[นิยายแปล] I'm Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! - ตอนที่ 15 เปิดประตู
【วัตถุระเบิด (ระดับ 2) 】
【ผลลัพธ์: ทันทีที่ระเบิด จะสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และสร้างความเสียหายเผาไหม้ต่อเนื่อง 7 หน่วยต่อวินาที ในขณะที่ทำลายสิ่งรอบข้างไปด้วย 】
[คำอธิบาย: ____คือศิลปะ (โปรดกรอกคำที่ถูกต้อง) 】
กวนซานเพ่งมองที่คออยู่หลายวินาที
จากนั้นเขาก็จำได้ว่าผู้โดยสารคนนี้สวมปลอกคอสีดำที่ดูเชย ดังนั้นดูจากตำแหน่ง… นั่นคือระเบิดเองเหรอ?
บ้าไปแล้ว!
คนปกติจะติดระเบิดรอบคอเขาไว้ทำเพื่อ…
ไม่สิ นี่ก็ถูกแล้ว จริงอยู่ที่คนปกติจะไม่ทำกัน
แต่ตอนนี้ กวนชานอยู่ในฉากเกมสยองขวัญที่จำลองโดยระบบ เพราะงั้นเขาจึงคิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้วแหละ
ช่างสมเหตุสมผลจริงๆ!
ในเมื่อสามารถเห็น Glock 17 ได้ในร้านอาหาร การมีระเบิดบนรถเมล์จึงไม่ควรน่าตื่นตระหนกเช่นกัน
ก็เขากำลังเล่นเกมสยองขวัญอยู่นี่ ถูกมั้ยล่ะ!
และแล้ว กวนซานก็เริ่มเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆว่า ตอนที่เขาก้าวขึ้นรถเมล์ เขาก็ได้เข้าสู่ฉากเสมือนจริงที่สร้างโดยระบบจำลองแล้ว
แทนที่จะเป็นตอนที่เสียงจำลองดังว่า “การสแกนฉากเสร็จสมบูรณ์…”
ผู้โดยสารที่กลายเป็นคนหัวขาด ก็น่าจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการจำลองฉากตั้งแต่แรกเริ่มเลย
เฮอะ ถึงกับสร้างความเสมือนจริงก่อนเวลาเพื่อทำให้ผู้เล่นตกใจ ระบบจำลองนี้ช่างแย่มาก!
“จากประสบการณ์ของการจำลองครั้งแรก ระบบจำลองนี้จะไม่มีวันสร้างสถานการณ์จนตรอกสุดๆ มันจะมีไอเทมและฉากซึ่งเอื้ออำนวยต่อการฝ่าฟันออกไป”
กวนซานเริ่มเร่งรีบใช้สมอง “ตอนที่คนขับออกมา การเปลี่ยนแปลงซึ่งใหญ่ที่สุดคือผนังเนื้อที่กระจายไปทั่วตัวรถ”
รอบๆตัวเขา รวมทั้งตรงเท้าของเขา ล้วนเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีม่วงอมแดงที่แผ่กลิ่นอายลี้ลับอันน่าสะพรึงกลัว
สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นส่วนหนึ่งของฉากเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกถึงอันตรายซึ่งอาจมาได้ทุกเมื่อ
ดิ้นกระเพื่อม หยั่งกับมีชีวิต…
กวนซานได้เปลี่ยนความคิดว่า “ผนังเนื้อนี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งของคนขับ!”
“ตราบใดที่ชั้นอยู่ในรถคันนี้ ก็เท่ากับว่าถูกมันควบคุมไว้ ดังนั้นการที่ชายคนนี้ไม่เร่งรีบโจมตีตั้งแต่ต้น นั่นเป็นเพราะเรื่องนี้รึเปล่า?”
“แต่… หากเป็นรูปการณ์นี้ วัตถุระเบิดที่สามารถสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างและสิ่งต่างๆรอบข้าง ก็คือกุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์!”
“คนขับต้องเดินผ่านศพเมื่อเขาต้องการย่างเท้าเข้ามาหา หากต้องการสร้างความเสียหายให้มากที่สุด ก็ต้องให้เขาเข้าใกล้วัตถุระเบิดมากที่สุด ชั้นจึงมีโอกาสแค่ครั้งเดียว”
“เมื่อรถระเบิด ชั้นจะใช้ชะแลงเปิดประตูออกไป…”
กวนชานข่มใจไม่ให้กลัว สูดหายใจเข้าลึก และขยับร่างกายให้พร้อมลุย
หลังจากอัพเป็นเลเวล 9 สมรรถภาพทางกายของเขาก็ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับแต่ก่อน และการเคลื่อนไหวร่างกายของเขาก็ดีขึ้นไม่น้อยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น ตอนมอนสเตอร์แมงมุมโจมตีเมื่อกี้นี้ หากเป็นเขาคนเก่า ก็น่าจะถูกแทงกลางแสกหน้า และตายคาที่อย่างไม่น่าแปลกใจเลย
แต่ครั้งนี้ มันโดนแค่ “-5” อันจิ๊บจ๊อย และเกิดรอยแผลบนหน้าเท่านั้น
ถ้าเขาได้เผชิญหน้ากับพ่อครัวอีกครั้ง กวนชานมั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาตัวรอดได้แม้จะอยู่ในระยะห่างช่วงแขน
แต่แม้ร่างกายจะรวดเร็วคล่องแคล่วขึ้นแค่ไหนก็ตาม ระบบจำลองจะแก้ปัญหาเรื่องการปรับตัวให้ทั้งหมด…
“ตึ้ง! ตึ้ง! ตึ้ง!”
ในเวลานี้
บนหลังคารถ ได้มีเสียงดังทึบแว่วมาให้ได้ยินอยู่ตลอด บางครั้งก็ปนกับเสียงแหลมจากของมีคมเสียดสีกับโลหะ
ฟังดูก็รู้แล้วว่ามอนสเตอร์แมงมุมบนหลังคารถ กำลังใช้ขาปล้องยาวของมันเดินอยู่บนหลังคารถ
ร่างกายที่ใหญ่โตและน่าขยะแขยงได้กดหลังคารถจมลงเป็นแอ่งเล็กๆ และปลายที่แหลมคมของขาก็เกือบจะทะลุเข้าไปในแผ่นเหล็กของหลังคา ซึ่งได้ทิ้งรอยลึกเอาไว้ตามรายทางที่มันเดิน
“…ดีมาก ระบบจำลองไม่เพียงแก้ปัญหาให้ แต่ยังสร้างปัญหาเพิ่มด้วย”
“หลังจากที่ชั้นหนีไปด้านนอก ชั้นยังต้องเผชิญกับแมงมุมพิษต่อ และหากโดนแทงอีกรอบ ก็จะไม่มีผ้าพันแผลให้ใช้รักษา”
กวนซานมองดูคนขับไร้หน้าที่เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมทั้งจดจ่อฟังเสียงฝีเท้าของมอนสเตอร์บนหลังคารถ และคิดวิธีการนึงขึ้นได้ “คิดมากไปทำไม ก็แค่ฆ่ามันไปพร้อมกันเลย!”
“ตึ้ง…”
เสียงฝีเท้าทึบบนหลังคารถได้ใกล้เข้ามาอีกครั้ง ในค่ำคืนอันเงียบสงัดนี้ มันเปรียบเสมือนคลื่นที่แผ่ออกมาจากจุดๆเดียว
ในตอนนี้กวนชานมีประสาทสัมผัสในการฟังที่เฉียบคมมากขึ้น และด้วยการฟังอย่างตั้งใจจดจ่อ เขาจึงสามารถระบุตำแหน่งของแมงมุมได้อย่างง่ายดาย
“ฮี่ฮี่ เคี้ย เคี้ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า…” คนขับรถได้ส่ายหน้าไปมาและเปล่งเสียงหัวเราะแปลกๆ
หน้าของมันได้เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามแต่ละก้าวที่เดิน
ฝ่ามือของกวนซานได้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ หัวใจเขาเต้นเร็วขึ้น และเขาได้เดินไปที่ประตูหลังรถที่ถูกผนังเนื้อขวางกั้นไว้
เขาหลับตาลง รถเมล์ทั้งคันได้แปรเปลี่ยนเป็นแผนที่ ส่วนคนขับกับแมงมุมได้กลายเป็นตำแหน่งสองจุด และระยะทางระหว่างศพผู้โดยสารก็ใกล้กระชั้นชิดเข้ามาเรื่อยๆ
“ใกล้อีกนิด…ใกล้อีกนิด…”
คนขับได้เดินผ่านศพไปแล้ว
แต่เจ้าแมงมุมได้อยู่เหนือศพพอดี!
“ตอนนี้แหละ!”
“ปัง ปัง ปัง ปัง…”
ในที่สุดกวนชานก็เลิกกลั้นหายใจ ชักปืน Glock 17 ออกมาจากบริเวณด้านหลังเขา และยิงกระสุนหลายนัดไปตรงคอของศพ
[วัตถุระเบิด] ในสายตาของเขา หรือก็คือตัวปลอกคอสีดำ ได้กำลังส่องแสงสีแดงเหมือนไอเทมสำคัญในเกมไม่มีผิด
กระสุนได้พุ่งตรงไปที่แสงสีแดงด้วยความเร็วที่เกินกว่าสายตามนุษย์จะมองเห็น
ส่วนคนขับนั้นเห็นได้ชัดว่าได้ตอบสนองไม่ทัน หลังจากอึ้งงันไปสองวินาที เขาก็กู่ร้องคำรามสุดเสียง ทั่วใบหน้าของเขาต่างเริ่มบิดเบี้ยว
“กรึบ! กรึบ!”
ใบหน้ามันได้เปลี่ยนไปเหมือนภาพวาด “เสียงกรีดร้อง(The Scream)” ที่มีชื่อเสียง
(ภาพวาดโดย เอ็ดวัด มุงก์)
ผนังเนื้อทุกจุดก็ปั่นป่วนตอบสนองตาม
ชั้นเนื้อสีม่วงอมดำได้แสดงท่าทีโมโหโกรธา และได้ดิ้นกระเพื่อมอย่างรุนแรงราวกับคลื่นท้องทะเล
ส่วนหนึ่งพยายามหยุดกระสุน และอีกส่วนหนึ่งได้พุ่งออกมาหากวนซาน
แต่หลังจากที่กวนชานชักปืนออกมายิงแล้ว เขาก็ไม่คิดหันกลับไปมองอีกเลย
เขามุ่งความสนใจมาอีกด้านและเปลี่ยนมีดเลาะกระดูกเป็นชะแลง นำมันออกมา แล้วสอดเข้าไปยังช่องว่างประตูรถ เมื่อผนังเนื้อเหล่านี้พยายามรุมล้อมเขา เขาก็ออกแรงงัดชะแลงทันที!
【ชะแลง】
【ผลลัพธ์: เปิดประตูทุกบานที่ไม่อาจเปิดได้ 】
[คำอธิบาย: ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งกฏฟิสิกส์ คุณคือบุคคลซึ่งควรค่าต่อมัน 】
“เปรี๊ยะ! ปัง!”
ประตูหลังได้เปิดออกตามแรงงัด และกวนซานก็กระโดดออกมาโดยพลัน
—
เถาหลัวคาดไม่ถึงว่าจู่ๆกวนซานจะชักปืนออกมา เขาเอาปืนจากไหนกันฟะ? !
แต่สิ่งเดียวที่ชัดเจนคือ เขาถูกหลอก
เถาหลัวได้โกรธจัดและสั่งการโลหะของรถทั้งหมด
พวกมันเชื่อฟังคำสั่งของเขาและเปลี่ยนเป็นคมดาบเพื่อแทงกวนซาน และในเวลาเดียวกันนั้นเอง พวกมันก็เปลี่ยนประตูหลังให้กลายเป็นแผ่นเหล็กที่เหมือนถูกหล่อมขึ้นเป็นแผ่นเดียวตั้งแต่แรก
มันปิดตายมิดชิด ไม่มีเหลือช่องว่างเลยแม้แต่น้อย!
“ชั้นจะดูว่าแกจะหนีไปไหน!”
ริมฝีปากของเถาหลัวได้เปลี่ยนเป็นเย้ยหยัน แต่ไม่ช้าไม่นานมันก็แข็งค้างเติ่งบนใบหน้าของเขา
เพราะเขาเห็นกวนชานเสกชะแลงจากความว่างเปล่า และเสียบมันไว้ตรงกึ่งกลางแผ่นเหล็ก
จากนั้น
เหมือนกับตอนที่โมเสสได้แหวกท้องทะเล
ประตูก็ได้ถูกแหวกออกทั้งอย่างงั้น
“ชะแลงนี่แหละเจ๋งที่สุดแล้ว” – กอร์ดอน ฟรีแมน บิดาแห่งชะแลงได้กล่าวไว้