อัลมองไปทางออร์คร่างกำยำหน้าตาดุร้ายทั้งสี่ตัวด้วยความรู้สึกสับสน
ออร์คใต้ผ้าคลุมหนังแกะตัวหนึ่งเดินเข้ามาสำรวจซากสัตว์อสูรที่ออร์คทั้งสี่นำกลับมา
มันพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“ดีมาก! ต่อไปให้พวกเจ้าเอาเลือดออกมาจากซากมัน!”
เลือดของสัตว์อสูรมีพลังเวทมนตร์คุณภาพสูง ตราบใดที่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม เลือดภายในซากกวางวายุเขาเดียวจะยังไม่จับตัวเป็นก้อน แม้จะผ่านไปหลายชั่วโมงก็ตาม
เหล่าออร์คช่วยกันแทงคอกวางวายุเขาเดียว ปล่อยให้เลือดข้นเหนียวไหลออกมาช้า ๆ
ออร์คในผ้าคลุมหนังแกะนำกระดูกหน้าตาประหลาดออกมา จุ่มลงในเลือดต่างหมึกและปากกา ก่อนจะเริ่มวาดบางสิ่งลงบนพื้นถ้ำ…
อัลมองตามความเคลื่อนไหวของมัน สีหน้าของเอลฟ์ตัวน้อยเผยความประหลาดใจเมื่อเห็นลายเส้นที่เริ่มก่อตัวเป็นโครงร่าง
“เอ๋? …วงเวทบวงสรวง? มันต้องการจะสื่อสารกับเทพเหรอครับ?”
“รู้จักด้วยเหรอ?”
เดมาเซียเหลือบมองเอลฟ์ตัวน้อยข้างกายด้วยความประหลาดใจ
เขาแปลกใจที่อัลรู้จักวงเวทบวงสรวง
อัลผงกศีรษะ สีหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความคิดถึง
“ผมเคยเรียนจากคุณปู่เมื่อ 20 กว่าปีก่อนครับ…”
ยี่… ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว?!
เดมาเซียแทบจะกระอักออกมาทันที
“แค่ก ๆ ๆ …”
อาการไอเป็นเลือดของเอลฟ์หนุ่มกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง
อัลรีบเข้ามาสอบถามอาการของเดมาเซียด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
“พี่เดมาเซีย… พี่โอเคไหม!”
พี่เรอะ… พี่เรอะ!!
“แค่ก ๆ ๆ ๆ …”
อาการไอของเดมาเซียรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เอลฟ์หนุ่มหัวเราะกลบเกลื่อน เขาเช็ดเลือดจากมุมปาก พลางจับจ้องไปที่ใบหน้าของอัล และส่ายศีรษะ
“ชั้นสบายดี”
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยความระมัดระวัง
“เอ่อ… เจ้าหนู… แค่ก ๆ …อัล นายอายุเท่าไร?”
“ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเพิ่งอายุ 80 ในฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ครับ”
อัลตอบกลับพลางยกมือเกาศีรษะอย่างเขินอาย
เดมาเซีย: “…”
เขาเริ่มคำนวณอายุของปู่ของตน
ไม่ดิ …นี่ระดับปู่ทวดของตูเลยนี่หว่า…
“พี่เดมาเซีย! อย่ามองผมเป็นแค่เด็กอายุ 80 นะครับ ผม… ผมรู้อะไรเยอะแยะเลย… ผมไม่ได้เป็นแค่เด็กแล้วนะครับ!”
เดมาเซีย: “…”
“ใช่ …นายไม่ได้เป็นแค่เด็ก”
เขาลอบพึมพำกับตัวเองเมื่อกล่าวจบ
“ชั้นต่างหากที่เด็ก…”
โอ้พระแม่! ตูเพิ่งจะอายุ 18 เมื่อเดือนที่แล้ว!
โคตรโชคดีที่มันเป็นแค่เกม…
ในเวลาเดียวกัน อัลยังคงเฝ้ามองการกระทำของเหล่าออร์คด้านนอกลูกกรง
ออร์คในผ้าคลุมหนังแกะใช้เวลาวาดลายเส้นบนพื้นถ้ำเพียงครู่เดียว ปรากฏเป็นวงเวทขนาดใหญ่
ในเวลาเดียวกัน อัลยังคงเฝ้ามองการกระทำของนักบวชออร์ค
ร่างใต้ผ้าคลุมหนังแกะขยับมืออยู่เพียงครู่เดียวก็ปรากฏเป็นวงเวทขนาดใหญ่ ก่อนจะคุกเข่าลงต่อหน้าอักขระเวท และเริ่มบริกรรมคาถาด้วยท่วงทำนองประหลาด
ทันทีที่มันเริ่มร่ายมนตร์ วงเวทสีแดงฉานพลันเปล่งแสงออกมา พลังเวทในบริเวณโดยรอบเริ่มผันผวนและควบแน่นเข้าหากันอย่างรวดเร็ว…
“มันกำลังจะทำสำเร็จ…”
แม้อัลจะไม่ทราบว่าพวกออร์คกำลังสร้างวงเวทบวงสรวงเพื่อการใด แต่ในฐานะศัตรูตัวฉกาจของเผ่าเอลฟ์ เขามั่นใจว่าการกระทำของพวกมัน …ย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน!
ในวินาทีนั้น เสียงหัวเราะ ฮี่ฮี่ฮี่ ปริศนาก็ดังขึ้นจากข้างกายเขา
“ฮี่ฮี่ฮี่ เลือดนั่นโดนวางยาน่ะ ฮี่ฮี่ฮี่!! ฮี่ฮี่ฮี่!!! ”
เดมาเซียดูสะใจกับภาพตรงหน้า
อัลเหลือบมองเอลฟ์หนุ่มด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงกล่าวเช่นนั้น
แต่ในไม่ช้า …อัลก็ได้ทราบถึงสาเหตุ
ในวินาทีที่กระแสพลังเวทผันผวนจนถึงจุดวิกฤติ วงเวทจากเลือดสีชาดกลับถูกผลกระทบจากบางสิ่ง เกิดเป็นเสียงฉ่าราวกับหยดน้ำที่กระเซ็นลงไปในน้ำมันเดือด…
ท่าทีของออร์คใต้คลุมหนังแกะเปลี่ยนไป
“วะ… เวทมนตร์กำลังปะทุ? เวรแล้วไง! ไอ้เลือดนี่มันมีบางอย่างผิดปก—”
ก่อนที่มันจะกล่าวจบ แสงสีแดงเจิดจ้าพลันปะทุขึ้นมาพร้อมกับการระเบิดอย่างรุนแรง!
“ท่านนักบวช!!”‘
หินดำเผยสีหน้าเคร่งเครียด มันปรี่ตัวเข้าไปหานักบวชอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยสมุนออร์คทั้งสี่ที่เพิ่งช่วยรีดเลือดออกจากซากสัตว์อสูร
เมื่อควันจางลง ปรากฏร่างของนักบวชออร์คผู้อยู่ใกล้วงเวทในสภาพปางตาย มันได้รับผลกระทบจากการย้อนกลับของพลังเวท และแรงระเบิดเมื่อครู่นี้
ใบหน้าของหินดำดูบิดเบี้ยวขึ้นมาทันที
ทว่าในวินาทีนั้น สมุนออร์คสามในสี่ตัวกลับชักอาวุธออกมาและพุ่งเข้าหาหินดำอย่างพร้อมเพรียง!
แสงสว่างแผ่ออกจากร่างของออร์คทั้งสามที่กำลังเคลื่อนไหว ร่างเงาของพวกมันหดเล็กลง กลายเป็นเอลฟ์ในพริบตา!
“เอลฟ์?!”
อัลตกตะลึงจากการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็ว
“ช่าย! สหายของชั้นเอง พวกเขาบุกมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเรา!”
เดมาเซียฉีกยิ้มกว้าง
“ช่วย… พวกเรา…”
อัลยังคงตกใจไม่สร่าง สายตาของเขาจับจ้องเหล่าเอลฟ์ด้วยความตื่นตะลึง
ออร์คทุกตัวในถ้ำต่างยืนตัวแข็งจากสถานการณ์ที่ไม่มีผู้ใดคาดคิด
“เอลฟ์?”
หินดำผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะบันดาลโทสะ
ดวงตาของมันฉายแสงวูบหนึ่ง ท่อนขาขนาดยักษ์เตะกวาดเอลฟ์ทั้งสามออกไปอย่างรุนแรง
พวกเขาพุ่งกระแทกกำแพงอย่างจัง เลือดคำโตกระอักออกจากปาก ร่างไถลลงมานอนแน่นิ่งบนพื้นหิน…
“เหอะ!”
หินดำคำรามเสียงต่ำด้วยความหยามเหยียด
ทว่าสีหน้าของมันพลันเปลี่ยนไป
“ไอ้เวร!”
มันหันศีรษะอย่างรวดเร็ว พบว่าออร์คตัวที่สี่เพิ่งจะเสียบกริชทะลุอกของนักบวชที่ทรุดตัวอยู่บนพื้นถ้ำ
ริมฝีปากของนักบวชออร์คอ้าค้าง ดวงตาของมันฉายแววหวาดกลัวและสับสน ทั่วทั้งร่างกระตุกถี่ ๆ ก่อนจะคอพับลงไปพร้อมกับสัญญาณชีพที่ดับลง
ในเวลาเดียวกัน ออร์คที่เพิ่งจะสังหารนักบวชก็กลับสู่ร่างเอลฟ์
เขาคือเอลฟ์หนุ่มผมสีเทาปนดำ ผู้มีใบหน้าเฉยชาอันเป็นเอกลักษณ์ – ข้าวกล่อง
“ไอ้สารเลว!!”
นัยน์ตาของหินดำกลายเป็นสีแดงฉานด้วยโทสะ
ในเผ่าพันธุ์ออร์ค ไม่เคยปรากฏตัวตนที่เรียกว่า จอมเวท แม้แต่ตัวเดียว…
ดังนั้น นักบวช ทุกตัว จึงเป็นผู้ใช้มนตราที่แสนล้ำค่าของเผ่าออร์ค!
นอกจากหน้าที่ในการสื่อสารกับเทพประจำเผ่าพันธุ์ เหล่านักบวชยังคอยรักษาและให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ แก่สมาชิกในเผ่าอีกด้วย
การตายของนักบวชย่อมหมายถึงโทษทัณฑ์ของหินดำที่ไม่อาจเลี่ยงได้แม้ภารกิจจะสำเร็จ!
หินดำโกรธจนแทบคลั่ง
มันคำรามกึกก้องและเหวี่ยงดาบโค้งใส่ข้าวกล่องอย่างรุนแรง!
สีหน้าของข้าวกล่องยังคงเคร่งขรึมเมื่อเขาม้วนตัวหลบ เขาพลิกตัวอย่างคล่องแคล่วราวกับเสือดาว ดาบของหินดำพลาดเป้า ฟาดลงบนพื้นถ้ำจนเป็นรอยแยกขนาดยักษ์ร่วม 3 เมตร!
“จับไอ้เวรนี่เดี๋ยวนี้!!”
มันขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
บรรดาออร์คที่เหลือต่างคำรามและพุ่งตัวเข้าหาข้าวกล่องอย่างพร้อมเพรียง
เอลฟ์หนุ่มหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเรียกใช้ทักษะ เหยียบอากาศ และ พุ่งทะยาน เพื่อหลบเลี่ยงเหล่าศัตรูอย่างต่อเนื่อง
“หน… หนีไป!!”
สองมือของอัลคว้าลูกกรง เขาส่งเสียงร้องด้วยความกระวนกระวาย
แต่ก่อนที่ข้าวกล่องจะได้เริ่มทำการหลบหนี มือขวาของหินดำก็คว้าไหล่ของเขาไว้
“จับได้แล้ว…”
หินดำเย้ยหยัน นิ้วทั้งห้าของมันบีบเข้าหากันอย่างแรง
ไหล่ของข้าวกล่องแหลกเป็นเศษเนื้อภายใต้แรงบีบมหาศาล เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ
แต่สีหน้าของเขายังคงนิ่งเฉย ไม่มีร่องรอยของความเจ็บปวดปรากฏขึ้นในแววตาของข้าวกล่องแม้แต่น้อย
ดวงตาของหินดำฉายแววดุร้าย มันคำรามออกมา
“ตายซะ!!”
สองมือของมันคว้าเข้าที่ศีรษะของเอลฟ์หนุ่ม ก่อนจะบิดและขยี้อย่างแรงจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ท่ามกลางสายตาของอัลที่จ้องมองด้วยความสยดสยอง…
ร่างกายของข้าวกล่องกระตุกเบา ๆ ก่อนจะร่วงลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น
“อะ… อา…”
อัลยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาของเอลฟ์ตัวน้อยเริ่มมีประกายของหยาดน้ำตาปรากฏขึ้น
ในวินาทีนั้น มือเรียวขนาดใหญ่ได้วางลงบนไหล่ของอัลอย่างนุ่มนวล
เขาหันศีรษะไปพบกับใบหน้าอันซีดเซียวของเดมาเซีย
พี่ชายผู้ซึ่งเพิ่งได้รู้จักกันไม่นาน กลับไม่มีอาการโกรธเคืองหรือเศร้าโศก เขายิ้มเล็กน้อย
“ไม่ต้องห่วง พวกเขายังไม่ตาย”
ไม่… ไม่ตาย?
อัลผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหน้ากลับไปสู่บริเวณถ้ำอีกครั้ง
ในวินาทีนั้น อัลตื่นตะลึงเมื่อพบว่าของร่างเอลฟ์เหล่านั้นต่างจางลง ก่อนจะเลือนหายไปในที่สุด!
“ฮี่ฮี่ฮี่! พวกเราคือผู้ถูกเลือกขององค์เทพธิดา! พวกเราเป็นอมตะ!!”
เสียงของเดมาเซียดังขึ้นจากข้างกาย เป็นน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ และความมั่นใจอย่างยิ่งยวด
ในขณะเดียวกัน เสียงโห่ร้องพร้อมเสียงอาวุธกระทบกันก็แว่วมาจากบริเวณภายนอกถ้ำ
“ฟังสิเจ้าหนู กองทัพหลักของพวกเรามาถึงแล้ว!”
เดมาเซียกระหยิ่ม
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: ฮี่ฮี่ฮี่ ฮี่ฮี่ฮี่!!
…
อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413/ ค่ะ ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
MANGA DISCUSSION