[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว - ตอนที่ 68 - 045:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑨ช่วงเวลาเตรียมการⅠ
- Home
- [นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
- ตอนที่ 68 - 045:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑨ช่วงเวลาเตรียมการⅠ
045:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑨ช่วงเวลาเตรียมการⅠ
องค์ราชาและราชินีหลังจากการพบกันครั้งแรกแสนหนักหน่วง
หลังจากมาถึงเมืองหลวงเม็กเมลและออกมาจากปราสาทพวกเราก็ใช้เวลาพักผ่อนหนึ่งวัน หลังจากนั้นก็ยุ่งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
จากห้องโถงหลักในปราสาทที่ราชวงศ์ให้ยืมพื้นที่ ฉันตรวจสอบที่รอบๆบริเวณที่จัดงาน และได้คุยกับเชฟ ซึ่งทุกคนเป็นเชฟจากราชวัง และปรึกษาปัญหากับทางทหารรักษาการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำอย่างเช่นการจัดหาที่พักให้แขก
ท่านพ่อกับท่านแม่เป็นคนนำและลูน่าที่เป็นดาวเด่นของงานกลับมีเวลาว่างมากมาย
สถานการณ์นี้คงดำเนินต่อไปอีกสามวันข้างหน้า และเมื่อใกล้ถึงวันงานก็จะจัดงานเลี้ยงจริง
「เฮ้อว่างอะ ไปเที่ยวในเมืองกันเถอะ!」
ลูน่ากำหมัดของเธอเพียงลำพังที่บ้านพักของมาร์ควิส ด้วยการถอนหายใจลึกๆจากแอนนาสาวใช้ส่วนตัวของเธอและของเธอและตัดสินใจว่าจะไปเดินเล่นรอบเมืองเม็กเมลโดยมีเงื่อนไขว่าเธอจะต้องไปด้วย
อลิซ่าไปด้วยความเป็นธรรมชาติ เธอยังคงเกาะติดกับอ้อมแขนของลูน่า
โอไกเองก็ตามอยู่ห่างๆนิดหน่อยจากนั้นพวกเขาทั้งสามคน แต่เขาก็มักจะโดนหยุดโดยยามที่ดูแแลความสงบสุขของเมือง อาจเป็นเพราะใบหน้าที่ดูชั่วร้ายของเขา
แต่ลูน่าที่เคยเป็นชายอยู่ในร่างสาวน้อยไม่โดนอะไร
ในช่วงเวลานี้ การฝึกกองทัพหน่วยรบทางอากาศ ส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องของเหตุผลทางการเมือง
ลูน่าไม่พอใจกับอลิซ่าและกองกำลังที่เหลือ เพราะไม่มีใครอธิบายว่าไม่ควรข่มขู่ชาวเมืองด้วยการโชว์ศักยภาพและแม้แต่ขุนนางก็รีบมาแต่เช้า
ในแง่ของสถานการณ์แล้วจึงยากที่จะออกไปเมืองด้วยตัวคนเดียว
「คุณหนูได้โปรดอย่าไปไกลเกินไป เพราะฉันบินไม่ได้นะคะ」
「จ้า จ้า รู้แล้วจ้า」
「ไม่ว่าพวกเราจะไปไหนเธอก็จะตามพวกเราไปด้วยเหรอ?」
「เอ๊ะคุณหนูอลิซ่างดงามมากเลยค่ะ」
「เอ๊ะชมฉันให้มากกว่านี้อีกสิ~♪」
หลังจากพวกเราออกจากคฤหาสน์ก็มุ่งหน้าไปทางใต้ของเมืองทันทีบนถนนสายหลักที่ทอดยาวไปทางตะวันออก ไปยังตะวันตกเฉียงเหนือ
แอนนาแนะนำว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ย่านการค้าและค่อนข้างปลอดภัย
สำหรับลูน่าเธอเต็มไปด้วยความปรารถนาที่อยากจะไปเยือนพวกถิ่นโจร ไม่ก็พวกถิ่นกุ๋ยโมฮอว์กในสลัมทรุดโทรมไปไล่ซ้อมพวกมันตั้งแต่เช้าจรดค่ำเพื่อรักษาความสงบให้ชาวเมือง แต่เมื่อเธอกลายเป็นลูกสาวของมาร์ควิสแต่กระทำการป่าเถื่อนก็คงไม่ได้รับการยอมรับ
เธอเป็นหญิงสาวที่ไม่รู้อะไรนอกจากการต่อสู้ พวกเธอในตอนนี้กำลังเดินไปตามถนนสายหลัก
「เฮ้อดูมีชีวิตชีวากันจังเลยนะ ปกติเป็นแบบนี้ไหมนะ?」
「ดูเหมือนจะจัดเทศกาลขึ้นเร็วๆนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่มีผู้คนมากันมากมายค่ะ」
「เทศกาลเหรอ เมื่อพูดถึงเทศกาลแล้วนี่น่าจะเป็นเทศกาลเก็บเกี่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงล่ะนะ」
แอนนายังคงสวมชุดเมดซึ่งเป็นเครื่องแบบประจำตัวของเธอตรงกันข้ามกับลูน่าที่สวมเดรสสีขาวที่ไม่เกะกะการเคลื่อนไหว และหมวกฟางที่ไว้ใช้กันแดด
ดูเหมือนว่าอลิซ่าอยากเล่นเป็นอัศวินที่ปกป้องพี่สาวสุดที่รักของเธอ โดยใส่กระโปรงและเสื้อกล้ามใส่ถุงเท้าคลุมเข่า ทำผมทรงหางม้าและสวมแจ็กเก็ตสีขาวคลุมหัวไหล่เมื่อรวมกับผมสีแดงเพลิงทำให้มันดูน่าดึงดูดอย่างมาก
เอิ่มจะว่ายังไงดีล่ะ อลิซ่าที่มีผมสีแดงเข้ม และผมของแอนนานั้นเป็นสีแดงแซมเทาเล็กน้อยซึ่งเป็นความล้มเหลวในการเข้าสู่สาวผมบลอนด์
หากเปรียบเทียบทั้งสองแล้ว สีผมของแอนนาจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าแต่ของอลิซ่าเหมือนสีผมที่ย้อมมา
ฉันได้ยินมาว่าสีผมเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากพลังเวทย์ที่มีไว้ครอบครอง มันไม่ได้มาจากลักษณะทางกายภาพ
ธาตุทั้งสี่ ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ มีคุณสมบัติแตกต่างกันและเป็นเรื่องง่ายที่ว่าใครเข้ากับธาตุอะไรมากที่สุดก็จะมีทรงผมสีตามนั้น
ผมสีแดงของอลิซ่านั้นเกิดมาจากอลิซ่าที่ถนัดธาตุไฟ และเธอเก่งด้านใช้ไฟเป็นอย่างมาก ในทางตรงกันข้ามเธอห่วยด้านการใช้เวทย์ธาตุน้ำ
เมื่อพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียก็อดไม่ได้ที่ว่าเวทมนตร์เป็นสิ่งทดแทนที่มีข้อจำกัดผูกมัดมากเกินไปและเงื่อนไขเยอะ
นอกจากนี้หากบุคคลนั้นหลุดพ้นจากวงจรพลังเวทย์ สีผมจะหายไปโดยสิ้นเชิงและกลายเป็นสีเทาหลังจากที่ใช้พลังเวทย์จนหมดตัว
ฉันเคยเห็นคนที่เป็นแบบนั้นมาหลายครั้งในชาติที่แล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่งพวกจอมเวทย์จะสวมเสื้อผ้าสีขาวเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้ผมของพวกเขาเป็นลักษณะเด่นและในกรณีที่พลังเวทย์หมดมันจะกลมกลืนกับสีชุดพอดี「อ่าผมเทาซะแล้ว」
(อืม ฉันเองก็ต้องระวังอย่าให้ผมกลายเป็นสีเทา……)
……เธอคิดเช่นนั้นขณะกำลังดื่มชาในคาเฟ่ที่แวะอยู่
ในกรณีของลูน่าแม้ว่าพลังปราณจะหมด แต่เธอก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้พลังเวทย์เท่าไหร่
「――โอ้ เอ่อ วันนี้วันเกิดฉัน และเป็นวันที่ราชาอัลเบอร์โต้ก่อตั้งเมืองด้วย」
「อุมุ ราชันย์วีรบุรุษสิน้า……」
ในขณะที่กำลังฟุ้งซ่าน คำอธิบายของแอนนายังดำเนินต่อไป
ลูน่าไม่อยากจะพูดอะไร แต่เธอรีบดึงหมวกฟางเพื่อซ่อนใบหน้าของเธอ
ทุกวันนี้อลิซ่าอยู่ข้างลูน่าตลอดเวลาและแทนที่จะนั่งตรงข้าม เธอก็ชอบมานั่งข้างฉันแทนและดื่มชาด้วยท่าทางอันเย้ายวน
ถนนสายหลักเต็มไปด้วยความเร่งรีบและคึกคักมีผู้คนเข้าออกมากมาย
ผักที่กองไว้ด้านหลังรถม้าที่ถูกขับผ่านไปเป็นครั้งคราว
เด็กตัวน้อยๆห้าคนวิ่งเล่นตามถนนเพราะเล่นวิ่งไล่จับกัน
ขุนนางที่เดินไปด้วยชุดแฟนตาซีพร้อมกับคนรับใช้ที่หอบกระเป๋าเดินทา่งกำลังเดินไปมา
อ่า สงบสุขจังเลยนะ
จากนั้นก็ดื่มชาทั้งแก้วเข้าไปในลำคอ
หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสามคนจะกลับไปที่คฤหาสน์ของมาร์ควิส
「――กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!」
เสียงกรีดร้องของใครบางคนทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบ
「เอ๋มีการต่อสู้เกิดขึ้นงั้นเหรอ อาวละเว้ย!」
ลูน่าวางถ้วยชาลงบนโต๊ะแล้วยืนขึ้นโดยทันที
แอนนาทำท่าทางประหลาดใจ
อ่า อลิซ่าเองก็รีบดื่มชาอย่างรวดเร็วที่เหลือในอึกเดียวและลุกขึ้น
「แอนนา ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวก็สะดุดล้มหรอก」
ฉันพูดกับเธอที่ใส่ชุดเมดและเมื่อพยักหน้ากับน้องสาวของฉันแล้ว ฉันก็รีบออกไปด้วยความรวดเร็ว
「นี่คุณหนูคะ!?」
คราวนี้แอนนาเริ่มได้สติกลับมา
เมดสาวของฉันที่ใช้เวลาเล็กน้อยรีบจ่ายเงินให้กับทางร้าน
ในขณะเดียวกัน ลูน่าและอลิซ่าก็มาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเสียงกรีดร้องดังขึ้น
「ใครก็ได้ ใครก็ได้ช่วยทีค่า!」
「ปล่อยนะ ! ปล่อยนะไอ้บ้านี่!!」
มีกลุ่มฝูงชนมุงกันจนมองไม่เห็น ภายในนั้นคือตรอกซอย
มีชายร่างกายกำยำสองสามคนกำลังจับเด็กชายกับเด็กผู้หญิงแยกกัน
ชายที่แต่งตัวเบาๆสวมชุดเกราะนอนสลบอยู่ ดาบอยู่ห่างไกลจากเขาอย่างมาก คาดว่าคงโดนลอบทำร้ายและชิงตัวเด็กไป
กล่าวอีกนัยหนึ่งตอนนี้กำลังเกิดเหตุลักพาตัวเกิดขึ้น
「ศัตรูห้าคน อลิซ่า ไปกันเถอะ!」
「ค่ะ พี่สาว!」
แม้ว่าจะเปลี่ยนโทนการพูด แต่น้องสาวฉันก็ไม่ได้ใส่ใจ
ลูน่าเตะพื้น และก่อนที่เธอจะกะพริบตาก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังชายที่กำลังจับเด็กสาว และโดนลูกเตะจากทางด้านหลังจนคอบิดผิดรูป「กร๊อบ」เมื่อชายคนนั้นโดนจัดการก็ปลิวไป
「โอร่าาาาาาาาาาา!!」
นอกจากนี้อลิซ่าวิ่งไปข้างหน้าของเด็กชายและพุ่งเข้าต่อยชายที่จับเด็กชายคนนั้นเอาไว้ด้วยความเร็วสูง
กำปั้นถูกต่อยเข้าไปที่ด้านข้างของชายที่กำลังจับเด็กและงอตัว
「ดาย่าาาาาาาา!」
ตุบบบบบ
จากนั้นเองพวกที่เหลืออยู่ก็จ้องมองมาทางนี้
「นี่มันบ้าอะไรฟะ!」
「ไอ้เด็กพวกนี้ มันแข็งแกร่งจังวะ!」
「ฆ่าแม่งเลย!!」
ถึงพวกมันจะปากดีแต่มันก็เดินถอยหลังกลับ
ผมสีเงินของเธอแพร่กระจายและเข้าโจมตีพวกมัน
「ห๊ะ?!」
「อ้าาาาาาาา?!」
「อ่อก?!」
เพียงชั่วพริบตา
ดูเหมือนว่าแขนขาอันแสนเปราะบางของพวกมันทรุดลงอย่างรวดเร็วและล้มลงกับพื้น
เด็กชายและเด็กหญิงที่ได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้ได้แต่ตกตะลึง
「ไม่เป็นไรนะคะ?」
「ค่า………..เอ่อท่านลูน่าเหรอคะ?!」
ลูน่าหันกลับมาและมองไปดูทางสาวน้อยที่ท่าทางอ่อนแอ
อย่างไรก็ตามเธอดูอายุเท่ากับลูน่า ลืมตาขึ้นและมองกลับมายังผมสีเงินของเธอ
「ว่าไงจ้ะ?」
「เอ่อ ดิฉันเองค่ะ คริสทีน ชิวาอาร์ค เป็นลูกสาวของไวเคานต์ซิลเวสเตอร์!」
เธอนั้นรูปลักษณ์ดูเรียบร้อยและผมสีดำสง่างามแก้มของเธอแดงและจับมือลูน่าเอาไว้
คริสทีน ชิวาอาร์ค เป็นลูกสาวของไวเคานต์ที่เคยมาเข้าร่วมงานวันเกิดบ้านฉัน
「โอ้งั้นเหรอ……」
เด็กชายที่ได้รับการช่วยเหลืออีกคนดูเป็นเด็กเนิร์ดมีผมสั้นสีแดงทีมีเฉดคล้ายกับอลิซ่า และเขาดูไม่ค่อยแปลกใจเมื่อได้เห็นลูน่า
ท่ามกลางสิ่งนี้ทหารติดอาวุธที่เป็นยามมาจากถนนสายหลักและมาจับกุมพวกชายที่นอนอยู่บนพื้น
「เอ่อ เหล่าคุณหนูช่วยมาให้การที่สถานีหน่อยได้ไหม」
ชายร่างสูงที่เป็นหัวหน้าทหารรักษาการณ์อยู่ตรงหน้าลูน่าและคนอื่นๆแล้วก้มศีรษะ
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนเป็นขุนนางเพียงแค่แรกเห็น
「ถ้าเช่นนั้น ขอแบบสั้นๆกระชับเลยล่ะกัน เพราะถ้าไม่กลับก่อนอาหารเย็น พวกเราจะมีปัญหาได้ค่ะ」
「ฮ่ะ ! รับทราบแล้วครับคุณหนู」
ต้องรีบให้ไวเลยล่ะ เพราะถ้ากลับไปทานข้าวเย็นไม่ทันท่านแม่กับคุณมิน่าคงโกรธมากแน่ๆเลย และอิสระที่ฉันมีก็จะหายจนกว่าจะถึงวันจัดงาน
ชายคนนั้นดูจะเข้าใจความหมายของฉันเป็นอย่างดี หลังจากนั้นเขาก็ก้มศีรษะให้พวกเราอีกครั้ง