[นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu - ตอนที่ 34 ซ้อมเดทกับรุ่นพี่โทวโกะ (ตอนที่ 1)
- Home
- [นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu
- ตอนที่ 34 ซ้อมเดทกับรุ่นพี่โทวโกะ (ตอนที่ 1)
วันอาทิตย์ที่รอแล้วรอเล่า
ในบรรดารถยนต์ที่ผมมีอยู่สองคันที่บ้าน ผมออกจากบ้านด้วยรถลิตรที่แม่ขับอยู่ประจำ
เพราะมินิวากอนพ่อใช้ขับไปเล่นกอล์ฟ
มาถึงที่สถานีเคะมิกาวาฮามะ JR สายเคย์โย
ถึงจะอีกตั้ง 15 นาทีก่อนจะถึง 8 โมงเช้าที่ตกลงกันไว้ แต่รุ่นพี่โทวโกะมารออยู่แล้ว
“อรุณสวัสด์ครับ มาเร็วจังเลยครับ ยังไม่ถึงเวลานัดเลยนะครับเนี่ย”
“ก็เธอชอบมาก่อนนัดตลอดเลย บางทีก็คิดว่าอยากเป็นฝ่ายมารอก่อนบ้างน่ะ”
เธอพูดพลางขึ้นมาบนรถ แล้วคาดเข็มขัด
“แล้ว วันนี้จะพาฉันไปไหนบ้างล่ะ?”
“ก็คิดไว้เยอะอยู่ครับ แต่ผมอยากจะถ่ายภาพให้ได้เยอะ ๆ เลยแม้จะธรรมดาไปหน่อย แต่คิดว่าจะไปที่มินามิโบโซะ* ครับ”
“เอะ? ถ่ายรูปหรอ?”
รุ่นพี่โทวโกะทำสีหน้าคาดไม่ถึง
“ครับ ภาพพวกนั้นทั้งหมด ตอนท้ายจะยกให้รุ่นพี่โทวโกะครับ อยากให้ดูประกอบ ‘ความน่ารัก’ ที่ผมคิดเอาไว้น่ะครับ”
รุ่นพี่โทวโกะทำสีหน้าผิดหวัง
“เข้าใจแล้วค่ะ”
เธอตอบกลับมา
พอออกรถ ผมก็มุ่งหน้าไปยังทางด่วนทันที
ก่อนอื่นก็คือเขตคิซาราซึ
ขึ้นทางด่วนไปจนถึงฟุตสึ
“ไปแถวไหนของมินามิโบโซะหรอ?”
รุ่นพี่โทวโกะถามมาอย่างนั้น
“ผมคิดว่าจะไปจากภูเขาโนโกะงิริมุ่งไปทางทาเตยามะ อ้อมที่เกาะทางใต้สุดของโอกิโนชิมะ แล้วกลับจากคัตสึอุระครับ”
“ครึ่งรอบมินามิโซโบะเลยสินะ ก็จริง ถ้าเป็นคนจังหวัดชิบะก็คงจะธรรมดาจริง ๆ นั่นแหละ”
พูดอย่างนั้นแล้วรุ่นพี่โทวโกะก็หัวเราะ
“แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหลงอยู่เลยครับ แต่ก็คิดอยู่ว่าแม้ในเขตโตเกียวจะมีคนเยอะ จะมีสักที่ที่ถ่ายรูปได้อย่างสบาย ใจได้อยู่บ้างไหมน่ะครับ สวนสาธารณะริมทะเลฮิตาจิที่จังหวัดอิบารากิก็ดีจริงนะครับ แต่ว่าช่วงนี้ดอกไม้บานไม่ค่อยสวยเท่าไร”
อุทยานแห่งชาติริมทะเลฮิตาจิในจังหวัดอิบารากิ นับว่าเป็นจุดถ่ายภาพที่ขึ้นชื่อด้วยความที่เป็น ‘เนินเขาที่ปกคลุมด้วยดอกไม้ฝั่งเดียว’
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเนินเขาจะย้อมสีฟ้าจากดอกเนโมฟีลา ในฤดูใบไม้ร่วงจะย้อมสีชมพูของดอกโคเคีย
ทว่าช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนในตอนนี้ น่าเสียดายที่หมดฤดูของโคเคียไปเสียแล้ว
“ก็ดีแล้วนี่? ฉันเองแทนที่จะต้องมาลำบากใช้เวลาอยู่ท่ามกลางฝูงชนให้จนหมดวัน สู้ได้มาพักผ่อนสักหน่อยดีกว่า แถมช่วงเวลาแบบนี้เองมินามิโบโซะก็ยังอบอุ่นอยู่ด้วยสินะคะ วันนี้อากาศก็ดีด้วย”
“ครับ ดีจังที่แดดออก แต่จะว่าไป วันนี้ต้องเดินค่อนข้างเยอะเลย ไม่เป็นไรหรอครับ?”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เธอก็บอกล่วงหน้าแล้วนี่ว่า ‘จะออกไปข้างนอกกัน ให้เตรียมรองเท้าเดินมาด้วย'”
เราออกจากทางด่วนทาเตะยามะที่ IC ฟุตสึคานายะ
จากตรงนั้นผ่านทางหลวงหมายเลข 127 เข้า เข้าทางด่วนโนโกงิริยามะโตซันระหว่างทาง แล้วเข้าไปยังวัดนิฮงจิแถวภูเขาโนโกงิริ
“ภูเขาโนโกงิริยามะเนี่ย ฉันน่าจะมาครั้งแรกเลยมั้งคะ”
รุ่นพี่โทวโกะเอ่ยไปพลางมองไปรอบ ๆ อย่างสนอกสนใจ ทั้งพระพุทธรูปใหญ่สลักบนหิน รูปปั้นพระพุทธรูปต่าง ๆ กับฮยากุชากุคันนอน
แลดูสีหน้าเหมือนเด็กอย่างที่ไม่เคยคาดคิด
“โล่งอกไปครับ แอบกังวลอยู่ว่าวัดเอย พระุพุทธรูปเอยจะไม่ถูกใจผู้หญิงหรือเปล่าน่ะครับ”
“เรื่องนั้นไม่ใช่แล้วมั้ง? เดี๋ยวนี้ผู้หญิงสายประวัติศาสตร์ที่ชอบไปเที่ยววัดวาศาลเจ้าเอยมีเยอะอยู่นะ”
ผมเอากล้องถ่ายรูปรุ่นพี่โทวโกะจังหวะที่กำลังหันไปข้างหลัง
พื้นหลังเป็นเส้นทางบนภูเขาซึ่งพาไปยังฮยากุชากุคันนอน สถานที่สวยงามซึ่งทั้งสองข้างขนาบด้วยกำแพงหินชัน
เงาของบรรดาต้นไม้ยังให้บรรยากาศด้วย
“เดี๋ยวสิ จู่ ๆ ถ่ายรูปไม่บอกกันเลยหรอ?”
รุ่นพี่โทวโกะเอ่ยเสียงแข็งอย่างขัดใจ
“ครับ ถ้าเป็นไปได้อยากถ่ายรูปให้เป็นบรรยากาศเป็นธรรมชาติที่สุดน่ะครับ เป็นรุ่นพี่โทวโกะในสายตาที่ผมเห็นคนเดียวน่ะครับ”
“อือ…”
รุ่นพี่โทวโกะดูจะยังไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร แต่ก็ไม่พูดอะไรไปมากกว่านั้น
สูงขึ้นไปจากตรงนั้น ก็มาถึงที่ ‘ผาเหลือบนรก’
ตรงนั้นมีหินยื่นออกมาจากหน้าผา ใต้ลงไปจากตรงนั้นสูงประมาณสามสิบเมตรจากแนวดิ่งได้
“มองลงไปจากชายขอบตรงนั้นก็เหมือนเหลือบมองนรกล่ะครับ”
พอผมพูดอย่างนั้น รุ่นพี่โทวโกะก็ทำสีหน้าไม่สบายใจ
“ฉัน ไม่ค่อยถูกกับที่สูงน่ะค่ะ…”
“แต่ว่าอุตส่าห์มาถึงที่นี่ทั้งที ถ้าไม่มาดูตรงนั้นก็คงไม่มีความหมายเลยมิใช่หรอครับ?”
รุ่นพี่โทวโกะมองผมด้วยสายตาเคืองแค้น
“ไปด้วยกันเถอะครับ ผมจะจับมือไว้”
รุ่นพี่โทวโกะดูลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยื่นมือมาให้เงียบ ๆ
“บอกไว้ก่อนเลยนะ ‘ปรากฎการณ์สะพานแขวน’ ใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอกนะคะ”
ขณะที่พูดอย่างนั้น รุ่นพี่โทวโกะที่ค่อย ๆ ขยับไปหาชายขอบอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ จับมือผมเอาไว้มั่น
เคลื่อนไปตามแนวรั้วจนถึงปลายสุดของหินผา
“ข้างล่างนี่คือเหลือบนรกครับ”
ผมเองที่พูดอย่างนั้นก็มองลงไปด้วย แต่ความรู้สึกถึงความว่างเปล่าที่อยู่ใต้เท้าลงไป ทำเอารู้สึกเหมือนเข่าอ่อนขึ้นมาเลยจริง ๆ
รุ่นพี่โทวโกะเองก็เผลอกำมือของผมแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
สีหน้าของรุ่นพี่โทวโกะที่ดูไม่สบายใจแบบนั้นเองก็สะดุดตาดี
เสียงถ่ายภาพดัง ‘ปิ๊บ’ รุ่นพี่โทวโกะก็รู้ตัวว่าโดนถ่ายรูปอยู่
“ที่แบบนี้ก็ถ่ายด้วยหรอ?”
“อยากเก็บภาพสีหน้าหลาย ๆ แบบน่ะครับ”
รุ่นพี่โทวโกะหลบตาอย่างเขิน ๆ
“หลังจากนี้ ลบรูปให้หมดด้วยนะ”
ผมเปลี่ยนเรื่องทั้งที่ยิ้มเจื่อน
“ที่ตรงนี้พระสงฆ์รูปเก่า ๆ ท่านใช้ฝึกตนน่ะครับ ทั้งพลังจิตและสมาธิ”
“ทำแบบนั้น ไม่เห็นจะมีความหมายอะไรเลยนี่นา”
รุ่นพี่โทวโกะทำสีหน้าแข็งขึ้นพลางพูดด้วยน้ำเสียงแข็งขึ้นนั้น ผมเกิดนึกใจร้ายขึ้นมา
“ถ้าตอนนี้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นมาตอนนี้ก็จบเลยสินะครับ ถ้าหินผาตรงนี้ถล่มล่ะก็ ข้างล่างนี่ก็จะกลับด้านกันเลยสินะ”
“เดี๋ยว หยุดพูดเลยนะ!”
รุ่นพี่โทวโกะหันมาหาผม
หน้าตาโกรธมาก
แย่แล้วแบบนี้
“ขอโทษนะครับ ล้อเล่นเฉย ๆ”
“โธ่ ไม่เอาแล้ว!”
“แต่ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้น ผมจะช่วยรุ่นพี่โทวโกะให้ได้เลยครับ”
รุ่นพี่โทวโกะมองจิกผม
จากนั้นก็พูดด้วยเสียงเล็ก
“บอกแล้วไงว่า ‘ปรากฎการณ์สะพานแขวน’ ใช้ไม่ได้ไงเล่า”