[นิยายแปล] Hell mode - ตอนที่ 68 เวทมนตร์
บทที่ 68 เวทมนตร์
“ถ้าเสียมารยาทกับอาจารย์ รับรองว่าจบไม่สวยแน่ๆ!”
“แน่นอนครับคุณหนูเซซิล”
อเลนตอนนี้กำลังคุยกับเซซิลตรงห้องโถงชั้น 2
ตอนนี้คือช่วงต้นเดือนฤศจิกายน ช่วงสิ้นเดือนตุลาคมโดนเซซิลเรียกไปเหมือนทุกที
คิดว่าจะโดยใช้ให้ไปซื้อของแต่ก็ต้องผิดคาด ตอนนั้นเซซิลบอกว่า “ตั้งใจทำหน้าที่เป็นคนรับใช้ฝึกหัดของฉันมา 1 ปี อยากจะได้อะไรหรือเปล่า” ดูเหมือนเซซิลอยากจะให้รางวัลที่เป็นคนรับใช้ฝึกหัดครบ 1 ปีอยู่
ทำการคิดเรื่องรางวัลในขณะที่ในหัวเต็มไปด้วยคำที่ไม่รู้ความหมายอย่างเป็นคนรับใช้ฝึกหัดครบ 1 ปี คิดอยู่ว่าอยากได้ขนมที่เซซิลกินเป็นประจำ แล้วก็นึกเรื่องที่อยากจะขอร้องออก
ในหนึ่งสัปดาห์เซซิลมีเรียนหลายอย่าง อาจารย์มีหลายคน ประวัติศาสตร์, คณิตศาสตร์, ภาษาศาสตร์เป็นต้น ซึ่งในนั้นมีอาจารย์สอนเวทมนตร์อยู่ เหตุผลเพราะว่าเซซิลมีพรสวรรค์ของนักเวท
บอกไปว่าอยากจะเรียนกับอาจารย์สอนเวทมนตร์เป็นของรางวัลสำหรับการเป็นคนรับใช้ฝึกหัดครบ 1 ปี โดยขอไปว่าไม่ใช่แค่ดู แต่อยากจะเข้าเรียนด้วย
อ้าว ขออย่างนั้นจะดีเหรอ? ดูเหมือนจะรับฟังคำขออยู่
วันนี้เป็นวันที่อาจารย์จะมาสอนเวทมนตร์อเลนด้วย พอผ่านตอนเที่ยงไปก็มีชายสูงวัยสวมผ้าคลุมถือไม้เท้ามา อาจารย์สอนเวทมนตร์ของเซซิล
“วันนี้อเลนคุงสินะ?”
“ครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”
อาจารย์สอนเวทมนตร์ในมือถือไม้เท้า ส่วนอีกมือถือกระเป๋าที่ขนาดใหญ่กว่าปกติ เซวิลขอร้องอาจารย์สอนเวทมนตร์ไปว่าครั้งนี้อยากจะให้สอนอเลนด้วย ทันใดนั้นเขาก็บอกว่าวันนี้ไม่ได้เพราะต้องเตรียมการก่อน ให้เป็นครั้งถัดไป ดูเหมือนตั้งใจเตรียมมาเพื่ออเลนโดยเฉพาะเลย
อเลนกับเซซิลนั่งอยู่ตรงกลางห้องโถง อาจารย์สอนเวทมนตร์นั่งอยู่ด้านหน้า
“เธอคืออเลนคุงสินะ?”
อาจารย์สอนเวทมนตร์ถอดผ้าคลุมพร้อมกับทักออกมา ผู้ชายที่อายุน่าจะใกล้ 70 ปี ผมกับหนวดเครากลายเป็นสีขาว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยตีนกา
“ครับอาจารย์ วันนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
“อืม มีเรื่องที่อยากจะถามอยู่สินะ? เนื่องจากมีเวลาแค่ 1 วัน คงเตรียมมาแล้วสินะ”
เขาพูดเช่นนั้นก่อนจะหยิบหนังสือเล่มหนาๆกับคริสตัลออกมาจากกระเป๋า จากของที่เห็นในกระเป๋ามันดูค่อนข้างหนัก อาจารย์คงมีแรงมากกว่าที่เห็น
(โอ๊ะ!? ครูที่ดีนะเนี่ย ถ้าถามอะไรก็ได้แล้วละก็ ขอถามสิ่งที่อยากรู้ก็แล้วกัน)
เลยถามคำถามที่ว่าจะถามหลังจากเรียนจบไปหาอาจารย์สอนเวทมนตร์
“อาจจารย์ครับ เงื่อนไขของการใช้เวทมนตร์คืออะไรหรือครับ?”
คำถามที่อยากจะถามที่สุด เขาลูบเคราพร้อมกับครางออกมา
“เงื่อนไขการใช้เวทมนตร์มีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือมีหรือไม่มีพรสวรรค์ไง”
เขายืนยันออกมาว่าแค่มีหรือไม่มีพรสวรรค์
“อย่างผู้ใช้เวทมนตร์กับนักเวทหรือครับ?”
“ใช่แล้ว นอกจากนั้นก็มียอดนักเวท นักปราชญ์ แล้วก็ยอดนักปราชญ์ ถ้าไม่มีพรสวรรค์เหล่านี้ก็ใช้เวทมนตร์ไม่ได้”
“แล้วบาทหลวงกับนักบุญล่ะครับ?”
“อืมๆ อเลนคุงนี่รอบรู้จังนะ เวทมนตร์ที่บาทหลวงกับนักบุญใช้ถ้าจะให้พูดอย่างละเอียดมันคือเวทมนตร์รักษา ส่วนเวทมนตร์ที่ผู้ใช้เวทมนตร์ใช้คือเวทมนตร์โจมตี”
“อ้าว? ไม่มีเวทมนตร์สนับสนุนหรือครับ?”
“หือ? อเลนคุงนี่รอบรู้จริงๆนะเนี่ย เวทมนตร์สนับสนุนจะใช้โดยนักปราบชญ์กับยอดนักปราชญ์ไง เอาเถอะ ถ้าให้พูดอย่างละเอียด อาชีพอื่นที่ใช้ได้ก็มีอยู่ แต่ยังไงก็ต้องมีพรสวรรค์น่ะ”
อาจารย์เวทมนตร์มองใบหน้าของอเลนเพราะเห็นว่าเขารู้ละเอียดดี
(โอ๊ะ ถามเยอะไปงั้นเหรอ จะให้รู้ว่ารอบรู้ไม่ได้เสียด้วย)
เซซิลรู้สึกแปลกใจต่ออเลนที่ถามอาจารย์สอนเวทมนตร์ไม่หยุด ดูเหมือนเซซิลจะรู้ลึกว่าที่คิด
อเลนฟังพร้อมกับจดบันทึกใส่สมุดเวทมนตร์
“เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับ ขอถามต่อเลยได้ไหมครับ?”
“แน่นอน”
“เวทมนตร์ใช้อย่างไรหรือครับ?”
อาจารย์เวทมนตร์ร้องโห พร้อมกับหยิบสมุดเล่มหนาออกมาหนึ่งเล่ม
“ต้องจำสิ่งที่อยู่ในสมุดเล่มนี้ให้ได้น่ะ”
ที่มอบมาให้คือหนังสือเบื้องต้นที่คุณหนูเซซิลเองเคยใช้เรียนมาก่อน มันเป็นสมุดที่ค่อนข้างโทรม เลยทำการพลิกดูเนื้อหาข้างใน
“อะ อ่านไม่ออกเลยครับ”
(มันไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน)
พอพลิกสมุดต่อ ก็มีแต่สัญลักษณ์ถูกเขียนไว้เต็มไปหมด ไม่ใช่ทั้งภาษาญี่ปุ่นและสัญลักษณ์ที่เคยเห็นในโลกก่อนมันเป็นสัญลักษณ์เชิงเรขาคณิตที่ดูซับซ้อนที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก สัญลักษณ์แต่ละอันเป็นเอกลักษณ์ไม่มีความเหมือนกันเลย
“ใช่แล้ว ต้องจำสิ่งนี้ กลุ่มก้อนของตัวอักษรเหล่านี้เป็นเวทมนตร์ 1 อย่างไง”
อาจารย์สอนเวทมนตร์บอกออกมา เพื่อที่จะใช้เวทมนตร์ จำเป็นต้องจดจำสิ่งนี้ให้ได้
“แค่จำอย่างเดียวก็พอหรือครับ?”
(ต้องจำสิ่งนี้เหรอ ผู้ใช้เวทมนตร์เองก็ลำบากแย่นะเนี่ย)
“ใช่แล้ว ต้องจำเพื่อวาดในหัวให้ได้ไง”
จำสัญลักษณ์ซับซ้อนจำนวนมากขนาดนี้เพื่อวาดขึ้นในหัว ในระหว่างที่วาดสัญลักษณืเหล่านี้ก็ใช้พลังเวทเพื่อปลดปล่อยเวทมนตร์ออกไป
“ถ้าจำได้แล้ว จะสามารถใช้เวทมนตร์ไหนก็ได้เหรอครับ?”
“แน่นอนว่าจำอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ”
การจำเวทมนตร์มีลำดับขั้นตอนอยู่ ก่อนอื่นต้องจำสัญลักษณ์ที่เขียนอยู่ในสมุด และใช้เวทมนตร์มากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องผ่านการทดสอบของพระเจ้าหลายต่อหลายครั้งด้วย
(โอ้วๆ ต้องใช้เยอะๆ แล้วต้องเลเวลอัพด้วยเหรอ)
อเลนพยายามเข้าใจในแบบของตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้น จะรู้ได้อย่างไรว่าผมใช้เวทมนตร์ได้หรือครับ?”
“หา!? อเลนไม่มีพรสวรรค์ไม่ใช่เหรอ!! เมื่อกี้ก็เพิ่งถามไปนี่? ถ้าไม่มีพรสวรรค์ก็ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ไง!!”
เซซิลตอบสนองต่อคำพูดของอเลน พูดออกมาแล้วจะถามไปทำไมมากมาย เพราะอเลนไม่มีพรสวรรค์
“อืม เอาเถอะได้ยินมาว่าอยากจะลองเรียนดูสินะ เพราะอย่างนั้นเลยเอาคริสตัลตรวจสอบว่าใช้เวทมนตร์ได้หรือไม่มาด้วย ถ้าใช้สิ่งนี้จะทำให้รู้ว่าใช้เวทมนตร์ได้หรือไม่ไง”
ดูเหมือนจะมีนักเรียนที่มีความเข้ากันได้กับเวทมนตร์อยู่ เขาอธิบายว่าสิ่งนี้เป็นคริสตัลอย่างง่ายที่เหมือนกับในพิธีประเมิน เพื่อตัดสินว่าเป็นอาชีพที่ใช้เวทมนตร์ได้หรือไม่
“โอ้วว!!”
(เครื่องมือแปลกๆออกมาแล้ว! สามารถรู้ได้แล้วสินะว่านักอัญเชิญจะใช้เวทมนตร์ได้เปล่า)
มันเล็กกว่าคริสตัลที่เห็นในพิธีประเมินเมื่อก่อน เบื้องหน้าอเลนมีคริสตัลขนาดเล็กราวๆ 10 เซนติเมตรวางอยู่ เห็นว่าจะตอบสนองต่อพรสวรรค์ที่ใช้เวทมนตร์ได้
“ถ้าอย่างนั้นลองยื่นมือมาสิ”
“ครับ!”
อเลนยื่นมือทั้งสองข้างไปอย่างร่าเริง
แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงจะยื่นมือทั้งสองข้างไปสักพัก แต่คริสตัลโปร่งใสก็ไม่มีการตอบสนอง
“อืม ใช้เวทมนตร์ไม่ได้จริงๆด้วยสินะ”
“เอ๊ะ?”
(จริงดิ? แค่นี้เองเหรอ…..)
ถึงอเลนจะเคยคิดเอาไว้ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดซึ่งเหมือนกับฝันร้ายก็ผ่านเข้ามาในสมอง
“ล้มเลิกซะเถอะ ถ้าไม่มีพรสวรรค์ก็ใช้เวทมนตร์ไม่ได้หรอก”
เซซิลเข้ามาสั่งสอนอเลนที่ค่อนข้างช็อกมาก
“ถ้าคุณหนูเซซิลยื่นมือใส่คริสตัลนี้จะเป็นอย่างไรหรือครับ?”
“หา!? นี่สงสัยอาจารย์เหรอ!?”
เซซิลโกรธและบีบคออเลน เนื่องจากมันค่อนข้างวุ่นวายอาจารย์สอนเวทมนตร์เลยเข้ามาไกล่เกลี่ยให้
“เอาน่าๆ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว คุณหนูเซซิลเองก็ลองทำให้ดูสิ ถ้าทำอย่างนั้นแล้วอเลนคุงคงจะยอมรับได้สักที”
(เข้าใจแล้ว ดังนั้นของดูนักเวทหน่อยสิ ทรมานแล้ว)
ในระหว่างที่ถูกบีบคอก็ส่งสายตาว่าช่วยยื่นมือไปทางคริสตัลที เซซิลบอกว่าช่วยไม่ได้ ก่อนจะปล่อยมือและยื่นมือไปทางคริสตัล
ทันใดนั้นคริสตัลก็เริ่มส่องประกายแสงสีเหลืองราวกับตอบรับมือของเซซิล แสงที่อบอุ่นราวกับดวงอาทิตย์
“อืม สีเหลืองเป็นนักเวทไง”
(สะ ส่องแสงแล้ว)
อเลนมองสภาพนั้นด้วยความช็อกอย่างรุนแรง มีเวลาหลายวันก่อนที่อาจารย์สอนเวทมนตร์จะมาคฤหาสน์ เลยเตรียมคำถามอื่นๆไว้มากมาย ถ้าเป็นไปได้อยากจะเห็นเวทมนตร์ด้วย แต่แล้วทุกอย่างก็มลายหายไป
(อย่างนี้คือไม่ได้สินะ นักอัญเชิญเป็นอาชีพลับสินะ)
ค่าความสามารถสเตตัสของอเลนที่เป็นนักอัญเชิญเป็นดังนี้
พลังกาย A
พลังเวท S
พลังโจมตี C
ความทนทาน C
ความว่องไว A
ความฉลาด S
โชค S
ค่าสเตตัสตอนเลเวลอัพจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเรียงตามลำดับ SABCDE ความฉลาดของอเลนอยู่ที่ระดับ S
(ทั้งที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้แต่มีความฉลาดอยู่ที่ S เหรอ เพราะอย่างนั้นทำให้พลังโจมตีกับความทนทานเหลือแค่ C)
คิดอยู่ว่าเพราะค่าความฉลาดของอเลนสูง ทำให้สเตตัสอื่นลดต่ำลง ค่าความฉลาดที่สูง ไม่ได้มีไว้ใช้เวทมนตร์ที่ทรงพลัง ค่าสเตตัสของสัตว์อัญเชิญเองก็ไม่ได้สูงขึ้นตามค่าความฉลาด
อย่างนี้ต่อให้ค่าความฉลาดสูงแค่ไหน มันก็ทำได้แค่จดจำได้ดีขึ้น ไม่สามารถเอาไปใช้อะไรได้เลย ค่าสเตตัสที่ใช้การไม่ได้ แล้วทำให้สกิลอื่นด้อยลงไปเนี่ย
สำหรับอเลนแล้ว มันไร้ประสิทธิภาพเหมือนให้ผู้ใช้เวทมนตร์ถือดาบสองมือไปต่อสู้เลย
(สิ่งนี้เป็นอาชีพลับสินะ เพราะได้พรคุ้มครองจากสัตว์อัญเชิญ ทำให้ค่าสเตตัสอื่นมันต่ำลงหรือเปล่า ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้เนี่ย)
มีเหตุผลหลายอย่างเวียนเข้ามาในสมอง
ก่อนหน้านี้ที่ร้องเรียนไปเป็นเวลาครึ่งปี ทำให้พระเจ้าโกรธเลยเปลี่ยนอาชีพลับนี้
คริสตัลชำรุด ทำให้จำเวทมนตร์ตอนเลเวลและสกิลเลเวลเพิ่ม
ค่าความสามารถของความฉลาดที่อยู่ระดับ S มันจะต้องมีความหมายที่เหลือเชื่อแฝงอยู่
(ระ หรือว่าเพราะร้องเรียนเกี่ยวกับพิธีประเมินไปครึ่งปี เลยกลายเป็นอย่างนี้เหรอ? ท่านเอลเมียร์ช่างโหดร้ายยิ่งนัก)
อเลนเหม่อมองออกไปไกล แล้วรางวัลการเป็นคนรับใช้ฝึกหัดครบรอบ 1 ปีของเซซิล การเรียนกับอาจารย์เวทมนตร์ก็จบลงอย่างเงียบๆ