ขณะที่รอเย็บริมกางเกงขายาวอยู่นั้น ผมกับรุ่นพี่โทวโกะก็เข้าไปในร้านกาแฟใกล้ ๆ
ขณะที่กำลังดื่มคาเฟ่ลาเต้ที่สั่งมานั้น รุ่นพี่โทวโกะก็พูดขึ้น
“ช่วงแรก ๆ จะสวมเซ็ตเสื้อที่เพิ่งซื้อมาเลยก็ได้นะ จากนั้นก็ค่อย ๆ ซื้อเสื้อที่เหมาะกับชุดนั้นก็ได้ค่ะ ถึงท่อนล่างจะใส่เหมือนเดิม แค่เปลี่ยนท่อนบนก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกันได้มากทีเดียว”
“อ่า” ผมตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจ
“หลังจากนี้ถ้าไม่มั่นใจเรื่องเสื้อผ้า เลี่ยงพวกเสื้อมีลายก็ดีนะคะ แม้ว่าเราจะคิดว่าดี แต่คนอื่นอาจจะไม่คิดแบบนั้นก็ได้ แล้วก็พวกเสื้อผ้าเก่า ๆ เลิกได้ก็ดีนะ เพราะการดูเสื้อเก่าให้ดีค่อนข้างยากค่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง”
หรือก็คือ ผมไม่มีคำไหนจะพูดตอบนอกจากนั้นแล้ว
“แล้วก็ที่สำคัญ ต่อให้แต่งตัวดีแค่ไหน แต่ถ้าท่าทาง, การเดินไม่สง่าล่ะก็พังหมดค่ะ เพราะฉะนั้นต้องระวังทางทางการเดินด้วย ก่อนอื่นห้ามหลังงอเป็นแมว โดยเฉพาะพวกหนุ่มคณะวิทย์ที่ใช้คอมฯ บ่อย ๆ พวกนี้ หลังงอกันเยอะเลย ให้นึกภาพเหมือนสันหลังเป็นหมุดที่กำลังถูกเส้นด้ายตรึงไว้กับที่เหนือหัวขึ้นมานิดหน่อยไว้เสมอค่ะ ส่วนวิธีการเดินเนี่ย ไว้ครั้งหน้า ถ้ามีเวลาจะค่อย ๆ อธิบายให้ฟังแล้วกันค่ะ”
พอคำแนะนำเหล่านั้นเข้ามาในหัว ก็เกิดคำถามผุดขึ้นมาในหัวอย่างนึง
——รุ่นพี่โทวโกะ ทำไมถึงได้เคยชินกับพวกแฟชั่นได้ถึงขนาดนี้ ไม่ใช่แค่เป็นแฟชั่นตามสมัยนิยมเฉย ๆ แต่ทั้งยังแนะนำเสื้อผ้าให้ผู้ชายธรรมดาบ้าน ๆ อย่างผมได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องพูดถึงขนาดท่าทางการเดิน มันมีเหตุผลอะไรอยู่กันแน่นะ?——
“รุ่นพี่โทวโกะครับ ทำไมถึงได้คุ้นเคยกับแฟชั่นได้ขนาดนี้หรอครับ?”
เธอทำสีหน้าตกตะลึงไปพักหนึ่ง
“เอ้ะ เรื่องนั้นก็นี่ไง เพราะฉันเป็นผู้หญิงไงคะ”
“แต่ว่าที่เลือกกันอยู่นี้มันเสื้อผ้าผู้ชายใช่ไหมล่ะครับ? นี่มันไม่ใช่แฟชั่นตามความนิยม แต่เป็นการเลือกเสื้อผ้าที่เข้ากันพอดีกับผู้ชายธรรมดาได้ แถมยังดูมั่นใจกับที่เลือกมาด้วย นอกจากนั้นยังแนะนำกระทั่งท่าทางการเดินเพื่อให้ดูเหมาะสมกับการแต่งตัวได้เนี่ย มันต้องมีเหตุผลอะไรอยู่นะครับ…”
ทันใดนั้น รุ่นพี่โทวโกะก็หลบสายตาผม
ก้มหน้าลงอยู่พักหนึ่ง
ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้น แล้วเอ่ยด้วยอารมณ์ยอมแพ้
“จริง ๆ แล้วฉัน แอบเป็นโมเดลทางบ้าน* ให้กับนิตยสารแฟชั่นแบบลับ ๆ ไม่บอกใครอยู่น่ะค่ะ ดังนั้นไม่ว่าจะชายหญิง ก็เคยมีโอกาสได้ฟังเรื่องแฟชั่นต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ น่ะ”
“โมเดลทางบ้าน หรอครับ?”
ผมถามย้อนกลับไป ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร
ถ้าเป็นสไตล์หรือรูปลักษณ์ภายนอกของรุ่นพี่โทวโกะเนี่ย ต่อให้เป็นนางแบบก็ยังได้
“อืม ฉันเคยถูกแมวมองที่ชินจุกุสมัยมัธยมปลาย แต่มาเริ่มทำงานโมเดลก็ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว ตอนแรกก็ปฏิเสธไปอยู่หรอก แต่พวกแมวมองก็มุ่งมั่นเหลือเกิน พอลองไปดู ๆ ที่ตรงนั้น สำนักงานก็ดูน่าเชื่อถือดี ก็เลยว่า อะ เข้าไปที่สำนักงานไปก่อนละกัน คิดเอาว่า ‘ถ้าได้แต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิงน่ารัก ๆ แบบนั้นก็เข้าท่าดีนะ'”
“แล้วนอกจากเรื่องการจัดทรงการแต่งตัวแล้ว ก็ยังเน้นถึงเรื่องวิธีการเดินด้วยสินะครับ ทำตรงนั้นอยู่นานแค่ไหนหรอครับ?”
“ปีที่แล้วปีเดียวเอง ออกนิตยสารหลาย ๆ เล่มในชื่อ ‘SAKURAKO’ น่ะ”
“ก็คือตอนนี้ ไม่ได้ทำแล้วหรอครับ?”
“อื้ม พอดีว่าขายดีเกินกว่าที่คิดไว้เยอะ ไม่อยากจะให้กระทบกับชีวิตนักเรียนตามปกติน่ะ แถมช่วงฤดูใบไม้ผลิ คนที่สำนักงานก็ถามมาว่า ‘ไม่ลองทำนางแบบกราเวียร์ดูหรอ’ ฉันก็ไม่ได้คิดอยากจะไปถึงขั้นนั่นน่ะค่ะ”
จริงอยู่ ถ้าเป็นรุ่นพี่โทวโกะล่ะก็ เธอก็มีสไตล์ที่พอจะเป็นนางแบบกราเรียร์ได้อยู่
ถึงร่างกายจะเรียวบางแต่หน้าอกใหญ่
เป็นสไตล์ที่ผู้ชายใฝ่ฝันเลยทีเดียว
“ขอร้องล่ะนะคะ อย่าไปบอกใครเลยนะ ฉันน่ะ อยากให้มันเป็นความลับตลอดไปเลย”
รุ่นพี่โทวโกะพูดกับผมด้วยสายตาอ้อนวอน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่บอกใครอยู่แล้ว”
ถึงตรงนั้นผมยังนึกค้างคาใจอยู่หน่อย
“แบบนี้ถ้าทำถึงขนาดนางแบบแฟชั่น แทนที่จะถามผม เด็กผู้หญิงน่ารัก ๆ ก็มีอยู่เยอะ น่าจะเคยทำเสื้อผ้าพวกนี้อยู่ไม่ใช่หรอครับ?”
ทว่ารุ่นพี่โทวโกะส่ายหัว
“ถ้าให้พูดตามตรง ฉันดูแลส่วนของแฟชั่นแนวชิค ๆ ซะส่วนใหญ่ เพราะงั้นเลยไม่ได้แตะต้องแฟชั่นพวก ‘ผู้หญิง ผู้หญิง’ เลย อีกอย่างที่ฉันอยากรู้ไม่ใช่ ‘เสื้อเด็กผู้หญิงน่ารัก’ ซะหน่อย แต่เป็นภาพรวมของ ‘เด็กผู้หญิงที่น่ารัก น่าปกป้อง ในสายตาของผู้ชาย’ มากกว่าน่ะ”
เข้าใจละ แค่เพราะเป็นคนสวยไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะไปได้สวยสินะ
หลังจากที่รอประมาณชั่วโมงกว่า พวกเราก็กลับไปที่ ZU อีกครั้ง รับเสื้อที่ซื้อมาแล้วก็กลับบ้าน
ผมบอกขอบคุณรุ่นพี่โทวโกะในรถไฟ
“วันนี้ขอบคุณมากนะครับ เพราะพี่เลยถึงได้ ‘เสื้อเหมาะ ๆ ใส่แล้วมั่นใจ’ มาได้ถึง 3 เซตเลย”
ถ้าเป็นเสื้อที่รุ่นพี่โทวโกะเลือกให้ล่ะก็
ไม่ผิดแน่นอน
“ทางนี้ก็เหมือนกันค่ะ ฉันเองก็เพิ่งจะเคยเลือกเสื้อผ้าผู้ชายครั้งแรกเหมือนกัน สนุกมากเลยค่ะ”
เธอทำสีหน้ารอยยิ้มอย่างสดใส
ได้เห็นแบบนั้น ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ไว้ครั้งหน้า ถ้ามีเวลาตอนนั้นมาเลือกชุดหน้าหนาวด้วยกันได้ไหมครับ?”
“ได้สิคะ วันชี้ชะตาก็เป็นช่วงหน้าหนาวด้วยสิ ถึงตอนนั้นต้องเลือกให้สมบูรณ์แบบเลยนะ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็ชี้นิ้วเรียวมาทางผม
“ก่อนถึงตอนนั้น อย่าลืม ‘ค่าตอบแทนของฉัน’ ด้วยนะคะ”
“ไม่ต้องห่วงครับ ตอนนี้เองก็กำลังรวบรวมความคิดอยู่ครับ”
“แล้วเมื่อไร ถึงจะเอามาให้ดูได้ล่ะ?”
“อืม~ม ผมคนเดียวยังมีตัวอย่างไม่พอ กำลังคิดว่าอยากจะฟังความเห็นจากคนอื่น ๆ อีกสักหน่อยด้วยน่ะครับ”
“เดี๋ยวนะ อย่าพูดไปให้ทั่วมากนะ ถ้าฉันความแตกขึ้นมามันออกจะน่าอายออก!”
“อะ ขอโทษนะครับ จริงด้วยนะ แต่กลายเป็นความเห็นของผมคนเดียวเองนา”
“เอาน่ะ เอาที่อิชชิกิคุงชอบก็พอแล้วน่ะ รีบบอกฉันทีเถอะน่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ ถ้างั้นสักวันจันทร์สัปดาห์หน้าก็แล้วกัน”
“เอาเถอะ ถ้าผิดสัญญาฉันล่ะก็ ชั้นจะบอกว่า ‘ไปถามหาความเห็นจากเน็ต’ เอาก็ได้แล้วนะ!”
ผมยิ้มกรุ้มกริ่ม
อันที่จริง ก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่า ‘เอาแบบนั้นดีมั้ยนะ’
MANGA DISCUSSION