[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว - ตอนที่ 69 - 046:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑩ ช่วงเวลาเตรียมการ Ⅱ
- Home
- [นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
- ตอนที่ 69 - 046:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑩ ช่วงเวลาเตรียมการ Ⅱ
046:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑩ ช่วงเวลาเตรียมการ Ⅱ
ชายทั้งสี่ถูกคุมตัวไปที่สถานีรักษาความปลอดภัยของเมือง ซึ่งถูกสอบปากคำสั้นๆ
ลูกสาวของไวเคานต์ คริสทีน ชิวาอาร์ค ซึ่งมีสีผมดำเกือบเทา และเด็กชายที่มีผมสีแดงออกส้มเทา ส่ายหัวบอกว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
「ฉันและดาร์ซิสเป็นคู่หมั้นกัน และวันนี้พวกเรากำลังเดินเล่นในเมืองเพราะพวกเรามาถึงเร็วกว่ากำหนด ระหว่างทางก็โดนพวกอันธพาลมารุมล้อมและก็โดนลากไปที่ตรอกซอยด้านหลังค่ะ……」
เธอที่ท่าทางกลัวกำลังกอดตัวเอง
เด็กชายผมสีแดงส้มที่อยู่ข้างๆเธอเป็นลูกชายของไวเคานต์ ดาร์ซิส วอลเลซ ทำท่าทางลำบากใจขณะที่วางมือไว้บนไหล่ของคริสทีนเพื่อให้กำลังใจเธอ
มีโต๊ะทำงานในห้องของทหารรักษาการณ์ และคนสี่คนที่นั่งเรียงกันกำลังโดนสอบสวน
มีโต๊ะเล็กๆอยู่ที่มุมห้องสี่เหลี่ยมจตุรัส และทหารอีกคนที่กำลังใช้ปากกากับกระดาษจดข้อมูลเพื่อเขียนรายงาน
「พวกเราได้ยินเสียงกรีดร้องและรีบมุ่งไปยังที่เกิดเหตุทันที ขอถามให้แน่ใจการช่วยเหลือขุนนางจากพวกอันธพาลด้วยการใช้กำลังนั่นผิดกฏของเมืองนี้รึเปล่า?」
ลูน่าถามพร้อมแสดงท่าทีแอ๊บแบ๊ว แต่ชายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามยิ้มเจื้อนๆ
「แน่นอน การกระทำของคุณหนูไม่มีเหตุอันใดผิดแปลกไปเลยครับ และไม่มีเหตุผลที่จะต้องลงโทษพวกท่านด้วยเพราะพวกท่านช่วยพลเมือง แต่ว่าคุณหนูเพิ่งอายุ สิบสองปี อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามสิครับ」
ชายที่กำลังจ้องมองลูน่าพูดราวกับดุเล็กน้อย
「แต่ว่าครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี ถ้าหากลูกสาวขุนนางได้รับบาดเจ็บหรือถูกลักพาตัวได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะมีน้ำหนักฟังขึ้นใช่ไหมล่ะ」
「ครับ เข้าใจแล้วครับ แต่ว่าก็บุ่มบ่ามเกินไปที่พุ่งเข้าไปช่วยโดยไม่คิด คราวหน้าช่วยระมัดระวังสักเล็กน้อยนะครับ」
「น่าฉันประเมินตนเองดีแล้ว……」
ทหารคนนั้นตกตะลึงที่กำลังใช้ปากกาของเขาจดข้อมูล
「ตอนนี้พวกเราทำรายงานเสร็จแล้ว ถ้างั้นพวกเราจะปล่อยตัวพวกท่านไป แต่ก่อนที่จะทำแบบนั้นมีบางอย่างที่อยากให้พวกคุณหนูได้รู้ พวกนั้นเป็นหนึ่งในพวกกลุ่มอาชญากรครับ」
พูดเช่นนั้นเขาหยิบโลหะก้อนเล็กๆออกมาจากกระเป๋าแล้ววางบนโต๊ะ
มันเครื่องประดับที่ไว้ห้อยคอ สีทองหม่นและมีรูปร่างของงูกลืนหางตัวเอง
「ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนะ?」
เมื่อมองแวบแรกเขาราวกับจะบอกว่า「ถึงแม้จะถามไปยังไงคุณหนูก็ไม่รู้จักสินะ」ทั้งสามคนที่รวมฉันมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นแต่มีคนหนึ่งที่มองมันด้วยความสนใจ
「รู้รึเปล่าว่าสิ่งนี้มันคืออะไร ? ลูกสาวของมาร์ควิส ลูน่า เบลล์ ดิแซค」
เธอที่กำลังเล่นกับผมสีเงินมันวาวของเธอตอบคำถามของทหารรักษาการณ์อย่างง่ายๆ
「ฉันไม่กล้ายืนยันถึงขนาดบอกได้ว่ามันคืออะไร เจ้าสิ่งนี้มันเคยปรากฏแม้กระทั่งในหนังสือภาพ」
「หนังสือภาพ ? หนังสือแบบไหนเหอครับ?」
「อ่า ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะชื่อว่า “ตำนานอสรพิษอุโรโบรอส” แต่ว่าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมถึงมีแค่ตัวเดียว」
ลูน่าพูดขณะมองไปในแววตาของทหาร
ดวงตาของทหารที่เคยดูถูกลูน่าเพราะคิดว่าเป็นแค่เด็ก ก็กลับมาทำสีหน้าจริงจังทันที
จากนั้นลูน่าก็พูดเบาๆ
「ปกติมันต้องมีสามตัวนี่ แต่ว่าอีกสองตัวมันหายไปงั้นเหรอ?」
「……นี่คุณหนูรู้มากแค่ไหนกันครับเนี่ย?」
น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไป
เสียงต่ำทุ้ม
ทั้งสามคนประหลาดใจกับคำพูดของเขา
ในทางตรงกันข้ามลูน่ากลับทำสีหน้ามีความสุข
「เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ฉันพอจะนึกอะไรบางอย่างออก ฉันเคยทำลายกลุ่มอาชญากรพวกนั้นไปแล้วเมื่อนานมาแล้วรู้สึกว่ามันก็ใช้ชื่อนี้เช่นกัน?」
「ไอ้หนู!」
จากนั้นทหารยามก็ชักดาบออกมาด้วยความโกรธแค้น
ชายคนนั้นพยายามจะฟันลูน่า แต่เขาก็ไม่สามารถกวัดแกว่งมันได้อีก
นั่นเป็นเพราะว่ามืออันแข็งแรงกำลังจับข้อมือของเขาเอาไว้
มีเสียงบางอย่างแตกหัก และดาบก็หลุดออกจากมือของทหารคนนั้น
「อึก?!」
「อย่างที่คิด นายเองมีความเกี่ยวข้องกับอุโรโบรอสสินะ」
ข้อมือของเขาบิดผิดรูป และชายคนนั้นก็ปลิวไปเพราะลูกเตะ
ที่ยืนอยู่ตรงนั้นมีอัศวินผมแดงที่มีใบหน้าชวนให้นึกถึงใครบางคน
「พ่อ?!」
เด็กชายที่ชื่อดาร์ซิสลุกขึ้นยืน
ชายคนนั้นเหลือบมองลูกชายของเขา จากนั้นก็มองมาที่ลูน่า
「เข้าใจแล้ว อย่างนี้นี่เอง รู้ตัวอยู่แล้วหรอกรึ และมาที่นี่เพื่อล่อให้พวกมันติดกับไม่ต่างจากข่าวลือจริงๆ」
「……หะ?」
อย่างที่คาดลูน่าเองก็สับสนไม่แพ้กัน
――เหตุผลที่ลูน่ารู้ว่ากลุ่มอาชญากร “อุโรโบรอส” เป็นเพราะเธอเองก็ผูกมิตรกับพวกมันในชาติก่อน และเธอเข้าไปยุ่งกับกลุ่มของพวกมันและจัดการพวกมันทิ้งทั้งหมดไปนั่นเอง
พวกมันใส่เครื่องประดับแบบนี้ เท่าที่จำได้สมาชิกระดับล่างจะเป็นแค่งูตัวเดียว และระดับสูงเป็นงูสองตัว
เขาคนนั้นที่โผล่มาก็โค้งคำนับก่อนจะพูดชื่อของเขา
「ข้ามีนามว่าเบลลีย์ วอลเลซ แม้ว่าจะมีตำแหน่งไวเคานต์ แต่ก็เป็นเพราะทำงานเป็นผู้บัญชาการอัศวินของกองทัพจักรวรรดิมาหลายชั่วอายุ ยินดีที่ได้รู้จัก」
ดังนั้นลูน่าลุกขึ้นและตอบกลับด้วยความมั่นหน้า
「ฉัน ลูน่า เบลล์ ดิแซค เป็นลูกสาวของมาร์ควิส ยินดีที่ได้รู้จักลอร์ดวอลเลซ」
「ท่านพ่อ ทำไมท่านถึงได้ก้มหัวให้กับยัยนี่?!」
เด็กชายคนนั้นมองมาทางเธอ
(เอ๊ะ รังเกียจฉันตั้งแต่แรกเห็นเลยเหรอ นี่พวกเราเพิ่งจะเจอกันครั้งแรก……)
ภายในอกของลูน่าสับสน
ลอร์ดวอลเลซมองมาทางเด็กชายด้วยสายตาเย็นชา
「ไอ้โง่นี่ เมื่อตอนอายุเจ็ดขวบเธอเอาชนะกลุ่มโจรและตอนนี้เธอเป็นผู้นำกองทัพส่วนตัว ความกล้าของเธอที่กล้าเผชิญหน้ากับเจ้าชายและพูดตอกกลับอย่างไร้เยื่อใย ไม่เพียงแค่ในบ้านเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเพื่อนบ้านด้วย นอกจากนี้ แม้ว่าเธอจะบอกว่าเป็นมาร์ควิส แต่จริงๆแล้วเธอเป็นลูกสาวของดยุค สถานะของเธอนั้นต่างจากพวกเราอย่างสิ้นเชิง!」
TN:กันคนงง คือ ประมาณว่าวางแผนจับกุมพวกหนอนบ่อนไส้ไว้อยู่แล้ว ลูน่าเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ แต่อลิซ่ากับคนข้างนอกรู้เห็นเป็นใจกันเพราะเตี๊ยมกันมาก่อนแล้ว
……เอ๊ะ จริงเหรอ?
ลูน่าที่ได้กลายเป็นตำนานมีชีวิตโดยไม่รู้ตัว ได้มีข่าวลือแพร่สะบัดไปทั่ว มองไปยังอลิซ่าที่อยู่ข้างๆที่กำลังทำสีหน้าอึดอัดใจ
จากนั้นเธอก็พยักหน้า
(อ่า ไอ้พวกผมแดงนี่เป็นพวกเลือดร้อนกันหมดเลยสินะ เข้ามาโดยไม่ตรวจสอบอะไรก่อนเลย……)
เธอรู้สึกว่าได้เข้าใกล้ความจริงของโลกใบนี้ไปอีกขั้น
――จากนั้นพวกเราก็พูดคุยกับลอร์ดวอลเลซและออกจากป้อมโดยปล่อยให้คริสทีนและดาร์ซิสอยู่ในความดูแลของเขา
ข้อมูลที่ได้รับมานั้นมีประโยชน์มาก
「ท่านลูน่า กังวลแทบแย่เลยค่ะ」
หลังจากพวกเราเดินออกมาแอนนาและโอไกก็เข้ามาหาพวกเรา
เห็นได้ชัดว่าชายที่เฝ้าดูลูน่าและอลิซ่าเข้าไปข้างในพร้อมกับพวกทหารที่กำลังรออยู่และก็พบเจอกับแอนนาระหว่างทาง
「เอ่องานฉลองเองก็ดูจะถูกจัดขึ้นแล้วเตรียมตัวให้พร้อมกันดีกว่านะ」
「ได้เลยย!」
ระหว่างทางลูน่าพูดกับอลิซ่าและโอไก
ในเมืองหลวงเม็กเมลมีองค์กรอาชญากรรมที่หยั่งรากลึกในเมืองนี้ “อุโรโบรอส” และมีความเป็นไปได้บางอย่างที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
พวกนั้นทำธุรกิจสีเทาหาเลี้ยงชีพด้วยการลอบสังหาร ดังนั้นเลยไม่แปลกใจ
อาจจะมีการลอบวางยาพิษหรือวางระเบิดกลางเมืองก็ไม่แปลก
หรืออาจจะกระทำการอุกอาจอย่างวันนี้ เช่น ลักพาตัว
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน หากหันคมดาบมาที่ลูน่า ก็จะไม่ปล่อยให้หลุดรอด
จะสู้จนกว่าจะเหลือคนสุดท้าย จากนั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องไปยมโลก
บดขยี้ศัตรูอย่างไร้ความปราณี
นี่เป็นกฏอันเด็ดเดี่ยวของลูน่าที่จะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากชาติก่อน