[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว - ตอนที่ 30 - 007:ฝึกบิน
- Home
- [นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
- ตอนที่ 30 - 007:ฝึกบิน
007:ฝึกบิน
「อะ……..อูยยยยยยยยยยย……」
เมื่อลืมตาตื่นก็เห็นเพดานห้องสลัวๆในสายตา
แสงส่องผ่านช่องว่างของผ้าม่านที่ปิดสนิท
ผมมันวาวของเธอไม่ได้สูญเสียความเงางาม แต่มีสีแปลกๆปรากฏที่ปลายผม
「……อืม ฉันอายุ 12 ปีแล้วสินะ」
ฉัมพึมพำกับตัวเองโดยทิ้งผ้าปูที่นอนเอาไว้บนเตียง
งานเลี้ยงวันเกิดจัดขึ้นเมื่อสามวันก่อน
หากเป็นกรณีนี้ ก็ไม่มีครอบครัวขุนนางที่อยู่ในคฤหาสน์หรือในเมืองอีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าวันนี้เธอสามารถฝึกฝนได้โดยไม่มีใครต่อว่านั่นเอง
ใช่สิ่งที่จะฝึกในวันนี้ไม่ใช่การฝึกธรรมดาทั่วไปหรอกนะ แต่เป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติเพื่อใช้ในกองกำลังของเราต่างหากล่ะ
เมื่ออายุเจ็ดขวบหลังจากประสบปัญหามากมายลูน่าก็ได้จับพลัดจับพลู มาเป็นหัวหน้ากองทัพ และเพื่อปกป้องลูน่า ลูน่าได้ฝึกเหล่าทหารที่อยู่ภายใต้สังกัดของเธอ และลูน่าได้จัดตั้งแบ่งแยกกระบวนทัพตั้งแต่เริ่ม
ซึ่งคิดว่าตอนนี้เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ประมาณห้าปีในการฝึกเหล่าทหารของเธอ
ปัจจุบันกองทัพได้ขยายเป็นสามสิบคน
สมาชิกห้าคนแรกเป็นหัวหน้าหน่วยต่างๆ และมีหน่วยรบห้าหน่วยถูกจัดตั้งขึ้น
โดยปกติไม่น่าเป็นไปได้ที่ทหารจำนวนน้อยขนาดนี้จะแบ่งออกเป็นกลุ่มๆได้
นั่นเป็นเพราะการต่อสู้ระยะประชิดใช้จำนวนเข้าว่าจะง่ายกว่าอย่างมาก
แต่นั่นเป็นเพียง「ยุทธวิธีทางการทหารที่ต่อสู้กันทางพื้นดิน」เธอกล่าวเช่นนั้น จากนั้นเธอก็ไม่ได้ทำการฝึกอะไรเพิ่มขึ้น
ลูน่าที่เชี่ยวชาญพลังปราณในชีวิตก่อนหน้านี้และเปิดสำนักฝึกวิชา
ซึ่งรวมถึงวิชาการบินบนท้องนภาด้วยพลังปราณ และวิธีนี้จะต้องทำการสอนให้กับเหล่าทหาร
กล่าวอีกนัยหนึ่งกองทัพพิทักษ์เทพธิดามีหน่วยต่อสู้ทางอากาศซึ่งถูกบัญชาการโดยลูน่าโดยตรงซึ่งจะทำทำยุทธศาสตร์จากฟากฟ้าโจมตีใส่ศัตรูภาคพื้นดิน
ดังนั้นรูปแบบการต่อสู้ในสมัยโบราณจึงไม่ค่อยนิยมในการรวมกลุ่มแบบสมัยปัจจุบัน
พวกเราจะใช้ยุทธวิธีห่านบินเสมอ แม้ว่าจะอยากบินบนฟากฟ้าในชาติก่อน ก็มีเรื่องให้ต้องคิดอย่างมากมาย เช่น แรงต้านอากาศ ที่จะเกิดขึ้น
เป็นเพราะเธอได้เรียนรู้การบินกับฝูงนกอพยพและเลียนแบบวิธีการบินของพวกมันซึ่งทำให้เหนื่อยน้อยกว่า แต่ก็ล้มเลิกไปในชาติก่อน
ฉันลุกขึ้นจากเตียงและเดินเข้าไปหาแสงสลัวและเปิดผ้าม่านจนสุด
แสงส่องสว่างภายในห้องและลูน่าก็ยิ้มพร้อมกับหรี่ตา
วันนี้อากาศดีและเงื่อนไขสำหรับการฝึกบินก็พร้อมแล้ว
「――ทหารทุกคนจงฟัง!!」
สมาชิกของกองกำลังพิทักษ์นางฟ้าได้มารวมตัวกันที่สนามฝึกซ้อมเข้าแถวทันทีที่ได้เห็นการมาถึงของลูน่า
「แถวตรง รายงานการฝึกมาซะ!」
「หน่วยที่หนึ่ง ไม่มีความผิดปกติ」กลุ่มของโอไกคุง
เขาดูเหมือนนชายอายุยี่สิบกลางๆ แต่ตามจริงเขาแก่กว่านั้น เสื้อท่อนบนสีดำและเข็มขัดสีแดงที่สวมใส่และใบหน้าอันดุร้ายคือเอกลักษณ์ของเขา
「หน่วยที่สอง มารวมตัวกันทั้งหมดแล้วค่ะ」กลุ่มที่สองเป็นของอลิซ่า
อลิซ่ามาถึงคฤหาสน์ของเราเมื่อเย็นวานนี้ และได้ทำการปรับเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อคืนวาน ตอนนี้โอไกคุงก็เหมือนกับพี่ชายคนโตของเธอ
แม้ว่าเธอจะอ้างตัวเป็นศิษย์ของลูน่า แต่ คุณมิน่า วินเบล แม่ของเธอก็เป็นที่ปรึกษาและคอยสั่งสอนเธอเสมอมา กล่าวอีกนัยหนึ่งต้องเรียกว่าแทนที่เธอจะสืบทอดวิชาของฉัน แต่เธอเป็นผู้สืบทอด “กำปั้นดอกไม้สีชาด”
ซึ่งการฝึกวิชาสำนักของฉันก็ไม่มีอะไรนอกจากการใช้พลังปราณ ดังนั้นมันเข้ากับวิชาของสำนักอื่นได้ดีอยู่แล้ว
ฉันเคยได้ยินมาว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่เธอไม่พอใจและไปเถียงกับท่านแม่ ก็เลยเกิดเหตุฝึกนรกแตกขึ้น
ลูกสาวมีความมุ่งมั่นที่จะชนะ แต่ท่านแม่ของเธอก็มีนิสัยเป็นคนหัวรุนแรงและจะสู้จนกว่ามือจะแตะพื้นนั่นแหละ
「หน่วยที่สาม พร้อมตลอดเวลาครับ!」อาร์ดิสกล่าว
「หน่วยที่สี่ พร้อมแสดงผลของการฝึกให้เห็นเช่นกัน!」ซิลเวสเตอร์กล่าว
อาร์ดิสเป็นชายรูปร่างสูงเพรียว ตรงกันข้ามกับซิลเวสเตร์ที่มีร่างกายกำยำ
ทั้งสองคนที่รับเลือกจากกลุ่มอัศวินของท่านแม่ให้มาเป็นตัวแทนของฉัน ซึ่งพวกเขาเป็นคนที่โดดเด่นในบรรดาหน่วยของท่านแม่เพราะเชี่ยวชาญพลังปราณตั้งแต่ที่ลูน่าเริ่มสอน
「หน่วยที่ห้า พร้อมปฏิบัติการ!」ออโต้กล่าว
ในที่สุดออโต้ก็ถูกดึงออกมาจากกลุ่มทหารรักษาการณ์
เขาเป็นชายหนุ่มซึ่งสุขภาพร่างกายแข็งแรง
เธอนั้นชื่นชมลูน่าในฐานะอาจารย์ และแม้ว่าตอนแรกเขาจะเป็นคนที่ห่วยแตกที่สุด แต่ตอนนี้เขาเองก็เป็นทรัพยากรที่ขาดไปไม่ได้เลย อาจเป็นเพราะบุคลิกที่จริงจังของเขา
ต่อหน้าสมาชิกกลุ่มแรกของกองทัพลูน่า เธอพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
「สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทั้งหลาย จงฟัง เหล่านกน้อยที่น่ารักของฉัน สหายร่วมรบที่ฟันผ่าการฝึกมาตลอดห้าปีนี้ จากโลกนี้ ณ จุดนี้ พวกเจ้าทุกคนจะได้โผทะยานไปบนท้องนภา สนามรบของเราจะแปรเปลี่ยนไร้พรมแดน พวกเราคือกลุ่มนักรบที่จักท่องนภาและกำจัดศัตรูจากฟากฟ้า————วันนี้เป็นการฝึกบินครั้งแรกของพวกเรา ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเกร็ง ตั้งเป้าที่จะโผบินไปบนท้องนภาก็เพียงพอแล้ว」
วันนี้เธอไม่ได้สวมชุดแฟนซี แต่สวมชุดที่สามารถสกปรกหรือทนต่อการฉีกขาดได้
สมาชิกคนอื่นๆก็สวมชุดสีเขียวเช่นกัน
「เมื่อพูดถึงการรบจริง พวกเราจะจัดเตรียมกระเป๋าเป้สะพายหลังเพื่อบรรจุชุดเกราะมือเวอร์ชั่นสอง และกระสุนปืนใหญ่ แต่ว่าวันนี้ทรัพยากรของเรายังไม่พร้อม จึงจะเลื่อนการฝึกจริงไปในภายภาคหน้าอย่างไม่มีกำหนด —-ส่วนชุดในการสู้รบพวกทหารทุกนายจะเน้นไปที่ความคล่องตัว ถามว่าทำไมงั้นเหรอ? เพราะชุดเกราะหนักๆน่ะ แค่ล้มครั้งเดียว ก็ตายแล้วยังไงล่ะ และหมวกที่สวมไว้บดบังทัศนวิสัยก็มีแต่จะเกะกะเปล่าๆ นอกจากนี้วิธีการโจมตีหลักของพวกเราคือขีปนาวุธ กล่าวอีกนัยหนึ่ง วิธีการของพวกเราต่างจากแบบดั้งเดิม」
เธอหยุดและมองไปรอบๆเหล่าทหาร
「จงสรรเสริญ พวกเราจะสวมชุดเครื่องแบบของทหารทางอากาศ ซึ่งจะมีหน่วยตราประจำกองทัพของพวกเราประดับไว้บนบ่าของทหารทุกคน และพวกเราจะเป็นกองกำลังทัพทางอากาศแห่งแรกของมนุษยชาติที่ขึ้นตรงต่ออาณาจักรอัลฟิเลีย」
「โอ้ววววววววววว!」
ทุกคนต่างส่งเสียงคำรามออกมา
จากนั้นรอให้เสียงของเหล่าทหารสงบลง ลูน่าพูดต่อ
「มาเหอะ เหล่าผู้พิทักษ์นางฟ้าของฉัน จงเข้าร่วมกับฉันเพื่อพิชิตท้องนภาที่ไร้ที่สิ้นสุดแห่งนี้」
「「「ท่านลูน่าที่รัก! จักรพรรดินีแห่งท้องนภา ! ผู้ปกครองสรวงสวรรค์!!」」」
เสียงของทหารพูดพร้อมกันอย่างไพเราะ
ไม่ ฉันไม่คิดว่านั่นดูเป็นคำพูดที่น่าฟังสักเท่าไหร่หรอก
ไปเรียนรู้คำศัพท์แปลกๆพวกนั้นมาจากไหนกันเนี่ย
ลูน่ายิ้มเล็กน้อย แต่ก็ออกคำสั่งในทันที
「พวกเราทุกคนจะโผบินไปบนท้องนภา!!」
「「「โอ้ววววววววววววววววววววว!!!」」」
ทำไมถึงตื่นเต้นกันขนาดนั้นนะ
จนถึงตอนนี้พวกเราก็ได้ฝึกบินเดียวหรือลอยอยู่ในอากาศด้วยพลังปราณมานาน และเท่าที่ฉันเห็นพวกเขาทั้งหมดก็มีทักษะการบินอยู่ในระดับสูงหมดแล้วจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น?
แต่ว่า ฉันเองก็ไม่เคยบินพร้อมกับทุกคนและบางทีทุกคนอาจจะตั้งตารอที่จะได้บินไปพร้อมกันกับฉันมั้ง?
ไม่ ความจริงที่ว่าการบินขึ้นไปบนท้องนภาถือเป็นความฝันของมนุษยชาติ และยังมีวิธีการบินอีกมากมาย อย่างการใช้เเวทมนตร์ ดังนั้นฉันไม่รู้หรอกว่าต้องรู้สึกแบบไหน
ถึงกระนั้น ฉันเองก็อยากรู้สึกตื่นเต้นแบบทุกคนบ้าง
นอกจากนี้ การควบคุมมันจะง่ายกว่ามากหากบินด้วยพลังปราณ แทนที่จะบินด้วยพลังเวทย์
เหตุผลก็คือ ยามที่บินจริงๆ ความกดอากาศบนท้องฟ้าจะสูงมาก ซึ่งหมายความว่าคนใช้พลังเวทย์จะต้องใช้เวทย์สำหรับบินพร้อมกับเวทย์ที่ลบแรงต้านทางอากาศ หรือ เวทย์ที่สำหรับรักษาอุณหภูมิร่างกาย สำหรับหายใจ และอีกมายมาย กล่าวอีกนัยหนึ่งต้องใช้หลายๆอย่างพร้อมกัน ดังนั้นทรัพยากรที่ใช้มันมากเกินความจำเป็น พอเทียบกับพลังปราณนั้นสามารถครอบคลุมทุกอย่างได้เพียงแค่ปรับใช้ให้มันครอบคลุมทั้งร่าง และมุ่งเน้นความสนใจไปที่การบินโดยไม่ต้องสนเรื่องอื่น
ลูน่าลอยอยู่ในอากาศด้วยพลังปราณ
จากนั้นทหารอีกประมาณสามสิบนายก็ตามมา
ผมยาวสีเงินของเธอพลิ้วไสวในอากาศ
「เริ่มปฏิบัติการได้!!」
ด้วยเสียงที่ดังจากท้องเป็นสัญญาณ สมาชิกของกองทัพพิทักษ์นางฟ้าก็เริ่มบิน
ลูน่าบินขึ้นไปเพราะเป็นผู้นำการฝึกในครั้งนี้ และแต่ล่ะกลุ่มก็ไล่ตามเธอไป
「อย่าแตกขบวน ! ตรงนั้นน่ะ ! อย่าบินต่ำให้บินสูงกว่านี้!!」
หลังจากนั้นก็บินต่อไปไม่รู้จบสิ้นพวกเขาบินต่อประมาณครึ่งวันจากนั้นก็เหลือเพียงทหารหัวหน้าหน่วยแค่ห้าคนที่ตามลูน่ามาได้
「เฮ้อแบบนี้จะไม่ให้กังวลยังไงไหว……」
「ไม่หรอกนะคะพี่สาว♡」
ขณะที่พึมพำกับตัวเอง ก็มีเสียงตอบกลับจากข้างๆ และนั่นเป็นน้ำเสียงที่ค่อนข้างมีความสุขของอลิซ่าซึ่งบินอยู่ข้างๆลูน่าตั้งแต่กลุ่มของพวกเราเริ่มแตกรัง