โรงอาหารวิทยาลัยช่วงมื้อเที่ยง ค่อนข้างแออัดพอตัว
ผมถือเซ็ตปลาอาจิชุบแป้งทอด นั่งลงที่โต๊ะซึ่งคาเรนรออยู่
มหาวิทยาลัยนี้มีโรงอาหารอยู่สองที่ แต่โรงอาหารของนักศึกษาที่แรกนี้ ตรงกลางเป็นโต๊ะยาวธรรมดา ๆ ส่วนโต๊ะกลมสำหรับสี่คนอยู่แค่ที่ริมหน้าต่าง
นอกจากนี้เหล่าคนมีแฟน ก็มักจะกินรวบโต๊ะกลมพวกนี้ไปหมด
คาเรนก็มีส่วนเรื่อง ‘จองโต๊ะกลมคู่รัก’ นี้ด้วย และมักจะมาโรงอาหารนี้แต่เนิ่น ๆ เพื่อจะมาจองที่ตรงนี้ไว้
ผมนั่งอยู่ทำมุม 90 องศาทางขวาของคาเรน
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยนั่งอยู่ชิดกันเลยก็ตามที แต่หลังจากรู้เรื่องนอกใจของคาเรนเป็นต้นมาก็เริ่มติดนิสัยเว้นระยะห่างขึ้นมาซะแล้ว
คาเรนพก ‘ข้าวกล่องที่คุณแม่ทำให้’ มา
การทานข้าวด้วยกันวันศุกน์นั้น เป็นกฎมาตั้งแต่ที่พวกเราเริ่มคบกันแล้ว
เพื่อที่เราสองคนจะได้ตัดสินใจว่าวันเสาร์อาทิตย์นี้จะไปเที่ยวที่ไหนกัน ทว่าปัจจุบันกฎนี้กลายเป็นเพียงแค่ความเจ็บปวด
แต่เพราะรุ่นพี่โทวโกะเข้มงวดมาว่า ‘ความสัมพันธ์จนถึงก่อนหน้านี้ อย่าให้เปลี่ยนไปเด็ดขาด! ผู้หญิงน่ะแม้แต่การเปลี่ยนแปลงนิดเดียว ก็รู้สภาพจิตใจของอีกฝ่ายได้แล้ว’ เราถึงยังกินข้าวด้วยกันอยู่ถึงบัดนี้
แต่มองอีกมุมหนึ่ง ด้วยความที่คาเรนนอกใจวันจันทร์กับวันพฤหัสฯ ก็เรียกได้ว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้สืบเสาะดูสถานการณ์ในตอนนั้นได้
หลังจากที่เริ่มทานได้ไม่ถึงสามนาที คาเรนก็มองไปข้างหน้าด้วยหน้าตาไม่พอใจ
ผมรู้เหตุผลที่เธออารมณ์เสียอยู่
ทว่าผมทำเป็นไม่สนใจเรื่องนั้น แล้วตักเอาเซ๋็ตปลาอาจิชุบแป้งทอดเข้าปากอย่างเงียบ ๆ
“ให้ตายเถอะ…”
ณ ตอนที่คาเรนพูดแบบนั้น ก็ถอนหายใจดัง ‘เฮ้อ~’ อย่างจงใจ
มันคือสัญญาณบอกผมว่า ‘สนใจชั้นหน่อยเซ่!’
—— ช่วยไม่ได้ ให้เล่นด้วยสินะ ——
“เป็นอะไรไปหรอ คาเรน?”
ไม่น่าถาม แม้จะรู้เหตุผลที่คาเรนหงุดหงิดอยู่แล้ว แต่แฟนหนุ่มจำเป็นก็ถามไปซะหน่อย
“ดูโน่นดิ โน่น”
คาเรนเชิดคางใส่ไปทางโต๊ะที่นั่งห้าตัวข้างหน้าหวังให้ผมเห็น
ตรงนั้นรุ่นพี่โทวโกะกับคาโมกุระนั่งกันอยู่
รุ่นพี่โทวโกะทำข้าวกล่องเตรียมไว้สำหรับสองคน แล้วก็ยื่นกล่องนึงให้คาโมกุระ
“รุ่นพี่คาโมกุระกับรุ่นพี่โทวโกะหรอ?”
“ใช่!”
คาเรนตอบพร้อมกับพ่นลม
“รุ่นพี่โทวโกะ บ้ารึเปล่า? มาจู๋จี๊กันในโรงอาหารแบบนี้ ไม่คิดว่ามันทุเรศไปหน่อยรึไงนะ”
รุ่นพี่โทวโกะยื่นข้าวกล่องทำเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แล้วยื่นให้คาโมกุระ
คาโมกุระก็ดูจะมีความสุขเหมือนกัน
แต่ว่ามันก็ไม่เห็นจะเป็นการจู๋จี๋กันขนาดนั้นเสียหน่อย
ตัวผมปกติคงจะบอกว่า ‘ไม่เห็นเป็นไรเลย คู่รักคบกันก็งี้แหละ’ ทว่าตอนนี้คงต้องคล้อยตามคาเรนไปก่อน
“นั่นสิเนอะ”
“ยูคุงก็คิดงั้นใช่มะ? โรงอาหารมันมีไว้กินข้าว ไม่ได้ให้มาสวีทกันอย่างนั้น!”
คาเรนดูค่อนข้างหงุดหงิดมากพอดู
“เอาจริง ๆ นะ ถ้าพกข้าวกล่องมา ก็ไม่จำเป็นต้องมาโรงอาหารแต่แรกแล้วมั้ย! ไปหาห้องเรียนว่าง ๆ นั่งกินกันสองคนก็ได้ปะ แบบนั้นจะได้มีเก้าอี้ว่างด้วย หัดคิดถึงคนอื่นบ้างสิ!”
ครั้งนี้ผมยั้งใจไม่อยากขัดว่า ‘ตัวเองก็ข้าวกล่องหนิ’
“นั่นสิเนอะ กินที่ห้องเรียนก็ได้นี่”
เห็นด้วยอย่างไม่มีกะจิตกะใจ
เรื่องนั้นเอาเข้าจริง ๆ โรงอาหารนี้พกมากินได้อย่างอิสระ
ไม่ได้มีกฎว่า ไม่ให้เอาข้าวกล่องหรืออาหารที่ซื้อมาจากที่อื่นเข้ามาเลย
ความจริงก็คือ นอกจากคาเรนกับรุ่นพี่โทวโกะแล้ว นักศึกษาอีกหลาย ๆ คนก็พกอาหารเข้ามาเหมือนกัน
“พักหลังมานี้สองคนนั้น ชอบเอาข้าวกล่องมากินด้วยกันสองคนแบบนั้นประจำเลยสินะ”
“นั่นสินะ เห็นอยู่บ่อยเลย”
ก่อนอื่นก็ตามน้ำตามเรื่องไปก่อน
พอเล็งสายตาไปทางสองคนนั้น ก็เห็นกำลังกินข้าวกล่องไปคุยกันไปพลางอย่างสนุกสนานกันจริง
ข้าวกล่องที่รุ่นพี่โทวโกะทำ
พอนึกอย่างนั้นใจผมก็สั่นขึ้นมา
ถึงจะรู้แก่ใจว่ามันเป็น ‘แผนการของรุ่นพี่โทวโกะ’ ก็เถอะ…
——
“มีอะไรที่ผู้หญิงทำให้แล้ว ผู้ชายจะมีความสุขบ้างคะ?”
รุ่นพี่โทวโกะถามมาจากโทรศัพท์
ประมาณสิบวันก่อนหน้านั้น
“มีอะไรบ้างหรอครับ?”
ผมย้อนถาม
“ฉันกำลังคิดว่า จะทำอะไรเอาใจดี เพื่อที่จะสร้างความรู้สึกของเทตสึยะให้มากขึ้นน่ะค่ะ”
รุ่นพี่โทวโกะตอบ
ณ ตอนนี้ รุ่นพี่โทวโกะกับคาโมกุระจากภายนอกดูเป็นคู่รักที่กำลังไปกันได้สวย
แต่อีกด้านหนึ่งคาโมกุระก็ยังคงนอกใจกับคาเรนอยู่ด้วยเป็นปกติวิสัย
สถานะเท่าที่เห็น คนหลักของคาโมกุระยังคงเป็นรุ่นพี่โทวโกะ
คาเรนยังอยู่ในตำแหน่ง ‘ผู้หญิงที่เวลาไม่ได้เจอกับรุ่นพี่โทวโกะจะเรียกมาเมื่อไรก็ได้’
แต่ทว่าตัวคาเรนเอง ดูจะยังไม่รับรู้ถึงความจริงข้อนี้เลย
“สิ่งที่ทำให้ผู้ชายมีความสุข งั้นหรอครับ?”
พูดประสาคนทั่วไป ผมในตอนนี้ ในหัวนึกขึ้นมาได้แต่เรื่องลามกอย่างเดียวเลย
“ของขวัญดีไหมครับ?”
ก่อนอื่นพูดแต่เรื่องทั่วไปก่อนก็แล้วกัน
“แต่ว่าให้เสียเงินกับคนที่กำลังนอกใจเนี่ย ไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ”
“อย่างงั้น ถ้าไม่อยากเสียเงินก็ผ้าพันคอถักมืออะไรแบบนี้”
“จากตอนนี้เดี๋ยวก็ข้ามวันชี้ชะตาแล้วนะ อีกอย่างถ้าให้นึกถึงเทตสึยะตอนนี้ รู้สึกไม่อยากมาเสียเวลาอะไรแบบนั้นเลยค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น ก็คงเหลือแค่ข้าวกล่องแล้วล่ะครับ”
รุ่นพี่โทวโกะเงียบมาจากอีกฟากของโทรศัพท์อยู่พักหนึ่ง
“ข้าวกล่องหรอ… เรื่องนั้นก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่ฉันน่ะ ทำอาหารไม่เก่งน่ะสิ”
เคยคิดว่าถ้าเป็นรุ่นพี่โทวโกะจะเชี่ยวชาญงานบ้านงานเรือนซะอีก แต่ทำอาหารไม่เก่งนั้นหรอ?
ทว่าผมนึกขึ้นมาได้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ข้าวกล่องเดี๋ยวนี้ใส่อาหารแช่แข็งอย่างเดียวก็ได้นะครับ”
“งั้นหรอกเหรอ?”
“ครับ อีกอย่างก็แค่เอาออกมาจากถุงแล้วก็ใส่กล่องข้าวเท่านั้นเองครับ ไม่จำเป็นต้องเข้าไมโครเวฟอะไรเลย”
ตอนที่ผมไม่มีตังค์ ก็จะขอให้แม่ทำข้าวกล่องให้
แต่ว่าตอนที่แม่กำลังยุ่งผมก็จะทำเอง ก็แค่ตักข้าวใส่พอประมาณเติมอาหารแช่แข็งใส่กล่องข้าวแค่นั้นเป็นอันเสร็จ
“นอกจากนั้น ตั้งแต่แฮมเบอร์กเอย ออมเล็ต ทงคัตสึ จนกระทั่งเครื่องเคียงอะไรเอยก็มีหมดทุกอย่าง เพราะฉะนั้นจะจัดแต่งอะไรก็ได้เต๋็มที่เลยครับ ทั้งหมดนี่ใช้เวลาทำไม่ถึง 5 นาทีด้วยครับ”
“งั้นเองหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันเองก็น่าจะทำได้นะ! ขอบใจนะ ที่สอนอะไรดี ๆ ให้”
ด้วยเหตุนั้น รุ่นพี่โทวโกะจึงตัดสินใจทำข้าวกล่องมากินด้วยกันกับคาโมกุระสัปดาห์ละครั้งสองครั้ง
ด้วยความที่ตั้งแต่คบกับรุ่นพี่โทวโกะไม่เคยมีอะไรแบบนี้เลยสักครั้งเดียว คาโมกุระดูเหมือนจะมีความสุขมาก ๆ เลย
ใด ๆ ก็แล้วแต่
“โทวโกะก็เหมือนภรรยาของผมเลย ในที่สุดก็รู้ตัวซะที”
เหมือนว่าจะกล่าวว่าอะไรทำนองนั้น
……
“คาเรน ก่อนหน้านี้ก็เคยคิดนะว่ารุ่นพี่โทวโกะเนี่ย ‘คูลแล้วก็เท่จังเลย’ แต่มันก็เป็นแค่เรื่องหลอกลวง!”
คาเรนเชิดหน้าขึ้นพูด
“นั่นสินะ ไม่เหมือนกับรุ่นพี่โทวโกะที่เคยเห็นก่อนหน้านี้เลยเนอะ”
ตั้งแต่เมื่อกี้ก็ได้แต่บอกว่า ‘นั่นสินะ’ ทว่าผมน่ะหมดความสนใจจะคุยกับนังนี่ไปแล้ว
“ทำอะไรอย่างนั้นน่ะ ผู้ชายจะอารมณ์ดีมันก็ช่วยไม่ได้นี่! รุ่นพี่โทวโกะน่ะไม่มีศักดิ์ศรีเอาซะเลยเนอะ”
ตั้งแต่เมื่อกี้ก็ได้แต่บอกว่า ‘นั่นสินะ’ ทว่าผมน่ะหมดความสนใจจะคุยกับนังนี่ไปแล้ว
“ทำอะไรอย่างนั้นน่ะ ผู้ชายจะอารมณ์ดีมันก็ช่วยไม่ได้นี่! รุ่นพี่โทวโกะน่ะไม่มีศักดิ์ศรีเอาซะเลยเนอะ”
รู้สึกได้ว่าประโยคนั้นไม่ได้นิ่งนอนใจเลย
หรือว่าที่คาเรนนอกใจกับคาโมกุระ ตั้งใจว่าจะเอาชนะรุ่นพี่โทวโกะให้ได้งั้นหรอ?
—— สำหรับผู้ชาย แฟนสาวที่รักกับคู่รักนอกใจ ผืนฟ้ากับผืนดิน ดวงจันทร์กับตะพาบน้ำ กับดวงอาทิตย์กับเต่าน่ะ มันมีความต่างกันอยู่นะโว้ย! ——
MANGA DISCUSSION