[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ - ตอนที่ 63
ตอนที่ 63
เหล่านักแสดงขึ้นเวที
“ฮิโนเอะสินะครับ เคยได้ยินอยู่บ่อยๆ ไม่คิดว่ามีโอกาสจะได้พบตัวจริง”
แขกที่ไม่คาดคิดคนนี้ ทำให้มิลานประหลาดใจ
เคยได้ยินมารีพูดถึงฮิโนเอะอยู่บ่อยๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เจอด้วยตัวเอง
“ทราบข่าวมาว่า ท่านเซเลนมีความบาดหมางกับท่านแม่ของเธอ ท่านคาเงะโทระจึงเสนอให้ข้าน้อยมาตรวจสอบว่าจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้างเจ้าค่ะ”
อีกฝ่ายคือเจ้าชายของต่างประเทศ ฮิโนเอะสามารถวางตัวให้เหมาะสมต่อหน้ามิลานได้โดยไม่ติดขัด
ถ้าเป็นเซเลน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ทักทายแค่ ‘สวัสดี*’ ได้คำเดียว เหมือนเป็นตัวโดโมจัง*
“เวทมนตร์ของฮิโนเอะมองเห็นจิตใจของคนอื่นได้ด้วยนะ ท่านพี่คิดว่ายังไง? สุดยอดไปเลยใช่ไหม? เธอต้องช่วยได้แน่นอนค่ะ”
มารีจับไหล่ของฮิโนเอะจากข้างหลัง กำลังโอ้อวดจากภูมิใจ
ดูเหมือนจะทำให้ฮิโนเอะเขินอายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ครั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของคน ไม่มีทางรู้ได้ถ้าอีกฝ่ายไม่แสดงออกมาให้เห็น แต่พลังของเด็กคนนี้สามารถมองออก ท่านคาเงะโทระก็เห็นด้วยกับวิธีนี้”
ชวานอธิบายเสริมคำพูดของมารี
เป็นไปได้ว่า ไอโรเน่จะบอกยอมรับเซเลนเพราะไม่อยากขัดใจประเทศมหาอำนาจอย่างเฮลิฟาลเต้ โดยมีเพียงแค่คำพูด
ซึ่งมันไม่มีความหมาย
มิลานและทุกคนในที่นี้ต้องการให้เซเลนและไอโรเน่แสดงความผูกพันกันได้จากใจจริง
ทั้งที่จริง ไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับเซเลนเลยก็เถอะ
“เข้าใจแล้วครับ เป็นเวทมนตร์ที่มีประโยชน์สำหรับตอนนี้จริงๆ แต่สำหรับเธอ มัน…”
แน่นอนว่าเป็นผู้ช่วยที่เหมาะกับภารกิจในครั้งนี้ มิลานรู้สึกขอบคุณจากใจจริง แต่เมื่อนึกถึงความสามารถของฮิโนเอะ เขาก็เริ่มลังเล เพราะจากที่เคยได้ยินมา มันไม่ใช่ความสามารถที่ตัวเธอต้องการแต่อย่างใด
ฮิโนเอะสามารถอ่านใจคนได้ หรือพูดให้ชัดๆคือ มองเห็นความรู้สึกภายในจิตใจออกมาเป็นสี
แต่จังหวะการใช้งาน เหมือนเป็นการสุ่มใช้ตามสัญชาตญาณ ไม่ใช่ตามความต้องการ และเธอก็หลีกเลี่ยงการใช้งานมันมาโดยตลอด
เพราะความสามารถนี้ คนรอบข้างจึงมองเธอเป็นเด็กต้องสาป และถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นที่ต้องการ เป็นเด็กแปลกๆผู้โชคร้าย คล้ายกับกรณีของเซเลน เป็นอีกคนที่ควรได้รับความเห็นใจ
แม้ในภายหลัง ฮิโนเอะจะถูกคาเงะโทระรับเข้าตระกูล แต่ก็ยังเป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาร้ายแรงตามมา จนกระทั่งได้เซเลนมาช่วยแก้ไขให้ เธอจึงตระหนักในพลังของตนเองมากขึ้น
“เรื่องนั้น ไม่ต้องห่วงขอรับ”
“นายคือ…!?”
ชายผู้หนึ่งที่ยืนอยู่หลังห้องข้างหลังมิลานได้พูดออกมาก่อนที่ฮิโนเอะจะตอบ
ส่วนสูงใกล้เคียงมิลานแต่ร่างกายใหญ่กำยำ ในชุดกิโมโนสีน้ำเงินเข้ม ซามูไรจากประเทศตะวันออก คุมะฮาจิ เพื่อนสนิทที่มิลานไว้ใจที่สุด
“ทั้งที่มีคนอื่นเข้ามาอยู่ในห้องแต่กลับไม่รู้สึกตัว ไม่ใช่ว่าองค์ชายหย่อนยานเกินไปแล้วหรือขอรับ?”
“นี่มันห้องของราชวงศ์ คนที่แอบเข้ามาโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงต่างหากที่ผิด”
มิลานพูดข่มกลับไป สำหรับมิลาน คุมะฮาจิเป็นเพื่อนที่พูดคุยล้อเล่นกันได้ แม้เป็นการทักทายของสหายเก่าที่นานทีถึงมีโอกาสได้เจอกัน ก็ไม่จำเป็นต้องมีอะไรมาก
“นานแล้วสินะ ยังแข็งแรงอยู่ก็ดีแล้ว”
“องค์ชายเองก็ยังอยู่ดีเหมือนกัน แต่ครั้งนี้ข้าน้อยกลับมาเพราะหน้าที่อื่น ไม่มีบทบาทในเรื่องนี้ขอรับ”
หลังจากบอกไปแบบนั้น คุมะฮาจิก็หันไปทางฮิโนเอะ
เขารับหน้าที่เป็นผู้คุมนักโทษและออกจากทวิปไปพร้อมกับเอนเต้ แต่ตอนนี้ เขาติดตามฮิโนเอะมาในฐานะคนคุ้มกัน
“เอาล่ะ ท่านฮิโนเอะ เชิญนำเสนอพลังอันน่าภูมิใจของท่านได้เลยขอรับ”
“เจ้าค่ะ!”
คุมะฮาจิเปิดโอกาสให้ฮิโนเอะได้คุยกับมิลานต่อ
“คือว่า ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่พลังนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับข้าน้อยอีกต่อไป ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ข้าน้อยได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับมันได้แล้วเจ้าค่ะ”
“เรียนรู้? หมายความว่า เธอสามารถใช้งานมันได้ตามต้องการแล้วใช่ไหมครับ?”
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยสามารถใช้อาคมได้อย่างอิสระ เพื่อให้ดวงตามองเห็นสีและรูปร่างจิตใจของใครก็ตาม แต่ต้องใช้สมาธิสูง ใช้งานต่อเนื่องจึงลำบากพอสมควรเจ้าค่ะ”
“เป็นเช่นนั้นสินะครับ… แค่นี้ก็ช่วยได้มากแล้วครับ”
มิลานได้ยินแล้วก็โล่งใจ
ไม่ใช่เพราะมีประโยชน์ต่อเซเลน แต่เป็นเพราะได้รู้ว่าฮิโนเอะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่เธอเป็นอีกแล้ว
แม้มิลานจะไม่ได้สนิทสนมกับฮิโนเอะ แต่เขาก็ไม่ต้องการเห็นผู้คนต้องอยู่อย่างยากลำบาก
“มันก็แน่อยู่แล้ว ผ่านมาเป็นปี ไม่มีใครที่จะไม่เติบโตขึ้นเลยหรอก ใช่ไหม ฮิโนเอะ?”
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ โชคดีที่ข้าน้อยมีครูที่ดีอย่างท่านหญิงเอนเต้”
มารีโอ้อวดอย่างภูมิใจ และฮิโนเอะก็ยิ้มออกมา
สองปีที่ผ่านมา ฮิโนเอะได้พยายามอย่างหนักเพื่อพัฒนาตนเอง และยังได้เอนเต้ ผู้ที่ได้รับการศึกษาในระดับราชวงศ์ ช่วยสอนพื้นฐานของเวทมนตร์และอะไรอีกหลายๆอย่าง ฮิโนเอะจึงเติบโตขึ้นมาได้อย่างงดงาม
อันที่จริง ผู้ที่เติบโตไม่ได้มีแต่ฮิโนเอะ ยังมีมิลาน มารี คุมะฮาจิ และคนอื่นๆ… ต่างก็ฝึกฝนตนเองอย่างต่อเนื่องในทุกๆวัน เพื่อให้ก้าวข้ามตนเองที่อ่อนแอเมื่อวันวานไปให้ได้ คนที่อยู่ไปวันๆโดยปราศจากการพัฒนาจึงเหลือเพียงเซเลนคนเดียว
“แล้วก็… เพื่อให้ท่านเซเลนที่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เห็นว่าข้าน้อยเปลี่ยนไปมากแค่ไหนเจ้าค่ะ”
“จะว่าไป เธอก็เคยเห็นหัวใจของเซเลนแล้วด้วยใช้ไหมครับ?”
“เจ้าค่ะ ในตอนที่เจอกันครั้งแรกเมื่อสองปีที่แล้ว แม้จะอายุน้อยกว่า แต่จิตใจแปล่งประกายงดงาม ส่องสว่างสดใส ยิ่งใหญ่กว่าคนทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดเจ้าค่ะ…”
ราวกับภาพวาดที่เป็นผลงานชิ้นเอกจากศิลปินชื่อดัง
อนึ่ง จิตใจของบัตเลอร์สูงส่งถึงเพียงนั้น แม้จะถูกบดบังโดยจิตใจแปลกประหลาดของเซเลนแล้วก็ตาม
ถ้าจะมองหัวใจของเซเลนให้งดงามก็คงประมาณทะเลสาบมาชู** ในตอนที่หมอกลง
จะพิเศษหน่อย คือหมอกลงตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีมาริโมะ*** อัดแน่นอยู่เต็มหัว
“ข้าน้อยจะพยายามสุดความสามารถ เพื่อให้ได้ใกล้เคียงกับท่านมารีและเซเลนขึ้นมาสักนิด การเดินทางไปอาร์คุยล่าของเจ้าชายมิลานในครั้งนี้ โปรดให้ข้าน้อยติดตามไปด้วย ข้าน้อยจะค้นหาหัวใจของราชินีไอโรเน่ให้ได้แน่นอนค่ะ”
ฮิโนเอะก้มหัวต่ำต่อหน้ามิลาน ผมสีดำเงางามของเธอเลื่อนลงมาด้านหน้า
มิลานคุกเข่าลงข้างหนึ่งเพื่อให้ระดับสายตาตรงกับฮิโนเอะ
“เธอ… ไม่สิ คุณฮิโนเอะ ความรู้สึกนั้น ผมเข้าใจดีครับ ตัวผมเพียงลำพังไม่สามารถทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้ ในตอนนี้ ความช่วยเหลือจากคุณมีค่ามากกว่าได้กองทัพนับพันอีกครับ”
“ไม่หรอกเจ้าค่ะ! สิ่งที่ข้าน้อยทำได้มีเพียงแค่นี้ เทียบกับเจ้าชายมิลานผู้มีความฉลาดเป็นเลิศแล้ว…”
“ท่านฮิโนเอะ โปรดอย่าได้ดูถูกตนเองเช่นนั้นเลยขอรับ จริงอยู่ที่องค์ชายมีความสามารถมากมาย แต่ถ้าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างความรู้สึกในใจคน จะหัวช้าจนเห็นแล้วอยากกุมขมับเลยขอรับ”
“ไม่ต้องตอกย้ำก็ได้น่า”
แม้จะถูกคุมะฮาจิพูดจาเหน็บแนม แต่มิลานก็ดูเหมือนจะจะอารมณ์ดี
นานมากแล้วที่พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันในลักษณะนี้
“ขออภัยที่แนะนำตัวช้า ท่านฮิโนเอะ ฉันคือพี่สาวของเซเลน มีชื่อว่าอาลัว รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านให้ความร่วมมือเพื่อความสุขของเซเลน”
อาลัวก้มหัวขอบคุณฮิโนเอะ ทำให้ฮิโนเอะลนลานเล็กน้อยก่อนจะโค้งให้เพื่อตอบรับ
“ข้าน้อยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านอาลัว พี่สาวคนสำคัญของท่านเซเลน เห็นว่าข้าน้อยมีประโยชน์เจ้าค่ะ”
ฮิโนเอะพูดกับอาลัวด้วยรอยยิ้ม
“เอาล่ะ! ตัวละครหลักของเรื่องราวในครั้งนี้ก็มากันพร้อมแล้ว! การจะทำให้ราชินีไอโรเน่กับเซเลนคืนดีกันได้สำเร็จก็ไม่ใช่แค่ฝัน!”
“พูดอย่างกับเธอเป็นหัวหน้าเลยนะครับ”
มารีประกบมือและพูดออกมาเสียงดัง แต่ก็โดนมิลานพูดขัด
“มารี คิดจะตามไปด้วยสินะครับ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว หนูเองก็เป็นพี่สาวของเซเลนเหมือนกันนะ ไม่ได้เหรอ?”
“ครั้งนี้… คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง”
ถ้าเป็นสมัยก่อน มิลานจะคัดค้านอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เขายอมให้มารีเดินทางไปด้วยได้
แม้จะยังเป็นเด็กที่ชอบทำอะไรเอาแต่ใจอยู่บ้าง แต่ระยะหลังๆนี้ก็ทำตัวให้สมเป็นเจ้าหญิงที่น่าเคารพขึ้นมามากแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เขาคิดว่า เซเลนน่าจะเดินทางได้ย่างสบายใจมากกว่า ถ้ามีเพื่อนวัยเดียวกันเดินทางไปด้วยหลายๆคน จึงเพิ่มมารีไปเป็นผู้โดยสาร
“สำเร็จ! ได้ไปเที่ยวบ้านเกิดของเซเลนแล้ว! เนอะ ฮิโนเอะ!”
“ข้าน้อยก็สนใจสถานที่ที่ท่านเซเลนเติบโตมาเช่นกันเจ้าค่ะ”
แม้จะเป็นภารกิจเพื่อช่วยเหลือเซเลน แต่เด็กสาวสองคนนี้ก็ให้อารมณ์เหมือนนักท่องเที่ยว บรรยากาศของคนอื่นๆก็เริ่มผ่อนคลายขึ้นมา
“ดูเหมือนจะกำหนดหน้าที่ของคนที่จะไปกันได้แล้ว ส่วนคนที่จะอยู่ก็… ริริน”
“อยู่นี่แล้ว”
ชวานเรียกชื่อออกมา เป็นที่สังเกตว่า กระจกถือที่อยู่ในมือของไอบิส มีภาพสะท้อนเกินมาหนึ่งคน เมื่อหงายกระจก เด็กสาวตัวเท่าฝ่ามือก็ออกมายืนอยู่ด้านบน
ทางฝั่งมิลานไม่มีใครแปลกใจแม้แต่น้อย แต่ฮิโนเอะดูเหมือนจะตกใจพอสมควรและคุมะฮาจิก็จับดาบที่คาดอยู่ตรงเอว
“คุณลุง ใจเย็นๆก่อน ฉันไม่ใช่วิญญาณร้ายนะคะ”
“คุณลุง… หมายถึงข้าน้อยรึ?”
แม้จะดูมีอายุ แต่คุมะฮาจิก็ยังอยู่ในวัยเดียวกับมิลาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เซเลน ยังคงเชื่อว่าคุมะฮาจิเป็นสหายชายวัยกลางคนที่น่าสงสาร
ขณะที่คุมะฮาจิกับฮิโนเอะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดี ริรินกระโดดลงมาจากกระจก รูปร่างของเธอเปลี่ยนไป จนกระทั่งเท้าแตะพื้นและหมุนตัวรอบหนึ่งในร่างที่ดูเหมือนเซเลนไม่ผิดเพี้ยน ทำให้ทั้งสองยิ่งตกตะลึง
“เป็นอย่างไรบ้างคะ? เพราะเป็นกระจก จึงมีความสามารถในการลอกเลียนแบบ”
ริรินในร่างเซเลนจับชายกระโปรงยกขึ้นและย่อตัวอย่างมั่นใจ งามสง่าดูสมเป็นเจ้าหญิง เพียงแต่ตัวจริงไม่เคยทำกิริยาเช่นนี้
“เธอคนนี้คือภูติกระจกที่มารีบังเอิญไปเก็บมาได้จากร้านขายของเก่า หลังจากตรวจสอบแล้วว่าไม่มีอันตราย ข้าจึงอนุญาตให้เก็บไว้ในคลังสมบัติ ครั้งนี้จะใช้เป็นตัวแทนของเซเลน”
“การที่สมาชิกราชวงศ์เฮลิฟาลเต้เดินทางไปอาร์คุยล่าด้วยตนเองนั้น ยังมีหลายเหตุผลใช้อ้างได้ แต่ถ้าเซเลนเดินทางกลับบ้านเกิดไปพร้อมกันด้วยอีกคน คนอื่นเขาจะเอาไปลือกันจนเรื่องบานปลาย”
ชวานพูด และไอบิสอธิบาย
มิลานยังไม่มีคู่หมั้นอย่างเป็นทางการ ถ้ามิลานกับเซเลนเดินทางไปอาร์คุยล่าด้วยกัน ผู้คนที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองก็จะตีความไปว่าเป็นการไปสู่ขอเพื่อแต่งงานอย่างแน่นอน เมื่อประชาชนจำนวนมากเชื่อเช่นนั้น ก็จะเกิดเป็นกระแสกดดันให้ราชินีอาร์คุยล่ายอมรับโดยไม่เต็มใจ
“เพราะฉะนั้น เซเลนจะเดินทางไปอาร์คุยล่าอย่างไม่เป็นทางการ ในขณะที่ริรินจะแสดงตัวต่อหน้าคนอื่นว่าเธอยังอยู่ที่นี่”
“อื่ม? แล้วริรินจะเป็นตัวแทนของเซเลนไหวเหรอ?”
มารีหันไปพูดกับริรินอย่างกังขา ริรินในร่างของเซเลนงอนแก้มป่องก่อนจะตอบกลับ
“โธ่! ก็รู้กันอยู่ว่าไม่ไหวหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยก็แสดงตัวให้รู้ว่ายังอยู่ได้นะคะ”
ทั้งที่จริง ริรินเหมาะสมกับการเป็นเจ้าหญิงมากว่าเซเลนแท้ๆ น่าเสียดายที่การเปลี่ยนตัวเอาเธอขึ้นมาแทนจริงๆนั้นทำได้ยาก
ทั้งเวทีและนักแสดงก็พร้อมแล้ว ที่เหลือก็รอเปิดฉากให้คณะทูตที่นำโดยมิลานออกเดินทางสู่อาร์คุยล่า ตอนนี้ก็แค่ไปแจ้งให้เซเลนทราบถึงกำหนดการเท่านั้น
―แต่ที่ตรงนั้น ยังมีอีกคน
[“เรื่องใหญ่ขนาดนี้! องค์หญิงต้องดีใจแน่!”]
บัตเลอร์ที่หลบอยู่ในมุมมืด รีบไปบอกข่าวดีกับเจ้านายของเขาในทันที
____________________
*
どうも = โดโม = สวัสดี, ลาก่อน, ขอบคุณ เป็นคำพูดสั้นๆ ใช้กันทั่วไป
โดโมจัง ล้อโดโมคุง (どーもくん) ตัวมาสคอตของ TV ช่อง NHK มีซีรี่ย์เป็นของตัวเอง (Adventures With Domo)
** 摩周湖
ทะเลสาบมาชู ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟอยู่ที่ฮอกไกโด ขึ้นชื่อเรื่องน้ำใส สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเร็ว ในตอนที่หมอกลง หมอกจะลงจัดและหนาจนไม่เห็นผิวน้ำ ทำให้ขึ้นชื่อเรื่องความลึกลับอีกเรื่อง
*** マリモ
มาริโมะ/สาหร่ายมาริโมะ มอสน้ำชนิดหนึ่ง รูปร่างเป็นก้อนขนกลมๆสีเขียว