[นิยายแปล] ～จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ～ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว - ตอนที่ 64 - 041：งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑤ จุดพักอาซาเรีย Ⅳ

041：งานเปิดตัวแห่งความร้าวฉาน⑤ จุดพักอาซาเรีย Ⅳ

 

ชิล่า มูเอล ซึ่งควรจะหายไปจากโลกนี้โดยไม่เหลือแม้เพียงเศษผมสักเส้นเดียว เนื่องจากเจอท่าทำลายล้างสูงและควรจะไปอยู่ที่โลกหลังความตายแล้วแต่ทว่า

 

 

 

「โอ้ ได้สติแล้วงั้นเหรอ」

 

 

 

ลูน่าพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย

 

ชิล่าเอื้อมมือไปจับผมมันวาวของเธอและสัมผัสนิ้วของเธอ

 

ผมของเธอนั้นนุ่มนวลเมื่อได้สัมผัสและฉันก็เผลอหายใจออกมาอย่างเร่าร้อน

 

 

 

「ไม่คิดเลยว่าฉันจะได้มีชีวิตต่ออีกนะคะ」

 

 

 

ชิล่ามีข้อมูลมากมายและรู้ว่าลูน่าสามารถชุบชีวิตคนตายได้

 

ยิ่งไปกว่านั้นหากฆ่าลูกสาวของขุนนางไม่ว่าทางใดก็ส่งผลต่อหายนะต่อตัวเธอในอนาคต

 

เมื่อคำนึงถึงเรื่องราวทุกอย่างชิล่าก็มั่นใจว่าเธอจะต้องชุบชีวิตฉันกลับมาอย่างแน่นอน

 

ลูน่ารู้สึกรำคาญที่เห็นใบหน้าชวนหงุดหงิดนั่นราวกับว่าโดนมองออก แต่เธอก็พยายามไม่แสดงอารมณ์ออกมาให้มากที่สุด

 

 

 

「อ่าา ถ้าแค่ชุบชีวิตขึ้นมาเธอก็คงจะหันคมเขี้ยวใส่ฉันอีกครั้งอย่างแน่นอนเพราะงั้นฉันก็เลยวางแผนตุกติกนิดหน่อย」

 

 

 

「หมายความว่ามีอะไรแอบแฝงงั้นเหรอคะ」

 

 

 

「ใช่ ถ้าจะให้พูดก็คือฉันดัดแปลง “ใจกลาง”ของเธอต่างหากพอจะเข้าใจไหม？」

 

 

 

ใจกลาง  คือวิธีการอัดฉีดพลังปราณเท่าเมล็ดข้าวเข้าไปในหัวใจของเป้าหมายเพื่อควบคุมหัวใจของเป้าหมาย

 

สำหรับผู้ที่ถ่ายทอดมันลงไปสามารถทำให้มันระเบิดเมื่อไหร่ก็ได้ตลอดเวลาตราบเท่าที่ต้องการ

 

มันไม่ใช่อาการบาดเจ็บหรือโรคภัยต่างๆ ดังนั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ และไม่ใช่คำสาปด้วย

 

ทางออกเดียวก็คือให้คนที่โดนถ่ายเทพลังปราณลงไปทีละน้อยๆ เมื่อสะสมไปได้ปริมาณหนึ่งมันจะหายไป

 

ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้ที่โดนเจ้าสิ่งนี้เข้าไป แต่ตัวอย่าง หากเป็นผู้เชี่ยวชาญพลังปราณอย่างสมบูรณ์ก็คงใช้เวลาอย่างน้อยยี่สิบปีในการรักษาอาการนี้

 

 

 

「ใช่ ที่สำคัญฉันยังเป็นผู้ใช้พลังปราณ……」

 

 

 

ฉันโดนลูบหน้าม้าตรงหน้า

 

แต่มันรู้สึกผ่อนคลายจริงๆ

 

สำนักมังกรซากุระแท้จริงพื้นฐานก็มาจากพลัง ฉี่ ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็มีรากฐานมาจากรากเหง้าเดียวกัน

 

เมื่อถามว่าอะไรคือความแตกต่างชิล่าเองก็ตอบไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว

 

 

 

「งั้นช่วยตอบหน่อยได้ไหม ว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้ ถึงได้มาหาเรื่องพวกฉัน？」

 

 

 

เธอลุกขึ้นมา

 

ชิล่านั้นพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ และเธอต้องการทราบรายละเอียดทุกอย่าง

 

 

 

「――พวกเราตระกูลมูเอล มีเชื้อสายที่สืบทอดพลังฉี่กันแบบรุ่นสู่รุ่น พ่อของฉันเป็นคนสอนให้เอง

 

　และตระกูลมูเอลได้ใช้อำนาจนี้เพื่อมีส่วนร่วมโดยไม่ต้องออกจากการเป็นราชวงศ์ พวกชิโนบิเอง…คนชุดดำเหล่านั้นก็เป็นเหล่าข้ารับใช้ของทางบ้านเป็นเวลานาน」

 

 

 

ชิล่าพูดด้วยน้ำเสียงดูหมิ่นตัวเองเล็กน้อย โดยขณะมองเรือนร่างอันแสนงดงามตรงหน้า

 

ลูน่าไม่ได้พูดอะไร

 

 

 

「ผู้ก่อต่อตั้งตระกูลมูเอลคือชายคนหนึ่งที่มีนามว่า เฮรุต ค้นพบว่า “สุดยอดความชั่วร้าย” คืออะไรและก่อตั้งองค์กรเพื่อทำการบางอย่าง

 

ซึ่งองค์กรนี้ถูกเรียกว่า “อิลูมินาติ”

 

อิลูมินาติเป็นองค์กรที่กล่าวกันว่าเป็นของเจ้าหญิงเฟียนน่า ของอาณาจักรในช่วงเวลาที่ถูกก่อตั้ง

 

อย่างไรก็ตามองค์กรดังกล่าวล้มสลายลงด้วยน้ำมือของอัลเบอร์โต้ เจ้าชายแห่งอัลฟิเลีย และทำให้บรรดาเหล่าเพื่อนๆและเขาต้องลงไปทำงานในองค์กรใต้ดิน

 

　นี่คือประวัติที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น」

 

 

 

「……ถ้าอย่างงั้นเจ้าเฮรุตอะไรนั่นก็คงแปลกมากๆแล้วล่ะ」

 

 

 

ลูน่าทนฟังมานานแล้วพูดด้วยความหงุดหงิด

 

ชิล่ายิ้มอย่างขมขื่น「ฉันเองก็เเห็นด้วยค่ะ」

 

 

 

「แม้ว่าจะเป็นคนที่เชี่ยวชาญด้านพลัง ฉี่ มากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าทำไมเขาถึงได้จากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครทราบ พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาตายเพราะอะไร ไปใช้ชีวิตอยู่ที่แห่งไหน ไปตายในป่าหลังจากที่ไปทำงาน หรือมีบางอย่างผิดปกติกับชีวิตของเขา

 

เป็นเรื่องราวที่กล่าวไว้ว่า “หากวันหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดชีวิตต่อไปจะต้องสำเร็จ”

 

　พวกเราต่างเชื่อในคำพูดของเขา และเพื่อค้นหาและช่วยเหลือเขา พวกเราจึงบุกเข้าไปในแผนกข่าวกรองของประเทศและเข้าควบคุมหน่วยข่าวกรอง」

 

 

 

「เอ่อพวกเธออะไรนะ “อิลูมินาติ” ถ้าให้ฉันเดานะพวกเธอคงจะไปได้ยินเรื่องราวของฉันจากหน่วยข่างกรองระดับประเทศและก็คิดว่าฉันเป็นพวกกลับชาติมาเกิดตามคำทิ้งท้ายที่เขาเคยกล่าวเอาไว้ว่างั้นเถอะ？」

 

 

 

「ค่ะ เป็นเช่นนั้นเลย」

 

 

 

「เฮ้อ ให้ตายเหอะ……」

 

 

 

เธอเล่าทุกอย่างมาอย่างหมดเปลือกและมองไปยังลูน่าที่ยังคงคุกเข่าอยู่ด้วยสีหน้าสบายใจ

 

ลูน่าทำได้เพียงแต่คร่ำครวญภายใต้สีหน้าอันเคร่งเครียดในขณะที่ดวงตาสีแดงเข้มยังคงจ้องมองอีกฝ่าย

 

 

 

「ก่อนอื่นมาแก้ไขความเข้าใจผิดกันก่อนเถอะนะ ฉันไม่ใช่บรรพบุรุษของพวกเธอแต่อย่างใด」

 

 

 

จากนั้นลูน่าก็ตะโกนลั่น

 

　ชิล่าบอกว่า「ไม่ใช่งั้นเหรอคะ？！」ซี่งเธอกล่าวออกมาด้วยความสิ้นหวัง แต่หลังจากคิดเกี่ยวกับมันชั่วครู่เธอก็นึกอะไรบางอย่างและแสดงท่าทางเชื่อมั่น「เข้าใจแล้วเป็นอย่างงั้นเองสินะคะ」

 

 

หมายความว่ายังไงหว่า?

 

 

 

「ขอบอกเอาไว้ก่อนนะฉันไม่ใช่เฮรุต และฉันไม่เคยเจอหมอนั่นด้วยซ้ำ อย่าได้เข้าใจอะไรแปลกๆเชียวล่ะ」

 

 

 

「ค่ะ รับทราบ」

 

 

 

ลูน่าพูดซ้ำอยู่หลายครั้งพยายามแก้ไขความเข้าใจผิด

 

　อย่างไรก็ตามชิล่าเปลี่ยนใจ「ก็สมเหตุสมผลอยู่ที่จะทำเช่นนั้นนะคะ」และเธอก็พยักหน้าทุกครั้งที่เปลี่ยนความคิด

 

ฉันคิดว่าเธอน่าจะเข้าใจสิ่งที่ฉันสื่อ แต่ฉันคิดว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่อง

 

ตอนนี้ถึงคราวของลูน่าที่พ่นลมหายใจด้วยความสิ้นหวัง

 

 

 

 

 

　――เมื่อพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นฉันก็กลับไปที่ชั้นสามของโรงแรมพร้อมกับชิล่าที่ซึ่งฟื้นตัวหลังจากพักผ่อนสักครู่

 

ลูน่าตัดสินใจแล้วว่ากว่าจะคุยให้ได้ศัพท์ฟังให้ได้ความคงจะอีกนาน

 

ภายในโรงแรม พวกชายชุดดำที่นอนอยู่บนทางเดิน เธอทำได้แต่ถอนหายใจและกางปีกสีขาวบริสุทธิ์ออกมาอีกครั้ง

 

 

 

เพราะชิล่าได้สาบานแล้วว่าจะจงรักภักดีต่อลูน่าอย่างแท้จริง

 

ซึ่งเธอโครตจะเกลียดเลยอะไรที่เป็นรากเหง้าไปสู่หนทางแห่งหายนะของเธอ

 

 

 

ส่งผลให้คนที่เข้ามาโจมตีทั้งหมดถูกชุบชีวิตและโดนชิล่าคุมตัวไป

 

ชายชุดดำเหล่านั้นโค้งคำนับให้ลูน่าอยู่ตลอดเวลา แต่ฉันจะทำเป็นเมินว่าพวกเขากำลังขอบคุณฉันอยู่ก็แล้วกัน

 

หลังจากบอกให้ผู้จัดการตระเตรียมห้องใหม่ ให้พวกลูน่าแล้ว ตระกูลมูเอลก็ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้

 

เฮ้อเพราะได้ออกกำลังกายก็เลยหลับฝันดี

 

 

 

ชิล่า มูเอล เช่นเดียวกับลูน่า เธออายุ สิบสองปีซึ่งหมายความว่าพวกเราจะได้เจอกันในอนาคตที่สถาบันเวทมนตร์

 

แต่อย่างน้อยฉันก็ไม่อยากจะเจอเธออีกครั้งจนกว่าจะถึงตอนนั้น

 

ลูน่าได้แต่หวังว่าใบหน้าอันแสนเรียบร้อยจะช่วยให้เธอทำบุคลิกตามใบหน้าเธอได้บ้าง