[นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu - ตอนที่ 31 แผนการต่อไปคือ?
- Home
- [นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu
- ตอนที่ 31 แผนการต่อไปคือ?
อย่างที่รุ่นพี่โทวโกะพูด ผมติดต่อหาคาเรนอีกครั้งทันที
แน่นอนว่า ‘เพื่อตกลงว่าจะไปเจอคาเรนวันพรุ่งนี้’
ตัวผม
“เราปล่อยคาเรนเสียใจไม่ได้จริง ๆ ก็เลยยกเลิกนัดเพื่อนไปแล้วน่ะ”
พอพูดอย่างนั้น คาเรนที่ตัวเธอได้รับความสำคัญขึ้นมาก็ดีใจพอดู ถึงขนาดตะโกน ‘ดีใจจัง!’ ทางโทรศัพท์
เดทวันต่อมา เป็นคาเรนในแบบน่ารักอย่างที่ไม่เคยเห็นมานาน
ตัวติดกันกับผมสุด ๆ
ไม่ได้เดินจับมือกันแบบนี้มาสักพักแล้ว
ไปงานเทศกาลวิทยาลัยมาด้วย
ไปออกร้านจำลองของชมรม
ที่จริงเวรผมเป็นวันมะรืนนี้ แต่ก็มาช่วยสักหน่อย
เพราะอยากมาถามเรื่องคาโมกุระจากคนในชมรม
คาโมกุระมาก่อนที่พวกเราจะมาออกร้านจำลองได้แปปเดียว ดูเหมือนจะมาถามหาตาเล่น ‘เล่นไพ่นกกระจอกกันมั้ย?’ แต่พอเห็นว่าไม่มีใครเล่นด้วย ก็ดูเหมือนจะหายไปไหนสักที่
หมอนั่นเองก็ไม่ได้ไปเที่ยวกับรุ่นพี่โทวโกะอย่างที่คาดไว้ เลยมีเวลาเหลือว่างจัด ๆ สินะ
รู้สึกดีชะมัด
หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ คาเรนก็ยังตัวติดกับผมไม่ปล่อย ราวกับตอนที่เราคบกันแรก ๆ
มื้อกลางวันเองก็มีความอยากกินด้วยกันเกือบทุกวัน
แถวเป็นที่โรงอาหารวิทยาลัยด้วย
คงจะ ‘ประชดใส่คาโมกุระ’ อยู่กระมัง
ทางนี้เองที่จริงก็อยากจะไปกินข้าวกับอิชิดะบ้าง กับเพื่อนร่วมเอกบ้างงี้ น่ารำคาญดีเหลือเกิน
ระหว่างนี้ ผมกับรุ่นพี่โทวโกะไม่ได้เจอกันต่อหน้า
เพราะคาเรนกับคาโมกุระเองก็ไม่มีอารมณ์จะเจอกันได้
ทว่าก็ยังติดต่อกันอยู่ทุกวัน
ผมว่าอารมณ์คาเรนตอนนี้ คิดว่าคงแค่ ‘ประชดใส่คาโมกุระ’ เท่านั้น
เพราะงั้นพอถึงเวลาหนึ่ง เดี๋ยวก็คงกลับไปนอกใจกับคาโมกุระซ้ำเหมือนเดิมแน่
เรื่องนั้น ผมคิดว่าอยากจะฟังความเห็นของรุ่นพี่โทวโกะ
“ก็จริงอยู่ มีโอกาสที่จะเป็นอย่างที่อิชชิกิคุงคิดไว้ได้อยู่นะคะ”
รุ่นพี่โทวโกะพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
“ใช่ไหมล่ะครับ เพราะงั้นทั้งสองคนจะกลับมานอกใจกันอีกทีเมื่อไร ผมคิดว่าอยากจะเช็คดูน่ะครับ”
พอผมบอกไปอย่างนั้น รุ่นพี่โทวโกะก็ให้ยั้งความคิดนั้นไว้ก่อน
“แต่มันก็มีความน่าจะเป็นที่จะเกมพลิกอยู่เหมือนกันนะ?”
“ความน่าจะเป็นที่เกมจะพลิกหรอครับ?”
“ใช่ ความน่าจะเป็นที่ว่า ‘คุณคาเรนจะย้อนนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้ว คิดได้ว่าเธอนี่แหละคือคนที่สำคัญที่สุด’ น่ะค่ะ”
“งั้นหรอครับ?”
“ดูเอาจากไกล ๆ ตอนนี้พวกเธอก็ดูเป็นคู่รักที่เข้ากันได้ดีสุด ๆ เลยนะคะ”
“นั้นเพราะทั้งผมทั้งคาเรนเองแสดงให้มันเป็นอย่างนั้นอยู่นี่ครับ รุ่นพี่โทวโกะเองก็เคยบอกเอาไว้อย่างนั้นไม่ใช่หรอครับ”
“เรื่องนั้นมันก็ใช่อยู่หรอก แต่ว่าก็อยากให้เธอเองคิดทบทวนดูอีกสักครั้งนึง เรื่องที่ว่า ‘จะทำร้ายเธอตรงนี้จริง ๆ แล้วเลิกกันซะมันถูกต้องแล้วหรือเปล่า’ น่ะค่ะ”
—— มาพูดอะไรตอนนี้ พวกเราตัดสินใจแล้วไม่ใช่หรอว่าจะ ‘ทำให้คนรักนอกใจประสบกับความเสียใจและสิ้นหวังซะจนคิดอยากตายไปเลยเชียว’ น่ะ ——
ตอนนั้นเองผมก็นึกขึ้นมา
—— หรือว่ารุ่นพี่โทวโกะ คิดอยากจะเริ่มต้นใหม่กับคาโมกุระ? เปลี่ยนคาโมกุระปรับทัศนคติซะใหม่ รุ่นพี่โทวโกะก็รู้สึกอย่างนั้นอยู่หรือเปล่า ——
จู่ ๆ ผมก็ไม่สบายใจขึ้นมา
“เรื่องนั้นหมายความว่ายังไงหรอครับ? รุ่นพี่โทวโกะเองก็กำลังคิดทบทวนเรื่องที่ว่านั้นอยู่หรอครับ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ แต่ว่าถ้าหากว่าคุณคาเรนเปลี่ยนความคิดแล้ว ถ้าความรู้สึกของเธอจะเปลี่ยนไปก็คงไม่แปลกสินะ? เพราะอย่างนั้นเลยอยากให้เธอมองย้อนกลับไปอีกสักทีว่าจะตัวเลือกไหนดีที่สุดก็จะดีนะ เพราะหลังจากนี้ไป ถ้าดำเนินการตามแผนแล้วเลิกกับคุณคาเรนแล้ว จะย้อนกลับมาอีกเป็นครั้งที่สองไม่ได้แล้วนะคะ”
“ผมมาถึงจุดที่ ‘ย้อนกลับไปไม่ได้’ ตั้งแต่ตอนที่คาเรนนอกใจแล้วล่ะครับ! ตัวผมตอนนี้น่ะ ไม่สามารถกลับมาคบกับคุณคาเรนได้อย่างเดิมอีกแล้ว ตอนนี้เองผมก็จำใจเจอกับนังนั่นก็เพื่อทำตามแผนอยู่นะครับ”
จากนั้นผมก็พูดตัดเข้าอีกประโยคหนึ่ง ด้วยความหนักแน่นที่มี
“อีกอย่างคาเรนน่ะ ยังไงก็จะนอกใจอีกครั้งแน่นอนครับ”
ตอนนั้นเอง เสียงถอนหายใจของรุ่นพี่โทวโกะดัง ‘ฟู่ว~’ ก็ได้ยินมาจากโทรศัพท์
“ความตั้งใจของเธอหนักแน่นถึงขนาดนั้นก็ดีค่ะ จะไม่พูดอะไรแล้ว ฉันเองก็ไม่มีความตั้งใจจะคบกับเทตสึยะเลยตั้งแต่ต้นแล้วล่ะ มาทำตามแผนการที่วางไว้แต่แรกกันเถอะ มุ่งสู่วันชี้ชะตากันค่ะ”
“ครับ ฝากตัวด้วยนะครับ จากนี้ไปจะทำอะไรต่อดีครับ?”
“สำหรับตอนนี้ คิดว่าความรู้สึกของคุณคาเรนกลับมาหาอิชชิกิคุงพอสมควรแล้วล่ะ ก่อนอื่นทำต่อไปค่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ แต่ผมว่าความรู้สึกที่คาเรนมีให้ผมตอนนี้ มันก็แค่ประชดรุ่นพี่คาโมกุระเท่านั้นหรอกครับ ถ้าทั้งสองคนกลับมานอกใจกันอีก ผมว่าเดี๋ยวก็กลับมาอีหรอบเดิมหรอกไหมครับ?”
“เพราะฉะนั้นต้องเสริมเข้าไปอีกนิดล่ะนะ”
“อะไรหรอครับ?”
“เคยคุยกันก่อนหน้านี้แล้วไง หนุ่มที่ว่า ‘เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้หญิง’ น่ะค่ะ”
เรื่องนั้นเคยคุยกันมาก่อนแล้ว
แต่ว่า จะทำยังไงบ้างดี ผมนึกไม่ออกเลย
“แล้วเรื่องนั้น ในรายละเอียดต้องทำอะไรบ้างดีหรอครับ? ผมนึกไม่ค่อยออกเลยครับ”
“นั่นสินะ เธอคงจะจำ ‘สิ่งที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้’ ได้อยู่ก็จริง แต่แค่นั้นไม่พอหรอกเนอะ ดังนั้นฉันจะหาโอกาสให้เธอตรงนี้ให้เอง”
“ทำยังไงหรอครับ?”
“ครั้งหน้า ฉันจะรวบรวมสาว ๆ ที่รู้จักกับคนในชมรมค่ะ ข้ออ้างก็ให้เป็น… ‘พูดคุยกันเรื่องอีเวนท์ฤดูหนาวพวกงานคริสต์มาส ปีใหม่ หรือวาเลนไทน์’ อะไรทำนองนี้แล้วกันค่ะ”
“ฮ่า”
“จากนั้นอิชชิกิคุงก็แสร้งทำเป็นบังเอิญเข้ามาแถวนั้นพอดี จากนั้นก็พาเข้ามาในท่ามกลางสาว ๆ แล้วก็ทำให้ความนิยมของเธอมากขึ้นล่ะค่ะ”
“มันจะไปได้สวยหรอครับ? ไม่ใช่ว่าลำพังแค่ผู้ชายเข้ามาในวงสนทนาของผู้หญิงแล้ว จะโดนเกลียดเอาอย่างนั้นหรอครับ?”
“ก่อนหน้านั้นฉันจะทำเหมือนว่า ‘อยากฟังความเห็นจากผู้ชายบ้างจัง’ อะไรแบบนี้ไว้ก่อนค่ะ พอแบบนั้นเสร็จ ถ้าบังเอิญเธออยู่แถวนั้นพอดี จะเข้ามาในวงสนทนาก็คงจะดูไม่แปลกจริงไหมล่ะคะ?”
“อา อย่างนั้นก็ได้ครับ แต่ว่าผมไม่มีหัวข้อสนทนาที่จะทำให้สาว ๆ สนใจขนาดนั้นน่ะสิครับ”
“ถ้างั้น ไปศึกษาเรื่องแอปที่ฉันจะพูดหลังจากนี้มานะ ‘แอปกล้องเซลฟี่สำหรับสมาร์ทโฟน'”
รุ่นพี่โทวโกะร่ายเรียงชื่อแอปกล้องเซลฟี่มาหลายรูปแบบ
“ข้อดีข้อเสียของแอปกล้องพวกนี้ แล้วก็เสียเงินหรือฟรี มีคุณสมบัติอะไรบ้าง ถ้าสามารถอธิบายให้สาว ๆ ฟังแบบเข้าใจง่ายได้ล่ะก็ จะได้แต้มเยอะพอตัวเลยล่ะค่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง”
มันก็จริง ผู้หญิงค่อนข้างระมัดระวังเรื่องรูปถ่ายที่อัพขึ้นโซเชียลกันพอสมควร
ถ้ามีแอปที่ทำให้ดูน่ารักขึ้นได้อีกแม้สักนิด ก็คงจะอยากรู้ข้อมูลพวกนั้นกันแน่
“ระหว่างที่คุยเรื่องนั้น ให้เธอพยายามทำตัวให้ ‘เชี่ยวชาญเรื่องโปรแกรมมิ่่ง’ ดูนะ อันที่จริง พวกเราเองก็อยู่ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ด้วยสิ แถมก่อนหน้านี้เธอเองก็บอกฉันว่า ‘เชี่ยวชาญเรื่อง Java กับ Python อยู่พอตัว’ ด้วยนี่นะ?”
ผมบอกเรื่องนั้นไปจริง ๆ
ที่ว่าก็เพราะกับ ‘รุ่นพี่โทวโกะที่มีผลการเรียนสูงสุดในเอกวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ชั้นปีที่ 2’ ถ้าจะให้พูดอะไรที่พอจะเทียบไหล่กันได้แม้เพียงสักนิด สำหรับผมก็คงจะมีแต่เรื่องนั้นเท่านั้นแหละ
“ตอนนี้ภาควิชาศิลปศาสตร์เองก็มีวิชาโปรแกรมมิ่งอยู่ด้วยนะ เพราะอย่างนั้นผู้หญิงที่ต้องดิ้นรนอย่างหนักกับวิชาโปรแกรมมิ่งมีอยู่เยอะทีเดียว จนถึงตอนนี้ก็มีคนมาขอให้ฉันทำโปรแกรมให้อยู่หรอก ฉันอยากให้เธอมาทำให้แทนน่ะ คิดว่าแค่นี้ก็ทำให้ความนิยมในกลุ่มผู้หญิงดีขึ้นพอตัวแล้วล่ะค่ะ หลังจากนั้นระยะยาวก็จะได้พูดคุยกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ได้ด้วยนะคะ”
อย่างนี้นี่เอง ถ้าเรื่องนั้นตัวเราเองก็พอทำได้อยู่แล้ว
“เดิมที ชื่อเสียงในกลุ่มผู้หญิงของอิชชิกิคุงก็ไม่ได้แย่นะ ตั้งแต่เริ่มเข้ามหาลัยฯ มาก็มีคนรอบข้างฉันมาบอกอยู่ว่ามีเด็กที่ ‘หนุ่มหล่อน่ารักโคตร’ อยู่ด้วยแหละนะ”
“จริงหรอครับ?”
กล้ามเนื้อใบหน้าเราคลายลงโดยไม่รู้ตัว
“จริงสิ ถ้าไม่อย่างนั้นคุณคาเรน คงไม่เลือกมาคบด้วยหรอก”
ถึงผมจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการประเมินคนในสายตาผู้หญิงเท่าไรนัก แต่ถ้าเป็นรุ่นพี่โทวโกะบอกมาอย่างนั้นล่ะก็ มันคงจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ แหละ
แต่ว่าผมนึกขึ้นมาตรงนั้นได้อย่างหนึ่ง
“ว่าแต่แผนการนี้ จะไม่เป็นเรื่องหรอครับ?”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็ถ้าผมกับรุ่นพี่โทวโกะคุยกันแบบนี้ คนอื่นเขาก็จะรู้กันใช่ไหมล่ะครับ ถ้าอย่างนั้น คาเรนหรือคาโมกุระก็จะได้ยินเรื่องนี้เอาได้ไม่ใช่หรอครับ?”
ทว่ารุ่นพี่โทวโกะตอบมาอย่างใจนิ่ง
“ประเด็นนั้นฉันคิดเอาไว้แล้วค่ะ คาซุมิจะเป็นคนเรียกเธอเอง เพราะงั้นสำหรับตัวฉันก็จะอาศัยแง่ ‘ความสัมพันธ์ที่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องจากโรงเรียนมัธยมปลายที่เดียวกัน’ เอาค่ะ”
โอ้ สมกับเป็นรุ่นพี่โทวโกะ
เรื่องนั้นเองก็เตรียมการเอาไว้แล้วด้วยสินะ
“ให้เธอทำตัวไปตามปกติในชมรมเหมือนก่อนหน้านี้ไปก่อน อย่าคุยกับฉันมาก ให้ความสำคัญกับการพูดคุยกับเด็กคนอื่น ๆ นะ ฉันเองก็จะทำเป็นไม่ค่อยสนใจเรื่องของเธอให้มากเหมือนกัน”
หลังจากนั้น ผมกับรุ่นพี่โทวโกะก็คุยกันเรื่อง ‘จะเริ่มแผนการที่ว่าประมาณช่วงไหน’ ‘ผมควรจะพูดคุยกับเหล่าผู้หญิงเรื่องอะไรบ้าง’ ‘เจอกันที่ร้านไหนดีที่ดูบังเอิญมากที่สุด’ ประมาณนั้น
เรื่องดำเนินตามแผนนั้น ตกลงกันว่า ‘หากสมาชิกกลุ่มผู้หญิงที่มารวมตัวกันตกลงกันได้เมื่อไรจะติดต่อไปอีกที’
นอกจากนี้ในขณะเดียวกัน ‘ลักษณะนิสัยของสมาชิกกลุ่มผู้หญิง, เรื่องที่สนใจ, เรื่องที่ไม่ชอบ’ เหล่านี้ รุ่นพี่โทวโกะจะส่งข้อความบอกมาให้เท่าที่รู้
ผมที่เห็นอย่างนั้น ก็จะคิดเอาได้ว่า ‘แต่ละคนหัวข้อไหนน่าจะชอบ หัวข้อไหนควรหลีกเลี่ยง’
ถึงตอนแรกจะคิดว่า ‘ให้สร้างความนิยมในกลุ่มผู้หญิงทั้งหมดอะไรเนี่ย ไม่ไหวหรอก!’ แต่พอได้ฟังจากรุ่นพี่โทวโกะแล้ว รู้สึกแลดูง่ายกว่าที่คิด
อีกอย่างตัวรุ่นพี่โทวโกะเอง ก็จะคอยสนับสนุนผมในวงผู้หญิงให้ด้วยล่ะนะ
มันจะง่าย ๆ สบาย ๆ ไหมนะ
จากนั้น ——
การนอกใจของคาเรนกับคาโมกุระก็กลับมาอีกครั้ง
ตั้งแต่ ‘วันที่ทริปเที่ยวนอกใจล่มไป’ วันนั้น ประมาณหนึ่งสัปดาห์ครึ่งผ่านไป วันพฤหัสบดีเท่านั้น
เอาจริง จะเรียกว่าไร้วินัยดี หรือเรียกว่าใจง่ายดี