[นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu - ตอนที่ 23 ตัดสินวันชี้ชะตา! (ตอนปลาย)
- Home
- [นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu
- ตอนที่ 23 ตัดสินวันชี้ชะตา! (ตอนปลาย)
“ส่วนเรื่องคุณคาเรน ฉันพอจะนึกได้อย่างนึงค่ะ”
รุ่นพี่โทวโกะชูนิ้วชี้ขึ้นมา
ให้ความรู้สึกเหมือนความลับนิดหน่อย
“อะไรหรอครับ บอกหน่อย”
“ผู้หญิงเนี่ย เป็นสัตว์สังคมค่ะ โดยเฉพาะผู้หญิงแบบแฟนสาวเธอน่ะ”
“สัตว์สังคม? หมายความว่ายังไงหรอครับ?”
มนุษย์เป็นสัตว์ที่อยู่กันเป็นสังคมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่กับเรื่องที่คาเรนจะมาชอบผม มันเกี่ยวกันยังไง?
“ถ้าอิชชิกิคุงไม่เข้าใจตรงนี้ล่ะก็ แสดงว่ามีจุดผิดพลาดอย่างมหันต์แล้วล่ะค่ะ”
“พลาดอย่างมหันต์ เลยหรอครับ?”
ผมที่รู้สึกค้างคาใจกับประโยคนั้น จึงย้อนถาม
“ใช่ หรือจะเรียกว่าผู้ชายทุกคนที่คิดว่า ‘เรามันไม่เนื้อหอม’ ก็ได้ค่ะ”
ความหมายของสิ่งที่รุ่นพี่โทวโกะกำลังสื่อ ผมไม่เข้าใจเลยสักนิด
“คิดว่าการจะเป็นผู้ชายเนื้อหอมนี่ม้นต้องมีอะไรบ้างล่ะ?”
ผมที่ทำสีหน้าแบบนั้นใส่ รุ่นพี่โทวโกะจึงถามอย่างนั้นกลับมา
“มันก็ ต้องหล่อ ต้องเล่นกีฬาเก่ง ร่างสูง ที่เหลือก็เรื่องภายในอย่างเช่น ฉลาดบ้าง จิตใจดีอะไรแบบนั้นสินะครับ?”
“นั่นคือคุณสมบัติของ ‘ผู้ชายเนื้อหอม’ ในความคิดของผู้ชายสินะคะ?”
“ผู้หญิงไม่คิดอย่างนั้นหรอครับ?”
“จะว่าสิ่งที่เธอพูดมาไม่ใช่เลยก็คงจะไม่ได้อยู่หรอกแต่ว่า เรื่องนั้นมันไม่ใช่สิ่งสำคัญค่ะ มันยังมีอีกปัจจัยนึงที่สำคัญยิ่งกว่านั้นอีก?”
“ปัจจัยสำคัญหรอครับ?”
“ตัวอย่างเช่น ที่เธอว่า ‘หล่อ นักกีฬา ร่างสูง หัวดี ใจดี’ ถ้าของพวกนี้มันจำเป็นล่ะก็ เรื่องที่นักแสดงตลกหน้าตาไม่หล่อนักแต่งงานกับผู้ประกาศข่าวหญิงมากความสามารถ* ก็คงจะแปลกมากใช่ไหมล่ะคะ?”
“แต่ว่านักแสดงตลกก็น่าจะมีเงินไม่ใช่หรอครับ? คารมคมคายด้วย”
“ต่อให้ไม่ดัง นักแสดงที่แต่งงานกับผู้ประกาศข่าวหญิงหรือนักแสดงหญิงชื่อดังก็มีอยู่ใช่ไหมล่ะ?”
“อา ก็จริงครับ”
“แล้วก็คุณสมบัติอย่างนึงที่ฉันพูดถึง ‘คารมคมคาย’ ที่เธอว่ามันก็มีส่วน”
“ก็คือให้พูดจาเอาอกเอาใจผู้หญิงเก่ง ๆ อะไรแบบนี้หรอครับ?”
“ผิดแล้ว ก่อนอื่นต้อง ‘เป็นผู้ฟังที่ดี’ เพื่อ ‘พูดเดาใจอีกฝ่ายให้ออก’ แล้ว ‘สร้างบรรยากาศให้ดี’ ล่ะนะ”
เป็นผู้ฟังที่ดี, พูดเดาใจอีกฝ่ายให้ออก, สร้างบรรยากาศที่ดีให้ได้
ถึงจะลาง ๆ แต่ก็รู้สึกเข้าใจสิ่งที่พูดอยู่บ้าง
“ลำพังแค่พูดจา ‘คารมคมคาย’ อยู่คนเดียวไม่ทำให้ผู้หญิงชอบขึ้นมาได้หรอกนะ ก่อนอื่นต้อง ‘เป็นผู้ฟังที่ดี’ เพื่อเอาใจใส่ด้วยความรู้สึก อีกฝ่ายที่เป็นแบบนั้นมักจะเป็นที่ชอบมากกว่านะคะ”
“สรุปก็คือ ให้ผม ‘ไปฟังเรื่องของคาเรนซะ’ อย่างนั้นหรอครับ?”
ตัวผมเองก็รับฟังสิ่งที่คาเรนพูดอยู่แล้ว
เพราะยังไงคาเรนเอง ปกติก็เป็นคนจำพวกออกความเห็นข้างเดียวอยู่แล้ว
“ไม่ถูกเท่าไร ฉันว่าเธอเองเป็นคนที่ตั้งใจฟังคนอื่นดีแล้วล่ะนะ ที่คุยกับฉันเองก็พอจะรู้สึกได้อยู่”
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเรื่องการพูดหรอครับ? หรือว่าสร้างบรรยากาศ?”
“ใช่แล้ว การสร้างบรรยากาศล่ะ แต่ว่าไม่ใช่การบิ้วอารมณ์ระหว่างคู่รักแบบนั้นนะคะ”
ผมเริ่มจะกลับมาไม่เข้าใจสิ่งที่รุ่นพี่โทวโกะกำลังสื่ออักแล้ว
อย่างกับแก้ปริศนาอยู่เลย
“แล้วต้องสร้างบรรยากาศแบบไหนหรอครับ?”
“บรรยากาศแบบกลุ่มค่ะ ถ้าให้พูดตรง ๆ ก็คือ ‘การเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้หญิง’ นั่นเองค่ะ”
——ห๊ะ?——
ผมนี่อึ้งกิมกี่
‘การเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้หญิง’ งั้นหรอ?
สุดท้ายมันก็คือ ‘เป็นผู้ชายเนื้อหอมซะ’ ไม่ใช่เรอะ?
ถ้าต้องทำให้ได้ถึงขนาดนั้นล่ะก็ อย่าหาทำให้ลำบากตัวเลย
รุ่นพี่โทวโกะ เธอมีแฟนเป็น ‘ผู้ชายที่สาว ๆ กรี๊ดกร๊าด’ อย่างคาโมกุระนี่ ถึงได้มองว่ามันง่ายขนาดนั้นหรอกมั้ย?
“แต่ว่าเรื่องนั้นมันออกจะยากมาก ๆ เลยไหมครับ? เดิมทีแค่ทำให้คาเรนคนเดียวตกหลุมรักแค่นั้นมันก็ลำบากแล้ว ให้ผู้หญิงทุกคนตกหลุมรักนี่เป็นไปไม่ได้เลยครับ ที่ว่ามาดูจะให้ความสำคัญผิดกันไปหน่อยไหมครับนั่น”
ทว่ารุ่นพี่โทวโกะหลับตาลง ส่ายหัวนิด ๆ
“อย่าเข้าใจผิดไปสิคะ ไม่ได้หมายความว่า ‘ทำให้ผู้หญิงทุกคนตกหลุมรัก’ ซะหน่อย เรื่องนั้นมันก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ทำไม่ได้หรอกค่ะ แทนที่จะสื่ออย่างนั้น ฉันหมายความแค่ว่า ‘ทำให้ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น’ เองค่ะ”
“อา เข้าใจความหมายที่พูดแล้วครับ แต่ว่าถ้าได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้หญิงมากขึ้นแล้ว จะทำให้คาเรนชอบผมมากขึ้นได้หรอครับ?”
“เรื่องนั้นก็คงเป็นทางเดียวที่คิดว่าทำได้แล้วล่ะค่ะ อย่างน้อยก็สำหรับคุณคาเรนอะนะคะ”
อื~ม พูดตามตรง ก็มีบางประเด็นที่ยังไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่รุ่นพี่โทวโกะกำลังสื่ออยู่ ถึงจะย่อยได้ไม่ทั้งหมดก็เถอะ…
แต่มันก็ทำให้ ‘หน้าตาของคาเรน’ ในมุมของรุ่นพี่โทวโกะที่ผมมองไม่เห็น ให้เห็นขึ้นมาได้บ้าง
“แล้วเรื่องนั้น ผมจะต้องทำยังไงหรอครับ?”
“เรื่องนั้นไว้คุยลงรายละเอียดกันอีกทีนึงแล้วกันนะ ไม่ต้องห่วง ถ้าทำตามที่ฉันบอกล่ะก็ รับรองว่ายังมีโอกาสสำเร็จอยู่ นอกนั้นก็มีแค่เรื่องการเตรียมตัวและเตรียมใจของเธอแล้วล่ะ”
จากนั้นรุ่นพี่โทวโกะก็ดื่มชามะนาวอย่างช้า ๆ
แล้ววางแก้วคืนบนโต๊ะ
“แต่เรื่องที่สำคัญกว่านั้น ก็คือเรื่องที่เรากำหนดวันที่จะปล่อยหมัดน็อคเอาท์ใส่คนนอกใจคู่นั้นไว้แล้วค่ะ!”
รุ่นพี่โทวโกะมองมาที่ผมด้วยสายตาประกายแสงแรงกว่าก่อนหน้านี้
“ถ้าเราสร้างแผนการไม่รู้กี่แผนโดยที่ไม่มีเส้นตายล่ะก็ มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นจริงได้หรอกค่ะ เพราะฉะนั้นเราจะกำหนดวันคริสต์มาสอีฟเป็นวันชี้ชะตาค่ะ เข้าใจไหมคะ?”
ใช่แล้ว รุ่นพี่โทวโกะพูดถูก
จะปล่อยให้มันยืดเยื้อไปถึงเมื่อไรไม่ได้ มีแต่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมแล้วเล่นเกมเสียเท่านั้น
เพราะอย่างนั้น ถึงได้มาทำสิ่งนี้ตรงนี้ไงล่ะ
“เข้าใจแล้วครับ ลุยกันเถอะ เรามีเวลาอีกแค่สองเดือนเท่านั้น!”
“ใจมันต้องอย่างนั้น!”
รุ่นพี่โทวโกะปล่อยหัวเราะเสียงหล่อ