[นิยายแปล] I'm Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! - ตอนที่ 1 ร้านอาหารที่ไม่มีอยู่จริง
- Home
- [นิยายแปล] I'm Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า!
- ตอนที่ 1 ร้านอาหารที่ไม่มีอยู่จริง
“เสี่ยวซาน งั้นฉันไปก่อนนะ ดูเวลาให้ดี อย่าทำงานสายจนเกินไปล่ะ…”
หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามได้ลุกขึ้นจากโต๊ะ โบกมือให้กวนซานและได้เอ่ยเสียงแผ่วเบาแก่เขา
ใบหน้าที่อวบอิ่มของหญิงสาวได้แสดงท่าทีจริงจังออกมาภายใต้แสงไฟที่สาดส่อง ผิวของเธอมีสีขาว นัยน์ตาของเธอมีสีดำเข้มอันกระจ่างและสดใสจนสามารถสะท้อนให้เห็นถึงรูปลักษณ์ของกวนซานได้
หญิงสาวคนนี้ชื่อเสินติงฮัว และเธอเป็นช่างภาพของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ชื่อ “ข่าวภาคค่ำหางโจว”
และกวนซานก็เป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นด้วยเช่นกัน
ทั้งสองต่างเติบโตมาด้วยกันและเป็นคู่ซี้ตั้งแต่วัยเด็ก
กวนซานกล่าวโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองว่า “รู้แล้วน่า ชั้นจะไปหลังจากที่เกลาต้นฉบับนี้แล้ว”
เสินติงฮัวพองแก้มของเธอ เธอขยับเข้าไปใกล้กวนซานและพูดงึมงำว่า “ครั้งที่แล้วนายก็พูดอย่างงี้เลย ฉันโทรหานายตอนตีสอง นายก็ยังทำงานอยู่… การนอนดึกนั้นไม่ดีต่อสุขภาพของนายหรอกนะ”
“อย่าพูดเหมือนชั้นถูกสำนักพิมพ์บังคับให้ทำงานล่วงเวลาสิ ชั้นแค่นอนที่บ้านไม่หลับ ชั้นก็เลยทำงานที่ค้างให้เสร็จไปเลยดีกว่า”
กวนซานตอกกลับและถอนหายใจออกมา “แล้วทีเธอทำไมถึงยังไม่นอนล่ะ? แถมเธอยังโทรหาชั้นตอนกลางดึกด้วย ถ้าชั้นหลับอยู่ ไม่ใช่ว่าชั้นดันโดนเธอปลุกหรอกรึ!”
“อย่าพูดแดกดันใส่ฉันสิ…”
หญิงสาวย่อตัวลงทันทีและกุมศีรษะด้วยมือของเธอ เธอมองดูกวนซานด้วยท่าทีน่าสงสาร จากนั้นก็ยกมือขึ้นเหนือศีรษะของเธอเหมือนเสาอากาศและกล่าวว่า “ก็เพราะบ้านนายอยู่ตรงข้ามบ้านฉันเองน่ะสิ! ฉันแค่เปิดม่านดู ก็เห็นแล้วว่าไฟห้องนอนของนายยังเปิดอยู่รึเปล่า”
กวนซานได้ยื่นนิ้วออกมาและดีดหน้าผากของหญิงสาว “แม่คนฉลาดเอ๊ย”
“อ๊ะ!”
หญิงสาวหดมือด้วยความตื่นตระหนก เธอได้เสียการทรงตัวและหงายหลังไป
กวนซานตกใจและได้เอื้อมมือไปคว้าเธอทันที แต่เขากลับถูกคว้าไว้แทน
เมื่อเขามองดู ก็เห็นเสินติงฮัวกระพริบตามองเขาโดยไม่มีวี่แววว่าจะล้มลง
เธอลุกขึ้นยืนด้วยตนเองและถามด้วยรอยยิ้มกริ่มว่า “กวนซาน ทำไมนายถึงถูกหลอกทุกครั้งร่ำไปเลยน้า?”
กวนซานหันหน้าหนีและพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ไม่รู้สิ!”
จากนั้นกวนซานก็ไม่พูดอะไรอีกไม่ว่าเธอจะง้อยังไงก็ตาม
“งั้น…ฉันไปแล้วน้า กวนซาน—อย่าลืมกลับดึกเกินไปล่ะ ฉันจะคอยดูนาย”
“รู้แล้วน่ารู้แล้ว”
แม้เขาจะพูดอย่างนั้น แต่ครั้นเมื่อกวนซานเดินออกจากสำนักพิมพ์ มันก็ดึกมากแล้ว
ยามค่ำคืนในหางโจวนั้นไม่เงียบงันเลย แสงไฟฟ้าและแสงรถสัญจรได้ก่อตัวจนดูราวกับอีกกาแล็กซีหนึ่ง และสายลมยามกลางคืนในฤดูร้อนก็พัดโชยเย็นสบายอยู่บ้าง
“โครก~”
กวนซานแตะท้องที่ว่างเปล่าของเขา เพราะนึกขึ้นได้ว่าเขานั้นได้ลืมกินข้าวเย็น
‘ตอนนี้ ร้านอาหารที่ชั้นกินประจำคงปิดแล้ว… หรือว่ากลับไปกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่บ้านดีน้า?’ เขาคิดเช่นนั้น หลังจากเดินไปอยู่หลายก้าวเขาก็เห็นกล่องไฟโฆษณานึง
[ร้านนี้มีบุฟเฟ่ต์เนื้อ 30 หยวนต่อคนเท่านั้น รับประกันความอิ่มแน่นอน]
กวนซานได้เงยหน้าขึ้นมองป้ายขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้น และคิดอย่างสงสัยว่า “ร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อ? ไม่ยักเห็นมาก่อนแฮะ หรือว่าเป็นร้านใหม่ที่เพิ่งเปิดขึ้นไม่นานมานี้หว่า?”
มันเลยเวลาเที่ยงคืนแล้ว และมีคนเดินผ่านไปมาไม่มากนัก แต่ร้านอาหารที่อยู่ตรงหน้ากลับสว่างไสว และมีเสียงคนดังเล็ดลอดออกมาอยู่เป็นระยะ
กล่องไฟตรงทางเข้าได้ดึงดูดบรรดาแมลงเม่าและยุงเป็นจำนวนมาก ซึ่งกำลังบินรอบและกระแทกเข้าใส่กล่องอย่างต่อเนื่อง ผืนดินที่กำลังซ่อนอยู่ในเงามืดได้ถูกปกคลุมไปด้วยซากแมลงอย่างเนืองแน่น
หากมองผ่านหน้าต่างกระจก ก็จะสามารถเห็นเหล่าลูกค้าที่กำลังจดจ่ออยู่กับอาหารได้อย่างรางๆ เกือบทุกโต๊ะเต็มไปด้วยจานอาหารมากมาย บางจานก็กองจนสูง และยังสามารถเห็นเนื้อสัตว์หลากหลายประเภทถูกเคี่ยวเข้าด้วยกัน หรือแม้แต่เนื้อสัตว์ที่แยกแยะไม่ออกอีกด้วย
กวนซานลองสูดดม ก็ได้กลิ่นเนื้อเข้มข้นอันผสมกับบรรดาเครื่องเทศ น้ำมัน และเกลือ ซึ่งน่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง
“กลิ่นหอมมาก!”
กลิ่นเนื้อนี้ประดุจตะขอเกี่ยว ที่ได้มุดเข้าไปในท้องของคนโดยตรง คว้าความอยากอาหารแล้วดึงมันออกมา
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อต้านเลย แม้ว่าความสะอาดจะดูแย่ และราคาก็ถูกอย่างน่าสงสัย แต่มันหอมหวนมาก… หิวจังแฮะ…
“โครก!”
กวนซานได้กลืนน้ำลาย จมูกและปากของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของเนื้ออันทำให้น้ำลายสอ และท้องของเขาก็เริ่มร้องอีกครั้ง
ความหิวได้เข้าครอบงำจิตใจเขาในทันที ซึ่งปล่อยให้เขาเหลือเพียงความคิดเดียวที่เหลืออยู่
‘กลิ่นหอมมาก… หิวเหลือเกิน… ชั้นอยากกิน! อยากกิน อยากกิน อยากกิน…’
เมื่อกวนซานรู้สึกตัว เขาก็ได้เปิดประตูกระจกและเดินเข้าไปในร้านอาหารเรียบร้อยแล้ว
หลังจากก้าวเข้าไป เสียงที่มีสีสันซึ่งได้ยินจากภายนอกก็หายไปในทันควัน
กลับกลายเป็นเสียงเคี้ยว กลืน และเสียงถ้วยจานกระทบกัน รวมเข้าเป็นเสียงพื้นหลังอันอึกกะทึก
ไม่มีใครพูดคุยกัน และลูกค้าทุกคนก็กำลังกัดแทะเนื้อบนจานของพวกเขาอยู่ถ่ายเดียว
สาวเสิร์ฟได้เข้ามาต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “สวัสดีค่ะ กี่ท่านคะ?”
“คนเดียวครับ”
กวนซานกลืนน้ำลายอีกครั้ง การได้กลิ่นเนื้อที่ล่องลอยในอากาศ รั้งแต่ทำให้เขารู้สึกถึงความหิวเท่านั้น และไม่มีเรี่ยวแรงอื่นที่จะสนใจใครอีกแล้ว
หลังจากจ่ายเงินแล้ว เขาก็เหลือบมองหาที่ว่าง และเดินไปนั่งทันที
เขาเอี้ยวตัวเดินผ่านระหว่างโต๊ะทั้งสอง และบังเอิญชนจานเข้า
“ฉิบหายแล้ว!”
กวนซานก้มมองลงดู ก็พบว่ามันคือไส้อันอวบอ้วนชิ้นหนึ่งได้ตกลงมายังพื้น ไขมันสีขาวได้ไหลซึมออกมาจากไส้ใหญ่นั้น และสามารถมองเห็นร่องรอยของเลือดได้ในท่ามกลางแสงอันนวลตา
“อ้า! ขอโทษครับ!”
กวนซานรีบขอโทษ แต่ลูกค้าวัยกลางคนผู้นั้นไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง อีกทั้งยังไม่ยี่หระว่าเสื้อผ้าของเขาจะสกปรกหรือไม่ด้วย เขายังคงยัดเนื้อเข้าปากของเขา และแค่นเสียงราวกับสัตว์ร้ายจากลำคอ
กวนซานเกาหัวงุนงงเมื่อเห็นแบบนั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงเลือกที่จะไม่รบกวน และเดินไปยังจุดหมายของเขาต่อ
เขานั่งลงตรงที่นั่งว่าง กลืนน้ำลายอีกรอบ และรอให้สาวเสิร์ฟมาหาเขา
เขาเปิดโทรศัพท์ เข้าสู่เพนกวิน และส่งข้อความถึงเสินติงฮัว
【ซานไว่ชิงซาน】: “มีร้านบุฟเฟ่ต์เปิดใหม่ใกล้ๆสำนักพิมพ์ดูเข้าท่ามาก คราวหน้ามาลองกินด้วยกันมั้ย?”
【รุ่ยเซียง】: “นายทำงานดึกอีกแล้ว [○`Д′○]!”
【ซานไว่ชิงซาน】: “ดึกยังไง? ยังไม่ถึงเที่ยงคืนสักหน่อย นี่คือช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นชีวิตยามค่ำคืนที่แจ่มที่สุดนะเออ”
【รุ่ยเซียง】: “ทำเป็นเล่นลิ้น! เฮอะ, โชคดีที่ฉันยังรออยู่ ฉันต้มซุปโกจิเบอร์รี่, อินทผลัม และเห็ดหูหนูขาวไว้ให้แล้ว รีบกลับมากินซะ ヽ(`Д’)?! “
【รุ่ยเซียง】: “ว่าแต่, บุฟเฟ่ต์อะไรกัน? ไม่มีร้านเปิดใหม่อยู่ใกล้สำนักพิมพ์หรอกนะ”
【ซานไว่ชิงซาน】: “ร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อไง แค่เลี้ยวซ้ายตรงข้ามสำนักพิมพ์”
【รุ่ยเซียง】: “?”
【รุ่ยเซียง】: “เลี้ยวซ้ายฝั่งตรงข้ามยังคงเป็นร้านขายขนม SX ที่ปิดอยู่นะ ฉันบังเอิญไปที่นั่นวันนี้ตามถนนและถ่ายรูป ไม่มีร้านบุฟเฟ่ต์น้า จำผิดรึเปล่า?”
ภาพถ่ายได้ถูกส่งมาจากอีกฝ่ายนึง มันถ่ายได้ชัดเจนมาก ช่วงเวลาคือวันนี้ และสถานที่ก็คือที่ซึ่งกวนซานเห็นกล่องไฟโฆษณา
กล่องไฟในภาพได้เขียนว่า “ผัดหมี่ ข้าวผัด…” และคำอื่นๆ ซึ่งด้านหลังของมันเป็นร้านขายขนม SX
ม่านตาของกวนซานได้หดตัวเข้า และครู่ต่อมา เขาก็รู้สึกหนังศีรษะด้านชาขึ้น
ถ้ามันเป็นร้านขายขนม SX มาโดยตลอด งั้นตอนนี้เขาเข้ามาอยู่ที่ไหนกันเนี่ย!
“ตึ้ง”
จานอันหนักอึ้ง ได้ถูกวางกระแทกบนโต๊ะอาหารและส่งเสียงทึบออกมา
กวนซานเงยหน้าขึ้นมองโดยพลันและเห็นสาวเสิร์ฟกำลังส่งยิ้มให้ “คุณคะ ฉันขอให้คุณทานอาหารอย่างมีความสุขนะคะ”
“ขอบคุณ, ขอบคุณครับ…”
กวนซานเค้นรอยยิ้มให้อย่างเต็มกลืน พยายามปลอบใจตัวเองว่าคงคิดมากไปเองบริกรก็ดูปกติดีนี่ แต่แล้วเขาก็ตกใจผงะ
เพราะเสียงจำลองได้ดังขึ้นที่หูของเขา และมีตัวอักษรปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
【ปัจจัยแวดล้อมโฮสต์ได้ตรงตามเงื่อนไข; เกมจำลองสยองขวัญกำลังเริ่มต้นขึ้น… การเริ่มต้นได้เสร็จสมบูรณ์ 】
【การจำลองนี้จะสุ่มเนื้อหาเกมสยองขวัญเพื่อให้โฮสต์ได้ประสบกับสถานการณ์ต่างๆ ปรากฎการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะอิงจากสภาพแวดล้อมความเป็นจริง ดังนั้นโปรดใส่ใจกับความปลอดภัยส่วนตัวยามเล่น และขอให้มีความสุขกับการเล่นเกม 】
【โปรดทราบว่า ไอเทมและฉากทั้งหมดที่สร้างระหว่างการจำลองเกมเป็นแค่สิ่งเสมือนจริง โปรดอย่าถือเป็นจริงเป็นจัง 】
【การสแกนสถานที่ได้เสร็จสิ้น เกมสยองขวัญกำลังสร้างขึ้น…]
【ได้สร้างเกมสยองขวัญ: ร้านอาหารกินเนื้อ】
【กำลังโหลดเรื่องราว โปรดรอสักครู่… 】
【แถบสถานะ กระเป๋า และแถบไอเทมได้ถูกปลดล็อค】
ภายใต้สายตาของกวนชานก็ได้มีแสงประกายแวบขึ้น จากนั้นหน้าต่างเกมที่เรียบง่ายก็ปรากฏขึ้นในขอบเขตการมองเห็นของเขา
ด้านซ้ายบนคือแถบพลังชีวิต แถบความอดทน และมีช่องใส่ไอเทมสี่ช่องทางด้านซ้ายล่างซึ่งได้ว่างเปล่าอยู่
ขณะเดียวกัน กวนซานที่เงยหน้าขึ้น ได้บังเอิญมองผ่านไหล่สาวเสิร์ฟ และเห็นห้องครัวที่อยู่ทางด้านหลัง
ในตอนนี้ ณ ประตูที่เปิดแง้มออกครึ่งบาน มีพ่อครัวกำลังถือมีดทำครัวได้สับเนื้ออย่างเนิบๆทางด้านหลัง
รูปร่างของพ่อครัวนั้นสูงมาก จากการสังเกตด้วยสายตาของกวนซาน ก็พบว่าน่าจะมีความสูงอย่างน้อยถึง 2 เมตร ร่างกายที่ป่องและอ้วนของเขานั้นได้เบียดเสียดอยู่ในพื้นที่เล็กๆ ราวกับยัดช้างเข้าไปในตู้เย็นยังไงยังงั้น พ่อครัวได้ยกมือของเขาขึ้นและแขวนเนื้อที่ตัดแล้วบนตะขอด้านข้าง
เนื้อซะที่ไหนเล่า….นั่นมันแขนต่างหาก!
ซานไว่ชิงซาน – ชีวิตดีมีความสุขนอกขุนเขา
รุ่ยเซียง – ดอกดาฟเน (ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมอันดับต้นของโลก)