[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ - ตอนที่ 59.58
ตอนพิเศษ 8
เจ้าหญิงแสงจันทร์ผู้เมตตา
“อ๊า! หน้าอก! เอาหน้าอกมา!”
ภายในห้องส่วนตัวอันกว่างใหญ่สมกับเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังเฮลิพาลเต้ เซเลนนอนกลิ้งไปมาบนเตียงที่มีขนาดผู้ใหญ่สามคนนอนได้โดยไม่เบียด เธอกำลังทุกข์ทรมานจนแทบเสียสติ แต่ด้วยความที่เธอสติไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว ถึงจะเสียไปก็ไม่น่าเป็นปัญหา
“อึก… สาวๆ ใครก็ได้…”
สาเหตุที่เซเลนต้องทรมานอยู่ตอนนี้ ก็คืออาการของโรคประจำตัว โรคขาดหน้าอกที่ไม่มีทางรักษาหาย ส่วนหนึ่งก็เพราะนักเรียนในสถานศึกษาอยู่ในช่วงใกล้สอบ อาลัวจึงมุ่งเน้นไปที่การทบทวนบทเรียนจนไม่มีเวลาว่างมาเยี่ยมเยียน
ไม่ต่างกับปลาทองที่กระโดดออกมานอกตู้แล้วได้แต่อ้าปากพะงาบๆรอแห้งตาย ถ้าเซเลนยังอยู่ในสภาพลงแดงต่อไปเช่นนี้ก็อาจจะเฉาตายได้เช่นกัน
“ช่วยไม่ได้ ต้องทำอะไร สักอย่าง”
เซเลนจัดทรงผมที่ไม่เป็นระเบียบและชุดที่ยับจากการนอนให้เข้าที่ ก่อนจะลุกออกจากห้องไปพูดคุยกับคนสาวใช้ที่อยู่แถวนั้น
◆◇◆◇◆
เช้าวันถัดมา หน้าห้องของเซเลนมีสาวใช้คนหนึ่ง ท่าทางประหม่า เธอเป็นหญิงสาวอายุราวๆสิบห้าหรือสิบหกปี เส้นผมและดวงตาสีน้ำตาลเข้ม
“วันนี้ ที่นี่สินะ…”
สาวใช้ทำใจให้สงบก่อนจะเคาะประตู เตรียมใจเหมือนนักผจญภัยก้าวเข้าถ้ำของสัตว์ร้าย อันที่จริง ในห้องนี้ก็มีอะไรบางอย่างที่เหมือนสัตว์ร้ายอยู่จริงๆ
“มาได้”
เสียงเล็กๆอันไพเราะของเด็กหญิงตอบกลับมา สาวใช้จึงเปิดประตูเข้าไปในห้อง และได้แต่หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น
“(เด็กคนนี้ งดงามจริงๆ…)”
เด็กผู้หญิงสีขาวทั้งร่างกายและเส้นผมนั่งอยู่บนเตียงเหมือนเพิ่งตื่นนอน แสงแดดอ่อนๆที่เล็ดลอดเข้ามากระทบเส้นผมของเธอเป็นประกายสวยงาม ทันทีที่ได้เห็นก็ลืมความเครียดก่อนหน้านี้ไปทั้งหมด
ความงดงามของเจ้าหญิงแสงจันทร์ที่ผู้คนกล่าวขานนั้นไม่เกินจริงแม้แต่น้อย เมื่อได้เห็นเจ้าหญิงเซลเลนใกล้ๆ ก็บอกได้เลยว่าข่าวลือพวกนั้นยังน้อยไป
ทั้งที่เป็นเพศเดียวกันและอายุต่างกันก็ยังอาจเผลอตกหลุมรัก สาวใช้รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เซเลนหันมาสบตากับเธอพักหนึ่งแล้ว
“ขออภัยที่เสียมารยาท! ดิฉันไม่ได้ตั้งใจ!”
“อือ ไม่เป็นไร”
การยืนจ้องตากับเจ้านายเรื่องเสียมารยาท หากเป็นขุนนางที่เคร่งระเบียบ เธอจะถูกทำโทษก็ไม่ใช้เรื่องแปลก สาวใช้จึงรีบก้มหัวขอโทษ แต่เซเลนก็ดูเหมือนไม่ถือสา เจ้าหญิงแสงจันทร์ไม่ใช่คนประเภทนั้น
“วันนี้ ดิฉันจะทำหน้าที่รับใช้ท่านเซเลน แม้จะไร้ประสบการณ์ แต่จะพยายามทำอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้มีสิ่งใดขาดตกบกพร่องค่ะ!”
“ไม่ต้อง ขนาดนั้น ก็ได้”
“เอ๋?”
คำตอบนี้ค่อนข้างสร้างความประหลาดใจให้กับสาวใช้ เพราะการที่คนระดับนี้เรียกตัวสาวใช้ระดับล่าง อย่างเลวร้ายที่สุด มีความเป็นไปได้ว่าต้องการกลั่นแกล้งเพื่อระบายอารมณ์
“ยินดี ที่รู้จัก”
“เอ๋? นับเป็นเกียรติของทางนี้เช่นกันค่ะ!”
เซเลนพูดออกมาง่ายๆ สาวใช้คาดเดาเจตนาของเซเลนได้ เพราะเป็นผู้ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ จึงอยากให้ทำหน้าที่ได้อย่างสบายใจ ซึ่งเธอก็รู้สึกเข้าใจเซเลนคนนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว
เพราะเธอยังเป็นแค่สาวใช้ฝึกหัดที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานในพระราชวัง ปรกตอแล้วเธอจะได้ทำแต่งานจิปาถะทั่วไป ความรู้เกี่ยวกับงานนี้ก็มีแค่ครึ่งๆกลางๆ แต่เมื่อได้รับคำสั่งมาโดยตรงก็ต้องทำให้ดีที่สุด
อับดับแรกต้องเปลี่ยนชุดนอนและแต่งตัวให้เซเลน แต่เซเลนก็บอกว่าไม่จำเป็นและทำเองไปแล้ว สาวใช้จึงเริ่มจัดห้องนี้ให้เรียบร้อยที่สุดตามทีถูกขอมา
“(หน้าต่างบานนี้… ไม่เหมือนกับของที่อื่น…)”
จากที่ได้เห็นสภาพภายในห้องของเซเลนก็รู้ได้เลยว่า เซเลนได้รับการปฏิบัติอย่างทะนุถนอมที่สุดภายในพระราชวังเฮลิฟาลเต้แห่งนี้
เนื่องจากผิวสีขาวของเซเลนนั้น อ่อนไหวต่อแสงแดด ภายในห้องจึงถูกออกแบบมาเพื่อคำนึงถึงจุดนั้น แต่จะปิดมืดไปเลยก็ไม่ได้เช่นกัน กระจกบานหน้าต่างจึงมีเวทมนตร์ป้องกันความร้อนแรงของแสงแดด แม้จะเปิดม่านเต็มที่ในวันที่แดดจัด ก็จะมีเพียงแสงแดดอ่อนๆส่งผ่านมาถึงเตียง
“(ถ้าทำแตก ชาตินี้คงชดใช้ไม่หมด…)”
สาวใช้เช็ดบานหน้าต่างให้ใสสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เมื่อคิดถึงมูลค่าของสิ่งที่สัมผัสอยู่นี้ มือของเธอสั่นเล็กน้อย
“มีช่องว่าง”
“ว้าย!?”
ขณะที่กำลังจดจ่ออยู่กับงาน สาวใช้ถูกกอดโดยไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าของผู้จู่โจมอยู่ตรงช่วงเอว และมือจับอยู่ตรงสะโพก… ค่อนไปทางบั้นท้าย ไม่มีใครอื่นของจากเจ้าหญิงแสงจันทร์ เซเลน อาร์คุยล่า
“คือว่า…? ท่านเซเลนคะ?”
“รูปร่าง ดีนะ”
“เอ่อ… ขอบคุณสำหรับคำชม”
เซเลนลูบไล้บั้นท้ายต่อไปอย่างพึงพอใจ และยังพูดชมในสิ่งที่คิดอยู่ เพราะเซเลนเป็นเด็กร่างเล็ก จากความต่างของส่วนสูงทำให้ดูเหมือนโอบกอดธรรมดา
“(คงเพราะเห็นเราเครียดมากเกินไป)”
การที่เจ้าหญิงแสงจันทร์ถึงเข้ามาลูบไล้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอยู่เช่นนี้อาจจะเข้าใจได้ยาก หากเป็นการกระทำของผู้ชายก็เข้าใจได้ง่ายว่าถูกลวนลาม แต่นี่ เป็นเป็นผู้หญิงเหมือนกัน และยังเป็นเด็ก จึงรู้สึกเหมือนเข้ามาลูบปลอบ
“ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ ท่านเซเลน”
“หืม?”
เซเลนเอียงคอสงสัยเหมือนไม่เข้าใจ อาจเป็นเรื่องปรกติสำหรับเธอ ถึงอย่างไร เธอก็เป็นถึงผู้ที่บริจาคทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อการศึกษาที่ไม่ทำให้ได้รับกำไร สาวใช้มั่นใจแล้วว่า ความเมตตาของเจ้าหญิงแสงจันทร์มาจากความบริสุทธิ์ใจโดยไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
ความประหม่าในตอนแรกหายไปจนหมด นี่คือความสบายใจที่ได้รับจากเจ้านายผู้เป็นมิตรและอ่อนโยน สาวใช้ใส่ความตั้งใจของทั้งปีเพื่อรับใช้เซเลนเพียงวันเดียว
ตามปรกติ จะมีสาวใช้เก่าแก่มากประสบการณ์หลายคนแบ่งหน้าที่ จัดเตียง ตกแต่งห้อง เก็บของใช้เข้าที่ และทำความสะอาด แต่วันนี้มีเพียงสาวใช้ฝึกหัดเพียงคนเดียว กว่างานจะเสร็จเรียบร้อยก็ถึงช่วงเย็น และระหว่างการทำงานยังถูกเซเลนเข้ามากอดประกบติดอยู่บ่อยครั้ง ถึงจะเกะกะแต่ก็ไม่รู้สึกรำคาญ คล้ายถูกลูกแมวเข้ามาคลอเคลีย
“ดิฉันได้ทำตามที่ได้รับมอบหมายครบถ้วนแล้ว… ไม่ทราบว่ามีตรงไหนทำให้ท่านไม่พอใจหรือเปล่าคะ?”
สาวใช้ขออนุญาตเสร็จงานกับเซเลน แม้เธอจะคิดว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว แต่เพราะเธอยังเป็นมือใหม่ จึงไม่มั่นใจว่าจะผ่านมาตรฐานของเจ้าหญิงแสงจันทร์ หากเป็นเช่นนั้น เธอก็พร้อมจะอยู่ทำต่อไปอีกทั้งคืน
“ดีแล้ว”
แต่เซเลนไม่แม้กระทั้งหันไปตรวจดูรอบๆห้อง เพียงแต่ตอบรับง่ายๆเหมือนเชื่อใจ สาวใช้แทบไม่เชื่อว่าตนที่เป็นมือใหม่และมักถูกเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ตำหนิอยู่บ่อยครั้งจะได้รับการยอมรับง่ายขนาดนี้
ความประหลาดใจของเธอยังไปจบเพียงแค่นั้น เซเลนเดินไปเปิดลิ้นชักหยิบถุงที่ภายในส่งเสียงโลหะกระทบกันใบหนึ่งมายื่นให้
“ให้”
“นี่คือ… ถุงเงินหรือคะ!?”
“ใช่ เอาไป”
เซเลนวางลงบนมือของสาวใช้ น้ำหนักของมันถือว่ามาก ต่อให้มีแต่เหรียญมูลค่าต่ำสุด ก็ยังน่าจะมากกว่ารายได้ในปัจจุบันต่อปีของเธอ
“ดิฉันไม่คู่ควรหรอกค่ะ! เพิ่งจะมีโอกาสรับใช่ท่านแค่วันเดียวเท่านั้น ค่าจ้างก็ได้รับตามปรกติ…!”
“รางวัล”
“เอ๋? ถึงท่านจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ”
“เพราะลำบาก เอาไปเถอะ อย่าคิดมาก”
เพียงเท่านั้น น้ำตาก็ไหลซึมออกมาจากดวงตาของสาวใช้
“ขอบพระคุณมากค่ะ…! ท่านเจ้าหญิงแสงจันทร์ผู้เมตตา!”
“หืม? อือ…”
ร้องไห้ออกมาจนได้ เสียมารยาทอีกแล้ว สาวใช้พยายามกลั้นน้ำตา ส่วนเซเลนก็ดูเหมือนจะงงเล็กน้อย จากนั้นก็เอื้อมมือมาจับบ่าของเธอและพูดเบาๆ
“อย่าบอกใครนะ”
เซเลนยกนิ้วขึ้นมาแตะริมฝีปากพูดด้วยรอยยิ้ม สาวใช้ที่ยังมีน้ำตาไหลริน ตอบรับด้วยการโค้งให้อีกครั้งก่อนออกจากห้องของเซเลน
[“ไม่แปลกหรอกครับ เพราะองค์หญิงทำถึงขนาดนั้น กระผมที่ดูอยู่ห่างๆยังคล้อยตามจนเกือบจะร้องไห้ไปด้วยเลย”]
บัตเบอร์ปรากฏตัวออกมาจากใต้เตียง หลังจากแน่ใจว่าสาวใช้ออกไปแล้ว
“เปล่านะ ไม่ได้ทำ”
[“ถ้าท่าพูดเช่นนั้นก็อาจจะจริงของท่านครับ”]
ในเมื่อเซเลนบอกมาเองว่า ‘ไม่ได้ทำอะไร’ บัตเลอร์ก็จะไม่พูดถึงมันอีก จากมุมมองจองเจ้านายผู้มีความเมตตาเปี่ยมล้นเห็นเป็นเรื่องปรกติ เขาก็จะทำเหมือนเป็นเรื่องปรกติเช่นเดียวกัน
◆◇◆◇◆
“เข้าใจแล้วครับ… ขอบคุณสำหรับรายงาน”
ในเย็นวันนั้น สาวใช้ที่ยังถือถุงเงินอยู่ในมือ กำลังพูดคุยกับมิลาน ตามปรกติมิลานไม่มีเวลาว่างมากนัก แต่เพราะเขาเคยมองข้ามเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวกับเซเลนจนต้องรู้สึกเสียใจภายหลัง เพราะฉะนั้น เขาจึงคิดรับฟังทุกเรื่อง ไม่ว่าจะมีสาระสำคัญหรือไม่
ครั้งนี้เป็นรายงานจากสาวใช้หน้าใหม่ ที่มาบอกว่าเธอได้รับ ‘ค่ารักษา’ จากเซเลนมากมาย จากการทำงานในวันนี้เพียงวันเดียว ซึ่งนั่นคือสาเหตุที่เธอเข้ามาทำงานเป็นสาวใช้ภายในพระราชวังแห่งนี้ เนื่องจากมารดาป่วยเป็นโรคร้าย
งานในพระราชวังต้องใช้ทักษะฝีมืออย่างมาก เป็นงานที่มีความเครียดสูงแต่ผลตอบแทนก็สูงเช่นกัน เป็นเหตุผลที่เธอเลือกงานนี้ แต่เมื่อเริ่มงานได้ไม่นาน ก็ถูกเซเลนเรียกใช้แบบระบุตัว ทำเธอได้รับค่าจ้างพิเศษนอกเหนือจากเงินเดือน ในจำนวนที่มากจนน่าตกใจ
“และยังสั่งไว้ว่าห้ามบอกใคร อาจจะผิดต่อท่านเซเลน แต่เงินจำนวนขนาดนี้…”
จำนวนเงินเยอะเกินไปจนทำให้รู้สึกผิดอยู่ในใจ มิลานเงียบไปสักพักก่อนจะตอบ
“ในเมื่อเซเลนเป็นคนให้เองกับมือ ก็เป็นเงินของคุณแล้วครับ”
“แต่ว่า… ยังมีคนที่เหมาะสมกว่าดิฉันอยู่อีกมากนะคะ!”
“ไม่หรอกครับ ผมได้ขอให้คนรับใช้เก่าแก่มีประวัติยาวนานเชื่อถือได้ให้ไปรับใช้เซเลนแล้ว แต่เซเลนกลับเรียกใช้คนใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ ถ้าจะให้อธิบายล่ะก็ เซเลนคงจะรู้เรื่องทางบ้านของคุณอยู่ก่อนแล้ว เพราะฉะนั้น เธอถึงเลือกคุณ”
“เป็นเช่นนั้นหรือคะ?”
“ใช้ครับ การที่เธอเรียกให้คุณไปหาเพียงคนเดียวก็เพราะหากอยู่ด้วยกันหลายคน เธอจะไม่สามารถให้รางวัลกับคุณเพียงคนเดียวได้”
“ทั้งหมดนั่น… จากคนมากมาย แต่กลับทำเพื่อฉัน…”
“ปรกติสำหรับเด็กคนนั้นแหละครับ”
มิลานมองด้วยแววตาเข้าใจอย่างถ่องแท้ สาวใช้ตื้นตันจนใกล้จะร้องไห้อีกครั้ง ตั้งแต่มารดาล้มป่วยก็พบกับความลำบากหลายอย่าง ในสังคมของชนชั้นสูง หากแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็นก็จะมีแต่ถูกทิ้ง
แต่ตัวตนที่สูงส่งอย่างเจ้าหญิงแสงจันทร์กลับเลือกที่จะเอาใจใส่ ราวกับรดน้ำใส่ปุ๋ยให้กับดอกไม้ริมทางที่ใกล้เหี่ยวเฉา
“แม้จะยังอ่อนประสบการณ์และผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง… แต่ดิฉันจะพยายามให้มากขึ้นจนคู่ควรกับความเมตตาที่ได้รับในครั้งนี้ค่ะ!”
“พูดได้ดี ผมก็ขอคาดหวังกับบุคลากรชั้นยอดในอนาคต ด้วยตำแหน่งหน้าที่ของคุณในตอนนี้คงไม่มีโอกาสได้เจอกันบ่อยๆ… แต่ผมก็จะสนับสนุนเต็มที่ครับ”
“รับทราบค่ะ!”
จากนั้น สาวใช้ออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้มอันมุ่งมั่น วันนี้อาจเป็นวันที่เธอจะจดจำไปชั่วชีวิต มิลานมองไปยังท้องฟ้ายามเย็นด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบในหัวใจ
◆◇◆◇◆
“เติมพลัง เรียบร้อย”
เซเลนนอนแผ่อยู่บนเตียง ได้สัมผัสกับความนุ่มนิ่มจนหายคิดถึง น่าเสียดายที่หาจังหวะจับหน้าอกไม่ได้ แต่อย่างน้อยอาการของโรคประจำตัวก็ทุเลาลงไปแล้ว
สาเหตุที่เธอออกไปเลือกสาวใช้ที่มีรูปร่างหน้าตาถูกใจมารับใช้ในวันนี้ ก็เพราะสาวใช้ที่มาประจำนั้น มีแต่สาวใช้สูงวัยรุ่นป้า โดยที่เซเลนไม่ได้รับรู้เรื่องทางครอบครังของสาวใช้มือใหม่คนนั้นแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าการทำงานอาจไม่สมบูรณ์แบบเหมือนมืออาชีพที่มีประสบการณ์ แต่คนอย่างเซเลนนั้น อาศัยอยู่ท่ามกลางกองขยะได้อย่างไม่มีปัญหา ห้องนอนในชีวิตก่อนของเซเลนมีแต่ฟูกนอนที่อยู่กลางห้อง กับถุงขยะและหนังสือ18+ เกลื่อนกลาดจนมองแทบไม่เห็นพื้นห้อง เพราะฉะนั้น สภาพห้องจะเป็นแบบไหนก็ยังสะอาดเกินพอสำหรับเธอ
หลังจากเลือกคุณเมดวัยรุ่นหน้าตาน่ารักมาเป็นอาหารตาสำหรับวันนี้ได้แล้ว พอรู้ตัวอีกทีก็เผลอลวนลามไปตั้งเยอะ
จะปล่อยให้เอาไปประกาศว่า ‘ถูกเซเลนล่วงละเมิดทางเพศ!’ จนสาวๆคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้ มันก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น จึงต้องจ่าย ‘ค่าทำขวัญ’ พร้อมกำชับว่าห้ามบอกใคร
เรียกง่ายๆว่า ‘ค่าปิดปากเพื่อให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้’ แต่เซเลนไม่รู้ว่าแต่ละเหรียญมีค่าเท่าใด เนื่องจากไม่มีโอกาสได้ใช้เงินด้วยตัวเอง เธอจึงให้ไปทั้งหมดที่อยู่ในถุงและหวังว่ามันจะพอ
“อื่ม ดีจัง”
แม้อาการป่วยของเซเลนจะได้รับการเยียวยาแล้ว แต่ก็สงบได้เพียงชั่วคราว คนที่จะรักษาได้มีเพียงอาลัว เพียงคนเดียวที่หยุดความทรมานจากโรคขาดหน้าอกของเซเลนได้ หวังว่าจะได้พบกันในเร็ววัน
หลังจากนั้น อาการป่วยของมารดาของสาวใช้ก็ถูกรักษาด้วยหมอที่เก่งที่สุดในเมืองจนหายขาด ต้องขอบคุณเงินรางวัลพิเศษที่ได้รับมาจากเซเลน ในขณะเดียวกัน เหตุผลเดียวที่ทำให้สาวใช้ทำงานในพระราชวังเฮลิฟาลเต้ก็ได้รับการแก้ไข แต่เธอก็ยังเลือกที่จะทำงานในที่นั้นต่อไป
ในภายหลัง เรื่องนี้จะถูกผู้คนรับรู้ในวงกว้าง และกลายเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าขานถึงความเมตตาของเจ้าหญิงแสงจันทร์ แต่เจ้าตัวก็ไม่มีวันได้รับรู้ไปชั่วชีวิต