[นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu - ตอนที่ 24 "หลักสูตรหนุ่มเนื้อหอม" โดยรุ่นพี่โทวโกะ
- Home
- [นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu
- ตอนที่ 24 "หลักสูตรหนุ่มเนื้อหอม" โดยรุ่นพี่โทวโกะ
พอผมกับรุ่นพี่โทวโกะออกจากร้านกาแฟ ก็เข้าไปในร้านอาหารครอบครัวบนทางหลวง
ด้วยความที่บทสนทนาของเราที่ร้านกาแฟค่อนข้างจะยืดยาว หรือเอาง่าย ๆ ก็คือเพราะหิวด้วย ก็เลยบอกไปว่าเปลี่ยนร้านกันเถอะ
รุ่นพี่โทวโกะสั่งเป็นพาสต้า ส่วนผมเป็นเซ็ตแฮมเบิร์ก
“แล้วรุ่นพี่โทวโกะครับ เรื่องของผมที่ว่า ‘วิธีทำให้คาเรนหลงรักแบบสุด ๆ’ ก่อนวันชี้ชะตาน่ะครับ รุ่นพี่โทวโกะช่วยสอน ‘กลยุทธ์’ ให้หน่อยได้ไหมครับ?”
รุ่นพี่โทวโกะนั่งจมลงไปกับเก้าอี้ ก่อนจะเริ่มอธิบาย
“ก่อนหน้านี้ฉันพูดไว้สองอย่างสินะคะ อย่างแรกคือ ‘ทำให้แผนเที่ยวล่ม’ เรื่องนั้นเธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรค่ะ ก็แค่ถ้าคุณคาเรนบอกว่า ‘อยากไปเที่ยวกับเพื่อน’ ก็แค่ตอบส่งเธอไปอย่างอ่อนโยนว่า ‘ขอให้สนุกนะ’ ก็โอเคแล้ว”
“รุ่นพี่โทวโกะก็จะจัดการกับรุ่นพี่คาโมกุระให้ได้ แล้วแผนเที่ยวก็จะโดนยกเลิกก่อนนัด อย่างนั้นสินะครับ”
“ใช่แล้ว เทตสึยะเอง ก็ยังไม่ได้ตั้งใจจะคบถึงขนาดจะกล้าขัดใจฉันหรอก แต่ว่าคุณคาเรนที่ถูกยกเลิกแผนเที่ยวที่ตั้งตารอมานานก็คงจะเดือดดาลพอสมควรเลยล่ะค่ะ สายตาที่เธอมองเทตสึยะก็จะเปลี่ยนไป ตอนนั้นเองในทางกลับกันพอรู้สึกได้ถึงตัวตนของเธอที่คอยเฝ้ามองดูเธออย่างอ่อนโยนและอบอุ่น คุณคาเรนก็คงจะนึกขึ้นมาได้เองค่ะว่าใครคือที่หนึ่ง”
เรื่องนั้นจะไปได้สวยหรือเปล่านะ ก็พอมีนึกสงสัยแวบขึ้นมาบ้าง แต่น่าแปลกใจที่พอฟังจากปากรุ่นพี่โทวโกะทีไรแล้วดูเหมือนจะเป็นไปได้ง่าย ๆ เลยแฮะ
“แล้วอีกอย่างนึงล่ะครับ?”
“ก็คืออย่างที่พูดไปเมื่อกี้นี้ ‘เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้หญิง’ ไงคะ”
“ไม่ค่อยเข้าใจวิธีการนั้นเท่าไรเลยครับ ช่วยลงรายละเอียดอีกสักหน่อยได้ไหมครับ”
“ก่อนอื่นก็ต้องไม่ทำให้ผู้หญิงเกลียดซะก่อน อันนี้อย่างแรกเลยค่ะ”
“เราทุกคนก็พยายามทำตัวไม่ให้โดนเกลียดเอาได้อยู่แล้วไม่ใช่หรอครับ?”
“รึเปล่านะ? เรื่องนั้นฉันคิดว่าผู้ชายไม่ค่อยเอาใจใส่สักเท่าไรเลยนะคะ?”
“หมายถึงจุดไหนหรอครับ?
“ถ้าเป็นเรื่องภายนอกก็อย่างเช่น ปล่อยให้ผมเซอ, ขนจมูกออก, ขี้ตาติด, หนวดไม่โกน, เสื้อผ้ารุงรัง ทั้งหมดนี้ถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปเขาไม่ปล่อยไว้หรอกนะคะ”
ผมนึกย้อนภาพจำกลับไป
จริงด้วย ผู้หญิงแบบที่ว่าแทบจะไม่มีเลย
“เคยคิดไหมว่าทุก ๆ วันผู้หญิงใช้เวลาไปกับการดูแลจัดการร่างกายตัวเองนานแค่ไหนน่ะ? อย่างดีก็ต้องชั่วโมงสองชั่วโมงเลย”
เป็นมาอย่างนี้เอง
จริงอยู่เวลาไปเที่ยวกับผู้หญิง ถ้าจัดเสื้อผ้าหน้าผมตัวเองให้เรียบร้อยก็คงจะดีล่ะนะ
“ดังนั้นการทำภาพลักษณ์ภายนอกให้สะอาดสะอ้านนี่เป็นขั้นต่ำเลยค่ะ การใส่เสื้อผ้าตามเทรนด์อะไร หรือทำทรงผมให้หล่อเท่นี่ไม่ใช่ประเด็นเลย ผู้ชายเนื้อหอมน่ะเขาจะเน้นใส่ใจเรื่องความสะอาดของหน้าตาภายนอกนะคะ”
หลังจากรุ่นพี่โทวโกะพูด
“ซึ่งจุดนั้น อิชชิกิคุงเคลียร์แล้วล่ะค่ะ”
เธอบอกอย่างนั้น
“ขอบคุณครับ แล้วอย่างอื่นล่ะครับ?”
“ส่วนถ้าพูดเรื่องทัศนคติเอย การทำตัวเอย การแตะเนื้อต้องตัวแบบที่บางหนังสือบอกนั่นก็ทำให้ถูกเกลียดเอาได้นะ ‘ลูบ ๆ หัว’ เอย ถ้าไม่ใช่ผู้ชายที่สนิทกันหรือไม่ได้ชอบทำก็คงจะไม่น่าพอใจเท่าไร เพราะงั้นคุยกันในระยะที่เป็นธรรมชาติแค่นั้นดีกว่าเยอะค่ะ”
โห ปากแซ่บ!
แต่ผมเองก็คิดว่า ‘ลูบ ๆ หัว’ เอย ‘คาเบะด้ง*’ เอยนี่ ไอบ้าที่ไหนเขาจะทำกัน
“เวลาฟังเรื่องกลุ้มใจเองก็เถอะ ผู้ชายที่ไม่เข้าใจตรงนี้มีเยอะเหมือนกันเนอะ คนที่พอผู้หญิงมาปรึกษาเรื่องกลุ้มใจก็คิดกันไปว่า ‘ต้องเป็นที่พึ่งให้’ แล้วก็พยายามทุ่มสุดตัวเพื่อที่จะให้คำแนะนำอะไรไม่เข้าท่านี่มีเยอะค่ะ ผู้หญิงเนี่ย เขาไม่ได้ต้องการคำตอบหรือทฤษฎีอะไรที่มาแก้ปัญหาให้นะ เขาต้องการแค่ให้รับฟังเฉย ๆ หรอกค่ะ พอถูกบอกมาว่า ‘มันต้องเป็นอย่างนั้นสิ’ บ้างล่ะ ‘ทำอย่างนี้สิ’ บ้างล่ะ บางทีก็ทำให้คิดนะว่า ‘ห๊ะ? ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นซะหน่อยเหอะ’ ยิ่งถ้าวิจารณ์กลับมานี่ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ”
ร- รู้สึกว่า วันนี้รุ่นพี่โทวโกะ ดูน่ากลัวโคตร ๆ เลย
“เพราะงั้นเธอน่ะ ต่อจากนี้ไปเวลาคุยกับผู้หญิงนะ เอาง่าย ๆ แค่รับฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูดแค่นั้นก็พอแล้ว แล้วก็ตอบกลับไปว่า ‘นั่นสินะ ผมก็เคยมีแบบนั้นเหมือนกัน’ เป็นครั้งคราวบ้างก็พอแล้วค่ะ”
เรื่องนั้นดีแล้วล่ะ
เวลาผมคุยกับผู้หญิงที่ไม่ค่อยรู้จัก แล้วไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ก็จะไม่ค่อยหลุดปากอะไรไปมากนัก
“อ้ะ แต่ว่าตอนประโยคแรกหรือหัวข้อที่จะคุยเนี่ย ถ้าฝ่ายชายเป็นคนเปิดก็จะดีนะคะ ถ้ามาเงียบใส่กันหรือให้ความรู้สึกน่ากลัวขึ้นมาก็คงทำเอาคิดว่า ‘ต้องการอะไรคะ?’ ขึ้นมาก็ได้นะ”
เข้าใจยากแท้น้อ ผู้หญิงเนี่ย
“ที่เหลือก็ ในกลุ่มผู้หญิงก็ต้องปฏิบัติให้เท่าเทียมกัน ผู้หญิงเนี่ยสัมผัสไวมากกระทั่งความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงเธอที่ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจะรู้สึกดีใจอยู่ก็เถอะ แต่สำหรับคนอื่น ๆ คงไม่รู้สึกปลื้มด้วยแน่ค่ะ สุดท้ายแล้วคนที่ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษเอง พอทนสายตารอบข้างไม่ไหวก็จะปลีกตัวไปอยู่ดี”
จากนั้นรุ่นพี่โทวโกะก็อธิบายให้ฟังว่า ‘บรรยากาศของกลุ่ม’ สำคัญมากแค่ไหนสำหรับผู้หญิง
“แล้วรุ่นพี่โทวโกะครับ แค่ทำให้ความนิยมในกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น จะทำให้ความรู้สึกของคาเรนกลับมาได้หรอครับ?”
รุ่นพี่โทวโกะพยักหน้า
“ในสายตาฉันคิดว่า คุณคาเรนเป็นคนประเภทที่มีความต้องการแบบที่ว่าเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างสูงน่ะค่ะ คนประเภทที่ว่านี้ แค่อ่อนโยนอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะคะ พอรู้สึกว่า ‘ถ้าโอเคเท่านี้ ก็อยากให้เป็นแบบนี้ต่อไป ถ้าโอเคมากกว่านี้ได้ ก็อยากจะให้ได้มากกว่านี้อีก!’ ทำให้ ‘เกณฑ์ความรักที่น่าพอใจ’ สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ น่ะ”
เรื่องนั้นผมเข้าใจดีเลยทีเดียว
ตรงกับที่รุ่นพี่โทวโกะว่ามาไม่มีผิด
คาเรนช่วงแรก ๆ ก็ชอบขอร้องอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ดูน่ารัก จากนั้นเรื่องเหล่านั้นก็กลายเป็นเรื่องที่ทำเป็นประจำ จนเริ่มขออะไรหลาย ๆ อย่างจากผมมากขึ้นเรื่อย ๆ
จากนั้นพอไม่ได้ดั่งใจขึ้นมา ก็จะอารมณ์เสียทุกครั้งไป ถึงขนาดจู่ ๆ ก็โมโหขึ้นมาเลยก็มี
“คนแบบที่ว่าเองก็มักจะนอกใจง่ายล่ะนะ พอผู้ชายคนเดียวทำให้พอใจไม่ได้ ก็จะเริ่มมองหาคนอื่น แล้วก็ว่า ‘แฟนหนุ่มแย่ตรงที่ไม่เข้าใจฉันเลย ไม่เข้าใจความรู้สึกกันเลย รู้สึกไม่ได้รับความรักมากพอ’ เพื่อเป็นข้ออ้างในการนอกใจล่ะค่ะ”
รุ่นพี่โทวโกะครับ เลิกเรียนวิศวกรรมข้อมูล แล้วมาเป็นจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาดีกว่ามั้ยครับผมว่า——
“คนประเภทที่มีความเรียกร้องความสนใจสูงที่ว่าเนี่ย จะมีความสนใจเรื่องสายตาของคนในกลุ่ม เพราะฉะนั้นถ้าผู้หญิงรอบข้างพูดกันว่า ‘อิชชิกิเนี่ยดีจังเลยน้า!’ ล่ะก็ คงไม่มีทางปล่อยมือจากแฟนหนุ่มแบบนั้นได้หรอกค่ะ ไม่แน่ว่าเพราะอย่างนั้นคุณคาเรนที่เป็นแบบนั้นเอง ถึงได้นอกใจกับเทตสึยะที่เป็นที่เป็นทั้งคนท่ามกลางฝูงชน แล้วก็เป็นที่นิยมในเหล่าผู้หญิงในชมรมด้วยก็ได้นะคะ”
เป็นเรื่องที่มั่นใจมากที่เดียว
ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เงียบปากฟังรุ่นพี่โทวโกะพูดต่อไป
“เพราะงั้นไม่ว่าเธอจะอ่อนโยนสักแค่ไหน แต่สำหรับเธอมันก็แค่ ‘เรื่องปกติ’ ฉะนั้นไม่อาจจะฟื้นความรู้สึกของเธอคืนมาได้หรอก เพราะงั้นต้องทำให้เหล่าผู้หญิงรอบข้างประเมินค่าเราไว้ให้สูง เพื่อที่จะทำให้คุณคาเรนคิดว่า ‘ไม่อยากปล่อยมือจากอิชชิกิคุงเลย’ ‘อยากให้เป็นของฉันคนเดียว’ จะดีกว่านะคะ”
ผมค่อนข้างประทับใจพลังในการสังเกตและเจาะลึกของรุ่นพี่โทวโกะขึ้นมาแล้ว
โดยเฉพาะเรื่องที่ ‘เรียกร้องจากผมมากขึ้นเรื่อย ๆ’ ของคาเรนเนี่ย อย่างกับมาเห็นกับตาเองเลยหรือไงกัน
“นอกจากนี้ถ้าสามารถเป็นที่จับตามองของสาว ๆ มากกว่าผู้ชายรอบข้างได้ก็จะสมบูรณ์แบบเลยค่ะ”
“เรื่องนั้นต้องทำยังไงหรอครับ?”
ทันใดนั้นรุ่นพี่โทวโกะก็ทำสีหน้ามีเลศนัย
แลดูร้ายกาจ จากนั้นก็ร้องขอขึ้นมา
“คำแนะนำฟรีจบถึงแค่นี้ค่ะ จากตรงนี้ไปฉันเองก็อยากได้ค่าตอบแทนเหมือนกันนะ”
“ค่าตอบแทนหรอครับ? เงินหรอครับ?”
“ฉันไม่ต้องการเงินหรอกค่ะ มันมีอะไรที่สำคัญมากกว่านั้นสำหรับฉันอีกค่ะ…”
“สิ่งที่สำคัญสำหรับรุ่นพี่โทวโกะ?”
อะไรกันนะ นึกไม่ออกเลยเว้ย
“ฉันอะนะ…..***************”
เสียงของรุ่นพี่โทวโกะจู่ ๆ ก็เบาลงทันใด
“เอะ? อะไรนะครับ?”
“ก็แบบว่า…..***************”
ท่าทางรุ่นพี่โทวโกะดูแปลก ๆ เหมือนว่าลำบากใจที่จะพูด ดูลนขึ้นมาพิกล
“ขอโทษนะครับ ไม่ค่อยได้ยินเท่าไรเลย? ช่วยพูดเสียงดังขึ้นอีกหน่อยได้ไหมครับ?”
“อา โธ่!”
รุ่นพี่โทวโกะทำหน้าแดง พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนโกรธ
“อยากให้สอนวิธีเป็น ‘ผู้หญิงน่ารัก’ ให้ฉันหน่อยน่ะ!”
“——“
ผมหมดคำพูดไปครู่หนึ่ง
รุ่นพี่โทวโกะหน้าแดงเรื่อไปถึงหู
“ก่อนหน้านี้เคยบอกอยู่ใช่ไหมล่ะ? ‘ฉันเองก็อยากจะน่ารัก’ น่ะ เพราะงั้นอยากให้สอนวิธีเป็น ‘ผู้หญิงน่ารัก’ ในมุมของผู้ชายให้หน่อยน่ะ”
ตอนที่เธอพูดไปก็ทำท่าทางลุกลี้ลุกลนไปพลาง
——ความรู้สึกตอนนี้ เท่านี้ก็ ‘น่ารัก’ แล้วล่ะครับ รุ่นพี่โทวโกะ——
ผมหัวเราะขึ้นมา
รุ่นพี่โทวโกะที่ปกติเป็นผู้หญิงสวยสมบูรณ์แบบ ใจเย็น และฉลาดหลักแหลม มาขอร้องผมเรื่องอย่างนั้น
“ฮะ ๆ”
เผลอหลุดพรืดโดยไม่ทันตั้งตัว
“อ- อะไร? ทำไมถึงหัวเราะน่ะ?”
รุ่นพี่โทวโกะทั้งที่หน้ายังแดง มองมาที่ผมอย่างกระวนกระวาย
“เปล่าครับ ขอโทษครับ พอดีเหลือเชื่อนิดหน่อยน่ะครับ”
“อะไรกัน เหลือเชื่อที่ว่าน่ะ! ตะกี้เพิ่งจะบอกไปเองนะ ว่าให้ดูผู้หญิง——“
“ขอโทษนะครับ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรอกครับ ไม่ได้คิดจะปฏิเสธเรื่องที่รุ่นพี่โทวโกะบอกมาหรอกนะครับ”
พอผมพูดไปอย่างนั้น รุ่นพี่โทวโกะก่อนอื่นก็ดูเหมือนจะถอนคำพูดไปก่อน
แต่ก็ยังมุ่ยปากอย่างไม่พอใจ
หน้ายังคาแดงอยู่อย่างนั้น
“แต่ว่า เป็นผมจะดีแล้วหรอครับ? ‘ผู้หญิงน่ารัก’ ในความคิดของคนแบบผมน่ะครับ”
เรื่องนั้นเองก็น่าตลกดี
สาวสวยสมบูรณ์แบบ ให้คนโคตรธรรมดาอย่างผม ‘สอนให้เป็นผู้หญิงน่ารัก’ หน่อยเนี่ย
“ก็เพราะเป็นเธอถึงขอร้องได้ไงล่ะ เรื่องแบบนี้ถ้าเป็นคนอื่น ๆ ล่ะ ไม่กล้ารบกวนหรอก”
เธอคงจะเขินอยู่กระมัง จึงเหล่ตาขึ้นมามองผมทั้งที่ก้มหน้าอยู่
“เข้าใจแล้วครับ ถ้าเป็นผมได้ล่ะก็ ไว้ครั้งหน้าผมจะสรุปเรื่อง ‘ผู้หญิงน่ารัก’ มาสอนก็แล้วกันนะครับ”
“รายงานต้องเกิน 5 หน้าแต่ไม่เกิน 10 หน้า สรุปบทคัดย่อให้เสร็จด้วย! ถ้าได้เกรดต่ำกว่า C ต้องส่งรายงานซ่อมด้วยนะคะ!”
เธอเล่นมุกนั้นออกมาด้วยความเขิน แล้วก็หันข้างใส่ “ฮึ” ใบหน้ายังคงแดงเรื่อ
ภาพที่เห็นตอนนี้น่ะ น่ารักจริง ๆ เลยน้า รุ่นพี่โทวโกะ