[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว - ตอนที่ 66 - 043:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑦ ราชวงศ์เม็กเมล
- Home
- [นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
- ตอนที่ 66 - 043:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑦ ราชวงศ์เม็กเมล
043:งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑦ ราชวงศ์เม็กเมล
เมื่อลูน่าและกลุ่มของเธอมาถึงเมืองหลวงเม็กเมลของราชอาณาจักรอัลฟิเลียสถานที่แรกที่มุ่งหน้าไปคือวิลล่าที่มาร์ควิสดิแซคมีอยู่ในเมืองหลวงซึ่งเป็นคฤหาสน์ของจิลล์เจ้าบ้านซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเกือบจะอยู่คนเดียวกำลังนอนหลับและตื่นนอน
「จิลล์……!」
「เอ๊ะ ซาราเอร่า ผมคิดถึงคุณมากเลยนะ」
ทันทีที่พวกเราบอกว่ามาถึงแล้วยามเฝ้าประตูก็เปิดรั้วเหล็กและเจ้าของบ้านก็มาทักทาย
ทั้งคู่กอดกันและแลกเปลี่ยนจูบอันแสนเร่าร้อน
「ท่านพ่อ ท่านแม่ ดูสถานที่ด้วยค่ะ……」
「เอ่อ นั่นสินะ ขอโทษที」
ลูน่าที่ไม่อยากจะเห็นภาพบาดตา ต้องรีบขัดจังหวะก่อนทั้งคู่จะเครื่องติด อย่างน้อยตอนนี้ซาราเอล่าก็สาวขึ้นมากเพราะผลจากการชุบชีวิต ยิ่งทำให้พ่อของเธอหลงรักท่านแม่เข้าไปใหญ่เลย ผู้ชายน่ะน่าเศร้านะว่าไหม ลูน่าคิดว่าทั้งคู่ไม่สามารถซ่อนความอยากเอาไว้ได้ในขณะที่กำลังกล่าวขอโทษ
ฉันคิดว่ามันก็ดีที่พ่อรักท่านแม่มาก ลูน่าก็แค่แซวเล่นเล็กน้อย
「――เอ่อพวกเราจะไปที่ปราสาทกันตอนนี้เลยเหรอคะ?」
「ไม่ได้ลูก พวกเราต้องแจ้งกำหนดการก่อนที่จะเข้าปราสาท」
ซาราเอล่า จิลล์ เป็นทั้งมาร์ควิสและ ดัชเชส พวกเรานั้นเข้าไปในคฤหาสน์ส่วนตัวของจิลล์ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าที่บ้านแสนสุขของเราเล็กน้อย พวกเรากำลังปรึกษากัน
ทหารหนึ่งร้อยนายที่นำมาด้วยกำลังขนสัมภาระส่วนตัวและเอาเข้าไปในอาคารโดยได้รับคำแนะนำจากพ่อบ้านของคฤหาสน์
แม้ว่าคฤหาสน์นี้จะด้อยกว่าบ้านแสนสุขของเรา แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างห้องพักของเหล่าทหาร และแม้ว่าจะไม่ได้เตรียมมาเพื่อรองรับคนจำนวนมากแต่ก็สามารถให้คนร้อยคนอยู่อาศัยในคฤหาสน์ได้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
นอกจากนี้ยังมีวิลล่าของดยุคเวลซัคในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งมีขนาดใหญ่พอจะรองรับทหารจำนวนห้าร้อยนาย แม้ว่าแกรนด์จะไม่ค่อยมาก็ตาม
「ดูเหมือนว่าพวกราชวงศ์จะรอการมาถึงของลูกมาก ดังนั้นไม่น่ามีปัญหาที่เราจะไปเข้าพบทันที น่าจะใช้เวลาไม่นานในการทำเรื่องเข้าเฝ้า」
「เฮ้อ เกลียดจริงๆที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองด้วยการปฏิบัติแบบสิทธิพิเศษแบบนี้」
「ก็รู้หรอกน่าว่าไม่ชอบใจแต่ทำยังไงได้ล่ะที่รัก」
จิลล์กอดเอวซาราเอล่าและมองลูน่า
หมายความว่า
หากต้องการเข้าเฝ้าต้องนัดหมายล่วงหน้า
นี่เป็นกรณีปกติของขุนนางทั่วไป และการเมินเฉยต่อสิ่งนี้และเข้าพบปะโดยตรง ไม่ต้องนัดหมายนั่นหมายถึงการเป็นบุคคลสำคัญของประเทศนี้
ด้วยเหตุนี้หากเหตุผลเพื่อการเข้าหา เพียงแค่ “เพื่อพาลูน่าลูกสาวของตระกูลมาร์ควิสไปเข้าเฝ้า” นั่นหมายถึงเป็นการดูตัวเจ้าสาวที่จะเป็นคู่แต่งงานของเจ้าชายและในขณะเดียวกันตระกูลมาร์ควิสทั่วไปคงยินดี
คนรอบข้างจะเข้าใจได้โดยปริยาย
ลูน่าไม่มีความตั้งใจจะแต่งงานกับเจ้าชายและซาราเอล่าเองก็ไม่มีทางมอบลูกสาวให้กับราชินีหน้าด้านที่บุกเข้าบ้านคนอื่นโดยพลการ
ดังนั้นพวกเราแค่ทำตามประเพณีและไปหาที่ปราสาท
ส่วนเรื่องจิลล์ที่อยากจะให้ลูกสาวเป็นของราชวงศ์นั้นดูเหมือนจะต้องล้มเลิกไป
「พูดตามตรงผมไม่สามารถปฏิเสธหรือยืนยันเรื่องการแต่งงานของลูน่าได้เลย ตั้งแต่งานวันเกิดครั้งล่าสุด ราชินีดูเหมือนจะสนใจลูน่าเป็นพิเศษด้วยสิ อึก……」
จิลล์ต้องรีบถอนคำพูดทันทีที่เห็นซาราเอล่ามองด้วยสายตาน่ากลัว
「เอ่อ อย่าเข้าใจผิดสิ ข่าวลือของลูน่าแพร่กระจายไปทั่วราชวังแล้ว เมื่อพิจารณาจากการที่พวกนั้นพยายามตามตัวลูน่าด้วย――」
「เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมถึงมีข่าวลือเรื่องลูน่าหลุดออกไปได้? ต้องรีบจัดการต้นตอในทันทีเลยนะคะ……」
จิลล์ตอบกลับซาราเอล่าว่า「เป็นไปไม่ได้ที่จะปิดข่าวลือของลูน่าหรอก ความสำเร็จมากมายตั้งขนาดนั้น」
「องค์ราชาเองก็ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเขตของเวลซัคงั้นเหรอ และเมื่อหลายปีก่อนพระองค์ก็ทรงปราบจอมมารเพียงลำพังด้วย」
「อ่าเข้าใจแล้ว」
ฉันเห็นท่านแม่นั่งกุบขมับ
โดยพื้นฐานแล้วราชวงศ์จะไม่ไว้วางใจคนที่อยู่ในตระกูลขุนนางหลัก
หากเป็นไปได้ก็อยากจะโค่นล้มและยึดเอาเป็นอาณาเขตของตัวเองด้วยซ้ำ โดยไม่สนใจหรอกว่าพวกเขาจะจงรักภักดีต่อองค์ราชามากแค่ไหน
ดังนั้นราชวงศ์จึงได้ส่งตัวแทนไปยังดินแดนของตระกูลหลักต่างๆและจับตาเฝ้าระวังเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ใช้งานได้ทันทีและหากมีพฤติกรรมผิดปกติจะได้อ้างข้อหากบฏและเข้ายึดได้
หากเป็นแบบนี้ เป็นเรื่องปกติที่องค์ราชาจะรู้การเคลื่อนไหว แม้ว่าเพิ่งผ่านมาเมื่อห้าปีที่แล้ว และเป็นเรื่องปกติที่จะให้ความสนใจแก่ลูน่าที่ได้จัดตั้งกองกำลังป้องกันส่วนตัว และยังเป็นหน่วยรบทางอากาศเพียงหนึ่งเดียวในราชอาณาจักรอัลฟิเลีย
ราชินีเอลิซ่ามาต่อรองโดยตรงกับลูน่าแม้ว่าเธอจะแต่งตัวสุภาพบุกเข้ามากลางงานเลี้ยงวันเกิดก็ตาม
「ท่านแม่ หนูมีคำถามค่ะ」
ลูน่าซึ่งเฝ้าดูสถานการณ์มาโดยตลอดก็สอบถามซาราเอล่าเมื่อเธอถอนหายใจออกมา
เธอที่เห็นก็ทำหน้าซีเรียสและลูน่าได้ถามออกไป
「ไม่น่าแปลกใจหรอกค่ะเพราะราชวงศ์ส่งสายลับไปยังเขตตระกูลหลักทั้งหลายเพื่อจับตาดูว่าจะมีการก่อกบฏขึ้นรึเปล่า และที่น่าแปลกใจกว่านั้นทำไม ถึงได้สนใจเขตของขุนนางที่อยู่ชายแดนมากนัก หนูคิดตามสมมุติฐานแล้วมีคนอยู่เบื้องหลังรึเปล่า? หากไม่มีข้อมูลดีๆพวกเราก็ควรจะเก็บสิ่งนี้ไว้ก่อนดีกว่านะคะ」
ตอนนี้กล่าวได่ว่าพวกเราโดนตรวจสอบจากราชวงศ์ตามประเพณีของพวกขุนนาง แต่พวกเราไม่รู้ตัวเลย
เพราะท้ายที่สุดแล้วองค์ราชาก็ไม่ไว้วางใจใครทั้งสิ้น! เพราะแบบนั้นเรื่องราวมันเลยออกมาประมาณนี้
หากองค์ราชาเฝ้าดูแบบเปิดเผยก็คงมีแต่ผู้คนเคลือบแคลงใจว่าทำไมถึงต้องตรวจสอบขุนนางทุกคน
ดังนั้นจึงมีบางกรณีที่พวกเรายินยอมที่จะเปิดเผยแค่บางส่วนเท่านั้น
「คำพูดของลูน่าเป็นความจริง ใช่ คราวนี้เรามาทำแบบที่ว่าองค์ราชาและราชินีรู้ทุกอย่างอยู่แล้วกันเถอะ」
ซาราเอล่าครุ่นคิดชั่วครู่แล้วตอบอย่างตรงไปตรงมา
(เข้าใจแล้ว เพราะแบบนั้นเลยยืมปากลูกสาวที่โดนราชินีถูกใจเป็นเครื่องต่อรองงั้นเหรอเนี่ย)
เฮ้อโลกนี้นี้มีแต่คนเหลี่ยม ข้าวอร่อยทั้งนั้น
แต่แม่เองก็บอกว่า「แค่คราวนี้เท่านั้น」
กล่าวอีกนัยหนึ่งเธอเชื่อว่าการพบกันครั้งแรกเป็นการชกใต้เข็มขัดและเป็นหมัดแย็บเบาๆ
「เข้าใจแล้วถ้างั้นก็เริ่มแผนการกันเถอะค่ะ」
「ลูกสาวของเราจะฉลาดมากเกินไปแล้ว เฮ้อ」
「ก่อนที่จะมันจะสายเกินไปค่ะ」
「อ่า นั่นสินะ」
และท่านแม่กับลูกสาวก็หัวเราะพร้อมจิบชา
ในห้องรับแขกนั้นมีคุณมิน่าและอลิซ่าซึ่งเป็นคนของตระกูลวินเบล และซาราเอล่ากับลูน่า กับเจ้าของบ้านจิลล์ที่เป็นตระกูลดิแซค ท่านพ่อรีบมาหาพวกเราหลังจากเห็นพวกเราพูดคุยกันอยู่
「ซาราเอล่า ลูน่า รีบเตรียมตัวและไปที่ปราสาทโดยเร็วที่สุด ผู้ส่งสารมาถึงแล้ว」
「ทำงานเร็วราวกับจะประชดกันเลยนะ ท่านราชา」
แม่ชี้ไปที่ปากโดยไม่ตั้งใจ
ลูกสาวสุดที่รักทำได้แค่ยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย
――สมมติว่าองค์ราชาและราชินีแค่ต้องการแย็บเบาๆใส่พวกเรา
ถ้าแค่นั้นยังพอทน แต่มากกว่านี้เดี๋ยวเจอหมัดฮุคฝั่งนี้ระวังจะหนาวนะ