ตอนที่ 48
อยู่อย่างแร้นแค้น รอวันหวนคืน (臥薪嘗胆*)
ก่อนหน้าการปรากฏตัวของชินนิ ไม่กี่ชั่วโมงก่อน เซเลนกำลังออกท่าทางแปลกๆอยู่ในถ้ำที่อาศัย
“ย้า! ย้า!”
ขณะที่ส่งเสียงแปลกๆซ้ำๆ เซเลนทำท่าเลียนแบบนักมวยฝึกชกลมอย่างต่อเนื่อง หลังจากเหตุการณ์แมลงดับแสงสุริยา วันเวลาก็ผ่านมาแล้วสองปี บัดนี้ เซเลนอายุได้สิบขวบ เป็นผู้อยู่อาศัยในอาณาเขตยอดเขามังกร
“อุ เหนื่อย”
หลังจากทำมาได้สามนาที ก็รู้สึกว่าแขนเกิดอาการเมื่อยล้า จึงต้องหยุดเอาไว้ก่อน สิ่งที่ทำอยู่นี้ ดูเหมือนเป็นการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับศึกชี้ชะตากับเจ้าชายมิลาน โดยการคิดค้น ‘หมัดเซเลน’ ขึ้นมาเป็นท่าไม้ตาย
ทั้งนี้ พลังที่แท้จริงของหมัดเซเลนก็คือ… หมัดตรงธรรมดา!
มีคำกล่าวว่า ‘เด็กๆ ไม่เจอกันแค่สามวันก็เปลี่ยนไปจนจำไม่ได้’ แต่เซเลนคือชายแก่ที่ผ่านพ้นวัยเจริญเติบโตไปแล้ว ผ่านมาสองปีก็ไม่มีทางเปลี่ยนไปได้อีก ซึ่งก็คือยังเป็นคนขี้เกียจ มักง่าย ลามก เห็นแก่ตัว อยู่เหมือนเดิม
ยิ่งไปกว่านั้น การอยู่ห่างไกลจากกฎระเบียบสังคมมนุษย์ยิ่งทำให้อาการของเธอหนักหนาเพิ่มขึ้นไปอีก หากเป็นโรคที่ต้องพาไปพบแพทย์ก็จะถูกตำหนิกลับมาว่า ‘ทำไมถึงเพิ่งพามารักษาเอาป่านนี้!’ เรียกได้ว่า เข้าระยะสุดท้ายไปเรียบร้อยแล้ว
ถึงอย่างนั้น เซเลนก็ไม่ถึงกับไม่มีการพัฒนาใดๆเลย จากที่เห็นอยู่ตอนนี้ เธอสามารถเคลื่อนไหวออกแรงได้นานถึงสามนาทีแล้ว ถึงจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ทำประโยชน์ไม่ได้เลยก็เถอะ
อีกทั้ง ความงดงามซึ่งเป็นสมบัติติดตัวมาแต่กำเนิดยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามวันเวลาที่ผ่านไป สองปีที่ผ่านมานี้ เส้นผมของเธอที่เคยตัดให้สั้นเสมอบ่า ถูกไว้ยาวจนถึงกลางหลัง ดูเป็นประกายสวยงามดั่งเส้นไหมสีเงิน
“อ๊า! เกะกะ!”
เซเลนโวยวายขณะเอามือปัดเส้นผมนุ่มสลวยของเธอ บัตเลอร์ไม่ได้อยู่แถวนี้จึงไม่มีใครห้ามเมื่อแสดงกิริยาไม่เหมาะสม ก่อนหน้านี้เธอเคยพยายามตัดผมด้วยตัวเองแล้วหลายครั้ง และทุกครั้งมันก็จะยาวขึ้นมาใหม่ด้วยความเร็วผิดธรรมชาติ อาจเป็นเพราะพลังเวทของมังกรส่งผลกระทบต่อร่างกายของเซเลน
ดังนั้น แม้จะรู้สึกรำคาญสักเท่าไหร่ เซเลนก็เลือกที่จะปล่อยมันเอาไว้อย่างนั้นแทนที่จะคอยตัดออกให้สั้นลง หรือก็คือ แม้แต่เส้นผมของตนเอง เซเลนก็ยังพ่ายแพ้
ยอดเขามังกร คือส่วนภูเขาสูงที่ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของทวีป เป็นที่อยู่อาศัยของมังกรตามชื่อของมัน เนื่องจากมังกรอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร จำนวนของพวกมันจึงมีไม่มาก และไม่ชอบออกนอกอาณาเขต จึงถูกพบเห็นได้ยาก ยกเว้นมังกรแดง ซาซาคุเระ
ดินแดนแห่งนี้ ไม่ต้องพูดถึงมนุษย์ เพราะแม้แต่เอลฟ์ก็ยังไม่เคยเข้าใกล้ ปัจจุบันเซเลนอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้โดยมีฉากหน้าคือ อาหารฉุกเฉินของซาซาคุเระ ในถ้ำส่วนตัวที่ไม่ใช่ถ้ำธรรมดา
ผนังถ้ำมีหินเวทมนตร์ฝังไว้มากมายอย่างเป็นระเบียบคล้ายอิฐหินอ่อน ของใช้ของประดับทำมาจากไม้ศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างเรืองแสงอ่อนๆตลอดเวลา ภายในถ้ำจึงมีความสว่างทั่วถึง และเตียงที่นอนก็ทำจากใบไม้และขนนกสีขาว นุ่มนิ่มน่านอนยิ่งกว่าเตียงใดๆมนุษย์ใช้กัน
สภาพแวดล้อมในตอนนี้เรียกได้ว่าหรูหราสะดวกสบายมากกว่าของสำหรับราชวงศ์
ถ้ำนี้ถูกขุดโดยมังกรแดง ซาซาคุเระ จากนั้นบัตเลอร์ก็ทำการตกแต่งภายในให้เหมาะสมคู่ควรกับเป็นที่พักของเจ้านายผู้สูงส่งของเขา
จนถึงตอนนี้ บัตเลอร์ยังคงเชื่อว่า เซเลนต้องจำใจออกห่างเฮลิฟาลเต้มาอยู่ในเขตยอดเขามังกรนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนของผู้คนในทวีป เขาจึงพยายามทำให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด เพื่อที่จะบรรเทาความเจ็บปวดของเซเลนให้ได้มากที่สุด
ในส่วนของเซเลน การมาอาศัยอยู่ที่ยอดเขามังกรนี้ คือการหลบหนีความผิด และเสริมพลังความแข็งแกร่งเพื่อที่จะกลับไปท้าทายมิลานอีกครั้ง ซึ้งแน่นอนว่านอกจากเซเลนแล้วไม่มีใครรู้เรื่องนี้
ก่อนที่ถ้ำจะถูกเตรียมพร้อมเซเลนคิดจะใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้นจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย ดั่งคำกล่าว ‘นอนบนเศษไม้ เลียถุงน้ำดี(臥薪嘗胆*)’ ตามเรื่องเล่าจากประเทศจีน ชายที่ทนนอนบนเศษไม้ เลียถุงน้ำดี เพื่อไม่ให้ลืมความแค้น
แต่ก็ได้ล้มเลิกไปก่อนที่จะลงมือทำจริง เพราะการนอนบนเศษไม้มันดูเจ็บเกินไป และถุงน้ำดีของสัตว์ก็น่าสะอิดสะเอียน เซเลนจึงนอนบนที่นอนอ่อนนุ่มตามปรกติ และเปลี่ยนมามุ่งมั่นกับการฝึกวิชาการต่อสู้ซึ่งมีประสิทธิภาพไม่มากไปกว่าเด็กเล่นคาราเต้ เพราะยังไง เธอก็ไม่ใช่คนที่จะ ‘นอนบนเศษไม้’ ได้อยู่แล้ว
[“องค์หญิง กระผมกลับมาถึงแล้วครับ”]
[“มาแล้ว เซเลน”]
“ยินดี ต้อนรับกลับ”
เมื่อเซเลนกำลังจะกลับไปนอนต่อที่เตียง ก็มีเงาขนาดใหญ่ทอดผ่านลงมาปิดปากถ้ำพร้อมเสียงที่คุ้นเคย เธอจึงตอบกลับพวกเขาราวกับเป็นเพื่อนร่วมห้องกลับมา
ชุดที่เซเลนมักใส่เป็นประจำ ยังคงเป็นชุดที่ได้มาจากอาร์คุยล่าตัวเดิม อีกทั้งตอนนี้เธอมีเสื้อผ้าราคาแพงมากมายแขวนไว้บนราวยาวบนผนังถ้ำที่บัตเลอร์ทำไว้ให้ สาเหตุก็เพราะมังกรแดง ซาซาคุเระและบัตเลอร์ที่เพิ่งกลับมานี้
[“ของถวายสำหรับรอบนี้ครับ”]
“ขอบคุณ”
บัตเลอร์สะกิดอยู่บนหัวของซาซาคุเระ และซาซาคุเละก็ได้คลายอุ้งเท้าของขาหน้าให้ของต่างๆที่นำมากองรวมกันอยู่ที่พื้น ของเหล่านั้นมีทั้งเสื้อผ้า ผลไม้ หนังสือ เครื่องประดับต่างๆ แต่ของที่ทำให้เซเลนสนใจก็มีแต่เสื้อผ้ากับของที่กินได้เท่านั้น
[“ที่สุสานนักบุญเซเลน ผู้คนยังคงนำสิ่งของมาถวายอย่างต่อเนื่อง พวกเขาอธิษฐานอยู่ทุกวันให้องค์หญิงกลับมาครับ”]
ตามที่บัตเลอร์บอกมา ของเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้คนนำมาถวายที่สุสานนักบุญเซเลน เพราะเชื่อว่าร่างของเซเลนถูกบรรจุไว้ในที่แห่งนี้ บัตเลอร์จะไปกับซาซาคุเระที่ออกบินผ่านเส้นทางนี้เป็นประจำทุกวัน และบัตเลอร์จะเลือกของที่จะขนกลับไปให้กับเซเลน
เท่ากับว่า แม้เซเลนจะมาอาศัยอยู่ที่ยอดเขามังกร แต่เธอก็ยังไม่ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ ได้แต่พึ่งพาข้าวของที่คนอื่นจัดหามาให้เหมือนเคย แม้จะมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนเนื้อสัตว์อยู่บ้าง แต่ก็พอใจกับพืชผักผลไม้และเสื้อผ้าที่ได้มา
[“ก่อนอื่นต้องทำการคัดแยก เอาล่ะ ทุกท่าน ทำงานได้แล้ว!”]
สิ้นเสียงคำสั่งของบัตเลอร์ ก้อนกลมสีขาวจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในถ้ำจากรอบด้าน พวกมันทั้งหมดคือหนู นอกจากดวงตากลมโตสีดำแล้ว ขนทั้งตัวมีสีขาวบริสุทธิ์ หนึ่งในสัตว์ท้องถิ่นของป่าสีขาว อาจเป็นเพราะพวกมันอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของทวีป พวกมันจึงตัวใหญ่และขนหนาฟูกว่าบัตเลอร์ รูปร่างอ้วนกลมเหมือนก้อนขน
เพราะพลังเวทเปลี่ยนป่านี้ให้กลายเป็นสีขาว สิ่งมีชีวิตในป่าจึงกลายพันธุ์ให้กลมกลืนไปกับสีของผืนป่า เอลฟ์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น และในตอนนี้ บัตเลอร์ก็ขึ้นเป็นราชาของหนูแห่งป่าสีขาว เช่นเดียวกับที่เขาเคยเป็นสมัยที่ยังอยู่ในป่าของอาร์คุยล่า
จากคำสั่งของบัตเลอร์ ก้อนขนสีขาวทั้งหลายก็ขนของที่ซาซาคุเระวางไว้ เรียงตามประเภท ของกิน ของใช้ เสื้อผ้า หนังสือ
“(เนื้อ ไม่มี)”
เซเลนเห็นแล้วก็เศร้าใจ รอบนี้ก็ไม่มีเนื้อสัตว์ เพราะเธอคิดว่า หากอยากแสดงความนับถือกับใครสักคนให้เข้าใจได้ง่ายๆ ต้องพาไปเลี้ยงเนื้อย่างถึงจะสุดยอด แต่ในความเป็นจริง ไม่มีใครบ้าพอที่จะถวายเนื้อย่างเพื่อแสดงความเคารพต่อสุสาน
แต่ก็ยังดีที่เซเลนเป็นคนไม่เลือกกิน หรือกินทุกอย่างที่กินได้โดยไม่เลือก ดังนั้นเธอจึงไม่แสดงความผิดหวังออกมามากนัก และหยิบแอปเปิลมากัดด้วยสองมือเหมือนกระรอก
นอกจากนั้น เซเลนยังหยิบแอปเปิลอีกประมาณหนึ่ง ส่งให้กับฝูงหนูขาว ลูกน้องของบัตเลอร์ หนูขาวที่แบ่งเป็นกลุ่มๆ รับแอปเปิลไปกลุ่มละลูก หลังจากรับไปแล้วก็วิ่งออกจากถ้ำอย่างมีความสุข
[“ว่าแต่ องค์หญิง ยังไม่มีกำหนดออกจากยอดเขามังกรนี้อีกหรือครับ?”]
“อยากไป แต่ ยัง”
[“นับตั้งแต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ผ่านมาร่วมสองปี คนที่ถวายสิ่งของเข้ามาก็มีมากมายไม่เว้นวัน พวกเขายังคงรอคอยการกลับมาขององค์หญิง สถานการณ์ในประเทศก็มั่นคง กระผมคิดว่าหากท่านต้องการจะกลับไป ก็เป็นโอกาสอันดีแล้วครับ”]
“อื่ม…”
สำหรับบัตเลอร์ เขาต้องการให้เซเลนได้กลับไปใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ตามปรกติโดยเร็ว แต่เจ้านายของเขากลับปฏิเสธเสียเอง
[“(เพราะเป็นการฟื้นคืนจากความตายขององค์หญิง คงจะทำให้เฮลิฟาลเต้เกิดความวุ่นวายไม่น้อย อาจทำให้เกิดความขัดแย่งกับประเทศอื่นในทวีปอีกด้วย องค์หญิงเองก็ถามเรื่องของเจ้าชายมิลานอยู่เป็นระยะ แล้วยังถามถึงความเป็นอยู่ของเจ้าหญิงอาลัวอีก แสดงให้เห็นว่าต้องการกลับไปโดยเร็วอย่างแน่นอน)”]
เพราะเกรงว่าจะสร้างความแตกตื่นให้กับผู้คน เจ้านายของเขาจึงต้องทนใช้ชีวิตเงียบๆกับสัตว์ป่าท่ามกลางฝูงมังกรอยู่อย่างนี้ถึงสองปี
บัตเลอร์ไม่ได้เข้าไปสำรวจภายในเมืองของมนุษย์โดยตรง แต่เขาก็ได้แอบฟังข้อมูลจากตอนที่เขาไปเก็บของถวาย ทีละเล็กละน้อย จนสรุปออกมาได้ว่า เหตุการณ์แมลงดับแสงสุริยาได้จบบริบูรณ์จนเหลือไว้แค่เรื่องราวในอดีต หากจะกลับไปในตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาใดๆ
แต่สำหรับเซเลน เธอยังมีพันธมิตรไม่มากพอที่จะเอาชนะเจ้าชายมิลานสุดแกร่งนั่นได้ เพราะรีบแร่งเข้าจู่โจมโดยที่ยังไม่พร้อมในวันนั้น จึงล้มเหลวจนต้องหนีมาอยู่ตรงนี้
ยังดีที่คอยถามบัตเลอร์ไว้ตลอด จึงได้รู้ว่ามิลานยังไม่ลงมือทำอะไรกับอาลัว ตอนนี้จึงยังสบายใจได้อยู่ แต่ถ้าได้ยินว่ามีประกาศจะแต่งงานขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จะบุกไปทำลายงานแต่งโดยไม่คิดหน้าคิดหลังแน่
[“ที่หัวใจขององค์หญิงไม่รู้สึกเจ็บปวดบ้างหรือครับ?”]
“…มีบ้าง”
[“นั่นไงล่ะครับ กระผมทราบดีว่าองค์หญิงอ่อนโยนและรอบคอบเพียงใด แต่องค์หญิงก็ควรหาความสุขให้ตัวเองบ้างนะครับ”]
เซเลนต้องทนทุกข์ทรมานอยู่จริงๆ ด้วยโรคที่รักษาไม่หาย อาการขาดหน้าอกของเธอที่ปล่อยไว้จนอาการหนักเต็มที่ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากหาความสุขให้ตัวเองตามที่บอก อยากกลับไปแนบชิดกับอาลัวสุดที่รัก แต่ก่อนที่จะทำเช่นนั้น ต้องเอาชนะจอมมารมิลานให้ได้ก่อน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีหวัง
“ต้องวางแผน”
[“อาจจริงอย่างที่ท่านว่า…”]
ครั้งนี้ เซเลนอดทนต่อความอยากและตัดสินใจโดยใช้เหตุผล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ทางด้านของบัตเลอร์ เขาเองก็ไม่อยากทักท้วงการตัดสินใจอันสูงส่งของเจ้านายมากไปกว่านี้ เขาจึงจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ไปอีกสักพัก
[“คุยกันเสร็จหรือยัง? เซเลน เจ้าต้องเป็นอาวุธลับให้กับข้า ข้าเองก็อยากซ่อนเจ้าไว้ในเมืองของมนุษย์ตามที่บัตเลอร์เคยบอกไว้”]
เมื่อเห็นว่าเซเลนกับบัตเลอร์ดูเหมือนจะตกลงกันได้แล้ว ซาซาคุเระที่อยู่เงียบๆก็พูดขึ้นมาบ้าง เพราะซาซาคุเระยังคิดว่าเซเลนคือพิษสังหารมังกร อันที่จริงเขาก็อยากเก็บไว้ใกล้ตัวเพื่อให้ใช้งานได้สะดวก แต่ยังติดปัญหาที่ว่า ยังไม่สามารถใช้งานให้ได้ผลอย่างเต็มที่ได้ เขาจึงยังไม่ตัดสินใจชัดเจนว่าจะส่งเซเลนกลับไปตอนนี้หรือไม่
“จะไป เดินเล่น”
[“ถ้าอย่างนั้น กระผมขอติดตามไปด้วย”]
เรื่องยุ่งยากที่ต้องใช้ความคิดให้ปวดสมองก็ขอพักไว้แค่นี้ก่อน หลังจากกินแอปเปิลจนเหลือแต่แกนไปเยอะแล้ว เซเลนก็เตรียมตัวออกจากถ้ำโดยมีบัตเลอร์กระโดดขึ้นมาบนไหล่ตามไปรับใช้เจ้านายของเขา
ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส สีขาวของผืนป่าภายใต้แสงแดดส่องสว่างเป็นประกาย สมัยก่อนเซเลนจะตื่นและนอนสลับกลางวันและกลางคืน แต่ตอนนี้ เธอตื่นแต่หัววันเหมือนคนปรกติ ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงสุขภาพ แต่เพราะนอนดึกไปก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี
กลางคืนก็ออกเที่ยวสถานบันเทิงไม่ได้ ร้านเหล้าก็เข้าไม่ได้ ถึงจะยังมีอาการแพ้แสงแดดที่เป็นอยู่ แต่ด้วยความหนาแน่นของพลังเวทที่ปกคลุมยอดเขามังกร ทำให้สามารถออกไปเดินเล่นในตอนกลางวันได้โดยไม่ส่งผลใดๆต่อร่างกาย
[“ข้าก็จะกลับรังไปพักบ้างล่ะ มีอะไรก็มาเรียกได้”]
ซาซาคุเระหาวด้วยปากที่กว้างพอจะกลืนได้ทั้งตัว กระพือปีกบินสูงไต่ระดับขึ้นไปตามยอดหินผา ตามนิสัยของมังกรซึ่งชอบที่สูง และในฝูงของมังกร ระดับที่สูงขึ้นไปจะอาศัยอยู่บนที่ที่สูงกว่า เพราะฉะนั้น ยอดเขามังกรจึงเป็นพื้นที่ที่มีพลังเวทหนาแน่นเป็นพิเศษ
เท่าที่เห็นจากภายนอก ซาซาคุเระมีขนาดใหญ่โตกว่าตัวอื่นๆ แต่ก็แค่นั้น เพราะระดับในฝูงจะตัดสินกันที่พลังเพียงอย่างเดียว รังของเขาจึงอยู่ห่างจากศูนย์กลางของยอดเขามังกร ใกล้กับป่าสีขาว นับเป็นเรื่องดีสำหรับเซเลน เพราะเธอจะได้เข้าไปเดินเล่นในป่าสีขาวได้ง่ายขึ้น
อันที่จริง มังกรตัวอื่นๆเห็นซาซาคุเระเป็นมังกรแปลกๆ หรืออย่างแย่ที่สุดคือ ตัวประหลาด จากเดิมทีที่แปลกแยกอยู่แล้ว ตอนนี้ยังเก็บตัวอะไรแปลกๆมาเป็นสัตว์เลี้ยงอีก แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงที่พูดถึงกันนั้นคือก็เซเลน
จากถ้ำที่อยู่อาศัยของเซเลนจนถึงป่าสีขาว มีเพียงทางลาดของเนินเขาเตี้ยๆ แม้กระทั้งคนขี้เกียจแรงน้อยอย่างเซเลนก็เดินได้สบาย
[“วันนี้องค์หญิงก็จะไปที่นั่นอีกหรือครับ?”]
“อือ สวรรค์”
และแล้ว เซเลนก็ออกเดินทางสู่สรวงสวรรค์(ใหม่) ลงจากเนินเขาไปอย่างช้าๆ
____________________
* สำนวน 臥薪嘗胆 = นอนบนเศษไม้ เลียถุงน้ำดี
หมายถึง ทนใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพื่อเป้าหมาย
จากเรื่องเล่าในจีนเกี่ยวกับ โกวเจี๋ยน เจ้ารัฐเยว่ รบแพ้ ฟุไช จากรัฐอู๋ จนต้องยอมตกเป็นทาสเพื่อรักษาชีวิต หลังได้รับอิสระ โกวเจี๋ยนกลับไปครองรัฐเยว่ตามเดิม และได้เปลี่ยนที่นอนเป็นกองไม้ กับเลียถุงน้ำดีที่มีรสขมทุกวันเพื่อไม่ให้ลืมความอัปยศและความแค้นตอนที่ถูกจับ จนโกวเจี๋ยนกลับไปบุกยึดรัฐอู๋ได้สำเร็จในอีกสิบปีให้หลัง
MANGA DISCUSSION