ตอนที่ 49
สวรรค์ (ใหม่)
เซเลนเดินลงเนินเขาได้อย่างสบาย ออกจากอาณาเขตยอดเขามังกรพร้อมกับบัตเลอร์ที่อยู่บนไหล่ ก่อนหน้านี้มันเป็นเพียงทางขรุขระทีเต็มไปด้วยก้อนหิน แต่เมื่อเซเลนเลือกใช้เส้นทางนี้ บัตเลอร์ก็สั้งให้หนูขาวทั้งหลายขนย้ายสิ่งกีดขวางออกไปจนหมดและปรับพื้นดินให้เรียบ การที่เซเลนผู้เชื่องช้าไม่ต่างกับวัวสามารถเดินผ่านได้ง่ายๆต้องขอบคุณถนนที่เหล่าหนูทั้งหลายร่วมแรงสร้างขึ้นมา
สัตว์นักล่าของป่าสีขาวก็ไม่ได้มีเพียงแค่มังกรเท่านั้น ยังมีสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถพบเห็นที่ไหนได้อีกหลายชนิด แต่เพราะเซเลนอาศัยอยู่ในถิ่นที่อยู่ของมังกร แม้แต่สัตว์ร้ายยังหวาดกลัว ดังนั้น ที่ที่อันตรายที่สุดจึงเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดเช่นเดียวกัน เซเลนจึงมาถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย
พื้นที่โล่งในป่าส่วนที่ใกล้กับถ้ำของเซเลนมากที่สุด ตามปรกติแล้ว พืชพรรณบริเวณนี้ควรจะมีสีขาวไม่ต่างกับส่วนอื่นๆ แต่ก็ยังเห็นต้นไม้อยู่หย่อมหนึ่งที่เป็นสีเขียว หากได้พิจารณา ก็จะเป็นได้ว่ามันคือต้นไม้ชนิดเดียวกับที่พบได้ในดินแดนของมนุษย์
“อื่ม เมล็ด เมล็ด”
ในมือของเธอมีเมล็ดแอปเปิลที่เอามาจากแกนที่เซเลนกินเข้าไปก่อนหน้านี้ เธอฝังมันลงดินอย่างไม่มีรูปแบบ
ผักและผลไม้ทุกชนิดที่กินเข้าไป เธอจะเหลือเมล็ดเก็บไว้เพื่อนำมาปลูก เช่นเดียวกับที่เคยทำในอาร์คุยล่า เพราะสวนที่เฮลิฟาลเต้เรียบร้อยเป็นระเบียบเกินไป จึงทำการลักลอบแทรกแซงไม่ได้ง่ายๆ แต่ที่นี่สามารถทำได้เพราะมีพื้นที่ว่างมากมายบวกกับเวลาว่างเหลือเฟือ
ยิ่งไปกว่านั้น ผืนดินของที่นี่ก็กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์กว่าในอาร์คุยล่ามาก และยังไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาที่เมื่อก่อนต้องแอบออกมาเฉพาะตอนกลางคืน ยอดเขามังกรนี้จึงได้เปรียบกว่าในทุกๆด้าน สมควรได้รับแต่ตั้งให้เป็น ‘สวรรค์ (ใหม่)’ ของเซเลนเป็นอย่างยิ่ง
อันที่จริง การนำพืชหรือสัตว์ต่างถิ่นมาปล่อยไว้ตามธรรมชาติอาจทำให้ความสมดุลของระบบนิเวศถูกทำลายได้ แต่เซเลนก็ไม่ใช่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และไม่มีความรู้ทางด้านนั้น หรือต่อให้รู้ก็จะถือคติว่า ‘ถิ่นของข้า กฎของข้า’ อยู่ดี
ดังนั้น เซเลนจึงตั้งใจปลูกต้นไม้เพื่อทำลายธรรมชาติต่อไปอย่างแข็งขัน
[“กระผมไม่อยู่รบกวนเวลาส่วนตัวขององค์หญิง แต่ก็สามารถเรียกใช้ได้ทุกเวลาครับ”]
“อือ”
หลังจากพูดออกมาเช่นนั้น บัตเลอร์ไต่ลงจากไหล่ของเซเลนและคอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ สิ่งมีชีวิตที่กล้าเดินผ่านพื้นที่แถบนี้ก็คงจะมีแต่หนูที่ไม่อยู่ในสายตาของมังกรเท่านั้น กรณีของเซเลนคงเป็นเพราะเธอไม่เข้าใจในเรื่องนี้แม้แต่น้อย แม้จะได้รับความคุ้มครองจากมังกรอยู่ก็ตาม
ถึงอย่างนั้น บัตเลอร์ก็ยังทำการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ หนึ่งในหน้าที่อันทรงเกียรติของบัตเลอร์คือการขัดขวางอันตรายทุกชนิดไม่ให้เข้าใกล้เจ้านาย และการที่เขาล้มเหลวในหน้าที่จากเหตุการณ์แมลงดับแสงสุริยาเมื่อสองปีที่แล้ว บัตเลอร์จึงไม่ยอมให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง
อะไรก็ตามที่เขาตัดสินว่าเป็นอันตรายต่อเซเลน บัตเลอร์จะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งสิ่งนั้น แต่ตอนนี้ เขาจะเฝ้าดูอยู่เงียบๆ ไม่ให้รบกวนเจ้านานที่กำลังดื่มด่ำไปกับธรรมชาติ
“โอ๊ะ ฟักทอง!”
หลังจากฝังกลบเมล็ดแอปเปิลลงดินอย่างลวกๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว เซเลนก็หันไปสนใจกับลูกฟักทองที่อยู่ใกล้ๆกัน มันมีขนาดใหญ่จนต้องถือมันด้วยสองมือ เธอมองมันด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
เพราะยอดเขามังกรอยู่ทางเหนือสุดของทวีป เธอจึงไม่คิดว่ามันจะเจริญเติบโตได้ดีเท่ากับที่อาร์คุยล่าซี่งอยู่ค่อนไปทางใต้ แต่มันก็ออกผลเร็วกว่ามากจนผิดปรกติเหมือนเส้นผมของเซเลน นับเป็นการคาดการณ์ผิดพลาดในทางที่ดี
“จากป่าสีขาว กินแล้วแข็งแรง(shiromorimorimori*) โตเร็วๆนะ…”
เซเลนเล่นมุขฝืดๆอยู่คนเดียวตามประสาชายแก่ มีความสุขอยู่คนเดียวโดยไม่สะทกสะท้านกับอากาศหนาวเย็นของดินแดนทางตอนเหนือ และในตอนนั้นเอง บัตเลอร์วิ่งกลับมาหาเธออย่างรวดเร็ว
[“องค์หญิง!”]
“ชอบมุขนี้?”
[“องค์หญิง! มีบางอย่างใกล้เข้ามา! ระวังตัวด้วย!”]
คิดว่าเข้ามาทักเพราะชอบมุขเล่นคำของเธอ แต่กลายเป็นว่ามุขของเธอถูกเมิน ทำให้เซเลนรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยแต่ก็ปล่อยผ่านไป ที่สำคัญ บัตเลอร์เตือนว่ามีบางอย่างกำลังมาทางนี้ เซเลนจึงตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อย
“อะไร?”
[“สัตว์ขนาดกลาง… ลิง? ไม่สิ…”]
บัตเลอร์เงี่ยหูฟัง ขยับจมูกและหนวดเหมือนค้นหาตำแหน่งของเป้าหมาย ตั้งแต่ที่ถูกจับโดยเอลฟ์ในป่าสีขาวเมื่อนานมาแล้ว บัตเลอร์ฝึกฝนประสาทสัมผัสทางเสียงและกลิ่นให้กว้างไกลยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองให้รวดเร็วกว่าศัตรู เป็นการเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เห็นผลมากกว่ากรณีของเซเลน
[“หืม? ไม่เคลื่อนที่ไปไหน แค่หมอบอยู่เฉยๆ… นั่งพักหรือพยายามซ่อนตัวกันแน่…”]
แรงสะเทือนอันน้อยนิดจากพื้นดินที่ส่งมาถึง ทำให้บัตเลอร์รู้ได้ว่าสัตว์ตัวนั้นเปลี่ยนท่าทางจากยืนเป็นหมอบ ไม่ว่ามันคือตัวอะไรและกำลังทำอะไรก็ตาม หากมันไม่เป็นมิตร เขาก็จะไม่ปล่อยให้เข้าใกล้เจ้านายของเขาไปมากกว่านี้ บัตเลอร์จึงคิดจะไปดูให้เห็นกับตา
[“องค์หญิง กระผมจะไปตรวจสอบด้วยตนเองสักหน่อย อาจมีอันตราย โปรดรออยู่ตรงนี้”]
บัตเลอร์ส่งเสียงร้องสั้นๆ หนูขาวนับร้อยตัววิ่งเข้ามาจากทุกที่ เดินวนอยู่รอบตัวเซเลน เนื่องจากเซเลนเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ ด้วยหนูจำนวนเท่านี้จึงสามารถแบกเธอให้หลบหนีไปด้วยความเร็วสูงได้ง่ายๆ พวกมันถูกเรียกมาเพื่อการนั้นอยู่แล้ว และพร้อมพาเธอหลบหนีจากศัตรูได้ทุกทิศทาง
[“หากมีอะไรเกิดขึ้น หนูพวกนี้จะพาองค์หญิงไปที่รังของมังกรแดงในทันที”]
“ระวังตัวด้วย”
[“ความห่วงใยของท่านจะช่วยคุ้มครองกระผมได้อย่างแน่นอนครับ”]
บัตเลอร์โค้งคำนับให้กับคำพูดของเซเลนก่อนจะออกวิ่งไป ด้วยขนาดลำตัวที่เล็กกว่าสิบเซนติเมตรกับการที่เป็นหนูที่ว่องไวที่สุด ทำให้บัตเลอร์ถูกรับรู้ตัวตนได้ยากมาก หากเขาไม่ต้องการเผยตัว แม้แต่เอลฟ์ที่มีทักษะการตรวจจับที่ละเอียดอ่อนก็ยังไม่รู้สึกถึงตัวตนของบัตเลอร์ได้เลย
จากกอหญ้าใกล้ๆ บัตเลอร์โผล่หน้าออกมามอง ‘พวกเขา’ อยู่
[“นก… กับคน?”]
สิ่งแปลกปลอมที่ทำให้บัตเลอร์เผลอพูดออกมา ท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าสีขาวที่แผ่กระจายไปทุกๆที่ มีคนหนึ่งคนสวมผ้าคลุมสีดำนอนอยู่กับพื้น กับอีกากำลังส่งเสียงร้องใส่คนคนนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ควรมีอยู่ในป่าสีขาวและยังใกล้กับยอดเขามังกรขนาดนี้
“ให้ตายเถอะ…”
เมื่อได้ยินเสียงคร่ำครวญจากผู้ที่สวมผ้าคลุมดำซึ่งหมอบอยู่กับพื้น ก็คิดได้ว่าคนผู้นี้เป็นเพศหญิง แล้วทำไมผู้หญิงตัวเล็กๆถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ก็ไม่อาจทราบได้ แม้บัตเลอร์จะคิดหาความเป็นไปได้สักแค่ไหนก็ไม่ได้คำตอบ เพราะแน่ใจว่าคนผู้นี้ไม่ใช่ผู้ที่ถูกเลือกโดยมังกรเหมือนกับเจ้านายของเขา
[“กลับไปรายงานกับองค์หญิงก่อนก็แล้วกัน”]
หลังจากหยุดคิดอยู่ไม่นาน บัตเลอร์ก็สรุปได้คร่าวๆว่า ผู้หญิงปรกติไม่มีทางมาถึงดินแดนอันห่างไกลนี้ได้ จากที่เห็นก็คิดได้ว่ามีอาการเหนื่อยล้าเป็นอย่างยิ่ง จึงไม่น่าลงมือก่อเรื่องร้ายแรงได้ในทันที ต่อให้กลับไปราบงานจนคลาดสายตาก็ไม่เป็นปัญหา
บัตเลอร์ถอยกลับเข้าไปในกอหญ้า หันหลังวิ่งกลับไปหาเซเลน เซเลนในตอนนี้ยังนั่งอยู่กับพื้นที่เดิมโดยมีก้อนขนสีขาวล้อมรอบ เธอกำลังถือหนูขาวตัวหนึ่งขึ้นมาเล่นเป็นข้าวปั้น
[“องค์หญิง มีเรื่องรายงาน”]
“ว่า?”
[“ผู้บุกรุก… ถึงจะฟังดูแปลกแต่เป็นผู้หญิงกับอีกาครับ”]
“ผู้หญิง!?”
เซเลนลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินว่าบัตเลอร์ไปพบกับอะไรมา ส่วนเรื่องของอีกา ได้ถูกลืมไปเรียบร้อยแล้ว
[“ครับ ดูเหมือนสภาพร่างกายค่อนข้างอิดโรย ปล่อยเอาไว้เฉยๆเดี๋ยวก็ตายไปเองครับ”]
“พาไปหา!”
[“ช้าก่อนครับ… ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหนและต้องการอะไร อาจเป็นกับดัก…”]
“ไม่เป็นไร จะไป!”
ความตั้งใจของเซเลนทำให้บัตเลอร์ต้องใจอ่อน เขาจึงนำทางเซเลนไปยังที่ที่พบเห็นผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้อีกาเริ่มจิกแก้มของผู้หญิงที่นอนแน่นิ่ง แต่ก็ยังไม่มีการตอบสนอง
“ชู่ว! ถอย!”
เมื่อเซเลนเข้าไปเหวี่ยงขาใส่ ทำให้อีกาบินถอยไปแต่ก็ไม่ได้หนีออกไปไกล จากนั้น เซเลนก้มมองดูภายใต้ฮู้ดที่เลื่อนเปิดอยู่ของผู้หญิงคนนั้นจนเห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน
แม้ใบหน้าเปื้อนดินโคลน ซีดเซียวเหมือนอดอยาก แต่ก็ยังสามารถเห็นได้ว่า สาวน้อยคนนี้เข้าขั้นหน้าตาดีเลยทีเดียว จึงผ่านมาตรฐานของเซเลนได้อย่างง่ายดาย
“หืม!?”
[“องค์หญิง! ยังวางใจไม่ได้นะครับ!”]
คำเตือนของบัตเลอร์ไม่ได้ทำให้เซเลนเพิ่มความระมัดระวังแม้แต่น้อย เธอเปิดผ้าคลุมและเริ่มใช้มือสำรวจไปทั่วตัว แม้จะผอมแห้งไปสักหน่อยและขนาดยังเล็กอยู่ แต่ดูจากอายุแล้วยังเติบโตได้ คะแนนจึงออกมาเป็น A คุ้มค่าแก่การเก็บไว้
เด็กสาวผมสีแดงหันมาจ้องเข้ามาในดวงตาของเซเลน เธออาจรู้สึกตัวว่ากำลังถูกสัมผัส จากนั้นก็พูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงก็เบาเกินกว่าจะได้ยิน และเธอก็ได้หมดสติลงไปอีกครั้ง
“บัตเลอร์! พาไป ถ้ำ!”
[“จะพาเด็กคนนี้กลับไปหรือครับ?”]
“ต้องรีบ เดี๋ยวตาย!”
[“แต่ว่า…”]
คำสั่งของเจ้านายในครั้งนี้ทำให้บัตเลอร์ต้องคิดหนัก เด็กสาวตัวคนเดียว เดินทางมายังสถานที่แบบนี้ เป็นสิ่งปรกติอย่างเห็นได้ชัด อีกทังอีกาตัวนั้นก็ยังจ้องมองมาทางนี้อยู่เงียบๆ
ลักษณะการแต่งกายลึกลับออกไปทางชั่วร้าย ต่อให้พบเห็นในสถานการณ์ปรกติก็ยังดูเป็นคนที่ประกอบอาชีพไม่สุจริตอยู่ดี
“เร็ว! เร็ว!”
[“เข้าใจแล้วครับ แต่หากเกิดอันตรายขึ้นกับองค์หญิง บัตเลอร์ผู้นี้จะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของท่านเป็นอันดับแรก”]
“ก็ได้! เร็วเข้า!”
บัตเลอร์ยอมรับคำสั่งจากเจ้านายและลงมือปฏิบัติโดยเร่งด่วน เจ้านายผู้นี้มีความหลักแหลมกว่าตัวเขามากนัก ย่อมรู้ดีว่าตัวเขากำลังกังวลเรื่องใด
เพราะเป็นคนเช่นนั้น จึงพยายามช่วยเหลือทุกคนที่เธอสามารถช่วยได้ อย่างที่เคยช่วยหนูสกปรกตัวหนึ่งออกจากกับดัก ตัวเขาเองก็เคยได้ความเมตตานั้นช่วยต่อชีวิตให้
แม้แต่ตอนที่ยังอยู่ในเฮลิฟาลเต้ เธอก็ยังบริจาคทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดเพื่อการศึกษาซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ใดๆกับตัวเธอโดยตรงเลย น้ำใจที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน เป็นทั้งข้อดีและจุดอ่อนของเจ้านายผู้สูงส่งผู้นี้
เพราะฉะนั้น เขาจะจัดการกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเอง บัตเลอร์ยังคงเฝ้าระวังภัยอย่างเต็มที่ พร้อมกับลงมือช่วยเด็กสาวคนนั้น
บัตเลอร์ส่งเสียงร้องสั้นๆอีกครั้ง และฝูงหนูขาวที่ล้อมรอบเซเลนก็ออกเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงหนึ่งเดียว ยกเด็กสาวคนนั้นเพื่อพาเธอไปยังถ้ำที่เซเลนอาศัยอยู่
บัตเลอร์กลับไปประจำที่บนไหล่ของเซเลนและเรียกใช้หนูขาวอีกฝูงเพื่อพาเซเลนกับตัวเขาเองตามไปติดๆ เพราะการทำแบบนี้จะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วกว่า บัตเลอร์หันกลับไปมองข้างหลัง เห็นอีกาตัวเดิมบินตามมาโดยรักษาระยะห่าง
[“(เด็กผู้หญิงกับอีกา… ไม่ธรรมดาทั้งคู่)”]
ทั้งเด็กสาวปริศนาทั้งอีกาตัวนั้น คือสิ่งที่บัตเลอร์ต้องคอยจับตาดูไว้ขณะพาไปพักฟื้นที่ถ้ำ แม้การทิ้งพวกเขาไว้ตรงนี้จะเหมาะสมกว่า แต่มันจะทำให้เจ้านายต้องเสียใจ
อันที่จริง บัตเลอร์เข้าใจได้ถูกต้องในบางเรื่อง การทอดทิ้งเด็กสาวคนนี้จะทำให้เซเลนต้องเสียใจอย่างแน่นอน เนื่องจากเซเลนไม่มีโอกาสได้เจอกับสาวสวยเป็นเวลานานกว่าสองปี อาการของเธอได้เลยขีดจำกัดไปนานแล้ว
เธอหวังมาตลอดว่า ในเมื่อโลกนี้มันแฟนตาซีถึงขั้นมีเอลฟ์ ก็น่าจะมีสาวครึ่งสัตว์หรือมังกรร่างมนุษย์ด้วยเหมือนกัน ตราบใดที่เป็นสาวสวยในรูปแบบมนุษย์ จะเป็นตัวอะไรก็ไม่มีปัญหา แต่น่าเสียดาย ไม่ว่าจะหาที่ไหนก็ไม่มีแม้แต่ร่องรอย
ขณะที่เซเลนเริ่มท้อแท้เพราะความไม่ยุติธรรมของโลกใบนี้ ได้แต่ภาวนาให้สวรรค์ประทานสาวงามมาให้ หรือมีผู้หญิงสวยๆตกลงมาจากท้องฟ้าที่ไหนสักแห่ง จนกระทั่งวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสาวน้อยน่ารักโผล่ออกมากลางป่าจริงๆ
การที่มีมนุษย์เข้ามาในเขตยอดเขามังกรก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว หากเป็นนักผจญภัยชายฉกรรจ์ก็จะเป็น R(หายาก) หากเป็นผู้หญิงด้วยก็ระดับ SR(หายากมาก) แต่นี่ เป็นเด็กสาวหน้าตาดี เรียกได้ว่าเจอกับ SSR(หายากสุดๆ) เข้าให้แล้ว
สาวน้อยคนนี้ต้องเป็นของขวัญจากพระเจ้าที่มองเห็นเธอพยายามอย่างเต็มที่อยู่ทุกวันอย่างแน่นอน เซเลนเชื่อเช่นนั้นหมดใจ และแล้ว ฝูงหนูขาวแรงงานอเนกประสงค์ก็พาเซเลนกับบัตเลอร์และชินนิมาถึงถ้ำที่พักอาศัยในเวลาไม่นาน
“ให้นอน”
[“แต่ว่า นี่เป็นเตียงนอนขององค์หญิงนะครับ! จะให้เด็กสกปรก…”]
“ไม่เป็นไร คนป่วย”
[“…เข้าใจแล้วครับ”]
บัตเลอร์สั่งให้หนูขาววางเด็กสาวไว้ที่เตียง บนที่นอนรองด้วยใบไม้อย่างดีซึ่งเป็นที่ของเซเลน จากนั้นก็ใช้ถ้วยไม้ตักน้ำสะอาดกรอกเข้าไปในปากของเด็กสาว แม้ว่าจะยังไม่ได้สติแต่ชินนิก็กลืนลงไปได้ด้วยสัญชาตญาณ
[“องค์หญิงคงทราบดีอยู่แล้ว ดูเหมือนเป็นเพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมมาอย่างยาวนาน แต่เบื้องหลังเป็นอย่างไรคงต้องรอให้เธอคนนี้ตื่นก่อนค่อยสอบถามรายระเอียดดีกว่าครับ”]
“อือ”
บัตเลอร์หันกลับไปทางปากถ้ำ อีกาที่ตามมาถึงตรงนี้ก็ยังคงรักษาระยะห่างและมองมาที่พวกเขาจากนอกถ้ำเหมือนเฝ้าสังเกตการณ์
ทุกซอกทุกมุมภายในถ้ำตั้งแต่ทางเข้าก็มีหนูขาวหลายตัวที่บัตเลอร์สั่งให้ซ่อนตัวไม่ให้ใครเห็น และคอยระวังอันตรายเอาไว้ หากมีเหตุไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น พวกมันจะส่งเสียงต่อกันเป็นทอดๆ เหมือนเกมส่งต่อข้อความ เป็นสัญญาณเตือนภัยให้บัตเลอร์ได้รับรู้
“ดีจัง…”
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อาการชินนิก็จะพ้นขีดอันตรายในไม่ช้า เซเลนถอนหายใจด้วยความโล่งอกและลูบหัวของเธอเบาๆ จากนั้นก็ลูบต่อไปยังต้นขา และหลังจากนี้ก็จะได้ลูบไล้ทุกๆที่ที่เธอต้องการได้สักที
ด้วยเหตุนี้ ชะตาของชินนิจึงยังไม่ขาดลงในวันนี้ แต่เธอเป็นใคร ตามหาเซเลนจนมาถึงยอดเขามังกรได้อย่างไร และเพื่ออะไร? ก็คงต้อนย้อนกลับไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสถานศึกษาแห่งชาติเฮลิฟาลเต้ก่อนหน้านี้
____________________
*しろもりモリモリ (shiromorimorimori)
しろ (shiro) = สีขาว, もり (mori) = ป่า, モリモリ (morimori) = อาหารสุขภาพ/ของดีของอร่อย
MANGA DISCUSSION