่อย ถึงจะไม่ได้เกลียด แต่ก็ไม่ได้ชอบ”
“เข้าใจแล้ว! งั้นถ้านายบอกฉัน ฉันให้นายเลย 1000 เยน!”
ทาจิบานะและไซโตะกุมมือขอร้องอ้อนวอน
พวกเขาดูสิ้นหวังจนฉันทนดูไม่ไหว
ถ้าเป็นไปได้ฉันก็ต้องการจะเมินพวกเขา
แต่ถ้าไม่ยอมพูดอะไรสักอย่าง พวกเขาอาจจะเอะอะน่ารำคาญก็ได้
ฉันตัดสินใจบอกด้วยใจอันเศร้าโศก
“…ห้ามบอกใครเด็ดขาดเลยนะ?”
“รู้แล้วน่า พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่รึไง พวกเรารักษาสัญญาแน่นอน!”
“จากการคำนวณของผม มีโอกาส 2000% ที่พวกผมจะรักษาสัญญา!”
“ฟังดูเหลวไหลชอบกล…ฉันกับมิสึกิซังรู้จักกันผ่านเกมออนไลน์น่ะ”
“จริงอะ ได้ยังไงกัน?”
“เรื่องมันมีอยู่ว่า…เมื่อสองปีก่อน ฉันแต่งงานกับมิสึกิซังในเกมออนไลน์น่ะ”
“ “จ-จริงดิ!?” ”
ทั้งสองคนตกใจได้พร้อมเพรียงกันมาก
เอาเถอะ ก็เป็นรีแอคชั่นตามปกติแหละนะ
“นี่ไซโตะ! โอกาสที่ภรรยาในเกมจะเป็นไอดอลสุดฮอตนี่มันเท่าไหร่!?”
“จ-จากกันคำนวณของผม คงประมาณ 30% ล่ะมั้งนะ”
“โครตสูงเลยไม่ใช่รึไง!”
ทาจิบานะและไซโตะส่งเสียงดังเอะอะ
เพื่อนร่วมห้องที่ยังนั่งอยู่ในห้องเรียนมองมาที่พวกเราและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกัน
“เฮ้ยพวกนาย อย่าเอะอะกันเซ่ ถ้าคนอื่นรู้มันจะเป็นปัญหาเอานะ”
“หืม? มันเป็นปัญหายังไง”
“มันจะกระทบกับภาพลักษณ์ของมิสึกิซังไง และบางทีเธออาจจะต้องหยุดเล่นเกมออนไลน์หากคนทั่วไปรู้งานอดิเรกของเธอเข้า”
ฉันไม่แน่ใจ
ฉันไม่เคยได้ยินว่าเธอเคยบอกอะไรแบบนั้นหรอก
มันก็แค่สัญชาตญาณของฉันในฐานะที่เป็นเพื่อนของเธอมาหลายปี
“…ก็เป็นไปได้ จากการคำนวณของผมแล้ว มีโอาส 99% ที่งานอดิเรกที่เป็นการเล่นเกมของมิสึกิซังจะทำให้เกิดความปั่นป่วนกับคนทั่วไป และคนจำนวนมากก็จะเริ่มเล่นเกมเพื่อพบกับมิสึกิซังในเกม มันจะต้องเกิดความวุ่นวายแน่ๆ”
ไม่ว่ามันจะเป็นการคำนวณหรือการคาดเดา แต่ฉันคิดว่ามันค่อนข้างจะแม่นยำ
อย่างน้อยก็จะส่งผลต่อสุขภาพจิตของมิสึกิซังแน่นอน
“เพราะอย่างงั้นนั่นแหละ ช่วยอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นได้ไหม?”
“…”
พวกเขาปิดปากเงียบและไม่พูดอะไร ไม่รู้ว่าทั้งคู่กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยฉันจึงพูดต่อ
“ฉันอยากที่จะปกป้องที่อยู่ของมิสึกิซัง นี่เป็นความคาดเดาที่เห็นแก่ตัวของฉันเอง แต่ฉันคิดว่าในโลกเกมออนไลน์แห่งนั้น…เป็นสถานที่เดียวที่เธอสามารถเล่นได้โดยไม่ต้องกังวลกับสายตารอบตัวเธอ เพราะงั้น อย่าได้เอาเรื่องนี้ไปบอกใครเลย ฉันขอร้องล่ะ”
ฉันพูดขอร้องด้วยความจริงจังที่ไม่สมกับเป็นตัวเอง
พวกเขาทั้งสองคนมองหน้ากันและวางมือลงบนไหล่ของฉัน
“อายาโนะโคจิ…ไม่ต้องห่วงหรอก ความรู้สึกของนายได้ถ่ายทอดมาถึงฉันอย่างเต็มที่แล้ว”
“ทาจิบานะ…”
นี่คือพลังของมิตรภาพสินะ?
ทาจิบานะผู้มีบรรยากาศที่จริงใจปกคลุมกำลังมองตรงเข้ามาที่ดวงตาของฉัน
“—-เพราะงั้นฉันจะยกพริกหยวกของฉันให้นายเอง”
“พวกเราเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่ฉันจะให้นายได้ลิ้มรสถึงความเจ็บปวดที่แสนอร่อยเอง”
ทำไมนายถึงยังจะเล่นมุกบ้าบอนี่ในเวลาที่เพื่อนกำลังพูดเรื่องจริงจังอยู่ฟะ?
ความรู้สึกอยากเจื๋อนเจ้าพวกนี้ผุดขึ้นมาตามปกติ
“ฮ่าๆๆๆ! ล้อเล่นหรอกน่าอายาโนะโคจิ! เรื่องของมิสึกิซังจะเป็นความลับแค่ระหว่างพวกเราสามคน!”
“…”
“เอาน่า ฉันขอโทษจริงๆ อายาโนะที่ในเวลาปกติมักจะเงียบๆ มาจ้องฉันแบบนี้ฉันรู้สึกกลัวจริงๆนะ”
ถึงจะอย่างงั้น ฉันก็อยากจะซัดเจ้าทาจิบานะสักทีและมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต
ปากของทาจิบานะกระตุกและเข้าไปซ่อนข้างหลังไซโตะ
“เอาน่า อายาโนะโคจิคุง ก็เป็นทาจิบานะนี่นะ เพราะงั้นยกโทษให้เข้าเถอะ อ๊ะ แน่นอนว่าผมก็จะรักษาสัญญา ดังนั้นไม่ต้องกังวลหรอกนะ”
“เฮ้ออ~…เข้าใจแล้ว”
โกรธต่อไปก็ไม่มีประโยชน์
และฉันก็เข้าใจดีว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่จะผิดสัญญา
เพราะงั้นฉันจึงได้ตัดสินใจบอกพวกเขา
*ปิ้ง* เสียงแจ้งเตือนดังมาจากสมาร์ทโฟนของฉัน
ฉันหยิบสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกงและเช็กดูข้อความ
ผู้ส่งคือริน
มันเขียนว่า [คืนนี้เล่นเกมกันสักพักไหม?]
“เห…”
ไซโตะและทาจิบานะโน้มตัวมองดูสมาร์ทโฟนของฉันจากด้านข้าง
“อ-อะไรเล่า”
“พวกเราไปด้วยได้มะ”
“ก็ต้องตอบว่าไม่อยู่แล้ว มิสุกิซังอาจจะดูไร้เดียงสาในเกม แต่ในชีวิตจริงเธอขี้อาย…เธอจะระวังทุกคนยกเว้นแต่คนที่เธอไว้ใจ”
จะว่าไปฉันก็ยังไม่เคยเห็นเธอใกล้ชิดกับใครนอกจากฉันมาก่อนเลย
พูดได้ว่าความสัมพันธ์ของมิสึกิซังในเกมออนไลน์นั้นค่อนข้างพิเศษ
“อย่างกับแมวอย่างงั้นแหละ…เอาเถอะ ถ้าอายาโนะโคจิคุงพูดแบบนั้นก็คงช่วยไม่ได้ พวกเราจะปิดปากให้สนิทเอง”
“ใช่แล้วล่ะ ฉันคิดว่าฉันจะกลับไปเล่นเกมออนไลน์สักหน่อย บางทีฉันอาจจะได้แต่งงานกับไอดอลด้วยก็ได้!”
ทั้งสองคนพูดคุยกันด้วยบรรยากาศอันอบอุ่น
เท่านี้เรื่องของมิสึกิวังก็คลี่คลายลงได้ดี
ขณะที่ฉันฟังพวกเขาพูดคุยกัน ฉันก็ตอบกลับข้อความของริน [ตกลง แล้วเจอกันประมาณ 21:00 น.นะ]
ขณะที่ฉันตั้งตารอคืนนี้ หัวใจฉันก็สั่นสะท้านพร้อมกับความกังวลที่ไม่สามารถควบคุมได้
.
.
.
*———-จบตอน———-*
MANGA DISCUSSION