Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ~Cool-kei no kanojo wa genjitsu demo yome no tsumori de iru~ (WN)
ชื่อไทย : ภรรยาในเกมออนไลน์ของผมคือไอดอลสุดฮอต
ผู้แปล : แปลแบบคนเหงาและง่วง
Chapter : 2 พริกหยวกและความน่าจะเป็นสุดประหลาด
.
.
.
ณ ห้องเรียนยามเช้าที่เต็มไปด้วยเสียงเอะอะของนักเรียนที่พูดคุยและหัวเราะกันอยู่
ฉันยังคงนั่งประหม่าอยู่บนที่นั่งของตัวเองในห้องเรียน
หัวใจของฉันยังคงเต้นแรงตึกตักอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน
เพราะด้วยเหตุนี้เองทำให้ฉันไม่เป็นอันกินมื้อเช้าเลย
“…”
ฉันนั่งอยู่แถวหลังของห้องติดกับหน้าต่างแล้วมองรอบๆไปทั่วห้องเรียน
มีทั้งเด็กผู้หญิงที่เกาะกลุ่มพูดคุยกันอย่างมีความสุขและพวกเด็กผู้ชายจากชมรมกีฬา
และยังมีพวกสาวที่แต่งตัวฉูดฉาดและส่งเสียงดังอยู่ด้วย
แน่นอนว่าฉันสามารถมองเห็นมิซุกิซังที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ฉันหยิบเอาสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกง
แล้วเปิดแอปพลิเคชั่นสำหรับแชทของเกมขึ้นมา
ฉันยังไม่ได้รับข้อความใดๆจากริน…จากมิสึกิซังเพิ่มเลย
ฉันอยากจะส่งข้อความให้เธอ แต่ฉันนึกไม่ออกเลยว่าจะพิมพ์ไปว่าอะไรดี
ฉันอยากได้ข้อความสักอย่างจากเธอ แต่ทุกอย่างยังคงปกติดี
ฉันยังคงมองไปที่มิสึกิซังโดยที่ยังคิดเช่นนั้น
เธอยังคงนั่งอยู่ในท่าทางอันสง่างามราวกับนางแบบที่กำลังอ่านหนังสือโดยไม่ได้สนใจความวุ่นวายกับสิ่งรอบตัว
มันเป็นหนังสือแบบไหนกันนะ? ฉันสงสัย
มันเป็นสิ่งที่ชั้นคิดเอง แต่ฉันรู้สึกว่ามิสึกิซังอาจจะชอบอ่านหนังสือยากๆที่เขียนโดยนักเขียนต่างประเทศ
ส่วนตัวฉันเองนั้นชอบไลท์โนเวลที่มีเนื้อหาหนักๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอง เมื่อเร็วๆนี้ฉันก็กำลังติดนิยายเว็บ
“…มิซุกิซัง”
แค่ได้มองแผ่นหลังของเธอก็รู้สึกเยียวยาจิตใจได้
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะเล่นเกมกับมิสึกิซังอยู่
แล้วยังตั้งแต่สมัยม.ต้นอีกต่างหาก…
ขณะที่ฉันวางข้อศอกลงบนโต๊ะและจ้องมองมิสึกิซัง ทันใดนั้นเองเธอก็หันกลับมา
พวกเราสบตากัน
“——น”
หัวใจของฉันกระเด้งออกจากอก
ร่างกายของฉันแข็งทื่อราวกับถูกแช่แข็งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทันหันนี้
จากนั้น มิสึกิซังก็โบกมือขวาของเธอเบาๆ โดยไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ
ฉันโบกมือกลับไปทันที
บางทีเธอคงจะพอใจกับสิ่งนั้นแล้ว มิสึกิซังหันร่างกายกลับไปอีกครั้งและอ่านหนังสือต่อ
“โอ-โอ้วว…!”
ฉันได้โบกมือให้กับไอดอลชื่อดังมิสึกิ รินกะ!
และเราก็สบตากันด้วย!
ฉันประทับใจจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลย
ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นการแลกเปลี่ยนระหว่างเราสองคน
ถ้าพวกเขาสังเกตเห็นก็คงจะเกิดเรื่องวุ่นวายเล็กน้อย
ยังไงซะมิสึกิซังก็เป็นถึงไอดอลที่มีข่าวลือว่าเธอจะเกลียดผู้ชาย
พวกเขาคงจะแปลกใจอย่างมากที่พบว่าเธอมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กผู้ชายธรรมดาๆ น่าเบื่อคนนึง
“…รินคือมิสึกิซังจริงๆงั้นเหรอ”
ฉันได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้งกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
ปาฏิหาริย์มีอยู่จริงสินะ
***
คาบเรียนที่สี่ได้จบลงและเข้าสู่เวลาพักทานอาหารกลางวัน
พวกนักเรียนกลุ่มที่กินในโรงอาหารเริ่มลุกขึ้นและออกจากห้องเรียน
นักเรียนส่วนที่เหลือจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มที่รวมโต๊ะกินกันกับเพื่อนๆ และกลุ่มที่กินอย่างเงียบๆ บนที่นั่งของตัวเอง
ฉันอยู่ในกลุ่มที่กินข้าวกล่องด้วยเช่นกัน แต่ครั้งนี้ฉันมีนัด
“โอ้ส อายาโนะโคจิ มากินข้าวกันเถอะ”
“ไง อานาโนะโคจิคุง วันนี้ผมคนนี้ก็มาด้วยอีกเช่นกัน”
เมื่อฉันลุกออกจากที่นั่ง ก็มีเด็กผู้ชายสองคนก็เดินเข้ามาหา
คนหนึ่งเป็นคนรูปร่างอ้วนและอีกคนเป็นคนที่ดูฉลาดพร้อมกับแว่นตา
คนที่อ้วนคือทาจิบานะ และคนที่สวมแว่นตาก็คือไซโตะ
เราสามคนมักจะใช้เวลาพักอยู่ด้วยกันตามปกติ
เป็นสมาชิกที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี
ฉันประกบมือขึ้นและขอโทษพวกเขา
“โทษที แต่วันนี้มีนัดน่ะ”
“หา? พูดอะไรอยู่น่ะ จะมีใครอีกนอกจากพวกเราที่ใช้เวลาพักกลางวันด้วยกันได้น่ะ ไม่มีหรอกไม่ใช่รึไง”
“พูดอะไรออกมาได้น่าโมโหชะมัด…ก็ถึงจะจริงก็เถอะนะ”
“อายาโนะโคจิคุง อย่ามัวเสียเวลาพูดเรื่องแปลกๆกันเลย จากการคำนวณของผมแล้ว พักกลางวันมีเวลาเพียงแค่ 40 นาที ทำไมเราไม่รีบกินกันให้เสร็จๆ แล้วมาคุยกันเรื่องไลท์โนเวลของเดือนนี้กันล่ะ”
ไซโตะพูดขณะใช้นิ้วดันแว่นตาขึ้น
…ยังไงก็เถอะ นายไม่จำเป็นต้องคำนวณก็รู้อยู่แล้วว่าพักกลางวันมีแค่ 40 นาทีไม่ใช่หรือไง นายคำนวณอะไรกัน?
“ไม่ล่ะ ฉันมีนัดอยู่จริงๆ ฉันไปก่อนนะ”
“เดี๋ยวก่อน”
ทาจิบานะคว้าแขนฉันเอาไว้
เมื่อฉันหันกลับไปแล้วสงสัยว่าทำไม ทาจิบานะก็ถามด้วยเสียงแผ่วเบา
“คงไม่ใช่…ผู้หญิงหรอกใช่ไหม”
“…”
“เฮ้ อายาโนะโคจิ?”
ฉันเงียบเพราะพลังคุกคามประหลาดจากพวกเขา
แม้ว่าทาจิบานะจะอ้วนและตัวเตี้ย แต่สายตาของเขากับดูแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาด
ฉันจึงรู้สึกกดดันเล็กน้อย
“เดี๋ยวก่อน ทาจิบานะคุง จากการคำนวณของผมแล้ว โอกาสที่อายาโนะโคจิคุงจะมีเพื่อนเป็นผู้หญิงมีเพียง 0.4% เท่านั้น ไม่ต้องไปถามหรอกน่า”
“เดี๋ยวดิ มันจะต่ำเกินไปแล้วเฟ้ย! แค่การจะมีเพื่อนเป็นผู้หญิงก็สิ้นหวังเกินไปแล้ว…!”
อย่างน้อย 10% ก็ยังดีนะ?
ยังมีโอกาสสำหรับฉันที่จะหาเพื่อนเป็นผู้หญิงอยู่ไม่ใช่รึไง
[[ TL Note : อีกไม่นานก็คงหาไม่ได้แล้วล่ะ เมียหวง ]]
“งั้น แล้วมีนัดกับใครล่ะ”
“…มิสึกิซัง”
ฉันพึมพำด้วยเสียงที่หดเล็กลง
จากนั้นทาจิบานะและไซโตะก็มองหน้ากันแล้วโพล่งหัวเราะกันออกมาอย่างมีความสุข
“ฟุ ฮ่าๆๆ! พูดอะไรของนายอยู่น่ะอายาโนะโคจิ! นายกับมิสึกิซังจะกินอาหารกลางวันด้วยกัน!?”
“ก็นะ อืม ฉันโดนชวนไปโรงอาหารด้วยกันน่ะ”
“เรื่องแบบนั้นจะเป็นไปได้ยังไงเล่า! ตื่นจากฝันได้แล้วน่า!”
“ใช่แล้วล่ะ อายาโนะโคจิคุง จากการคำนวณของผมแล้ว โอกาสที่นายจะได้การชวนจากมิสึกิซังมันก็เหมือนกับปรากฏการณ์ดาราศาสตร์นั่นแหละ”
“ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์บ้าอะไร อย่ามาพูดให้ดูฉลาดหน่อยเลยน่า”
[[ TL Note : 天文学的数値 ไม่รู้มันคืออะไร ]]
ฉันโดนหัวเราะเยาะเหมือนคนโง่ และทำให้ฉันหงุดหงิด
สักหมัดดีไหมเนี่ย?
“ฮ่าๆๆๆๆ อายาโนะโคจิทำให้ฉันหัวเราะมากจริงๆ ฉันจะให้พริกหยวกหนึ่งอันแทนคำขอบคุณละกันนะ”
“ไม่เอาเฟ้ย กินเองสิฟะ”
“ใจเย็นๆก่อนอายาโนะโคจิคุง เดี๋ยวผมยกมะเขือม่วงให้นายแทนนะ”
“โอ้วว จริงหรอ? ขอบคุณนะ—คิดว่าฉันจะพูดงั้นรึไง? พวกนายก็แค่ยัดเยียดของที่ไม่ชอบให้ฉันไม่ใช่รึไงกัน”
เจ้าพวกงี่เง่านี่…
แต่ว่าจะไม่เชื่อก็คงจะไม่แปลกล่ะนะ
ฉันเองก็ยังไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง
“ขอเวลาสักเดี๋ยวได้ไหมคะ?”
“เอ๊ะ——!”
เมื่อฉันถูกเรียกจากด้านหลัง ฉันจึงหันกลับไป
เจ้าของเสียงนั้นคือมิสึกิซัง
เธอกำลังยืนอยู่ด้านหลังของฉันด้วยการแสดงออกทางใบหน้าที่ว่างเปล่าของเธอ จนอาจทำให้บางคนคิดว่าเธอดูเย็นชา
“คาสึโตะคุง คุณคงยังไม่ลืมสัญญาของฉันใช่ไหมคะ?”
“ม-ไม่ได้ลืมหรอก กำลังคิดว่าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“งั้นหรอคะ ถ้าอย่างงั้นก็ดีค่ะ ถ้างั้นก็รีบไปกันเถอะค่ะ ก่อนที่โรงอาหารคนจะเยอะเสียก่อน”
มิสึกิซังพูดเช่นนั้นแล้วหันหลังให้เรา จากนั้นก็เดินออกจากห้องเรียนไป
สมกับเป็นไอดอลสุดคูล
การพูดของเธอและการเดินของเธอช่างงดงาม
“ฮ-เฮ้ย เฮ้ย…อายาโนะโคจิ…?”
“ม-ไม่จริงน่า…การคำนวณของผม…”
ทาจิบานะและไซโตะที่ดูการโต้ตอบของพวกเรากำลังอ้าปากพะงาบๆเหมือนกับปลาทอง
มันเป็นใบหน้าที่ดูงี่เง่ามากๆ
“อ-เอ่อ เพราะงั้นแหละนะ ฉัน…ขอตัวก่อนล่ะ”
“อายาโนะโคจิ! ใช้เวทมนต์แบบไหนกัน! ไม่มีทางที่เด็กเนิร์ดติดเกมอย่างนายจะได้ออกไปกินข้าวกลางวันกับไอดอลหรอก!”
“จากการคำนวณของผม พรุ่งนี้ฝนต้องตกแน่ๆ”
“…พวกนายนี่มัน ฝากไว้ก่อนเถอะ”
พูดแต่ละคำออกมาได้เจ็บมาก
แล้วก็อย่าเรียกฉันว่าเด็กเนิร์ดนิดเกมนะ
ในตอนนี้ฉันตั้งใจแค่จะให้มันอยู่ในขอบเขตของงานอดิเรกเท่านั้นเอง
และเมื่อฉันสังเกตรอบๆ มันไม่ได้ดึงดูดความสนใจเฉพาะของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังคงรวมถึงนักเรียนบางส่วนที่ยังคงอยู่ในห้องด้วยเช่นกัน
…นี่มันน่ารำคาญจริงๆ ฉันไม่ชอบที่จะเป็นจุดเด่นเอาซะเลย
ฉันรีบตามมิสึกิซังออกไปทันทีราวกับว่าต้องการจะหนีจากตรงนั้น
.
.
.
*———-จบตอน———-*
TL : เอาล่ะครับ ผมยังไม่ตายนะครับ ฮ่าๆ แค่จมกองงานไฟนอลเพิ่งจะผุดหัวออกมาได้ ใช่ครับ แค่ผุดหัว ยังมีงานอยู่อีก TT
**แปลจากอิ้ง+เทียบยุ่นนิดหน่อย แปลผิดยังไงก็ขออภัยนะครับ มือใหม่แปล อาจจะมีผิดบ้างทักท้วงกันได้นะครับ
นี่เป็นเวอร์ชั่น WN (เว็บโนเวล) อาจจะมีบางส่วนที่ต่างกับแบบเล่มอยู่บ้างนะครับ
ถ้าชอบก็อย่าลืมกดไลก์และกดติดตามเพจเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยนะครับ อ่านตอนใหม่ๆได้ก่อนใครที่เพจเลย
แปลแบบคนเหงาและง่วง | Facebook
MANGA DISCUSSION