Chapter : 3 ไอดอลสุดคูลและโรงอาหาร
.
.
.
เมื่อเรามาถึงโรงอาหาร พวกเราก็เลือกสั่งอาหารเซ็ต A กัน
มีโต๊ะว่างอยู่ที่หัวมุม ฉันจึงนั่งลงด้านหน้าของมิสึกิซัง
ฉันคิดว่ามันจะดึงดูดสายตาคนรอบข้างเสียอีก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มากเหมือนที่คิดนัก
คงเพราะว่ามันยากที่จะเด่นในโรงอาหารที่เต็มไปด้วยคนจำนวนมาก
ในบางครั้งฉันก็รู้สึกได้ถึงสายตาเป็นครั้งคราว แต่มันก็ไม่ถึงกับทำให้วุ่นวาย
บางทีฉันคงคิดมากไปหน่อย
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าคาสึก็คือคาสึโตะคุง ฉันตกใจมากเลยล่ะ”
“ฉันเองก็ตกใจเหมือนกัน”
บางที ฉันอาจจะตกใจมากกว่ามิสึกิซังสักร้อยเท่าได้มั้ง
ฉันรู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อถูกเธอเรียกด้วยชื่อต้น
ก็อาจจะสมเหตุผล เมื่อนึกถึงความสนิทของพวกเราเมื่ออยู่ในเกม
…
ไม่ไหว ไม่มีทางหรอก
ถ้าฉันมีความกล้าพอที่จะทำอย่างงั้นล่ะก็ ฉันคงสามารถสร้างเพื่อนผู้หญิงได้เป็นร้อยคนไปแล้ว
“ที่ใช้ชื่อว่า ‘คาสึ’ ก็เพราะว่าชื่อ ‘คาสึโตะ’ สินะคะ ฉันว่าตั้งชื่อง่ายเกินไปรึเปล่าคะเนี่ย”
“มิสึกิซังเองก็ว่าคนอื่นไม่ได้หรอกนะ เพราะว่าชื่อ ‘รินกะ’ ชื่อในเกมเลยเป็น ‘ริน’ สินะ”
“นั่นสินะ…ฉันว่านะ พวกเราเนี่ยเข้ากันได้ดีจริงๆนั่นแหละ ขนาดการตั้งชื่อยังเหมือนกันเลย”
“ค-คงงั้นแหละ”
ให้ตายสิ มันรุนแรงเกินไปแล้ว
ฉันมีความสุขมากที่ได้ยินมิสึกิซังบอกว่าเราเข้ากันได้ดี
ฉันฉีกและคีบปลาย่างด้วยตะเกียบและนำเข้าปาก
…ไม่รู้รสชาติเลย
ฉันประหม่าเกินไปจนลิ้นไม่รับรสแล้ว
“ได้มากินข้าวกับคาสึแบบนี้เหมือนฝันไปเลย”
“ง-งั้นหรอ? ขอโทษด้วยนะที่ได้คนอย่างฉันเป็นเพื่อน”
“อย่าดูถูกตัวเองแบบนั้นเลย ฉันเองก็รู้สึกโล่งใจที่คาสึคืออายาโนะโคจิ คาสึโตะคุง”
“โล่งใจ?”
“ใช่ค่ะ ฉันดีใจที่เป็นคนดีกว่าที่คิด”
“…”
ฉันตายตอนนี้เลยได้ไหมนะ?
ถึงมันจะเป็นแค่การยกยอเฉยๆก็ตาม แต่ฉันก็รู้สึกประทับใจเสียจนน้ำตาแทบไหล
ฉันไม่มีอะไรที่จะเสียใจในชีวิตอีกแล้ว!
ฉันคิดแบบนั้น แต่ฉันก็ยังอยากเล่นเกมออนไลน์ต่ออยู่
ฉันนี่มันโลภมากจริงๆ
“ฉันคิดว่าจะมีโอกาสสักแค่ไหนกันเชียว ที่เราจะได้แต่งงานกับเพื่อนร่วมห้องกันน่ะ”
“ฉันว่าโอกาสมันก็คงพอๆกับที่ฝนอุกกาบาตจะตกลงมาล่ะนะ เอาเถอะ ถึงจะบอกว่าแต่งงาน แต่มันก็แค่ในออนไลน์ล่ะนะ”
เมื่อฉันพูดแบบนั้นออกไป มิสึกิซังก็วางตะเกียบลงอย่างเงียบๆ
“คาสึโตะคุง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการแต่งงานในออนไลน์ แต่ก็ใช่ว่ามันจะด้อยกว่าของจริงหรอกนะ”
“เอ๋?”
“นี่เป็นความคิดของฉันเอง แต่…ฉันคิดว่าหัวใจที่แท้จริงของบุคคลนั้นๆ จะแสดงเด่นออกมา เพราะในเน็ตที่เราพูดคุยกันนั้นเป็นสถานที่ที่ไม่ต้องสนรูปลักษณ์หรือตัวตนของคนนั้นๆ”
“อ-อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว”
“ฉันบอกความจริงเลยว่า ในบรรดาผู้เล่นที่ฉันเคยพบมา คาสึเป็นคนที่ซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ที่สุดแล้ว”
“…อ-อย่างงั้นเหรอ?”
ไม่ว่าฉันจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ฉันก็แน่ใจว่าฉันสนุกกับการเล่นเกมออนไลน์ด้วยใจบริสุทธิ์
ฉันไม่ได้มีความรู้สึกไม่บริสุทธิ์เมื่อเล่นกับรินเลยแม้แต่น้อย
“ในหลายๆครั้ง ฉันได้รับกำลังใจจากคาสึทำให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่องานไอดอลเป็นไปได้ไม่ดี”
“อ๊ะ…จะว่าไป ก็มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นจริงๆสินะ”
ณ จุดๆนึง รินเองก็เคยมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเหมือนกัน
มันสามารถรู้ได้อย่างชัดเจน แม้จะผ่านแชทก็ตาม
ฉันคิดว่าคงเกิดอะไรไม่ดีขึ้นในชีวิตจริงของเธอ แต่ฉันก็จะไม่พยายามถามมากและคอยรับฟัง
“ถ้าฉันไม่ได้เจอกับคาสึโตะคุงในออนไลน์ล่ะก็ ฉันคงจะจบการศึกษาจากไอดอลก่อนที่จะได้ขึ้นม.ปลายเสียอีก”
“พูดเกินจริงไปแล้ว”
“มันไม่ได้เกินจริงเลย อันที่จริง มันเพิ่งจะตอนเริ่มขึ้นม.ปลายปีหนึ่งนี่เองที่วง Star ☆ Mines ของเราเริ่มได้รับความนิยม มันลำบากมากจริงๆกว่าจะมาถึงตอนนั้นได้”
แม้ว่ามันก็เริ่มขายออกแล้วก็ตามมันก็ยังลำบากมากอยู่ดี มิสึกิซังกล่าวเสริม
ตามข้อมูลในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Star ☆ Mines วงถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อสมาชิกของวงอยู่ม.ต้นปีสอง
อย่างไรก็ตาม ความนิยมของวงก็เริ่มซบเซาลงมาเป็นเวลาหลายเดือนตั้งแต่จัดตั้งขึ้น และถูกพิจารณาว่าจะถูกยุบไปอยู่ช่วงนึง
จากสถานการณ์ในตอนนั้น ทำให้พวกเธอเติบโตขึ้นจนเป็นไอดอลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวันนี้
มันต้องมีความพยายามเลือดตาแทบกระเด็นและหยาดเหงื่อของพวกเธอ คนอย่างฉันที่โดดเดี่ยวและเป็นเด็กเนิร์ดติดเกมไม่สามารถจินตนาการได้แน่นอน
ถ้าฉันสนับสนุนมิสึกิซังได้แม้สักนิดล่ะก็ ฉันก็คงยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“อันที่จริง มีผู้คนจำนวนมากเข้าหาฉันโดยมีแรงจูงใจแฝง และผู้เล่นในออนไลน์ชายส่วนใหญ่เองก็เปลี่ยนท่าทีทันทีเมื่อรู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง”
“นั่นมันเป็นปัญหามากเลยสินะ”
ฉันไม่เคยได้รับความนิยมในหมู่ใครๆ แต่พอฉันได้เห็นมิสึกิซังพูดออกมาอย่างขมขื่น ฉันก็รู้สึกเห็นใจเธอเล็กน้อย
“ในสถานการณ์แบบนั้น คาสึเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็เข้าหาฉันอย่างจริงใจเสมอ”
มิสึกิซังยิ้มด้วยความคิดถึงราวกกับต้องการที่จะถนอมความทรงจำอันล้ำค่าของเธอ
เมื่อมองดูเธอ ฉันก็นึกถึงช่วงเวลาที่ได้พบกับรินครั้งแรก
“ฉันชื่อรินค่ะ เป็นมือใหม่ แต่ก็ขอฝากตัวไว้ด้วยนะคะ”
“เข้าใจแล้ว เอาเถอะ ยังไงเสียมันก็เป็นเกม ไม่ต้องเกร็งแล้วมาสนุกกันดีกว่า”
–อาทิตย์ต่อมา
“คาสึซัง ถ้าไม่เป็นอะไร วันนี้เราไปลงดันเจี้ยนด้วยกันไหมคะ”
“เอาสิ”
“จะรู้สึกขอบคุณมากถ้าช่วยสอนอะไรหลายๆอย่างให้ฉันด้วยค่ะ”
“เข้าใจแล้ว ถ้างั้นหลังจากลงดันเจี้ยนแล้วไปขุดเหมืองกันไหม”
“ขอบคุณมากค่ะ”
–หนึ่งเดือนต่อมา
“คาสึ วันนี้เราจะทำอะไรกันดี? อะไรก็ได้น้า~”
“อืมม~ งั้นวันนี้เราไปขุดเหมืองกันไหม?”
“อืม!”
และครึ่งปีผ่านไป…
“ไปตกปลากันเถอะ!”
“เอ๊ วันนี้ฉันอยากลงเหมืองอ่า”
“ไปตกปลากันเถอะ!”
“เอิ่มมม”
“ไปตกปลากันเถอะ!”
“บังคับกันชัดๆ!”
…
แต่ที่เปลี่ยนไปมันคือรินต่างหากไม่ใช่เรอะ!
เธอเริ่มกล้าและแสดงออกมากขึ้นเรื่อยๆ
“คาสึโตะคุง ได้ฟังที่ฉันพูดอยู่รึเปล่าเนี่ย?”
“เอ๊ะ อา แน่นอนสิ”
เมื่อถูกเธอถามด้วยความสงสัย ฉันก็รีบพยักหน้าอย่างแรง
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเธอจะดูออกว่าฉันไม่ได้ฟังอยู่ และมิสึกิซังก็มุ่ยริมฝีปากไม่พอใจ
“เฮ้อ~…เอาเถอะ ที่จะพูดก็คือ ฉันไม่ได้แต่งงานกับใครทั้งนั้น แม้ว่าจะบนอินเตอร์เน็ตก็ตาม ไม่สิ เพราะเป็นในอินเตอร์เน็ต ฉันจึงคิดว่ามันสำคัญจิตใจของบุคคลนั้นๆ มากกว่าการลุ่มหลงในข้อมูลบ้าๆบอๆในเน็ต”
“ฮะ-ฮ่าฮ่า…”
“หรือคาสึโตะคุงไม่คิดแบบนั้นหรอ?”
“ไม่หรอก ฉันก็คิดเหมือนกันว่าการแต่งงานในเกมมันก็เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญเหมือนกัน”
ในตอนนี้ฉันพยายามไล่ตามบทสนทนา แต่ฉันคิดว่าทุกคนมีวิธีคิดในแบบของตัวเองเกี่ยวกับการแต่งงานในเกม
ฉันคิดว่าการแต่งงานเพื่อหวังผลประโยชน์ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร และฉันก็คิดว่ามันยอดเยี่ยมเช่นกันที่ได้แต่งงานด้วยความรู้สึกอันพิเศษอย่างมิสึกิซัง
“โล่งอกไปที คาสึโตะคุงเองก็คิดแบบเดียวกับฉัน”
“อะ อืม”
มิสึกิซังลูบหน้าอกของเธอราวกับว่าเธอโล่งใจ
…ฉันรู้สึกสงสัยว่าความรู้สึกวุ่นวายนี่มันคืออะไรกัน
ฉันรู้สึกว่าเธอมีบางอย่างแปลกไป
ฉันตีความว่าฉันเป็น ‘เพื่อนที่ดี’ กับมิสึกิซังมากจนพอที่จะแต่งงานในเกมได้
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของมิสึกิซัง ฉันรู้สึกว่าเธอคิดออกมาในทิศทางที่ต่างออกไป…?
“อ๊ะ รินจัง! หายากนะเนี่ยที่เธอจะมากินที่โรงอาหารแบบนี้”
ฉันได้ยินเสียงน่ารักๆของหญิงสาวที่ดูจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความร่าเริง
แล้วเด็กผู้หญิงที่เป็นเจ้าของเสียงนั้นก็ตรงมาหามิสึกิซัง
“แหม นานะนี่เอง วันนี้ก็ร่าเริงดีนะ”
“ก็นะ ฉันกินข้าวไปเยอะเลยล่ะ!”
เธอมีผมสั้น ยาวไม่มาก และดูเหมือนว่าเธอจะชื่อนานะ
ท่าทางที่ร่าเริงและดูเป็นมิตร ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความน่ารักสดใส ซึ่งดูห่างไหลจากคนธรรมดา
—–ไม่สิ เดี๋ยวก่อนนะ
อย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนี้คือ…!
“หืม? เด็กผู้ชายคนนี้คนรู้จักของรินจังหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ เขาคืออายาโนะโคจิ คาสึโตะคุงล่ะ”
“งั้นเหรอ ฉันชื่อคุรุมิซากะ นานะค่า! ฉันเป็นหนึ่งในสมาชิกของวง Star ☆ Mines เหมือนกับรินจัง ยินดีที่ได้รู้จักน้า~!”
เธอยื่นขอจับมือฉัน—–ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอันไร้ซึ่งกังวล
เธอก็คือไอดอลยอดนิยมที่เป็นเซ็นเตอร์ของวง Star ☆ Mines ผู้ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมิสึกิ รินกะ
.
.
.
*———-จบตอน———-*
MANGA DISCUSSION