[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว - ตอนที่ 80 - 057:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน㉑ ราชินีและลูกสาวของมาร์ควิส
- Home
- [นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
- ตอนที่ 80 - 057:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน㉑ ราชินีและลูกสาวของมาร์ควิส
057:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน㉑ ราชินีและลูกสาวของมาร์ควิส
ก่อนเย็นวันนั้นมีผู้ขอเข้าเฝ้า ราชินี เอลิซ่า ลูเทีย ฟอน อัลฟิเลีย
เป็นคนจากตระกูลมาร์ควิสดิแซคที่มีส่วนร่วมในการจัดงานในครั้งนี้
เอลิซ่ากล่าว「อย่างที่คิดเลย ลูน่าจังเคลื่อนไหวไวจังเลยนะ」เธอภูมิใจและรีบต้อนรับเธออย่างยินดี
การประชุมเกิดขึ้นที่ห้องรับแขกของปราสาท
「มีอะไรถึงได้รีบร้อนเช่นนี้งั้นเหรอ?」
เอลิซ่าที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกและแต่งตัวในชุดที่สง่างามต้อนรับพ่อแม่ลูก
แม้ว่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร แต่การฟังอีกฝ่ายราวกับไม่รู้เรื่องราวนั่นคือพื้นฐานการเจรจาอย่างหนึ่ง นี่เป็นเทคนิคการหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลหากมี
ทั้งสามนั่งเผชิญหน้ากับราชินี จิลล์ ผู้เป็นพ่อ ลูน่า ซึ่งเป็นลูก และซาราเอล่าที่เป็นแม่อยู่ด้านขวา
「ก็มาเพราะเรื่องวิดีโอที่ฉายในจตุรัสกลางเมืองค่ะ」
「อ๋อ เรื่องนั้นเองเหรอ มีอะไรงั้นเหรอคะ?」
「ในฐานะที่เป็นคนของตระกูลดิแซค พวกเราอยากจะประท้วงค่ะ」
ลูน่าตอบด้วยความชัดเจนโดยไม่สนใอะไร
เอลิซ่าก้มมองเธอ
สาวน้อยอายุ 12 ปี ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวานนี้
หากเป็นลูกสาวของขุนนางก็ย่อมหลีกหนีไม่พ้นเรื่องการทำปฏิสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างขุนนาง
ซึ่งนั่นก็หมายถึงอายุ 12 ปี
ฉันเต็มไปด้วยความหลงใหลและคิดว่าจะใช้เธอเป็นหนทางก้าวเข้าสู่การพิชิตโลกใบนี้
「อืม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอกนะ ต่อให้จะประท้วงแต่ในวิดีโอก็ไม่ได้มีคำพูดของฉันที่เกี่ยวกับเธอเลยแม้แต่น้อย」
「ไม่เลยค่ะ สิ่งที่เราจะประท้วงก็คือการนำภาพของพวกเราไปใช้โดยไม่ขออนุญาต พวกเราถูกละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลค่ะ การนำภาพของพวกเราไปเผยแพร่สู่สาธารณะชนโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นการละเมิดสิทธิ์อย่างร้ายแรงค่ะ」
สิ่งที่ออกมาจากปากคำพูดของลูน่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก
ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนพวกพ่อแม่ของเธอก็ไม่คิดจะห้ามด้วย จริงๆแล้วพวกเขาต่างประหลาดใจกับคำพูดนั้นต่างหากล่ะ
「ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล คืออะไร?」
อาณาจักรอัลฟิเลียนั้นมี “สิทธิ์และภาระผูกพัน(หน้าที่)” อยู่
แต่ไม่มีสิทธิ์ส่วนบุคคล
ต้องบอกว่าพวกเราไม่มีแนวคิดแบบนั้นแต่แรก
เอลิซ่าโน้มตัวมาข้างหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น และ ลูน่าตอบกลับด้วยการยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
「ตัวอย่างเช่น เกี่ยวกับโปรเจ็คเตอร์ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยกระทรวงเวทมนตร์ แต่ละส่วนของสิ่งที่สร้างขึ้นมา จะได้รับการจดสิทธิบัตร บุคคลที่สามที่คิดจะนำไปใช้จะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพื่อขอใช้เทคโนโลยีนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่งมันคือสิทธิ์ที่มอบให้กับผู้สร้างหรือองค์กรนั้นๆ หากพวกเราคำนึงถึงเรื่องนี้ แม้แต่บุคคลที่อยู่ในประเทศไหนก็ตามจะไม่ถูกคุกคามความเป็นส่วนตัว นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความปลอดภัยในชีวิตหรือสิทธิ์ส่วนบุคคล คนธรรมดาสามัญชนมีหน้าที่จ่ายภาษีให้กับเหล่าขุนนางหรืออีกนัยหนึ่งพวกเขาจะต้องได้รับการคุ้มครองว่าจะปลอดภัยโดยแลกกับการเข้าร่วมกับขุนนางในเขตแดนของตน ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ก็เป็นแนวคิดที่เป็นรากฐานของชาติ」
คำพูดของเธอคนนั้นทำให้ราชินีต้องคิด
เป็นความจริงที่ว่าอุดมคติหรือสภาพอุดมคติของชาตินั้นคือการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ประเทศก็มีหน้าที่คุ้มครองประชาชน
แต่แล้วความเป็นจริงล่ะ?
เมื่อพูดถึงก็มีเหล่าขุนนางที่ทำผิดมากมาย ทำการปล้นสะดม ขูดรีดภาษี ข่มขืนประชาชนธรรมดา ฆาตกรรมและทำเรื่องชั่วช้าอย่างเงียบๆ ซึ่งมันไม่ต่างจากโจรเลย
ในฐานะที่ขุนนางส่วนใหญ่และสามัญชนต้องอาศัยร่วมกันตลอดชีวิต
มนุษย์ขูดรีดมนุษย์ด้วยกันแสวงหาประโยชน์จากกันแล้วยังจะพรากอิสระในการมีชีวิตไปอีกเหรอ
ไม่จองหองกันเกินไปหน่อยเหรอ
อ่า นั่นสินะ เพราะแบบนี้เอง
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอนั้นเกลียด “ชนชั้นสูง”
「ท่านเอลิซ่า คนที่เอาแต่ได้และไม่เป็นผู้ให้บ้างนั่นเรียกว่าเป็นผู้ปกครองได้จริงๆเหรอคะ」
「อืม นั่นสินะ ฉันเข้าใจความคิดของเธอ กล่าวอีกนัยหนึ่งมีอันตรายจากการถูกทำร้ายโดยบุคคลที่ไม่ประสงค์ดีจากการที่ได้เผยแพร่ภาพวิดีโอเหล่านี้ให้เห็นได้ใช่ไหม เช่นเดียวกับการออกอากาศโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นนี้ อยากจะบอกว่าให้พัฒนาทางกฏหมายอย่างมั่นคงในการคุ้มครองสิทธิ์ประชาชนงั้นเหรอ?」
「ค่ะ หากรากฐานของกฏหมายไม่ถูกกำหนดประชาชนจะไม่ได้รับการคุ้มครองและมีการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลมากขึ้น」
ทีนี้ลูน่าหัวเราะ「แฮะแฮะ」
เอลิซ่ากล่าวว่า「ถ้างั้นเดี๋ยวก่อน」เธอรีบขัดจังหวะสนทนา ลุกขึ้นยืนและตะโกนเรียกยามที่เฝ้าอยู่หน้าประตูห้องรับแขก
「ช่วยติดต่อหาอธิการบดีไฮมาร์ได้ไหม ขอแบบด่วนจี๋เลย」
「ฮ่ะ!」
ทหารยามรีบมุ่งหน้าออกไปด้วยความรวดเร็ว
เอลิซ่าหายใจออกครั้งใหญ่และถอนหายใจก่อนนั่งลงบนโซฟา
「ช่วยรอสักครู่นะ หากมันเป็นเรื่องทางกฏหมาย คงจะดีกว่าถ้าจะให้ไฮมาร์เป็นคนจัดการ」
ฉันตัดสินใจเรียกเขามาเพราะจะได้ทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
เป็นเรื่องจริงที่ว่าเอลิซ่าเองก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะราชินีในบางเวลา
อย่างไรก็ตามรายละเอียดของกฏหมายเธอเป็นแค่คนนอก
「หากเป็นเช่นนั้นกรุณาเรียกหัวหน้ากระทรวงเวทมนตร์ด้วยค่ะ」
「……งั้นเหรอ นั่นสินะ」
ลูน่าพูดและฉันก็เลยส่งคนไปเรียกปู่เคลย์มาด้วย
เอลิซ่าไม่มองลูน่าเป็นสาวน้อยอายุ 12 ปี อีกต่อไป
เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว และถูกตัดสินใจแล้วว่าเธอเป็นนักยุทธศาสตร์ผู้ชาญฉลาด
「เรียกงั้นเหรอครับ?」
「ใช่ ขอโทษที่ติดต่อไปอย่างกะทันหัน」
ในที่สุดปู่เคลย์
เอลิซ่าโบกมือและขอให้พวกเขานั่งลง「ไม่ต้องกังวล ทำตัวตามสบายพวกเรามีธุระเร่งด่วน」
แม้จะอยู่หน้าต่อผู้บริหารระดับสูงสองคน ลูน่าก็ยังคงเฉยๆ
「ถ้างั้นเชิญพูดต่อได้เลย」
ประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน การตีความสิทธิ์ส่วนบุคคลและสิทธิ์และเสรีภาพในการที่ใช้ได้รับ
หลังจากอธิบายให้ทั้งคู่ทราบถึงพื้นฐานของกฏหมายใหม่ที่จะนำมาใช้แล้ว ก็เลยขอให้พวกเขาสนทนาต่อ
「ใช่แล้ว—ขั้นตอนแรกพวกเราต้องตรากฏหมายต่างๆเกี่ยวกับวิดีโอ เหตุผลที่ต้องเข้าเฝ้าราชินีก็เพื่ออธิบายขั้นตอนต่อไป」
ประท้วงเรื่องการใช้วิดีโอโดยไม่ได้รับอนุญาต เห็นได้ชัดว่าเป็นเหตุผลหลัก
เอลิซ่ารู้สึกประทับใจจริงๆ
(ฉันจะวางแผนเพิ่มเติมเพื่อใช้กลยุทธ์ที่ฉันพอจะทำได้ ฉันสงสัยว่าข้อมูลในหัวของเธอคนนี้มันมีเยอะมากแค่ไหนกันแน่?)
ท้ายที่สุดแล้วฉันก็อยากได้ อยากได้มากกกกกกก
ถ้าได้ทั้งแม่และลูกจะดีเวอร์ โลกนี้จะถูกพิชิตลงได้อย่างง่ายดาย
เอลิซ่าตกหลุกรักสาวน้อยตรงหน้าต่อตาเธอจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นความหลงใหลเลยทีเดียว
「อาจจะยังไม่ตระหนักถึงกัน แต่มีความเป็นไปได้มากมายที่ซ่อนอยู่ในอุปกรณ์ฉายภาพเมื่อวานนี้ ซึ่งก็คือ รูปภาพ แม้ว่าการวิจัยของประเทศนี้จะยุติลง แต่การวิจัยนี้จะถูกนำไปใช้ในประเทศอื่นๆอย่างแน่นอน และทำให้โลกตะลึงในอนาคตอันใกล้นี้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง โปรดคิดว่าประเทศของเรามีข้อได้เปรียบอย่างมากในการสร้างภาพที่ต้องการ」
ลูน่าบอกอย่างนั้นโดยสมองของเธอไม่น่าใช่เด็กอายุสิบสองปี
พ่อแม่ของเธอเองก็ได้แต่นั่งงงกับการพูดจาของลูกสาว
「ถ้าจะให้อธิบายเป็นคำพูดมันก็คงจะยากเกินไป ดังนั้นจะใช้ข้อมูลเป็นการทดลองเพื่ออ้างอิงกันดีกว่าค่ะ」
「ทดลอง ทดลองคืออะไร??」
อธิการบดีไฮมาร์วางมือลงในกระเป๋าของเขาพร้อมกับทำสีหน้าน่าสนใจ
การเคลื่อนไหวดูเหมือนจะเป็นสไตล์การทำงานที่จริงจัง
「ด้วยสมาคมการค้าของเรา พวกเราสามารถพามันไปได้ทุกที่ แต่เรากล้าบอกได้ว่าสมาคมการค้าลาบรุสซึ่งเป็นพันธมิตรกับทางเรา พวกเราจะออกอากาศผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับการฉายภาพจตุรัสกลางเมือง แน่นอนว่าจะมีฉันเป็นตัวชูโรงในการโฆษณาสินค้า หลังจากที่ใช้ในการโปรโมตช่วงเวลาหนึ่งตัวเลขของจำนวนผลิตภัณฑ์ที่ถูกขาย พวกเราจะเอามาเปรียบเทียบกัน สำหรับราคาจะทำให้ผู้คนทั่วไปสามารถจับต้องได้ หากดูข้อมูลที่นี่ก็สามารถเข้าใจได้ว่าความดีงามของ “วิดีโอ” นั้นเลวร้ายแค่ไหน」
「พูดราวกับว่าจะเห็นอนาคตเลยนะ」
「ไม่หรอกเพราะปฏิกิริยาของฝูงชนทำให้ฉันได้ข้อสรุปเช่นนี้ แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยชอบก็เถอะค่ะ」
เมื่อผู้อำนวยการเคลย์แห่งกระทรวงเวทมนตร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ยากที่จะบอกได้ว่าเขาประชดหรือภูมิใจกันแน่ ลูน่าก็พูดออกมา
「ถ้าอย่างนั้นจะขอมอบคำพยากรณ์อย่างหนึ่งให้ค่ะ
ยุคในอนาคตอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้าจะถูกเรียกว่า
――ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
และอาณาจักรอัลฟิเลียที่เป็นแนวหน้าของโลกจะดึงดูดผู้คนมากมาย กลายเป็นศูนย์กลางของมนุษย์ชาติ
สันติภาพที่ปราศจากความหิวโหยหรือความยากจนจะเกิดขึ้นที่ประเทศแห่งนี้เท่านั้น」
「ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา!?」
ฉันตกใจมาก
ทุกคนต่างล้วนตกใจเพราะในอนาคตอีกร้อยปีข้างหน้านี้นั้น
เธอไม่ได้สนใจที่จะแต่งงานเลยด้วยซ้ำ เพราะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย
เธอกำลังมองไปข้างหน้าถึงประเทศชาติและโลกในอีกร้อยปีข้างหน้า
และเธอกล่าวเอาไว้ว่ารูปภาพและศิลปะจะเป็นอาวุธในการพิชิตโลกใบนี้
ดูเหมือนว่าจะมีแต่อนาคตที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง
การพิชิตโลกโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อหรือเกิดการบาดเจ็บล้มตาย
ช่างดูสดใสอะไรเช่นนี้
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว
แม้แต่เอลิซ่ายังต้องจำยอมโดยเฉพาะภูมิปัญญาของเธอ
เอลิซ่ามองไปที่เธออย่างมั่นใจ
เธอเป็นคนเดียวที่จะเป็น “จักรพรรดินีแห่งโลก”ใบนี้
เธอที่ถูกปฏิเสธจะเป็นแขนขาให้กับฉันกำลังขับเคลื่อนโลกใบนี้ภายในฝ่ามือของเธอ
ช่วงนี้รับโดเนทครับ เลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ อยากมีเงินเที่ยวปีใหม่ ;w;