[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ - ตอนที่ 46.21
ตอนพิเศษ 21
เลิฟเลิฟเดทของเซเลนและมิลาน (ตอน1)
หลังจากเซเลนกลับมาจากการเดินทางอันเสียเที่ยวจากประเทศตะวันออกมาได้พักใหญ่ ก็มีบรรณาการถูกส่งมาถึงเฮลิฟาลเต้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ประเทศอื่นๆจะส่งบรรณาการให้กับประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของทวีปอย่างเฮลิฟาลเต้เพื่อแสดงความภักดี แต่ของที่ส่งมานั้นเป็นกล่องใบใหญ่พื้นผิวแปลกตา
“อืม ของแบบนี้… มาจากคนคนนั้นแน่”
เนื่องจากการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยก็เป็นส่วนหนึ่งของงานรักษาความปลอดภัย รายงานเกี่ยวกับกล่องใบนี้จึงส่งมาถึงคุมะฮาจิ และมันก็ได้ถูกระบุได้ในทันทีก่อนจะทำการตรวจสอบ กล่องสานที่เคยเห็นจนชินตาจากบ้านเกิด ซึซุระ(葛篭) กล่องใส่เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวที่มีกันทุกคน แต่ในประเทศนี้ไม่มีใครรู้จักมัน เพราะฉะนั้น คนที่ส่งมันมาจากประเทศที่ตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่จึงมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาคิดออก
คุมะฮาจิสั่งให้ทหารขนกล่องใบนี้เข้าไปในห้องเก็บของที่ปราสาทและเปิดฝาตรวจสอบของที่อยู่ข้างใน ซึ่งก็มีชุดกิโมโนมากมายพับมาอย่างเรียบร้อย สีสันสดใส ลวดลายสวยงาม ด้านบนสุดมีจดหมายวางไว้
จดหมายฉบับนั้นถูกเปิดอ่านโดยคุมะฮาจิ และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ สิ่งเหล่านี้คือของกํานัลจากคาเงะโทระ พี่ชายของเขา เป็นการขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือในคดีที่ฮิโนเอะถูกปองร้าย และขอโทษที่ทำให้เจ้าหญิงมารีเบลกับเซเลนเข้ามาพัวพัน
“เพราะรู้จักท่านพี่คนนี้ดี ยังวางใจไม่ได้…”
คุมะฮาจิขมวดคิ้วและพึมพำออกมา แม้การขอบคุณและขอโทษอาจเป็นเรื่องสมเหตุสมผล แต่ก็มีโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งในแผนของคาเงะโทระเพื่อเป็น ‘บุรุษผู้มีต่างชาติหนุนหลัง’ โดยการแอบสร้างช่องทางและเส้นสายกับประเทศมหาอำนาจอื่นอยู่ตอนนี้
เมื่อสังเกตเห็นว่ามีจดหมายแนบมาสองฉบับ คุมะฮาจิอ่านอีกฉบับต่อทันที ฉบับแรกนั้นเขียนด้วยภาษากลางที่ใช้กันทั่วไปในทวีป ส่วนอีกฉบับเขียนด้วยภาษาจากประเทศของคุมะฮาจิ กล่าวคือ เนื้อหาในจดหมายฉบับนี้จะเป็นข้อมูลสำหรับคุมะฮาจิเท่านั้น เป็นสิ่งที่ไม่อยากให้คนอื่นได้รับรู้
‘กำลังคิดว่า พี่ชายเจ้าเล่ห์คนนี้กำลังวางแผนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง อยู่สินะ’
“แล้วก็หยุดอ่านใจคนอื่นด้วยขอรับ!”
คุมะฮาจิเผลอโต้ตอบกับแผ่นกระดาษ เพราะเขาก็คิดเรื่องนั้นอยู่จริงๆ บางครั้งก็น่าสงสัยว่าคาเงะโทระจริงๆแล้วเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ด้วยหรือเปล่า หรืออาจเป็นเพราะความคิดของคุมะฮาจินั้นคาดเดาได้ง่าย
‘ไม่มีทางที่ชุดกิโมโนแค่ไม่กี่ตัวจะซื้อใจเจ้าชายแห่งแผ่นดินใหญ่ได้ มันเป็นเพียงฉากหน้าเท่านั้น สำรวจข้างในกล่องให้ดีๆ สิ่งนั้นจะทำประโยชน์ให้ท่านเจ้าชายมิลานได้แน่’
ข้อความนี้ทำให้คุมะฮาจิทำสีหน้าเคร่งเครียด เขาล้วงมือเข้าไปควานหาภายในกล่องที่เต็มไปด้วยชุดกิโมโนจนพบว่าที่ก้นกล่องมีห่อผ้าเล็กๆขนาดประมาณฝ่ามือของคุมะฮาจิ เมื่อนำห่อผ้าออกมาได้ เขาก็คลายเชือกที่มัดไว้ออกทันที และเห็นเป็นผงสีขาวเหมือนแป้งอยู่ข้างใน
‘มันคือของกลางที่ยึดได้จากการสอบสวนมือสังหาร วิธีที่ได้มา… เป็นความลับ’
“หรือจะเป็น ‘ยาเปลี่ยนผัน’…”
แม้ว่าเขาจะพอเดาได้ว่าส่งสิ่งนี้มาให้เพื่ออะไร แต่คุมะฮาจิก็อ่านจดหมายต่อไป
‘ไม่ใช่สิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิต แต่มีผลให้นิสัยใจคอเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน อาการจะหายไปเองหลังจากผ่านไปสองถึงสามชั่วโมง ไม่มีผลข้างเคียงและไม่เหลือร่องรอย การตรวจสอบจึงแทบเป็นไปไม่ได้ หากเป็นเจ้าชายก็หมายความว่ามีหน้าที่พบปะเจรจาระหว่างประเทศด้วยใช่หรือไม่? ด้วยสิ่งนี้ ไม่ว่าอีกผ่ายจะเป็นคนปลิ้นปล้อนสักแค่ไหนก็ทำให้เป็นคนจริงใจได้ จงใช้โอกาสนั้น……’
หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้ คุมะฮาจิก็ขยำจดหมายด้วยมือทั้งสอง คาเงะโทระ พี่ชายของเขาเป็นคนที่ใช้ทุกอย่างที่ใช้ได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่คุมะฮาจิไม่เห็นด้วยกับกลอุบายเช่นนี้
“ส่งของแบบนี้มาให้เนี่ยนะ…”
“หมี”
“โอ๊ะ! ท่านเซเลนรึขอรับ”
เพราะก่อนหน้านี้เขาจดจ่อกับจดหมายมากเกินไปจึงไม่ทันรู้ตัว ตอนนี้เซเลนเข้ามาหาเขาในห้องเก็บของนี้แล้ว เซเลนผู้ซึ่งพลาดโอกาสเดียวในชีวิตในการกินซาชิมิที่ประเทศตะวันออก ได้แต่หวังว่าจะมีปลากับเม่นทะเลหรือของกินอื่นๆส่งมาให้เป็นของขวัญ จึงรีบมาจับจองก่อนใครเหมือนไฮยีน่าคิดขโมยเหยื่อของสิงโต
“อะไร มาให้?”
“แน่นอนขอรับ มีชุดกิโมโนสวยๆที่เหมาะกับท่านเซเลนเยอะแยะเลยขอรับ”
“พวกนั้น ไม่เอา”
เซเลนส่ายหัวปฏิเสธทันทีเมื่อรู้ว่าไม่ใช่อาหาร
“(ท่านเซเลนยังคงไม่สนใจของฟุ่มเฟือยเหมือนเคย)”
แม้ว่าในตอนนี้เธอจะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเฮลิฟาลเต้ แต่เซเลนก็ไม่ยังไม่สนใจเรื่องของเสื้อผ้าการแต่งตัวและเครื่องประดับแม้แต่น้อย คุมะฮาจิเองก็หวังอยากให้เธอคิดหาความสุขใส่ตัวมากกว่านี้อีกสักหน่อย แต่ถ้าเด็กสาวคนนี้มีความสุขด้วยการทำตัวติดดินมันก็ช่วยไม่ได้
อันที่จริง เซเลนไม่เพียงแค่ไม่สนใจเรื่องของเสื้อผ้าเท่านั้น ถ้าถอดเสื้ออยู่คนเดียวในห้องได้ก็ทำไปแล้ว
“ถึงอย่างนั้น มันเป็นบรรณาการถึงส่งถึงประเทศเฮลิฟาลเต้ ข้าน้อยไม่สามารถตัดสินใจได้เองอยู่ดี… แล้วยังมีของอันตรายที่มากับกิโมโนนี่อีก”
“อันตราย?”
เมื่อได้ยินจากคุมะฮาจิว่ามีของอันตราย เซเลนก็รีบเข้าไปขอดูของดังกล่าวกับคุมะฮาจิทันที
“อื่ม บอกท่านเซเลนเอาไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย เรื่องมีอยู่ว่า พี่ชายผู้ไร้สามัญสำนึกของข้าน้อยส่งยาอันตรายมาให้ลองใช้ แต่ไม่ต้องกังวลขอรับ สิ่งนี้จะต้องถูกกำจัดโดยเร่งด่วน”
“ไม่ดี เหรอ?”
“ไม่ถึงกับตาย แต่มีผลทางด้านจิตใจ ควรอยู่ให้ห่างเข้าไว้ดีกว่าขอรับ”
แทนที่จะปิดบังเพื่อให้ความอยากรู้อยากเห็นของเซเลนเพิ่มมากขึ้น คุมะฮาจิเลือกอธิบายออกไปตรงๆให้เธอฟังว่ามันคือ ‘ยาอันตราย’ เพราะเชื่อว่าเซเลนจะเข้าใจและตระหนักถึงความอันตรายของมันได้
“ก่อนอื่น ข้าน้อยต้องไปรายงานเรื่องนี้ให้เจ้าชายมิลานทราบ โปรดอย่าเข้าใกล้ห่อผ้านี้เป็นอันขาดนะขอรับ”
“อือ”
คุมะฮาจิวางห่อยาเปลี่ยนผันไว้ด้านบนสุดของชั้นวางในจุดที่เซเลนเอื้อมไม่ถึง จากนั้นจึงได้ออกจากห้องไปตามหามิลานเพื่อรายงาน
ผ่านไปได้ห้าวินาที เซเลนลากเก้าอี้มาตั้งไว้หน้าชั้นวางเพื่อปีนให้ถึงตำแหน่งของยาอันตราย เธอลงมือทันทีโดยไม่รอช้า
ยาที่ได้มาจากวัลเบิร์ตก็ถูกยึดโดยที่ยังไม่ทันได้ใช้ จนป่านนี้เซเลยก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมันอีกเลย เกิดอะไรกับยาถุงนั้นบ้างก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้คือโอกาสอีกครั้ง ที่จะได้รับอาวุธลับเพื่อใช้ในการกำจัดเจ้าชาย
“ถ้าหาย ต้องรู้แน่…”
เซเลนยืนบนเก้าอีก เหยียดตัวตรงเอื้อมมือหยิบห่อผ้ามาเปิดดู ดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นผงสีขาวข้างใน แต่จะเอาไปเฉยๆไม่ได้ เซเลนจึงต้องใช้ปัญญาที่มีอยู่น้อยนิดคิดหาแผนการที่เข้าท่าที่สุดโดยเร็ว
“ผง สีขาว แป้ง!”
เซเลนกลับหลังหัน วิ่งออกไปที่ห้องครัว หาผ้าที่ดูคล้ายกัน ตักแป้งสำหรับทำอาหารลงไป ห่อให้เหมือนกัน และออกมาเป็นของปลอมที่ดูไม่ต่างกับของจริง ที่เหลือก็แค่กลับไปที่ห้องเก็บของและนำสิ่งนี้ไปสลับกับยาอันตรายของจริง เซเลนวิ่งกลับไปคว้าห่อผ้าในทันที
“เซเลน มาทำอะไรที่นี่?”
“หวา!?”
เซเลนที่ถือห่อผ้าอยู่เต็มสองมือถูกทักอย่างกะทันหันจนสะดุ้งตกใจเมื่อมีคนอื่นเข้ามาใกล้ เธอรีบหันกลับไปโดยซ่อนมือที่ถือห่อผ้าไว้ข้างหลังและพบกับมารีในชุดสีแดงสด
“เข้าใจแล้ว! รีบมาเลือกชุดกิโมโนที่คาเงะโทระส่งมาสินะ! แต่เซนส์ในการเลือกเสื้อผ้าของเซเลนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวฉันเลือกให้เอง รอหน่อยก็แล้วกัน”
“ช- ใช่! นั่นแหละ แต่ว่า ไม่เป็นไร!”
เซเลนส่ายหน้าสุดแรง โชคดีที่ยาอันตรายยังไม่ถูกพบเห็น และมารีดูเหมือนจะไม่สงสัยในคำตอบของเซเลนและจากไปโดยพูดไว้แค่ ‘จะไปบอกพี่ชายก่อน’
“เฮ้อ… อ-อ้าว?”
หมดไปปัญหาหนึ่งก็ถึงเวลาสำหรับอีกปัญหาหนึ่ง ครั้งนี้เป็นปัญหาที่เกิดจากความผิดพลาดอันไม่น่าให้อภัยของเซเลนเอง!
“หวา! อันไหน!? จำไม่ได้!?”
ในมือของเธอตอนนี้มีห่อผ้าที่ดูเหมือนกันอยู่สองห่อ ซึ่งตัวเธอเองก็จำไม่ได้ว่าห่อไหนคือแป้งห่อไหนคือยาอันตราย เพราะตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของมารี
เซเลนนำห่อผ้าวางเปรียบเทียบกันบนชั้นวางใกล้ๆ สักเกตุอย่างถี่ถ้วน แต่ก็ต้องเอามือกุมหัว
ตามความรู้สึกก็น่าจะเป็นอันทางซ้าย แต่อันทางขวาก็เหมือนกับที่จำได้ไม่มีผิด ทั้งที่จริง หากดูดีๆก็จะเป็นว่าเชือกที่ใช้มัดมีความแตกต่างกันอยู่ แต่เซเลนเป็นพวกสมองนก ถึงจะมีสัตว์เลี้ยงเป็นหนูก็เถอะ
“ช-ใช่แล้ว!”
ในตอนนั้นเอง ความทรงจำที่มีประโยชน์จากชีวิตก่อนก็ไหลผ่านเข้ามาในหัวของเซเลน การพิสูจน์ด้วยรส ที่เคยอ่านตามมังงะแนวสืบสวนสอบสวนทั้งหลายจะมีฉากเลียปลายมีดเปื้อนผงสีขาวแล้วพูดว่า ‘อืม… ใช่จริงๆ!’ จึงน่าจะทำได้โดยไม่มีปัญหา ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องการประสบการณ์อย่างมาก แต่ก็เป็นทางเดียวเท่านั้นที่คิดขึ้นมาได้ด้วยระดับสติปัญญาของเซเลน
จากนั้นจึงแกะห่อทางด้านซ้ายก่อนในทันที ใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่ผงสีขาวและยกขึ้นมาแตะปลายลิ้นเล็กๆของเธอ
“เหวอ!?”
ทันใดนั้น เซเลนรู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าเล่นผ่านเข้าไปในหัวจนรู้สึกวิงเวียนทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น
“เสียงนั้น… เซเลนเหรอ?”
“…เจ้าชาย?”
เซเลนนั่งมึนงงอยู่กับพื้นด้วยท่าพับเพียบสมเป็นกุลสตรี โดยมีมิลานมองมาด้วยความสงสัย
“คุมะฮาจิกับมารีบอกว่ามีของบางอย่างให้ผมมาตรวจสอบ เธอเองก็อยู่ด้วย แต่นั่งกับพื้นแบบนั้น เดี๋ยวเสื้อผ้าก็เปื้อนหรอกครับ”
“…”
“เซเลน?”
เซเลนหันกลับไปมองมิลาน หรือเรียกได้ว่าจ้องมองอย่างจริงจัง ใบหน้าสมส่วนเรียกได้ว่าเป็นหนุ่มรูปงาม แม้ในห้องเก็บของที่มีแสงสว่างไม่มากก็ยังเห็นผมสีแพลตตินั่มบลอนด์ของเขาเงางามเป็นประกาย
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ? เหมือนจะหน้าแดงกว่าปรกติ? มีไข้หรือเปล่า?”
“เอ๋!?”
เมื่อเห็นว่าแปลกไป มิลานจึงเข้ามาใกล้และวางฝ่ามือลงบนหน้าผากของเซเลนด้วยความเป็นห่วง เพราะเซเลนตามปรกติจะมีผิวขาวผ่อง ทำให้เห็นเป็นสีแดงมากว่าปรกติเมื่อมีเลือดลมสูบฉีด และเซเลนไม่ได้ป่วยเป็นโรคใดๆ เพียงแค่สภาพจิตใจผิดแปลกไปเพราะฤทธิ์ยาเท่านั้น หรือเรียกได้ว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง
“คุมะฮาจิบอกว่า ถึงคาเงะโทระจะไม่มีเจตนาร้ายแต่ก็ได้ส่งของอันตรายมาให้ ผมยังไม่รู้รายละเอียดมากนัก ตอนนี้เธอไม่ควรมาเล่นแถวนี้นะครับ”
มิลานพูดเสียงดังหนักแน่นกับเซเลน เทียบกันแล้ว มิลานเป็นห่วงเธอมากกว่าคุมะฮาจิแน่นอน เพราะมิลานเข้าใจดีว่าเซเลนเป็นเด็กที่ฉลาดเทียบเท่ากับผู้ใหญ่ (คิดเอาเอง) แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ยังเป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่ง นี่คือสิ่งที่มิลานเชื่อ
“ฟังอยู่หรือเปล่า เซเลน?”
เซเลนจ้องมองมาที่ดวงตาของมิลานโดยที่ไม่มีการตอบสนองใดๆ เขาจึงถามย้ำอีกครั้ง และน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาจากดวงตาของเซเลน ทำให้มิลานเป็นฝ่ายตื่นตระหนกเสียเอง
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!? หรือเป็นเพราะที่ผมพูดเมื่อกี้!?”
“ผิดไปแล้ว… ขอโทษ”
เพียงแค่นั้น เซเลนยกมือปาดน้ำตา และกลายเป็นการร้องไห้ไปจริงๆ
แม้กระทั้งตอนนี้ ชายคนนี้ก็ยังอ่อนโยนและเป็นห่วงเธออยู่เสมอมา แต่เธอกลับอคติถึงขั้นคิดร้ายเนรคุณ มองข้ามน้ำใจอันงดงามของเขามาโดยตลอด เป็นความคิดเห็นแก่ตัวอันร้ายกาจเป็นอย่างยิ่ง
สำนึกผิดอย่างรุนแรงเข้าครอบงำเซเลนโดยสมบูรณ์ ความแปลกประหลาดของเซเลนจึงได้พัฒนาไปอีกขั้น กลายเป็นสัตว์ประหลายชายแก่ ร่างกายเป็นสาวน้อย และหัวใจเป็นหญิงสาวใสซื่อบริสุทธิ์
“ที่พูดไปแบบนั่นไม่ใช่เพราะโกรธ แค่ไม่อยากให้เธอได้รับอันตราย อย่าได้รู้สึกผิดไปเลยครับ”
มิลานลูบหัวเซเลนเบาๆราวกับเป็นสิ่งเปราะบาง แต่ก็ยิ่งทำให้เซเลนร้องไห้และพูด ‘ขอโทษ’ ซ้ำๆ
“(หรือว่าผมไปแตะต้องด้านที่อ่อนไหวที่สุดของเด็กคนนี้เข้าแล้ว?)”
มิลานยังคงสับสนเพราะไม่เคยเห็นเซเลนที่มักจะวางตัวสุขุมเกินวัย ร้องไห้เป็นเด็กๆเช่นนี้
ตอนที่ถูกมังกรลักพาตัวไปก็ยังไม่กรีดร้องแตกตื่น ตอนที่เข้าร่วมโต๊ะประชุมกับเผ่าพันธุ์เอลฟ์ก็ยังรับฟังได้อย่างใจเย็นในทุกประเด็น แต่เพียงแค่ห้ามเข้าใกล้ห้องเก็บของกลับแสดงท่าทีอ่อนแอได้อย่างไม่น่าเชื่อ มิลานคิดถึงเหตุผลได้ไม่ยาก
-คงไม่ใช่แค่เผลอทำร้ายจิตใจของเซเลนอย่างเดียวแน่
บริเวณโดยรอบค่อนข้างมืด เนื่องจากในห้องนี้มีงานศิลปะภาพวาดอื่นๆที่อาจเสียหายได้เมื่อถูกแสงแดด วัสดุบางประเภทก็แพ้อุณหภูมิสูง ห้องเก็บของจึงถูกกออกแบบให้มืดและเย็น มีช่องระบายอากาศเล็กน้อยเพียงพอแค่ไม่ให้เกิดเชื้อราจากความอับชื้นเท่านั้น
และที่สำคัญ สถานที่นี้คือห้องเก็บของ ห้องแบบเดียวกับคุกที่ใช้คุมขังเซเลนมานานหลายปีเมื่อครั้งที่เธอยังอยู่ในอาร์คุยล่า ห้องที่มืดมนไม่มีใครเหลียวแลนอกจากพี่สาวของเธอที่ได้พบกันนานๆครั้ง
ถูกแม่แท้ๆรังเกียจ อาจจะถึงขั้นด่าทอเลยด้วยซ้ำ มิลานเชื่อว่าความทรงจำเหล่านั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ
“(ไม่อย่างนั้น คงไม่ขอโทษโดยไม่มีเหตุผล)”
ในตอนนี้ มิลานอยากตะโกนด่าตัวเองให้แรงๆ แม้ว่าเธอจะมีอิสระเฉิดฉายอยู่ในโลกกว้าง แต่ก่อนหน้านี้ โลกของเธอมีเพียงแสงจันทร์ในยามราตรีเท่านั้น ทั้งๆที่เขาก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ก็ยังพูดเสียงดังใส่เธอในสภาพแวดล้อมเช่นนี้
“เซเลน ออกไปข้างนอกด้วยกันไหมครับ?”
“ข้างนอก?”
“ใช่แล้ว เพราะเซเลนมักจะหลับอยู่ตลอดช่วงกลางวันใช่ไหม? ในเมือมีโอกาสแล้วทำไมไม่ลองออกไปเดินเล่นรอบๆนี้ดูล่ะครับ? เดี๋ยวผมจะพาไปเอง”
“ได้เหรอ?”
เมื่อเห็นเซเลนมองมาด้วยสีหน้าลังเล มิลานจึงยิ้มอย่างอ่อนโยนกลับไป มิลานต้องการให้เจ้าหญิงตัวน้อยคุ้นเคยกับโลกภายนอกภายใต้แสงอาทิตย์อันสดใสแม้เพียงน้อยนิดก็ยังดี เพราะดูเหมือนว่าหากปล่อยเอาไว้เช่นนี้ ความมืดในอดีตจะกลับมากลืนกินจิตใจของเธอได้
หากเป็นสถานการณ์ปรกติ เซเลนจะต่อต้านสุดกำลัง ร้อง ‘อุว้าก!!’ พลางวิ่งเตลิดราวกับสุนัขที่ถูกพาไปหาสัตวแพทย์ แต่ด้วยความผิดปรกติที่ทำให้มีสำนึกผิดชอบชั่วดี เซเลนจึงเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับสาวน้อยผู้มีจิตใจบริสุทธิ์
ดังนั้น เซเลนที่ดูเหมือนกำลังเขินอาย เอื้อมมือเล็กๆของเธอไปจับมือของมิลานที่ยื่นเข้ามาหา