[นิยายแปล] เจ้าหน้าที่กองทัพอวกาศกลายมาเป็นนักผจญภัย Kochugunshikan Boukensha ni Naru - ตอนที่ 8 หลบหนี
เอาล่ะ เราเก็บของเสร็จแล้วและเตรียมอาวุธพร้อม
นาโนมต้องการตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเครเรีย เราจึงต้องบอกเธอก่อน อธิบายความตั้งใจผ่านท่าทางเหมือนปกติและให้เธอนั่งลง
เราถอดขาเทียมออก คลายผ้าและลอกผ้าพันแผลออก แผลนั้นมีชั้นผิวหนังบางๆ ปกคลุม กระดูกไม่ยื่นออกมาเหมือนเมื่อก่อน แต่ถ้าออกแรงสักหน่อย ก็สามารถทำให้มันออกมาจากชั้นผิวบาง ๆ นี้ได้
(เธอจะไม่รู้สึกเจ็บใช่ไหม)
[ตัวรับความเจ็บปวดรอบ ๆ บาดแผลของเธอ ถูกตัดออกไปแล้วครับ]
ส่วนของแผลที่เชื่อมกับขาเทียมนั้นดูบวมเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเราต้องเรียนรู้วิธีพันผ้ารอบ ๆ บาดแผลให้ดีขึ้น
(รักษาแผลได้มากแค่ไหน?)
[ไม่สามารถยืนยันได้ครับ อัตราการงอกใหม่จะแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของสารอาหารที่ได้รับและปริมาณทรัพยากรที่เหมาะสม]
ก็จริง คุณไม่สามารถสร้างส่วนต่าง ๆ ของร่างกายขึ้นใหม่ได้หรอก หากไม่มีทรัพยากรเพียงพออะนะ
[ขณะนี้ กระบวนการกำลังค่อย ๆ ทำลายเซลล์ในส่วนอื่นของร่างกายเธอพื่อชดเชยครับ]
(หากเราสามารถได้รับสารอาหารและทรัพยากรในปริมาณมาก ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?)
[สามสัปดาห์ครับ]
(ใช้เวลานานไหมถ้าเอาเฉพาะส่วนขาก่อน?)
[สองสัปดาห์ครับ]
นั่นก็เร็วพอแล้ว งั้นเน้นที่ขาของเธอก่อน
ปกติแล้ว แม้ว่าคนเราจะกินอาหารเป็นจำนวนมาก แต่ปริมาณสารอาหารที่สามารถดูดซึมได้ในมื้อเดียวก็มีจำกัด และสารอาหารส่วนเกินส่วนใหญ่จะถูกขับออกจากร่างกายแทน เป็นเพราะว่าร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมาไม่ให้รับสารอาหารมากเกินความจำเป็นเพื่อให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ
ยังไงก็ตาม หากนาโนมขัดขวางกระบวนการทางธรรมชาตินี้ จะสามารถดูดซึมสารอาหารในปริมาณสูงสุดและเก็บไว้ในร่างกายได้ การใช้สารอาหารดังกล่าวจะช่วยให้นาโนมสามารถฟื้นฟูร่างกายโดยทำให้การแบ่งเซลล์เร็วยิ่งขึ้น
(สารอาหารแบบไหนที่เหมาะสม?)
[เนื้อสัตว์ ของที่เหมือนมันฝรั่ง และอาหารอื่น ๆ ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุครับ]
อืม นั่นเป็นคำอธิบายกว้าง ๆ แต่ก็เดาว่ามันช่วยไม่ได้ละนะเพราะพวกเราไม่ค่อยรู้เรื่องอาหารบนดาวเคราะห์ใบนี้ ดูเหมือนว่าเราต้องค้นหาและรวบรวมอาหารอีกครั้ง แต่ไม่คิดว่าจะมีของที่เหมือนมันฝรั่งในบริเวณนี้หรอก
หืม? เดี๋ยวนะ? หากเท้าของเธอค่อยๆ งอกใหม่ เธอจะไม่สามารถใช้ขาเทียมในปัจจุบันได้อีกต่อไป! ธงแห่งความหายนะที่เราหลีกเลี่ยงกำลังมาอีกแล้ว!
(สร้างขาเทียมอีกชิ้นสำหรับเธอได้ไหม)
[สามารถสร้างได้แต่แบบนี้ครับ ถ้าใช้วัสดุที่มีอยู่ในปัจจุบัน]
นาโนมแสดงการออกแบบขาเทียมบนหน้าต่างเสมือนจริง การออกแบบนั้นเรียบง่ายเกินไป เหลือเพียงระบบกันสะเทือนเพื่อรองรับน้ำหนักของเครเรีย หลังจากยึดเข้ากับเข็มขัดแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถรองรับน้ำหนักของเธอได้และขัดขวางจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายเธอ เธอจะไม่สามารถเดินไปได้ไกล
แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถกระโดดไปรอบ ๆ ได้ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม เราสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้อีกครั้ง กล่าวอีกนัยหนึ่ง เครเรียจะไม่สามารถเดินได้เท่าที่ควรอีกนานจนกว่าขาของเธอจะงอกใหม่เต็มที่
(ได้วัสดุที่จำเป็นสำหรับขาเทียมแบบใหม่นี้แล้วหรือยัง)
[ทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าครับ]
เอาล่ะ เท่านี้ก็เรียบร้อย
เราไม่รู้ว่าเราต้องเดินทางไกลแค่ไหน แต่อาจจะต้องเตรียมตั้งแคมป์ที่อื่นด้วย ขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่ต้องใช้เพื่อไปถึงจุดหมาย เราจะยืนยันกับเครเรียอีกที
งั้นมาใส่ขาเทียมกลับไปไว้ที่ขาเธอก่อน เราพันขาเธออีกครั้งด้วยผ้าพันแผลและเศษผ้า
(โปรดใช้ความรู้สึกและพันผ้าพันแผลให้เหมาะสมที่สุดด้วยครับ)
เราพันผ้าอีกครั้งแล้วใส่ขาเทียม แต่ก็ยังไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ ดังนั้นจึงเอาออกแล้วพันใหม่ ลองไปหลายครั้งจนกระทั่งในที่สุด ก็ได้วิธีการพันที่เหมาะสมที่สุด
ต่อไปจะเป็นที่แขนของเธอ มันถูกปกคลุมด้วยผิวหนังชั้นบาง ๆ เช่นเดียวกับขาของเธอ ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาใดๆ
(เน้นไปที่การสร้างขาของเธอก่อน)
[รับทราบครับ]
*เครเรีย*
หลังจากแสดงทักษะดาบของเขาแล้ว ท่านโครินท์ก็ลดดาบและก้มศีรษะลง ดูเหมือนเขาจะขอบคุณฉัน ฉันรู้สึกยินดี คิดว่าอาจจะทึกทักไปเอง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น คิดว่าด้วยสถานะที่สูงส่งของท่านโครินท์ เขาจะสามารถหาดาบคุณภาพสูงได้มากมากอย่างง่ายดาย แต่เขาอาจไม่ได้พกติดตัวไปเพราะเหตุผลบางอย่าง
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องการให้ฉันโชว์บาดแผล อาจจะตั้งใจที่จะวินิจฉัยดู ฉันก็อยากดูว่าแขนและขาที่ถูกตัดขาดเป็นยังไงเหมือนกัน
เมื่อถอดขาเทียมและผ้าพันแผลออก สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าฉันคือตอขาที่น่าสังเวช ฉันเกือบจะร้องไห้ ท่านโครินท์แสดงสีหน้าลำบากใจในขณะที่เขามองขาที่ถูกตัดขาดของฉัน นี่มันแย่กว่าที่คิดหรือ? เขาพันผ้าพันแผลแล้วใส่ขาเทียมกลับเข้าไปใหม่ แต่สุดท้ายก็ทำใหม่หลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ดูพอใจหลังจากพยายามหลาย ๆ ครั้งและทำท่าทางอธิบายให้ฉันพยายามยืนขึ้น
ช่างวิเศษเหลือเกิน! มันเจ็บปวดเล็กน้อยก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่ฉันก้าว ฉันคิดว่ามันเป็นธรรมชาติเพราะขาของฉันขาด แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย ดูเหมือนว่าต่อจากนี้ฉันจะสามารถเดินได้อย่างมั่นคงมากขึ้น
เขามองที่แขนของฉันต่อไป อย่างกับตอไม้เลย เมื่อลองสังเกตดูด้วยตัวเอง พบว่ามีชั้นผิวหนังบาง ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือแผลแทนที่จะเป็นสะเก็ด เป็นไปไม่ได้! ฉันเพิ่งได้รับบาดเจ็บเมื่อวานนี้และตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยผิวหนังแล้วหรอ?!
ท่านโครินท์ใช้อะไรที่เหนือกว่าเวทมนตร์รักษาธรรมดาหรือเปล่า?
ท่านโครินท์ไม่แปลกใจเมื่อเขาเห็นสภาพแขนของฉันและพันผ้าพันแผลอีกครั้งเหมือนปกติ
จากนั้น เขาชี้ไปที่พื้นแล้ววาดวงกลมบนพื้นดิน จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ถนนข้างหน้าและลากเส้นจากวงเวียนไปทางถนน เขาวาดเครื่องหมาย X หลังจากถึงจุดหนึ่ง เขาวางนิ้วสองนิ้วไว้เหนือเส้นแล้วขยับราวกับว่ากำลังเลียนแบบคนกำลังเดิน
เขาน่าจะถามฉันว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะถึงที่หมาย? น่าจะใช้เวลาประมาณยี่สิบวัน ฉันจึงยกนิ้วทั้งห้าขึ้นข้างหน้าเขาแล้วผลักออกสี่ครั้ง ฉันสื่อสารได้ถูกต้องไหมนะ?
ท่านโครินท์หมกมุ่นอยู่กับความคิดอีกครั้ง มีอะไรหรือเปล่านะ?
ดูเหมือนเขาจะชวนฉันกินข้าว เขาแกะขนมที่ห่อด้วยแผ่นโลหะอีกอันหนึ่งแล้วยื่นให้ฉัน อร่อยจริง ๆ! มันค่อนข้างไม่สุภาพสำหรับฉัน แต่ฉันก็กินมันเสร็จในเวลาเพียงชั่วครู่
ในที่สุดเราก็ได้ออกเดินทาง ฉันสวมสนับมือและปลอกแขน น่าเสียดายที่ส่วนของแขนขาที่ถูกตัดขาดของฉันคงต้องทิ้งมันไว้
เมื่อท่านโครินท์เห็นฉันกำลังพยายามทำเช่นนั้น เขาก็หยุดฉันและเริ่มใส่ลงในกระเป๋า ฉันทำท่าทางหลายครั้งว่ามันไม่จำเป็น แต่เขายืนกรานที่จะใส่ไว้ในกระเป๋าของเขา จะดีกว่าไหมนะถ้าทำกระเป๋าให้เบาที่สุด
ก็นะ พวกมันทำมาจากมิธริล ดังนั้นเราจึงสามารถขายได้ในอนาคต แต่ด้วยเพียงข้างเดียว ฉันไม่คิดว่าจะได้เงินมากนักหรอก
พวกเราแบกสัมภาระและออกเดินทางในที่สุด
*อลัน*
ถึงเวลาออกเดินทาง มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณา แต่สำหรับตอนนี้ การอยู่ที่นี่ต่อไปมันอันตราย รีบออกไปจากที่นี่ดีกว่า
เครเรียลูบม้าตัวหนึ่งที่ตายแล้วอย่างโหยหา อาจจะเป็นม้าส่วนตัวของเธอละมั้ง? ดีที่เราไม่ได้ลงเอยด้วยการแล่เนื้อเมื่อคืนนี้
เราวางดาบไว้ที่เอวและสะพายเป้ที่หลัง ดึงสายคาดของกระเป๋าสะพายข้างข้ามศีรษะและเพื่อที่จะได้สะพายข้างละใบ มีผ้าห่มวางอยู่บนกระเป๋าเป้ ปืนไรเฟิลถูกสะพายไว้ที่ไหล่ของเรา มีของมากมายแต่ก็ยังสามารถจัดการมันได้อย่างง่ายดาย
เครเรียยังสวมดาบไว้ที่เอวและสะพายกระเป๋าข้างหนึ่ง กระเป๋าดูค่อนข้างใส่ของเยอะ แต่ก็ไม่ควรหนักขนาดนั้น
เอาล่ะ! เราจำเป็นต้องเรียนภาษาให้ถูกต้องด้วย เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับการโบกมือไปมา และเราจำเป็นต้องหาของกินอีก
เราชี้มาที่ตัวเองแล้วพูดว่า ‘อลัน’ จากนั้นฉันก็ชี้ไปที่ เครเรีย และพูดชื่อของเธอ ต่อไป ชี้ไปที่รถม้าที่ล้มลงและรอให้เครเรียพูด เธอตอบด้วยคำว่า ‘แคนเทอร์’’
งั้นรถม้าถูกเรียกว่า ‘แคนเทอร์’ สินะ? ให้นาโนมบันทึก เมื่อบันทึกข้อมูลภาษาเพียงพอแล้ว จะได้ให้มันอัปเดตฐานข้อมูลภาษาปัจจุบัน
เราชี้ให้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง ทีละอย่าง ๆ อาจทำให้ เครเรีย ไม่สะดวกเล็กน้อย แต่คงต้องขอให้เธอช่วยเราละนะ
(หากมีพืชชนิดใหม่ ให้เน้นสีแดงที่กินไม่ได้และสีน้ำเงินที่กินได้)
สิ่งที่กินได้ที่เราคุ้นเคยคือสิ่งที่เหมือนมันฝรั่ง สมุนไพรไร้ชื่อ และผักที่ใช้ในสลัดผัก
พื้นที่ทั้งหมดถูกย้อมเป็นสีแดงทันที ดูเหมือนว่าเราต้องทำด้วยตนเอง เราเตือนนาโนมให้บอกก็ต่อเมื่อเราหาของกินได้แทน และเริ่มบดใบไม้อีกครั้งอย่างต่อเนื่อง
แต่พอมาคิดดูแล้วก็ยังไม่ได้ถามอายุเธอเลย การถามเธอตรง ๆ มันดูหยาบคายไปหน่อยไหมนะ? คงไม่มั้ง เธอยังดูเด็กอยู่เลย ดังนั้นไม่คิดว่าเธอจะคิดมากหรอก
เราชี้มาที่ตัวเองแล้วชูสองนิ้ว ตามด้วยนิ้วทั้งห้าทันที จากนั้นก็หันไปหา เครเรียและยกนิ้วขึ้นที่มือซ้ายของฉัน เมื่อเธอเห็นท่าทางของเรา สีหน้าของเธอดูเศร้าเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง อุ๊บ เหมือนจะพลาด ดังนั้นเธอน่าจะมีอายุมากกว่า 15 ปีเป็นอย่างน้อย
เมื่อเรานับถึงเจ็ดในขณะที่ยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว เธอพยักหน้าอย่างมีความสุข เธออายุ 17 ปีเหรอ? เธอยังเป็นแค่วัยรุ่นตามที่คาดไว้
โอ๊ะ เราพบสิ่งที่คล้ายมันฝรั่ง มารวบรวมพวกมันดีกว่า ใส่สิ่งที่คล้ายมันฝรั่งลงในถุงเล็ก ๆ ที่ถูกทำให้ว่าง เพื่อสามารถเก็บอาหารได้ นี่คือสิ่งที่เครเรียต้องการ มาเก็บเพิ่มอีกนิด ดูเหมือนว่าจะถูกเรียกว่า ‘โปโต้’’ เมื่อตอนเราถาม เครเรีย เกี่ยวกับชื่อของมัน
[เหมาะสำหรับเป็นอาหารครับ]
ใช่เลย! นาน ๆ ทีจะได้เจออะไรใหม่ ๆ ในที่สุดก็หาเจอหลังจากบดพีชติดต่อกันเป็นเวลาสองชั่วโมง มันเป็นพีชที่ส่วนใหญ่ของลำต้นมีสีขาว เมื่อลองกัดดู รสชาติความกรุบกรอบก็กระจายไปทั่วทั้งปาก มันน่าจะอร่อยมากถ้าเอามาทำอาหาร เราจะเก็บอันนี้ด้วยละกัน มันคงเสียดายถ้าไม่ได้ลองทาน แต่เราก็ทิ้งของที่เหลือภายหลังได้
ดูเหมือนเครเรียจะไม่รู้จักชื่อของมัน บางทีมันอาจเป็นแค่ผักที่อยู่ตามป่า
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณบ่ายสามโมง ช่วยไม่ได้เพราะเราเริ่มเดินทางช้า แต่เราคงจะต้องตั้งค่ายหลังจากอีกสักสองชั่วโมง
ทันใดนั้น มีบางอย่างกระโดดออกมาด้านหน้าถนน มันเป็นหมูป่าเขี้ยวเหมือนที่เราเคยเจอมาก่อนหน้านี้
ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าจะเล็กกว่าหมูป่าที่เคยฆ่าประมาณสองเท่า เราชะงักหลังจากเล็งด้วยปืนไรเฟิล ดูเหมือนเป็นโอกาสที่ดี มาปราบมันด้วยดาบแทนละกัน
พลังงานสำรองของปืนเลเซอร์และปืนไรเฟิลของเรามีจำกัด พวกมันถือเป็นไพ่ตายของเราเลย ดังนั้นจึงต้องการสำรองไว้ให้มากที่สุด
หมูป่าตัวนี้ดูเหมือนสัตว์ประหลาดตัวแรกที่เราฆ่าในเกม RPG ที่เคยเล่นมาก่อน มันดูสมบูรณ์แบบสำหรับการฝึกฝน ถ้าดูทรงแล้วเหมือนจะไม่ปลอดภัย เราก็ยังสามารถจัดการมันด้วยปืนไรเฟิลได้
เราดึงดาบออกมาและตั้งท่า ยังไงก็ตาม หมูป่าดูแปลกไปหน่อย มันเหยียบพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีเวลาพอที่จะวางสัมภาระลงได้ไหมนะ? เมื่อเราคิดอย่างนั้น หมูป่าก็พุ่งเข้าใส่ทันที
เราไม่ได้ตื่นตระหนกจึงฟันไปที่ด้านข้างทันทีหลังจากหลบการพุ่งชนของมันแบบเดียวกับที่เราเคยทำในเกมเลย
หืม? แค่นี้หรอ? จบแค่นั้นเองเหรอ? ดูไม่ใช่การฝึกซ้อมที่ดีเลย?
จากนั้นหมาป่าสามตัวก็ปรากฏขึ้นจากข้างถนน
เห็นได้ชัดว่าหมูป่าเขี้ยวตัวนี้ถูกไล่ล่าโดยสามตัวนี้
จังหวะดีเลย กำลังขาดคู่ต่อสู้ฝึกซ้อมพอดี
เราได้เล็งหมาป่าไว้แล้ว ถ้ามันดูอันตรายก็แค่ต้องยกปืนขึ้นและเหนี่ยวไก เราต้องมั่นใจว่ามันต้องไม่ไปหาเครเรียที่อยู่ด้านหลัง
ดูเหมือนหมาป่าจะโกรธที่เหยื่อถูกแย่งไปจากพวกมัน พวกมันโจมตีทันที
พวกมันกระโดดขึ้นและกระโจนจากด้านบน นั่นเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ดีเลย
เราหลบตัวไปด้านข้างแบบที่ทำกับหมูป่าก่อนหน้านี้ ฟันออกไปด้วยดาบ หัวหมาป่าตัวนึงหลุดออกจากคออย่างง่ายดาย ดาบเล่มนี้คมจริง ๆ
ดูเหมือนอีกสองตัวเรียนรู้จากการปะทะครั้งก่อน จึงโจมตีเราพร้อมกันจากทั้งสองฝั่ง อ่อนหัด! เราขว้างมีดแม่เหล็กไฟฟ้าไปทางซ้ายก่อนที่มันจะกระโดดได้ มีดเจาะคอหมาป่าอย่างแม่นยำ เทคนิคการขว้างเป็นหนึ่งในความสามารถที่ถนัดสุดของเรา เราตัดหัวตัวด้านขวาเหมือนก่อนหน้านี้ จากนั้นเราก็จัดการหมาป่าที่โดนมีดของเรา
ค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อย แม้ว่าพวกมันจะเป็นหมาป่า แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าเขี้ยวใหญ่ เมื่อเราหันไปหา เครเรีย เพื่อดูว่าเธอเป็นอะไรไหม เราเห็นเธอจ้องมาด้วยสีหน้าว่างเปล่า อืม…
ยังไงก็ตาม พวกเราได้เนื้อมาแล้ว! และจังหวะเหมาะเจาะพอดี เราไม่ได้มีอาหารมากมายที่บรรจุอยู่ในถุงอาหาร เนื้อเดียวที่เรามีคือพวกของตากแห้ง เราอยากให้เครเรียกินเนื้อที่เหมาะสมเพื่อให้เธอหายดี
มาแล่เนื้อพวกมันกันเถอะ
เราให้นาโนมระบุชิ้นส่วนที่เราควรจะเก็บไว้ เราได้แล่มันตามคำแนะนำของนาโนม
อ๊ะ. เส้นเอ็นนี้กินได้จริงหรอ? เข้าใจแล้ว. งั้นมาเก็บเยอะ ๆ ละกัน โอ้ แม้กระทั่งอวัยวะภายในด้วย?
เอาล่ะ! ตอนนี้มีทั้งเนื้อและผัก เรามีอุปกรณ์ทำอาหารและเกลือด้วย คืนนี้มีงานเลี้ยงละ!
พวกเราเริ่มเดินอีกครั้งหลังจากเก็บเนื้อแล้ว เราโยนศพหมาป่าลงไปใต้หุบเขา
ในที่สุดเราก็เห็นแม่น้ำหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง นานมาแล้วตั้งแต่เห็นครั้งสุดท้าย เฮ้ นั่นไง! ตั้งแคมป์ริมน้ำดีไหม? บางทีเราอาจจะได้อาบน้ำในแม่น้ำด้วย
ดูเหมือนพวกเราจะลงไปใกล้แม่น้ำได้ง่าย ๆ และมันก็ค่อนข้างตื้น ดังนั้นจึงไม่ควรมีสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายอยู่ในนั้น เราแสดงความตั้งใจของเราให้ เครเรีย รู้โดยการทำท่าทาง ดูเหมือนว่าเธอจะอารมณ์ดีเช่นกัน สงสัยจังนะว่าทำไม?
แม้ว่าเราจะลงไปที่ริมแม่น้ำแล้ว แต่ก็แน่ใจว่าได้เลือกจุดที่มองไม่เห็นจากถนน นี่ควรจะเป็นจุดที่ดี ริมฝั่งก็สวยและกว้าง นอกจากนี้ยังมีแอ่งน้ำขนาดเล็กที่ก่อตัวขึ้นเนื่องจากการไหลของแม่น้ำที่ไหลผ่านช้า ๆ
เราทำเตาง่ายๆ โดยใช้หินที่หยิบมาจากบริเวณใกล้เคียง เรายังต้องรวบรวมฟืน เครเรียยังช่วยหยิบส่วนผสมด้วยมือที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวของเธอ
อุปกรณ์ทำอาหารที่มีก็แค่กระทะผัด กระทะท้องแบน และเขียงเล็ก ๆ เครื่องปรุงรสมีเพียง เกลือ พริกไทย และสมุนไพร มีเครื่องปรุงรสเพียงไม่กี่ประเภท แต่ปริมาณก็เพียงพอ ดังนั้นเราสามารถใช้มันได้โดยไม่ต้องกังวล
ตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ของนาโนม เราสามารถเก็บเนื้อซี่โครง เนื้อต้นขา ตับและเอ็นได้ ตับเน่าเสียได้ง่าย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับเป็นอาหารคืนนี้
ก่อนอื่นเราต้องระบายเลือดในตับและกำจัดกลิ่น เนื่องจากไม่มีกระชอน จึงแบ่งก้อนหินเล็ก ๆ บางส่วนบนแม่น้ำตื้น ๆ แล้ววางตับที่หั่นบาง ๆ ไว้บนก้อนหิน แล้วปล่อยให้มันลงไปในน้ำ และปล่อยให้เป็นแบบนั้นอยู่สักพัก
เรากลับจากแม่น้ำและพบว่าเครเรียเริ่มจุดไฟแล้ว ช่างเป็นเด็กสาวที่ฉลาดอะไรแบบนี้
เส้นเอ็นจะอร่อยที่สุดเมื่อต้มให้เดือด แต่เนื่องจากไม่มีเวลา เลยไปกินแบบยากินิคุแทน (t/n น่าจะหมายถึงเป็นเนื้อย่างแบบเตาถ่านของญี่ปุ่น) ถ้าหั่นเป็นชิ้นหนาๆ จะเคี้ยวยาก เราก็เลยหั่นเป็นชิ้นบางๆ แทน
อาหารจานหลักสำหรับคืนนี้คือผัดผักกับเนื้อซี่โครงและต้นขา ผักที่เรากำลังใช้คือสิ่งที่เหมือนมันฝรั่ง เอ่อ… ‘โปโต้’’ และส่วนของลำต้นของผักก่อนหน้านี้ พวกมันยังปกคลุมไปด้วยดิน จึงไปที่แม่น้ำอีกครั้งเพื่อล้างซะก่อน
เฮ้ มีบางอย่างอยู่ในน้ำ! เราปามีดไปใส่มัน
เวร! ปลาที่มีลักษณะคล้ายปลาแซลมอนตัวหนึ่งทำลายก้อนหินที่เราทำไว้ก่อนหน้านี้เพื่อล้างตับเพื่อกินส่วนที่เป็นเนื้อชิ้นดี ตอนนี้เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น อันที่จริง พูดตามตรงกำลังคิดว่ามีมากเกินไปอยู่พอดี และเราก็ต้องการอย่างอื่นที่ไม่ใช่เนื้อหมูป่าด้วย
เราดึงมีดออกมาแล้วดันนิ้วเข้าไปในแผลที่เปิดอยู่
[เหมาะสำหรับเป็นอาหารครับ]
เราจะให้เครเรียกินสิ่งนี้เช่นกัน เราหั่นปลาแซลมอนชิ้นใหญ่นี้ออกเป็นสามชิ้นหลังจากล้างผักแล้ว
(กินแบบดิบ ๆ ได้ไหม)
[เป็นไปได้ครับ]
นั่นเยี่ยมไปเลย! เรามีขนมปังแข็งยัดอยู่ในถุงอาหาร มาทำคานาเป้แซลมอนหั่นบาง ๆ กันเถอะ ที่เหลือก็ย่างด้วยเกลือ ดูเหมือนว่าจะมีไขมันค่อนข้างมาก ดังนั้นมันควรจะอร่อยนะ
อาหารเรียกน้ำย่อย ได้แก่ คานาเป้ปลาแซลมอน ตับย่างสไลด์ และยากินิคุเนื้อเอ็น อาหารจานหลักจะเป็นปลาแซลมอนย่างเกลือ ผัดเนื้อและผัก มันค่อนข้างมากทีเดียว
มีเพียงหม้อและกระทะสำหรับทำอาหาร แต่มีจานเสิร์ฟน้อย ดังนั้นให้เตรียมจานเดียวก่อน กินให้หมด แล้วเสิร์ฟจานต่อไป
ขั้นแรก มาเตรียมคานาเป้ปลาแซลมอนกันก่อน หั่นขนมปังที่แข็งเป็นชิ้นแล้ววางแผ่นปลาแซลมอนหั่นบางๆ ปรุงรสด้วยเกลือและสมุนไพรไว้ด้านบน จากนั้นมาวางบนจานเสิร์ฟที่ทำจากไม้
เมื่อเราตรวจสอบภาชนะใส่สมุนไพร ดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนผสมของชนิดต่าง ๆ และมีกลิ่นและรสชาติค่อนข้างซับซ้อน นี่เป็นเครื่องปรุงรสอเนกประสงค์ประเภทหนึ่งละมั้ง?
หลังจากเสร็จแล้ว เราก็เครเรียกิน สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่จาน
ค่อนข้างดีเลย อันที่จริงเราก็อยากจะใส่ชีสลงไปด้วยเหมือนกัน แต่ปลาแซลมอนค่อนข้างจะอุดมไปด้วยไขมันธรรมชาติ ดังนั้นจึงไม่เป็นไร เนื้อกรอบของขนมปังยังช่วยเสริมให้ขนมปังมีรสชาติดีขึ้นอีกด้วย
เครเรียกินอย่างกับพายุเข้า เป็นเรื่องที่ดีที่เธอชอบมันนะ
ต่อไปจะเป็นตับย่าง เราปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และสมุนไพรในกระทะ เนื่องจากชิ้นที่หั่นแล้วมีกลิ่นเหม็น จึงเพิ่มสมุนไพรเพื่อลบกลิ่นมัน ย่างบนกระทะอุ่น ๆ เนื่องจากชิ้นมีความบาง จึงต้องย่างทั้งสองด้านเท่านั้น ถ้าย่างมากเกินไป ชิ้นจะแข็งและหดตัว ดังนั้นต้องกะจังหวะดี ๆ
จากนั้นเราจึงวางไว้บนจานไม้หลังจากปรุงสร็จแล้ว ลองทานร่วมกับเครเรีย เยี่ยม พวกนี้ก็อร่อยเหมือนกัน
มีกลิ่นเล็กน้อยยังคงอยู่ แต่รสชาติเข้มข้นของตับกระจายอยู่ในปาก ความสุกในการย่างถือเป็นสิ่งสำคัญ
เครเรียกินทั้งหมดในจากไม่มีเหลือ แต่นี่เป็นเมนูที่เตรียมไว้สำหรับเครเรียโดยเฉพาะ จึงอย่างให้เธอกินเยอะ ๆ
เราไม่ได้ใช้สมุนไพรสำหรับยากินิคุเนื้อเอ็น ถ้ากินอาหารประเภทเนื้อ ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะเอียนรสชาติอย่างแน่นอน
สิ่งนี้ก็อร่อยหลังจากปรุงอย่างทั่วถึง มันค่อนข้างแข็ง แต่เนื้อสัมผัสที่เคี้ยวและกรอบนั้นให้ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ภายในปาก
เครเรียยังกินมันด้วยความเอร็ดอร่อย เธอกินเยอะมากตั้งแต่แรก เธอจะกินอาหารครบทุกจานไหมนะ? เรารู้สึกเหมือนเธอกินมากเป็นสองเท่าของเราเลย?
ต่อไปเป็นอาหารจานหลัก – แซลมอนย่างเกลือ เรายังปรุงรสด้วยเกลือเพียงอย่างเดียว เครเรีย ยังคงดูเหมือนจะอยากกินอีก ดังนั้นเราจึงย่างบางส่วนเพิ่ม
ต้องใส่ใจในการย่างเป็นพิเศษ เราเอาเกล็ดออกแล้ว ดังนั้นต้องแน่ใจว่าหนังมันจะอร่อย ขั้นแรก ย่างหนังให้สุกเล็กน้อยเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่กรอบอร่อย การย่างมากเกินความจำเป็นจะทำให้รสชาติเสีย
อืม นี่น่าจะโอเค เราชอบหนังมากกว่าเนื้อปลา ดูเหมือนว่า เครเรีย จะอ่านความคิดเราได้และจัดการส่วนของเธอเสร็จในพริบตา
จานสุดท้ายคือผัดผักเนื้อ เราหั่นสิ่งที่เหมือนมันฝรั่งออกเป็นสองส่วนและและส่วนลำต้นของผักเป็นเจ็ดชิ้น เราปรุง ‘โปโต้’ ก่อน เพิ่มเนื้อซี่โครงและเนื้อต้นขาหั่นบาง ๆ ต่อไป ใส่ผักที่หั่นไว้เป็นชิ้นสุดท้าย เนื่องจากต้องการให้มันคงความกรอบไว้ ปรุงรสจานด้วยเกลือ พริกไทย และสมุนไพรเล็กน้อย จะดีที่สุดถ้าทำจานนี้ให้เสร็จโดยเร็ว
เราลองชิมทันทีหลังจากทำเสร็จแล้ว อร่อย! สิ่งแรกที่จะลิ้มรสคือน้ำของเนื้อที่เข้มข้นของเนื้อซี่โครง เนื้อต้นขาก็อร่อยเหมือนกัน แต่จุดเด่นของมันคือความสดและเนื้อสัมผัสที่กรอบของผัดผัก นี่เป็นจานที่ทำให้หลายคนฉุดคิดว่าอาหารที่มีแต่เนื้อเพียว ๆ นั้นไม่โอเคเลย
เราต้องทำผัดผักเนื้อค่อนข้างมาก แต่ก็สามารถทำมันให้เสร็จได้ ดูเหมือนเครเรียจะพอใจมาก
(ดูเหมือนเครเรียจะกินเยอะไปหน่อย เธอจะโอเคไหมนะ?)
[ไม่พบปัญหาใด ๆ ครับ ส่วนของวันนี้โอเคแล้ว]
เข้าใจแล้ว ความอยากอาหารที่เพิ่มขึ้นของเครเรียน่าจะเป็นผลจากการที่นาโนมกระตุ้นมันเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นในการงอกใหม่เท้าของเธอ มันต้องกระตุ้นเธอมากแน่ๆ ไม่งั้น ความอยากอาหารของเธอก็ผิดปกติแล้ว
เราควรทำยังไงดี? แน่นอน เราสามารถเลือกที่จะหยุดไม่ให้นาโนมฟื้นแขนขาของเธอได้ แต่นั่นจะเป็นทางเลือกสุดท้าย
เราไม่สามารถเตรียมอาหารจำนวนนี้ได้ในขณะเดินทาง วันนี้เราแค่โชคดีเท่านั้น และการเดินทางไกลโดยใช้อวัยวะเทียมนั้นค่อนข้างลำบาก แม้ว่าการเดินด้วยขาเทียมจะง่ายเพียงใด แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้างหากเดินเป็นเวลานาน ถ้าเป็นไปได้ เราก็ต้องให้ความสำคัญของกระบวนการงอกใหม่ก่อน
เมื่อพิจารณาทั้งหมดนี้แล้ว แนวทางการดำเนินการต่อไปของเราก็ตัดสินใจได้แล้ว มาหาที่ใกล้แม่น้ำเพื่อใช้เป็นฐานและอยู่ที่นั่น – อย่างน้อยก็จนกว่าขาของเครเรีย จะฟื้นตัว เรายังต้องการเรียนรู้ภาษาท้องถิ่นอีกด้วย
ถ้างั้น เราจะบอกเครเรียเกี่ยวกับแผนยังไงกันล่ะเนี่ย?
t/n มาแปลต่อแล้วครับ หลังจากหายไปนาน จะหายไปอีกไหม? ไม่ทราบได้ครับ แล้วแต่อารมณ์ แปลไปอีกจอก็มองคริปโตไป ไม่มีสมาธิ 555 ซื้อทิ้งไว้ไปเล่นเกม Endless Space 2 หาแรงบันดาลใจแปลต่อดีกว่า เรื่องการเกลาคำก็กำลังฝึก พยายามพัฒนาไปเรื่อย ๆ อยู่ครับ อลันก็ดูท่าจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงมาก่อนแค่พาไป “บรรเทา” คิดการใหญ่สุด ๆ ไม่รู้ว่าชื่อในดาวเคราะห์นั้นนี่ทำให้คล้ายกับภาษาอังกฤษหรือเปล่านะครับ ผมอ่านญี่ปุ่นไม่ออก เลยใส่ตามนั้นเลย มีคนบอกนิยายทำอาหารดูท่าจะจริงครับ ไม่นะ แฟนตาซีไซไฟต่างโลกที่ผมอยากตามละ