[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว - ตอนที่ 70 - 047:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑪ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้ว
- Home
- [นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
- ตอนที่ 70 - 047:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑪ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้ว
047:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑪ งานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้ว
――ในวันนั้นประตูของปราสาทออกัสต์เต็มไปด้วยครอบครัวของขุนนางมากกว่าร้อยครอบครัว
ทุกคนต่างเป็นแขกผู้มีเกียติในการเปิดตัวของมาร์ควิส ลูน่า เบลล์ ดิแซค
เพื่อมาชมความงามที่สมคำร่ำลือ
บางคนก็หวังจะเป็นคู่หมั้นและสร้างฐานอำนาจ ผู้คนมากมายเหล่านั้นกำลังจะเข้ามาในปราสาท
แม้ว่าตัวเธอจะเป็นแค่มาร์ควิส แต่ขุนนางระดับสูงหลายๆคนก็รู้ว่าเธอมีเชื้อสายของดยุค ซึ่งมันไปถึงตำแหน่งเจ้าหญิง ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีคนหมายปองเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่กรณีของขุนนางระดับล่างที่ไม่รู้ความซับซ้อนของตระกูลเธอ และผู้ที่ไม่สนใจลำดับญาติของบ้านอื่น และแม้แต่พวกที่ดูน่าสงสัยกำลังทักทายท่านแม่และลูน่า
ถึงกระนั้นก็มีครอบครัวที่ใกล้ชิดกับตระกูลดิแซครู้เรื่องนี้ในระดับหนึ่ง แต่คราวนี้มันต่างออกไป
นี่เป็นเพราะราชวงศ์ให้ยืมห้องโถงของปราสาทเพื่อใช้ในงานเปิดตัวของลูน่า
หากมีเพียงครอบครัวของขุนนางฝ่ายเดียวกันได้รับเชิญก็จะมีข้อครหาว่าใช้อำนาจกีดกัน ด้วยเหตุนี้มันอาจจะเกิดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็นเกิดขึ้น เลยต้องเปิดรับทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เชียร์ราชวงศ์กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย
ดังนั้นแม้แต่ผู้ที่ไม่มีความใกล้ชิดกับราชวงศ์เองก็มาเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
สิ่งที่เกิดขึ้นคือครอบครัวขุนนางส่วนใหญ่ไม่ทราบสถานการณ์ของลูน่าและมักจะแสดงท่าทีหยาบคายและหยิ่งผยอง
ตระกูลดิแซคเองก็เป็นมาร์ควิส ดังนั้นแม้ว่าจะไม่แสดงท่าทีอย่างเปิดเผย แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่จะหาทางจัดการในเบื้องหลัง พวกเราได้ลิสต์รายชื่อพวกมันไว้ในบัญชีหนังหมาเรียบร้อย
นั่นล่ะน้า
เมื่อทั้งสองคนท่านแม่ซึ่งเยาว์วัยลงทุกคนต่างกล่าวขานกันว่าเหมือนพวกเราเป็นสองพี่น้องในขณะที่มีบางคนชมพวกเราสองคนว่าเป็นเทพธิดาแห่งความงาม
ไม่ว่าภูมิหลังทางประวัติศาสตร์จะเป็นยังไง ความคิดของผู้ชายในโลกนี้มันก็เป็นแบบนี้ไปซะหมด
一เพราะแบบนั้นเลยมีลูกสาวและลูกชายจากตระกูลขุนนางนับจากจุดนั้นเป็นต้นมา
ดังนั้นฉันจึงต้องทำมากกว่าการยืนที่โต๊ะและทักทายแขกจำนวนมาก
ที่กล่าวว่าเด็กเล็กมักจะซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของพ่อแม่พวกเรานั้นเข้าหาพวกเราด้วยท่าทางหวาดกลัวเนื่องจากกลัวเสียมารยาทและความเขินอาย
ในแง่นี้ งานของลูน่าเธอทำออกมาได้สมบูรณ์แบบ
「ขอบคุณที่ตอบรับคำเชิญนะคะ มาร์ควิสลิบเรย์ มูเอล พวกเราเพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก ดิฉันมีนามว่า ลูน่า เบลล์ ดิแซค และหวังว่าจะมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันนะคะ」
「อืม….แม่สาวน้อย」
แม้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในกลุ่มที่เป็นศัตรูและถูกสงสัยว่าเป็นคนส่งมือสังหารมาหาฉันรึเปล่าตอนที่กำลังเดินทางมาที่นี่ แต่ฉันก็ต้องทักทายตามปกติ
หลังจากเห็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงกลมกำลังมองมาทางลูน่า
「ในเมืองอาซาเรียได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดี แต่ถ้ามาถูกถอดถอนเอาซะที่นี่ข้าก็คงเสียดายแย่เลยนะ」
ในขณะที่เขากำลังจะเงยหน้าขึ้น เธอยิ้มจางๆและเงยหน้ามองหน้าลิบเรย์
「มีอะไรน่าสงสัยงั้นเหรอคะ?!」
เขามองมาทางนี้พร้อมกับบอกว่า「ไม่มี」
「อย่างไรก็ตาม คราวนี้ทางดิฉันได้ปล่อยให้ผู้ต้องสงสัยหลุดรอดไปได้ และก็หวังว่าท่านมาร์ควิสจะปลอดภัยดีนะคะ」
แหม รอยยิ้มนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ
ใบหน้าของลิบเรย์เปลี่ยนเป็นสีฟ้าในขณะมองมาทางฉันและพูดว่า「ยัยสัตว์ประหลาด」พึมพำอะไรแบบนั้นและรีบจากไป
ลูกสาวของเขา ชิล่าไม่ได้อยู่ในรายชื่อแขกรับเชิญ
เธอกำลังเตรียมการเปิดตัวในปีนี้เหมือนกับฉัน ดังนั้นอาจจะเตรียมงานอยู่ แต่ไม่น่าเป็นไปได้ที่ครอบครัวของเราจะถูกเชิญไป และแม้ว่าส่งมาทางนี้ก็ขอปฏิเสธ
กล่าวอีกนัยหนึ่งฉันไม่ต้องการร่วมงานของเธอ และฉันไม่อยากจะยื่นคอขึ้นไปบนกิโยนตินหรอกนะ
และอีกอย่างหนึ่ง
สำหรับชิล่าเมื่อวานนี้เธอไปบินไปหาด้วยความเร็วสูงและพบกับเธอด้วยตนเอง
ซึ่งเจ้าของบ้านไม่รู้ว่าเราพบกัน
ชิล่าได้เรียนพลัง ฉี่ มาจากพ่อของเธอดังนั้นพวกเราจึงอยู่ในความสัมพันธ์แบบอาจารย์ลูกศิษย์ ไม่มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง ฉันคิดว่าเธอเป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น
จึงอาจกล่าวได้ว่าความสัมพันธ์พวกเราแทบไม่ลงรอยกัน
ดังนั้นจึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชิล่าที่มาถึงเมืองหลวงแต่ไม่ได้รับคำเชิญให้เข้าร่วม ได้แต่หง๋อยไปแล้วตามคำสั่งของลูน่า
「ขอบคุณมากที่เชิญมาในวันนี้」
「ไวเคานต์แบรลีย์ วอลเลซ อย่ากังวลไปเลย วันนี้คืองานเลี้ยง ดังนั้นสนุกให้เต็มที่เถอะ」
ใบหน้าที่คุ้นเคยคนต่อมาคือลอร์ดวอลเลซ
ชายชราผมแดงหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อเห็นลูน่าในชุดเดรสและท่านแม่ของฉัน เขารีบเข้าไปในห้องโถงอย่างรวดเร็วเพราะเขาปลื้มท่านแม่ของฉันและกลัวว่าลูกชายและภรรยาจะจับได้
ตอนนี้เองคริสทีนและดาร์ซิสมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ทันทีที่คริสทีนมายืนหน้าแดงต่อหน้าฉันและดวงตาของเธอก็มีน้ำตาไหลอาบแก้ม「ขอบคุณที่ช่วยดิฉันไว้เมื่อวานนะคะ」ทันทีที่พวกเราจับมือกันและในที่สุดลูน่าก็เข้าใจว่าทำไมหมอนี่ถึงได้โกรธลูน่า
(อืม อิจฉางั้นสินะ)
ลูน่าที่เคยผ่านวัยชรามาแล้วในชาติที่แล้วได้แต่ยิ้มออกมาเล็กน้อย
ต่อไปคือชายชรารูปร่างผอมเพรียว มีนามว่า วินเซนต์ ไฮมาร์
「ขอบคุณที่เชิญข้ามาในวันนี้」
เขาใช้มือลูบเครายาวที่เปลี่ยนเป็นสีขาวพอสมควร และมองลงมาที่ลูน่าด้วยคิ้วที่แหลมคม
「อ่าขอบคุณด้วยนะคะท่านอธิการบดีไฮมาร์ ขอขอบคุณที่อุปถัมภ์อย่างต่อเนื่อง」
คนต่อมาคือไฮมาร์ อุปราชผู้ชำนาญ ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าเป็นดาบแห่งราชันย์
ชื่อดูเหมือนจะเป็นชื่อของตระกูลมาร์ควิส แต่เมื่อพิจารณาถึงความจงรักภักดีต่อราชา ถือว่าสำคัญกว่าตระกูล
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนละกลุ่ม แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะเป็นศัตรูกันเสมอไป ดังนั้นอย่างน้อยพวกเราก็ไม่ได้สร้างความขุ่นเคืองต่อกัน และรักษามารยาทอันดีเอาไว้
「เข้าใจแล้ว ได้ยินว่าคุณหนูนั้นเก่งกาจมาก แต่ว่าถือว่าเลือกได้ฉลาดมากครับ」
เขาคิดอย่างไรกับฉันกันแน่นี่
ข้างๆไฮมาร์ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สวมแว่นตาแนะนำว่าตัวเองชื่อ ฮูเอล ไฮมาร์
「ขอบคุณสำหรับการซัพพอร์ตนะคะท่านฮูเอล」
「อะ อืม ลูน่า」
แต่เด็กคนนี้ อ่อนต่อโลกอย่างมาก ลูน่าเพียงแค่ยิ้มให้เล็กน้อยก็หน้าแดงแจ๋แล้ว
ฉันนี่มันช่างเป็นผู้หญิงบาปหนาเสียกระไร
ฉันก้มขณะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ในทางกลับกันท่าทางไร้เดียงสานั่นก็ดูน่าสนุก
หลังจากต้อนรับขุนนางอีกสองสามกลุ่ม คนหน้าคุ้นเคยก็มาถึง
「ดูสวยมากเลยนะ ชุดเดรสเหมาะมากเลยล่ะ」
หัวหน้ากระทรวงเวทมนตร์ เคลย์ ดิล่า ชูเดล เป็นคนแรกที่พูดต่อหน้า ฉันตรวจสอบบัญชีรายชื่อ แต่ดูเหมือนเขาจะเป็นดยุค
เมื่อเทียบกับอธิบดีไฮมาร์ เคราของเขาสั้นกว่าและเครานั้นขาวสนิทใบหน้าก็ไม่ได้มีรอยย่นมากนักแถมยังมีความอ่อนโยน
แม้ว่าจะรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เธอก็เผชิญหน้าด้วยรอยยิ้ม
「ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ…….ทางด้านนั้นคือ?」
「อืมเขาเป็นหลานชายข้าชื่อโรเดียส」
「ยินดีที่ได้รู้จัก」
「ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก ดิฉันลูน่า เป็นลูกสาวของมาร์ควิสดิแซค」
แม้ว่าพวกเขาจะอายุเท่ากัน แต่ก็ไม่ได้มีอาการเขินอายแต่อย่างใด
เขามีผมสีม่วงเข้มและใบหน้าว่าจะเป็นหนุ่มหล่อในอีกไม่กี่ปี
แต่อะไรล่ะนั่นรอยยิ้มแสนมืดมนชวนให้ไม่สบายใจ
ดวงตาของเขากระวนกระวายเล็กน้อย แต่หลังจากบอกลา ดวงตาของเขาก็กลับมางดงามอีกครั้ง
「……?」
ทันใดนั้นโรเดียสก็มองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ลูน่ามองด้วยความสงสัยเล็กน้อย
เพราะแบบนั้นฉันก็รับแขกอีกมากมาย
ลูน่าหันหลังกลับไปเมื่อโดนเรียก
「เอ่อลูน่า ช่วยพูดอะไรกับเราหน่อยได้ไหม?」
「เอ่อ เจ้าชายอาเบลกับเจ้าชายคาอินงั้นเหรอ ดูอารมณ์ดีจังนะ」
ไม่จำเป็นต้องพูด อาเบลเจ้าชายผมบลอนด์ และเจ้าชายผมสีขี้เถ้า คาอิน ซึ่งทำฉันหงุดหงิด
ลูน่าทักทายพวกเขาด้วยความหยาบคาย
「ช่างงดงามยิ่งนักเรียกได้ว่าเทพีแห่งความงามเลยจริงๆ ช่างสง่างามเหลือเกิน」
「เจ้าชายอาเบล หากชมผู้หญิงไม่เป็นก็อย่าฝืนเถอะ ไม่รู้เหรอว่าทำแบบนี้มีแต่จะโดนเกลียด?」
ในขณะนั้นเองฉันก็สวนกลับไปอย่างหนัก
เจ้าชายหน้าด้านอีกคนก็มองมาทางฉันและชมว่า「ลูน่า เหมาะกับชุดนั้นมากเลย……」ในขณะมองมาทางฉันพร้อมกับหน้าแดงก่ำ
เฮ้อ ไอ้หื่นกามเอ้ย
ลูน่าได้แต่ตอบกลับ「ขอบคุณ」อย่างไม่สบอารมณ์หนัก
แล้วเจ้าชายลำดับที่สองกล่าวว่า「อืม ผมน่ะกับเธอ――」พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันก็ตระหนักได้แล้วพยายามไม่ฟัง
ลูน่าไม่รู้ว่าเขาจะบอกอะไร แต่เธอลบมันออกไปจากความทรงจำเพราะคิดว่ามันไม่เคยได้ยินคำพูดแสนงี่เง่าก็แล้วกัน
……อลิซ่าด้วย เป็นเรื่องที่ดีที่อยู่กับฉันตั้งแต่ต้นจนจบ ขอบคุณมากจริงๆ แต่ช่วยพูดอะไรหน่อยได้ไหม เนื่องจากเธอเองก็เปิดตัวพร้อมกับฉัน อย่างน้อยก็ช่วยสร้างมิตรภาพหน่อยเถอะ
ดูเหมือนว่าลูน่าจะทำได้แต่มองอลิซ่าสาวน้อยในชุดเดรสสีแดง
ป.ล.ไปสมัครงานมาครับเมื่อวาน ขอโทษด้วยครับ