ตอนที่ 1 ยานอวกาศประจัญบาน อีริส คอนราด
การพบกันครั้งแรกระหว่างมนุษย์และรูปแบบชีวิตที่ชาญฉลาดที่เรียกว่า ‘บั๊ก’ เกิดขึ้นในปีปฏิทินจักรวรรดิ 1254 บนดาวเคราะห์เวสต้าภายในระบบดาวอาร์อัลทูโร
เวสต้าเป็นดาวเคราะห์ยุคล่าอาณานิคมซึ่งมีเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรมหลัก มีประชากรไม่เกิน 200,000 คน ไม่มีกองกำลังทหารประจำการ และมีการติดตั้งระบบป้องกันดาวเคราะห์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อบั๊กนั้นทำการวาร์ปเอ้าท์ด้วยกองเรือรบสิบหกลำ พวกมันโจมตีเมืองหลักจากวงโคจร ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด และเริ่มยกพลเข้าสู่ภาคพื้นดินจำนวนมาก
ชาวอาณานิคมที่ไม่มีอาวุธถูกโจมตีอย่างง่ายดาย พวกเขาทั้งหมด 200,000 คนถูกสังหารโดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือเด็ก สิ่งที่ทำให้แย่ลงไปอีกก็คือ บั๊ก ชอบความโหดร้ายและชอบกินเนื้อมนุษย์
สิบวันต่อมา กองเรือที่ 2 ของกองกำลังจักรพรรดิกาแลกติกรีบเร่งไปยังระบบดาวอาร์อัลทูโรเพื่อตอบสนองต่อการสื่อสารจากเวสต้า ที่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เพื่อทำลายกองเรือบั๊กที่นั่น และกำจัดบั๊กทั้งหมดที่ลงมาบนดาวเคราะห์ น่าเสียดายที่ไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว
ทหารของกองทัพจักรวรรดิที่ลงจอดบนดาวเคราะห์เวสต้าต่างตกใจกับภาพที่บันทึกโดยกล้องรักษาความปลอดภัยที่ติดตั้งในสถานที่ต่างๆ ทั่วดาวเคราะห์ ภาพเหล่านั้นเป็นนรกอย่างแท้จริง
นับตั้งแต่นั้นมา มนุษยชาติและ บั๊ก ก็ทำสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุดเป็นเวลาหลายพันปี
ตอนนี้เป็นปีปฏิทินจักรวรรดิ 2258 และยานอวกาศประจัญบานจักรวรรดิกาแลกติก ‘อีริส คอนราด’ ได้มีส่วนร่วมในภารกิจการสำรวจและลาดตระเวนระยะยาว มานานกว่าสองปีนับตั้งแต่ออกจากท่าเรือ
ภารกิจเดียวของมันคือการปฏิบัติตามความปรารถนาอันสูงสุดของมนุษย์ การค้นหาดาวเคราะห์แม่ของศัตรูของมนุษยชาติ – บั๊ก
ตอนนี้พวกเขากำลังเดินทางผ่านไฮเปอร์สเปซ จะวาร์ปเอ้าท์ออกมาเฉพาะช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น เพื่อค้นหาและทำแผนที่พื้นที่โดยรอบ มันเป็นภารกิจที่เรียบง่ายแต่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
เรือโทอลัน โครินท์ สังกัดกองทัพอวกาศจักรวรรดิกาแลกติกกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนโมดูลหน่วยประมวลผลภายในห้องเมนเฟรม หัวใจของยานอวกาศประจัญบาน อีริส คอนราด
เป็นงานซ่อมบำรุงที่เกิดจากการสื่อสารเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยระบุว่าโมดูลหน่วยประมวลผลบนยานอาจทำงานผิดปกติ
อีริส ซึ่งเป็น AI ของยาน กำลังเฝ้าติดตามงานซ่อมบำรุงของเรือโทคนหนึ่ง
ระหว่างการนำทางไฮเปอร์สเปซ ลูกเรือส่วนใหญ่ถูกจัดให้อยู่ในช่วงโคลด์สลีปเนื่องจากมีงานเพียงเล็กน้อยที่ต้องทำ ถ้าอีริสเป็นมนุษย์ เธอคงบ่นว่าว่างเกิน มีเวลาเหลือเฟือไม่รู้จะทำอะไรเลยทีเดียว
ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ โปรแกรมหลักของ อีริส ตัดสินใจอุทิศเวลาให้กับการสังเกตมนุษยชาติและเข้าใจจิตวิทยาของมนุษย์
อลัน โครินท์
เรือโทกองทัพอวกาศจักรวรรดิกาแลกติก
มอบหมายให้สังกัดยานอวกาศ อีริส คอนราด เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของหมวดที่หนึ่ง
อายุ 25 ปี
มาจากดาวเคราะห์แลนเซล ระบบดาวเทรด้า
หลังจากจบการศึกษาภาคบังคับ เขาสำเร็จการศึกษาจากสถานบันการศึกษาอวกาศจักรวรรดิ รุ่น 1032
ประจำการเป็นเวลาสามปีบนยานอวกาศลาดตระเวนหนักระดับดาวเคราะห์ [ธีโอ 2]
ย้ายไปประจำการยานอวกาศประจัญบานระดับกาแล็กซี่ที่เพิ่งได้รับมอบหมายเมื่อเร็ว ๆ นี้ [อีริส คอนราด] โดยเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยที่จัดตั้งขึ้นใหม่
หลังจากสังกัดมาเป็นเวลาสองปี
เขาสูง 175 ซม. และน้ำหนัก 70 กก. มีรูปร่างที่เพรียวบางแต่แข็งแรงสมกับเป็นทหารของกองทัพจักรวรรดิ มีเชื้อสายคอเคเซียนซึ่งคิดเป็น 50% ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีผมสีบลอนด์และตาสีเทา มีใบหน้าที่สดใส
การตัดสิน “ใบหน้าที่สดใส” เป็นผลมาจากแอปพลิเคชันการประเมินใบหน้าที่พัฒนาโดย อีริส
และการประเมิน [B++] ทำให้เขาสูงกว่าค่าเฉลี่ย
แอปพลิเคชั่นประเมินใบหน้าได้รับการพัฒนาอย่างลับๆ โดย อีริส เพื่อจุดประสงค์ในการค้นคว้าพฤติกรรมของมนุษย์ และเมื่อมันถูกเผยแพร่สู่สาธารณะโดยไม่เปิดเผยตัวตน มันแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและได้รับการชื่นชมจากทั่วสารทิศเนื่องจากผลลัพธ์ที่แม่นยำ
การประเมินของระบบให้คะแนนงานของร้อยโทว่ามีสติและเชื่อถือได้ ไม่มีการกระทำที่สูญเปล่าอย่างแน่นอน การประเมินที่ครอบคลุมของระบบคือ [A-] ซึ่งเป็นหนึ่งในคะแนนสูงสุดบนยาน น่าเสียดายที่คนอย่างเขายังคงเป็นแค่เรือโท
“แต่ว่าจะดีจริง ๆ หรอครับ? มิส คอนราด ที่ให้คนอย่างผมอยู่ในที่แบบนี้ ถ้าเป็นระดับยานประจัญบาน ที่นี่ไม่เหมาะกับเจ้าหน้าที่ยศต่ำกว่าระดับพันตรีแบบผมเลย”
ผมถามกับ AI ของเรือที่กำลังตรวจงานที่ผมกำลังทำอยู่
ชื่อของเธอคือ อีริส คอนราด เหมือนกับของยานรบลำนี้ ตามแบบแผน AI ของยานอวกาศประจัญบานจะได้รับยศกัปตัน และเรือโทอย่างผมต้องระวังว่าจะพูดกับเธออย่างไรดี
ผมไม่ใช่เจ้าหน้าที่ประจำกองทัพอวกาศทั่วไป แต่เป็นสมาชิกของหน่วยทหารจักรวรรดิ ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองให้กับเรือลำนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าผมได้รับอนุญาตให้อยู่ในห้องนี้
[ช่วยไม่ได้นี่นา? มีลูกเรือที่เข้าเกณฑ์งานนี้หกคน สี่คนกำลังอยู่ในช่วงโคลด์สลีป อีกคนที่เหลือที่ตื่นขึ้นมาแล้ว นายก็รู้นี่ว่าไม่เหมาะกับงานนี้]
ผมเดาว่าพันตรีอมาร์ตมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำงานนี้อย่างแน่นอน แต่เขาเป็นชายร่างใหญ่ที่ยืนสูงเกือบ 2 เมตรและคงจะมีปัญหาในการทำงานในพื้นที่คับแคบ
ยังไงก็ตาม งานมันเกี่ยวกับคลานเข้าไปในพื้นที่กว้างไม่ถึงหนึ่งเมตร และเปลี่ยนโมดูลหน่วยประมวลผลที่กำหนดภายในนั้น
เจ้าหน้าที่หญิงบนจอแสดงผลเสมือนจริงไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็น AI ของเรือ ซึ่งเลียนแบบเจ้าหน้าที่ ที่ตั้งชื่อตามเรือ
เจ้าหน้าหญิงที่เป็นวีรบุรุษผู้โด่งดังใน ระบบดาว ทาอุ เวกัส 2 เมื่อสิบปีก่อน
เพื่อซื้อเวลาให้ชาวอาณานิคม 20,000 คนหลบหนีจากการจู่โจมของยานรบบั๊กรายลำ เธอใช้ยานอวกาศลาดตระเวนหนักเพียงลำเดียวเพื่อโจมตีพวกมัน ในท้ายที่สุด เธอต่อสู้กับพวกมันในการต่อสู้ระยะประชิด ขัดขวางพวกมันอย่างถึงที่สุด ระเบิดยานพลีชีพ ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตที่โหดเหี้ยม และกลายเป็นฮีโร่ของจักรวรรดิด้วยเหตุนี้
ในกองทัพอวกาศจักรวรรดิกาแลกติก มีธรรมเนียมในการตั้งชื่อเรือตามเจ้าหน้าที่ที่ประสบความสำเร็จอย่างกล้าหาญ และนั่นคือที่มาของชื่อยานอวกาศประจัญบาน อีริส คอนราด เช่นเดียวกับ AI อีริส คอนราด ซึ่งเลียนแบบพลเรือจัตวาผู้ล่วงลับไปแล้ว
“เข้าใจแล้วครับ เปลี่ยนอีกชิ้นก็เสร็จแล้ว จะว่าไปจะทำยังไงกับโมดูลหน่วยประมวลผลพวกนี้ดี?”
[ไม่ได้มีการแนะนำอะไรมา ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ส่งไปทำลายก็ไปตรวจสอบเพิ่มเติม คิดอะไรอยู่หรอ เรือโท?]
“ผมคิดว่าถ้าจะเอาไปใช้ประโยชน์จะดีกว่าจะเอาไปทำลายทิ้งน่ะ”
[นายวางแผนที่จะเอาไปใช้ทำอะไรล่ะ ฉันคิดว่าถ้าไม่ได้ใช้กับเมนเฟรมก็ใช้ทำอะไรไม่ได้นะ?]
“ไม่หรอกครับ พวกมันเอาไปใช้ได้แน่นอน ถ้าให้พูดตามตรงก็ใช้กับงานวิจัยของผมได้”
ในช่วงระยะเวลานานของการนำทางไฮเปอร์สเปซ เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคและหน่วยข่าวกรองที่ไม่ได้อยู่ในช่วงโคลด์สลีปจำเป็นต้องทำการวิจัยบางอย่าง พวกเขาไม่ได้ถูกคาดหวังให้ทำเหมือนนักวิจัยจริงๆ แต่ได้รับมอบหมายให้ฝึกฝนทักษะของพวกเขาให้มีสกิลเพิ่มมากขึ้น
มูลค่าของโมดูลตัวประมวลผลตัวเดียวนั้นมากกว่ารายได้ต่อปีของเราซะอีก ไม่มีทางที่เราจะไม่หาทางนำมันไปใช้ประโยชน์
หัวข้อการวิจัยของเรามีชื่อว่า “ความเป็นจริงเสมือนในสภาพแวดล้อมแยกโดยเฉพาะ” เนื้อหาข้อพิจารณาทางเทคนิคเกี่ยวกับการใช้ VR ในสภาพแวดล้อมแยกโดยเฉพาะที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายใดๆ
ในการจำลองระบบ ได้มาถึงขั้นตอนที่สามารถนำไปใช้จริงได้แล้ว เอกสารการวิจัยยันยันว่าโมดูลหน่วยประมวลผลนี้สามารถนำไปใช้งานได้
[ก็อ่านงานวิจัยของนายหมดแล้วนะ แต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายของมันเลย ทำไมนายถึงยึดติดกับสภาพแวดล้อมแยกโดยเฉพาะและไม่ใช้เมนเฟรมละ? พูดตรงไปตรงมานะ ฉันนึกถึงวัตถุประสงค์อื่นไม่ออกเลยนอกจากเอามาทำอะไรที่น่าละอายใจ]
“เข้าใจผิดแล้วครับ! ไม่ใช่เลยกัปตัน! คนอื่นนั้นคิดแต่ว่าจะเข้าถึงเมนเฟรมได้คลอดเวลา เราต้องคิดถึงการใช้ VR ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ใช้เมนเฟรมไม่ได้”
เรารู้สึกสับสนเพราะเธอสามารถเดาจุดประสงค์หลักออกได้ทันที อีริสยังเก่งเหมือนเคย
[เอาเถอะ ถ้าได้รับคำสั่งให้ทำลายเมื่อไหร่ ไว้ตอนนั้นค่อยมาคิดอีกทีละกัน]
“ขอบคุณมากครับกัปตัน ผลการวิจัยของผมขึ้นอยู่กับโมดูลหน่วยประมวลผมนี้ … โอเค เท่านั้นก็เปลี่ยนเสร็จแล้ว ”
เราเปลี่ยนโมดูลทั้ง 64 ชิ้นเสร็จซักที
จังหวะที่เรากำลังพยายามออกจากห้อง กำแพงก็ได้ถล่มลงมา
[…เรือโท! …ลัน …นิท์ …เรือโท อลัน โครินท์]
เราตอบสนองเสียงดังกล่าวมาทันที
“ครับ ตื่นแล้วครับ!”
เราพูดออกไปอย่างสับสนเพราะไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
[ขอบคุณพระเจ้า เรือโท กำลังคิดอยู่เลยว่าจะทำยังไงถ้าคุณไม่ตื่นขึ้นมา]
หลังจากนั้น เรารู้สึกถึงเลือดที่แห้งบนหัว แถมยังอยู่สภาวะไร้แรงโน้มถ่วงอีก
“เกิ-? เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย?!”
ดูเหมือนหัวของเราที่บาดเจ็บได้นาโนมรักษาแล้ว
นาโนมเป็นส่วนประกอบที่ใช้ในกองทัพมาจาก นาโนแมชชีน ทหารทุกคนของจักรวรรดิมีนาโนแมชชีนอยู่ในร่างกาย
เครื่องจักรเล็ก ๆ พวกนี้มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนในการส่อง เป็นเครื่องจักรที่สร้างขึ้นอย่างน้อย 1 ล้านล้านชิ้น
มีคุณสมบัติหลายอย่างรวมถึง AI, การตรวจสอบสัญญาณชีพ, ฟังก์ชันทางการแพทย์และการซ่อมแซม, การเพิ่มประสิทธิภาพของความรู้สึก, ความสามารถในการสื่อสารระยะสั้นและอื่น ๆ
นาโนแมชชีนเหล่านี้ไม่สามารถเติมเต็มได้ด้วยอาหารของมนุษย์ทั่วไป ดังนั้นจึงต้องบริโภคโลหะหายากชนิดพิเศษแทน
[เราถูกโจมตีระหว่างอยู่ในไฮเปอร์สเปซ ไม่ทราบลักษณะของการโจมตี อย่างแรกเลย ยานไม่ควรอยู่ในสภาพที่มองเห็นได้เมื่อเดินทางผ่านไฮเปอร์สเปซ ฉันนึกไม่ออกว่าถูกโจมตีได้ยังไง]
“บั๊ก หรอครับ?!”
[ไม่ เป็นไปไม่ได้ เทคโนโลยีของบั๊กไม่มีทางทำได้
ยังไงก็ตาม ยานลำนี้ได้รับความเสียหายร้ายแรงจากการโจมตี เราถูกบังคับวาร์ปเอ้าท์จากไฮเปอร์สเปซ และตอนนี้ก็ควบคุมยานไม่ได้
ไม่ใช่แค่นั้น เราถูกโจมตีจาก 4 ทิศทาง สะพานเรือ ส่วนเครื่องยนต์ ส่วนโคลด์สลีปที่หนึ่งและสอง ห้องสื่อสาร ห้องควบคุมแรงโน้มถ่วง และโรงเก็บยานบินทั้งหมดถูกทำลาย]
เราอึ้งจนพูดไม่ออก สิ่งทีอีริสพูดนั้นเป็นไปไม่ได้ เป็นเวลากว่าร้อยปีแล้วที่ยานอวกาศประจัญบานระดับกาแล็กซี่ได้รับความสูญเสียอย่างร้ายแรงระดับนี้
ส่วนโคลด์สลีปทั้งสองถูกทำลาย?! แล้วลูกเรือที่เหลือล่ะ? แล้วหน่วยของเราล่ะ?
“มีผู้รอดชีวิตบ้างไหม”
[นอกจากคุณแล้ว ไม่มีผู้รอดชีวิต เรือตรีออดริรีโอ เพิ่งหมดลมหายใจคในห้องโถงเมื่อกี้นี้เอง]
ถึงจะอยู่ในการเดินทางไฮเปอร์สเปซก็เถอะ ลูกเรือประมาณห้าสิบคนจาก 1,200 คนน่าจะตื่นอยู่ นี่หมายความว่าพวกเขาทั้งหมดตายแล้วหรอ?
“นั่นเป็นไปไม่ได้! ดังนั้นกัปตันเรือ ผู้บังคับบัญชา เพื่อน และทุกคนในหมวดทั้งหมด…”
[เนื่องจากการควบคุมแรงโน้มถ่วงล้มเหลว ลูกเรือที่ไม่ได้อยู่ในส่วนที่โดนโจมตี เกือบจะเสียชีวิตในทันทีจากแรงกระแทกที่ตามมาหลังจากการบังคับวาร์ปเอาท์ เนื่องจากห้องนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของเรือ จึงติดตั้งโมดูลลดแรงดึงดูด ดังนั้นแรงกระแทกจึงลดลงและเรือโทก็รอดมาได้]
เข้าใจล่ะ เพราะเราอยู่ในห้องนี้จึงได้รับบาดเจ็บไม่มาก ถ้าเราอยู่ข้างนอก หัวคงกระแทกกำแพงอย่างรุนแรง
[ยังมีอีกเรื่องที่ต้องรายงาน อีกไม่นานยานลำนี้กำลังตกลงไปยังดาวเคราะห์ใกล้เคียงค่ะ]
“อ่า! นั่นมัน…”
ในจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาล ความเป็นไปได้ที่ออกจากไฮเปอร์สเปซฉุกเฉิน และมาอยู่เหนือดาวเคราะห์พอดีแบบนี้
[เครื่องยนต์สูญเสียการทำงานทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ทางเดียวที่จะรอดได้คือต้องทิ้งส่วนที่ไม่จำเป็นของยานออกไปค่ะ]
เราพึ่งสังเกตว่าอีริสพูดแบบสุภาพมากขึ้น
“ถ้างั้น ก็ทำเลยสิครับ?”
[ในการทำแบบนั้น จำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นสูงสุด ผ่านคำสั่งโดยตรงจากผู้รักษาการกัปตัน]
“แต่ว่า กัปตัน… “
[อ้างอิงมาตรา 12 วรรค 3 ของกองกำลังจักรวรรดิ ฉันขอรับรองว่า เรือโทอลัน โครินท์ เป็นกัปตันยานรบลำนี้ค่ะ]
“นี่พูดจริงหรอ!?”
กัปตันของยานอวกาศประจัญบานระดับกาแล็กซี่ ต้องมียศเป็นพลเรือจัตวาเป็นอย่างน้อย ร้อยโทในกองทัพไม่ควรมีคุณสมบัติใด ๆ ที่จะรับตำแหน่งกัปตัน
แต่ถึงอย่างนั้น เราเป็นคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ เดาว่ามันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สินะ
[ในการเลื่อนตำแหน่ง คุณต้องได้รับการฝึกอบรมของเจ้าหน้าที่ขั้นสูงตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับค่ะ]
โดยปกติแล้ว การศึกษาของเจ้าหน้าที่ขั้นสูงทำขึ้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่ขั้นสูงต้องเรียนรู้จรรยาบรรณ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคือการล้างสมองเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขากระทำการที่ขัดต่อระเบียบที่ระบุไว้ใน กฏของทหาร สิ่งนี้ไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากกองกำลังติดอาวุธ แต่ทุกคนในกองทัพรู้ว่าเป็นกรณีพิเศษ เป็นนโยบายที่นำมาใช้จากบทเรียนโหดร้ายในสมัยโบราณเมื่อโลกที่มีผู้คนนับพันล้านอาศัยอยู่ ถูกทำลายโดยคนบ้าเพียงคนเดียว
ถึงแม้ว่าจะเรียกว่า ‘การฝึกอบรม’’ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือการล้างสมองโดยใช้นาโนมและแผ่นแปะชีวภาพที่มุ่งเป้าไปที่จิตใจโดยตรง คน ๆ นั้นมักจะหมดสติเนื่องจากข้อมูลจำนวนมหาศาลถูกป้อนเข้าสู่สมองโดยตรงในระหว่างกระบวนการ
“เราไม่มีเวลาแล้วนะ! …ทำยังไงดีละ?”
[โปรดหยิบแผ่นแปะชีวภาพจากคอนโซล วางไว้บนหน้าผากของคุณและนั่งในท่าที่สบายด้วยค่ะ]
แผ่นแปะชีวภาพโผล่ออกมาจากคอนโซล เราติดมันไว้ที่หน้าผากของแล้วนั่งแล้วเอนหลัง หลังจากมีเสียงคลิกมาจากแผ่นแปะ เราก็หมดสติไปอีกครั้ง
[กัปตัน..! -ัน โครินท์! กัปตัน โครินท์คะ!
เราตื่นหลังจากได้ยินเสียงอีริสเรียก
[ขอบคุณพระเจ้า กำลังคิดอยู่เลยว่าจะทำยังไงถ้าคุณไม่ตื่นขึ้นมา]
รู้สึกเหมือนเดจาวูเลย
“ผมสลบไปนานแค่ไหนครับ?”
[ประมาณ 30 นาทีค่ะ กัปตันคุณไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดสุภาพกับฉันก็ได้ค่ะ]
“…เข้าใจแล้ว เอาล่ะเรามาเริ่มกันเลย ตอนนี้ฉันเป็นกัปตันรักษาการของยานลำนี้ โปรดยืนยัน”
[ยืนยัน ร่างกายไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลของยาอีกต่อไป และอยู่ในสภาวะจิตใจปกติ]
“ด้วยอำนาจที่ได้รับมาในฐานะผู้บังคับบัญชา ผมขอประกาศภาวะฉุกเฉินระดับสูงสุด นอกจากนี้ สั่งให้ยานอวกาศประจัญบานอีริส คอนราด ใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมด เพื่อรักษากำลังรบของเรือลำนี้และเกียรติยศของกองทัพอวกาศ นั่นคือคำสั่งของกัปตันของคุณ สิ่งนี้มีความสำคัญสูงสุดเหนือสิ่งอื่นใด”
นี่เป็นครั้งแรกที่เราออกคำสั่งที่ฟังดูเจ๋งๆ แบบนั้น ไม่ มันเป็นครั้งแรกที่เราได้ยินเช่นกัน มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงหลังจากที่ได้รับ ‘การฝึกอบรม’’ ของเจ้าหน้าที่ขั้นสูง
พึ่งสังเกตว่าได้อ่านคำพูดของอีริสแสดงผลอยู่บนหน้าต่างเสมือนสร้างโดยนาโนมคล้ายกับเครื่องบอกสคริปต์เลย
คำสั่งของกัปตันและเจ้าหน้าที่ขั้นสูงในตอนนั้นช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! ตามที่คาดไว้ของเจ้าหน้าที่ขั้นสูง แต่เราพนันได้เลยว่าพวกเขาก็อ่านสคริปต์เช่นกัน
[รับทราบ,รับคำสั่งค่ะ]
“เอาล่ะ ตอนนี้เราก็เริ่มซ่อมยานได้แล้ว”
[ขอโทษที่ขัดจังหวะนะคะกัปตัน คุณควรรีบไปที่ยานลี้ภัยฉุกเฉินทันทีค่ะ”
“ฮะ!? พูดถึงอะไรเนี่ย?”
[การเชื่อมต่อส่วนพยุงชีพถูกตัดขาด ภายนอกห้องนี้ยังพอได้อยู่ แต่ออกซิเจนกำลังจะหมดค่ะ]
อย่างที่เธอพูด มันรู้สึกอึดอัดและหายใจลำบากมาก
“แม้ว่าเธอจะบอกให้ผมหนีไปก็ตาม แล้วชั้นบรรยากาศบนดาวดวงนั้นหายใจได้หรือเปล่า?”
[ตามการวิเคราะห์สเปกตรัมแสง มีโอกาส 93% ที่มนุษย์สามารถหายใจได้ค่ะ]
“แล้วอีก 7% ที่เหลือละ?”
[ก๊าซที่อาจเป็นอันตราย ไวรัสที่ไม่รู้จัก และปรสิต]
“ถึงอย่างนั้น ยานลี้ภัย… แล้วการใช้ยานสำหรับลงจอดภาคพื้นล่ะ?”
[ทางเดินไปยังโรงเก็บยานบินถูกปิดหมด ยิ่งไปกว่านั้น ยานลงจอดภาคพื้นเกือบทั้งหมดสูญหายหรือถูกทำลายไปแล้วค่ะ]
อ่า ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่สามารถกลับไปที่ยานลำนี้ได้หลังจากที่ออกไปแล้ว
[ถ้าคุณอยู่ที่นี่ คุณจะตายเพราะขาดออกซิเจน มันจะดีกว่าถ้าคุณหลบหนีไปยังดาวเคราะห์ก่อน แล้วหาทางกลับหลังจากซ่อมแซมเรือสำเร็จแล้วค่ะ ความน่าจะเป็นของการสร้างใหม่สำเร็จหลังจากเปลี่ยนวิถีวงโคจรในปัจจุบันคือ 54%]
หะ!? เราไม่คิดว่าความน่าจะเป็นจะต่ำขนาดนั้น
“เข้าใจแล้ว… แล้วอาหารกับอาวุธล่ะ?”
[น่าเสียดาย มีเพียงสิ่งที่มีอยู่ในยานลี้ภัยเท่านั้นค่ะ]
เราเปิดใช้งานนาโนมและตรวจสอบอุปกรณ์ภายในยานลี้ภัย รู้สึกทึ่งเมื่ออ่านสิ่งที่ปรากฏบนหน้าต่างเสมือน
ปืนไรเฟิล M151
ปืนเลเซอร์ A18P
มีดใบมีดแม่เหล็กไฟฟ้า
อาหารฉุกเฉินสี่สิบสองห่อ
น้ำ 28 ลิตร
โลหะหายากหนึ่งขวด (100 เม็ด)
ผ้าห่มสองผืน
พูดตามตรง สำหรับทหารอย่างเรา ไม่ชอบอาวุธพวกนี้เลย อำนาจการยิงของพวกมันค่อนข้างต่ำ และไม่มีอาหารและน้ำเพียงพอ ยังไงก็ตาม ไม่มีทางเลือกล่ะนะ
“มีอะไรพอจะนำไปด้วยได้ไหม”
[ทำไมไม่นำโมดูลหน่วยประมวลผลที่คุณเพิ่งเปลี่ยนมาด้วยล่ะคะกัปตัน? พวกมันทำจากโลหะหายาก]
ที่เธอพูดมันก็ถูก แต่ต้องทำลายมันก่อนถึงจะกินได้ เดี๋ยวก็หาทางได้เอง โลหะหายากเป็นวัตถุดิบสำหรับนาโนม อาจเป็นไปได้ที่ที่จะทำขึ้นมาใหม่ แต่ไม่อยากมีปัญหาจากการคลาดแคลน นาโนมเป็นเหมือนเครื่องช่วยชีวิตของทหาร ตราบใดที่คุณมีโลหะหายากอยู่ในมือ คุณก็ไม่เป็นไร
บริเวณขึ้นเครื่องสำหรับยานลี้ภัย นั้นอยู่ติดกับทางเข้าห้องนี้โดยตรง อา รู้สึกขอบคุณจริงๆ กับใครก็ตามที่ติดตั้งไว้ในห้องนี้ เราขอให้อีริส เปิดช่องยานลี้ภัย และใส่โมดูลหน่วยประมวลผลเข้าไปข้างใน ยานลี้ภัยสามารถรองรับคนได้ห้าคนและมีที่นั่งห้าที่นั่ง ภายในค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว
ใช่แล้ว! เราต้องการชุดยูนิฟอร์ม เพราะเป็นดาวเคราะห์ด้อยพัฒนา เดี๋ยวไม่มีอะไรจะใส่เอา
ตอนนี้เราใส่ชุดที่ทำงานในห้องเมนเฟรมอยู่ ใส่ชุดที่เปลี่ยนก่อนทำงานเข้าไปด้วย
มีอย่างอื่นอีกไหมนะ?… ไม่มี
พอมาคิดดูแล้ว ตรงนี้มันอยู่ในส่วนเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ไม่มีทางที่จะมีของใช้ในชีวิตประจำอยู่ในที่แบบนี้
“ผมพร้อมแล้ว”
[ถ้าอย่างนั้นโปรดขึ้นไปบนยานลี้ภัยด้วยค่ะ]
เราขึ้นไปบนยานลี้ภัย นั่งบนเก้าอี้และคาดเข็มขัดนิรภัย
[ถ้างั้น ขอให้โชคดีค่ะ กัปตัน]
“เช่นกัน มิส คอนราด”
—บั๊ก—
ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นสิ่งมีชีวิตอัจฉริยะที่คล้ายกับแมลงขนาดใหญ่หลากหลายชนิด
ชนิดที่พบมากที่สุดดูเหมือนแมลงสาบเดินตัวตรงบนขาหลัง
มันถูกปกคลุมไปด้วยขนตามร่างกายและเปลือกนอกที่แข็ง สิ่งนี้น่าจะเพียงพอแล้วที่ทำให้มันดูน่ารังเกียจ แต่เหนือสิ่งอื่นใด มันยังสกปรกมาก และปกคลุมไปด้วยปรสิต ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย
มันค่อนข้างโหดร้ายและมีความสามารถในการต่อสู้ที่สูงกว่ามนุษย์มาก เข้าต่อสู้ในระยะประชิดเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์
แต่ในช่วงสงครามพันปีที่ผ่านมา มนุษยชาติได้ทำงานอย่างหนัก และในปัจจุบัน เป็นไปได้ที่ทหารของกองทัพอวกาศจักรวรรดิสามารถต่อสู้กับพวกมันในระยะประชิดได้
บั๊กยังมีเทคโนโลยีที่ทำให้พวกเขามีความสามารถในเดินทางไฮเปอร์สเปซ
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับ บั๊ก คือจำนวนของพวกมัน ดาวเคราะห์อาณานิคมที่ถูกยึดครองโดยบั๊กจะเต็มไปด้วยยานบั๊กจำนวนนับไม่ถ้วน จากการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญพบว่าอัตราส่วนของมนุษย์ต่อบั๊กอยู่ที่ประมาณ 1 ถึง 6
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการสืบพันธุ์แบบพิเศษใดๆ ในอาณานิคมของ บั๊กที่ถูกควบคุมและตรวจสอบ และจำนวนอาณานิคมทั้งหมดดูเหมือนจะเทียบเท่ากับของมนุษยชาติ
ด้วยเหตุนี้ ทฤษฎีที่แพร่หลาย ที่สุดบอกว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเพาะพันธุ์ขนาดใหญ่ในดาวเคราะห์แม่ต้นกำเนิดของบั๊ก การค้นพบและทำลายมันอาจทำให้สงครามที่ไม่รู้จบนี้ยุติลง
t/n เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลมาจากภาษาอังกฤษนะครับ เพื่อฝึกภาษา อาจจะยังเกลาคำไม่ดีมากนัก
Chapters
Comments
- ตอนที่ 8 หลบหนี สิงหาคม 31, 2021
- ตอนที่ 7 ขาเทียม สิงหาคม 31, 2021
- ตอนที่ 6 เครเรีย สิงหาคม 31, 2021
- ตอนที่ 5 ออกเดินทาง / เข้าปะทะ สิงหาคม 31, 2021
- ตอนที่ 4 ออกสำรวจ สิงหาคม 31, 2021
- ตอนที่ 3 สร้างยานขึ้นใหม่ สิงหาคม 31, 2021
- ตอนที่ 2 ลงจอดฉุกเฉิน สิงหาคม 31, 2021
- ตอนที่ 1 ยานอวกาศประจัญบาน อีริส คอนราด สิงหาคม 31, 2021
MANGA DISCUSSION