[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ - ตอนที่ 46.08: ปีศาจคริสต์มาส
ตอนพิเศษ 08
ปีศาจคริสต์มาส
“เอ๋? อยากได้ชุดสีแดงเหรอ”
“อือ”
วันนี้เซเลนตื่นขึ้นมาในช่วงเช้า ซึ่งถึงเป็นเรื่องผิดปรกติสำหรับเธอ และก็ออกไปหามารีที่ห้องในทันที เป็นห้องที่เปี่ยมไปด้วยสีสันแตกต่างกับห้องที่ไร้การตกแต่งของเซเลน ภายในห้องของมารี มีตุ๊กตามากมาย ดอกไม้ประดับหลายชนิดหลากสีสัน ประกอบกับแสงอาทิตย์ของฤดูใบไม้ร่วงที่สะท้อนกับเส้นผมสีทองของมารีเป็นประกาย
“ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แค่แปลกใจที่เซเลนคิดถึงเรื่องการแต่งตัวเท่านั้นเอง”
“แค่อยากได้ ชุดแดง”
เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่าชุดโปรดของเซเลนคือชุดที่เธอได้รับมาจาก… ที่อาร์คุยล่า สำหรับมารี มันจึงเป็นคำขอที่คาดไม่ถึงว่าจะออกมาจากปากของเซเลน
อันที่จริง ไอบิสก็มอบเสื้อผ้าให้กับเซเลนอยู่เป็นประจำ จึงมีอยู่จำนวนมาก แต่ชุดพวกนั้นก็แทบจะไม่ถูกใช้งานเลย และในพวกนั้นก็ไม่มีชุดที่มีสีแดงฉูดฉาด เพราะมันดูไม่เข้ากับเซเลน การที่เธอมาขอกับมารีก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ก็ทำให้แปลกใจว่าทำไมเธอถึงคิดอยากได้ชุดแบบนั้น
“ไม่รู้ว่าจะพอดีกับตัวเซเลนหรือเปล่า แต่จะเอาชุดเก่าๆของฉันไปก็ได้”
“ขอบคุณ!”
เซเลนแสดงความดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมารีเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดสีแดงออกมาให้ตัวหนึ่ง ถึงจะเป็นชุดเก่าของมารี แต่ก็เป็นของคุณภาพชั้นหนึ่ง แต่รูปลักษณ์หรือคุณภาพล้วนไม่มีความหมายสำหรับเซเลนที่ต้องการแค่ ‘ชุดแดง’ เท่านั้น
เซเลนกลับห้องอย่างร่าเริงและลองสวมชุดที่ได้รับมาทันที แม้จะรู้สึกว่าคับไปหน่อยแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหว
[“องค์หญิงไปหาเจ้าหญิงมารีเบลที่ห้องแต่เช้า มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”]
“คริสต์มาส”
[“คริสต์มาส?”]
บัตเลอร์ไถ่ถามจากใต้เตียงและพูดคำศัพท์ไม่คุ้นหูที่ได้ยิน เซเลนจึงเริ่มอธิบายเกี่ยวกับวันเทศกาลคริสต์มาสด้วยคำพูดแบบย่อๆให้บัตเลอร์ฟัง ซึ่งบัตเลอร์ก็สามารถเข้าใจได้อย่างถูกต้องระดับหนึ่ง
[“หรือก็คือ ท่านต้องการตอบแทนความเหนื่อยยากของเจ้าหญิงอาลัวจึงอยากมอบของขวัญบางอย่างให้ ถูกต้องไหมครับ?”]
“ใช่แล้ว นั่นแหละ”
ในส่วนของหลักการมันก็ไม่ถูกต้องนัก แต่ในทางปฏิบัติถือว่าเหมือนกัน เซเลนจึงปล่อยให้คิดแบบนั้น และวันนี้ก็เป็นเพียงวันธรรมดาวันหนึ่งของเฮลิฟาลเต้ วันปรกติทั่วไปในฤดูใบได้ร่วงที่ไม่มีความพิเศษใดๆ
เป็นเวลากว่าแปดปีแล้วที่เซเลนได้เป็นประชากรของโลกนี้ วันสําคัญตามปฏิทินของโลกก่อนก็ลืมไปหมดแล้ว เธอแค่รู้สึกว่าวันนี้คือวันคริสต์มาส เพียงแค่นั้น ถึงในความเป็นจริงจะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่สำคัญ
แน่นอนว่าคริสต์มาสเป็นวันสำคัญทางศาสนาของศาสนาคริสต์ และในโลกนี้ก็ไม่มีศาสนาคริสต์ เพราะฉะนั้น หากเซเลนกำหนดว่าวันนี้คือวันคริสต์มาสก็จะเป็นวันคริสต์มาส วันฮาโลวีนคือวันฮาโลวีน หรือถ้าอยากกินสลัดขึ้นมาก็จะกำหนดให้เป็นวันสลัด
ที่อยู่ในปัจจุบันของอาลัวคือหอพักของโรงเรียน เซเลนจึงคิดจะทำอะไรให้สมเป็นคริสต์มาสกับเธอ อย่างแรกคือซานต้า ในเมื่อไม่มีก็ต้องเป็นซานต้าเอง จากนั้นก็ ‘ของขวัญ’ ที่เก็บรักษาไว้เพื่อเวลานี้โดยเฉพาะ ใส่ลงในกล่องเล็กๆ และใช้ผ้าเช็ดหน้าอย่างดีห่อเอาไว้ด้านนอกสุด
“หมวก กับหนวด… ช่างมัน”
เพื่อให้ได้อิมเมจของซานต้า ต้องมีหมวกสีแดงกับหนวดเคราสีขาว แต่ก็ไม่สามารถหามาได้ทัน และตัวเธอเองก็มีเส้นผมสีขาวกับดวงตาสีแดงอยู่แล้ว ประกอบกับชุดสีแดงที่สวมอยู่ จึงพออะลุ้มอล่วยให้เป็นซานต้าได้ การเตรียมการของเซเลนในส่วนนี้จึงถือว่าสำเร็จได้อย่างฉิวเฉียด
ดังนั้นก็มาถึงขั้นตอนต่อไปที่เป็นปัญหาใหญ่ยิ่งกว่า สำหรับการเป็นซานต้าต้องมีเลื่อนหิมะที่ถูกลากโดยกวางเรนเดียร์ด้วย แต่เซเลนก็มีแผนสำหรับเรื่องนี้อยู่แล้ว
“บัตเลอร์ ช่วยหน่อย”
[“มีอะไรให้กระผมรับใช้หรือครับ?”]
บัตเลอร์ออกมายืนต่อหน้าเซเลนเละโค้งให้อย่างนอบน้อม เซเลนจึงกระซิบบอกแผนการของเธอให้ฟัง
◆ ◇ ◆ ◇ ◆
“โอเค เริ่มได้”
เที่ยงคืนของวันนั้นเซเลนเริ่มดำเนินการตามแผนที่วางไว้ แผนที่ถูกคิดและดำเนินการอย่างเร่งด่วนด้วยเวลาเพียงครึ่งวัน โดยเป้าหมายคือการมอบของขวัญในวันคริสต์มาส(กำหนดเอง)ให้แก่อาลัว
“บัตเลอร์”
[“ทุกอย่างพร้อมแล้วครับ”]
ทันทีที่เตรียมการเสร็จสิ้น บัตเลอร์นำทางเซเลนออกนอกพระราชวังโดยไม่ให้มีใครเห็น ไปยังสวนสาธารณะที่ไม่มีคนและอยู่ไม่ไกลจากพระราชวัง จากนั้นเซเลนก็เอื้อมมือไปจับ ‘ของที่สั่งไว้’ ซึ่งถูกซ่อนอยู่ในพงไม้อย่างมิดชิด เมื่อแหวกพงไม้ออกและปัดกองใบไม้ที่ปกคลุม ก็พบกับรถเข็นขนาดเล็กสำหรับขนของ ในสภาพที่ใกล้ผุพัง
[“ต้องขออภัยในความไม่เรียบร้อยในครั้งนี้ เนื่องจากกำหนดการกระชั้นชิดเกินไป กระผมจึงหาได้แต่ของที่ถูกทิ้งไว้ใกล้ๆร้านขายผลไม้ในเมือง แต่ทำไมองค์หญิงไม่ไปด้วยรถม้าในช่วงกลางวันตามปรกติ แทนที่จะเป็นรถเข็นนี่ล่ะครับ?”]
“ต้องตามบท”
[“ครับ…”]
บัตเลอร์ไม่เข้าใจถึงเหตุผลของเซเลนในการทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้นเช่นนี้ แต่ถ้าเป็นความต้องการของเจ้านาย เขาก็จะพยายามทำให้สำเร็จอย่างสุดความสามารถ และเมื่อเซเลนที่กำลังร่าเริง ปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนซากรถเข็นนั้น มันก็โยกเอียงและส่งเสียงแปลกๆราวกับมีชีวิต
[“เอาล่ะ เคลื่อนที่ได้! ออกวิ่งให้เต็มที่ อย่าให้ถูกใครเห็น!”]
เมื่อบัตเลอร์ออกคำสั่ง ก็มีการตอบรับเป็นเสียงร้องแหลมๆมากมาย ดังออกมาสั้นๆเบาๆอยู่ใต้รถเข็น สิ่งที่ประคับประคองรถเข็นสภาพผุพังนี้ไว้คือฝูงหนูจำนวนนับไม่ถ้วนรวมตัวเบียดกันแน่นเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ราวกับเป็นคลื่นเงาสีดำแผ่อยู่ข้างใต้
“หน้าเดิน!”
เซเลนชี้ไปยังทิศทางของสถานศึกษา และฝูงหนูก็เริ่มออกวิ่งไปพร้อมกัน รถเข็นที่แบกโดยหนูทำความเร็วได้เทียบเท่ากับรถม้า วิ่งผ่านสวนสาธารณะ หลบเลี่ยงทหารยาม ผ่านลานกว้าง ไปตามทางในเมืองหลวงของเฮลิฟาลเต้
ในนิทาน ซินเดอเรลล่าไปร่วมงานเลี้ยงได้เพราะพรจากนางฟ้าเสกหนูให้กลายเป็นม้าลากรถ แต่กรณีของเซเลนที่ทำแบบนั้นไม่ได้ จึงใช้หนูที่เป็นหนูทั้งอย่างนั้น เดินหน้าโดยเน้นปริมาณเพื่อชดเชยความต่างทางกายภาพของหนู
ในเวลาเที่ยงคืน เมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยความมืดและเงียบสงัด รถเข็นของเซเลนแล่นผ่านไปเหมือนเรือผีสิงที่ล่องลอยไปบนคลื่นสีดำ จุดมุ่งหมายคือห้องของอาลัว
เซเลนและผู้ติดตามทั้งหลายเคลื่อนไหวในเงามืดอย่างเงียบเชียบราวกับนินจา หลบเลี่ยนสายตาได้อย่างหมดจดด้วยเครือข่ายข้อมูลและการนำทางของบัตเลอร์ ในที่สุดก็มาถึงสถานศึกษาที่อาลัวอยู่ และที่ตรงนี้ก็ไม่มีคนอื่นให้ต้องหลบเลี่ยง แม้จะไม่มียามเฝ้า แต่ประตูเหล็กสูงใหญ่ก็ถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา
“โธ่”
[“องค์หญิงอย่าได้กังวล เอ้า พวกเรา ปรับรูปขบวนได้!”]
จากคำสั่งของบัตเลอร์ ฝูงหนูที่แผ่อยู่โดยรอบก็มารวมตัวกันเป็นเสาสีดำสูงขึ้นไปหลายเมตร เซเลนและบัตเลอร์ถูกเสาสีดำขนาดใหญ่ยกข้ามประตูเหล็กไปได้อย่างง่ายๆ แน่นอนว่าเป็นการบุกรุกอย่างผิดกฎหมาย
เซเลนจำได้ดีว่าห้องของอาลัวอยู่ตรงไหน เพราะก่อนหน้านี้เคยมานอนค้างด้วยกันมาแล้ว ถึงจะผ่านประตูรั้วมาได้ แต่ก็น่าเสียดาย… ประตูอาคารหอพักที่อาลัวอาศัยอยู่ก็ถูกล็อคไว้อย่างแน่นหนาจากด้านในเช่นกัน
“อุ เข้าไม่ได้!”
[“องค์หญิง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระผมเถิด”]
บัตเลอร์กระโดลงจากไหล่ของเซเลน ลอดผ่านช่องว่างใต้ประตูอย่างคล่องแคล่ว ปลดล็อคกลอนประตูที่อยู่ด้านในได้อย่างง่ายดาย ถึงเขาจะไม่ชอบประพฤติตนเยี่ยงโจรขโมย แต่ถ้าเป็นเรื่องการลักลอบสอดแนมภายในพื้นที่หวงห้ามทั้งหลาย ทั้งทวีปไม่มีใครเทียบเคียงบัตเลอร์ได้
[“เรียบร้อยครับผม”]
“บัตเลอร์ ทำได้ดีมาก”
[“เพียงแค่นี้ยังไม่คู่ควรแก่คำชมหรอกครับ เพื่อความสุขขององหญิงเซเลนและเจ้าหญิงอาลัวแล้ว บัตเลอร์คนนี้พร้อมจะเผชิญความยากลำบากทุกสถานการณ์อยู่แล้วครับ”]
หางของบัตเลอร์ชี้ตรงแสดงถึงความอารมณ์ดีที่ได้รับคำชมจากเจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เซเลนลูบหัวของบัตเลอร์เบาๆและเข้าไปในหอพักในฐานะผู้บุกรุก มุ่งหน้าไปยังห้องของอาลัวได้อย่างแม่นยำ ถึงเซเลนจะมีนิสัยชอบลืมเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตนเองเป็นประจำ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาลัวก็จะไม่มีวันลืมอย่างเด็ดขาด
ประตูห้องของอาลัวไม่ได้ถูกล็อค เซเลนกับฝูงผู้ติดตามลักลอบเข้ามาในห้องได้สำเร็จ อาลัวก็ยังหลับไม่รู้เรื่อง เซเลนอดทนไม่กระโดดขึ้นไปนอนข้างๆบนเตียง และหยิบกล่องของขวัญใบเล็กที่เตรียมมา วางไว้ข้างหมอนของอาลัวอย่างนุ่มนวล
[“จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับกับเจ้าหญิงอาลัวด้วยหรือครับ?”]
“ใช่ ให้แปลกใจ”
[“สิ่งแรกที่จะเห็นเมื่อตื่นนอนคือของขวัญสุดพิเศษสินะครับ องค์หญิง เข้าใจคิดดีนะครับ”]
“อือ”
มันไม่ใช่ความคิดของเซเลน แต่เป็นใครสักคนที่คิดคอนเซ็ปต์ของวันคริสต์มาสขึ้นมาต่างหาก แต่ในเมื่อไม่ได้อยู่ในโลกนี้ ความดีความชอบจึงตกเป็นของเซเลน
ในเมื่อภารกิจในครั้งนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วก็ได้เวลาหลบหนี เซเลนกลับออกไปทางเดิมพร้อมกับฝูงหนูจำนวนมหาศาล เรือผีสิงออกโต้คลื่นสีดำผ่านเมืองอีกครั้งไปยังพระราชวังเฮลิฟาลเต้ และก็เป็นอันจบเรื่อง
[“ว่าแต่ องค์หญิง ใส่อะไรไว้ในกล่องของขวัญหรือครับ?”]
“ความลับ”
เซเลนหัวเราะอย่างขี้เล่นโดยไม่ตอบคำถามของบัตเลอร์
◆ ◇ ◆ ◇ ◆
“หืม… เอ๋? อะไรเนี่ย?”
ถัดมาอีกหลายชั่วโมง แสงแดดเริ่มสาดส่อง อาลัวตื่นขึ้นมายามเช้าและเห็นกล่องเล็กๆที่ไม่คุ้นตาวางอยู่ข้างหมอน เธอขยี้ตาและพิจารณา กล่องใบนั้นถูกห่อด้วยผ้าเนื้อดีเรียบร้อยสะอาดสะอ้านจนดูผิดแปลก ความคิดเพียงอย่างเดียวที่เข้ามาในหัว คือ มีคนนำมันมาวางไว้ และคำถามก็คือ ใคร?
“น่าแปลก ประตูหอพักถูกล็อคเอาไว้ทั้งคืน…”
การมีสิ่งแปลกปลอมปรากฏขึ้นโดยไม่มีที่มา ทำให้อาลัวหวาดกลัวมากกว่ามีความสุข มีคนเข้ามาในห้องขณะที่เธอหลับ ด้วยความกระวนกระวาย เธอรีบไปตรวจสอบหน้าต่าง แต่ก็ยังถูกล็อคอยู่ตามที่เธอจำได้ ไม่มีร่องรอยการงัดแงะ
“ได้ยังไงกัน… มีแต่ต้องเปิดดูสินะ”
ถึงจะกลัว แต่กล่องนี้ก็เหมือนถูกนำมาวางไว้ให้เธอ อาลัวจึงตัดสินใจทำการตรวจสอบ แกะห่อผ้าอย่างประหม่าและเปิดฝากล่องออกมาด้วยความระแวง
“กรี๊ด!?”
เสียงกรีดร้องของอาลัวดังไปทั่วหอพัก เนื่องจากยังเป็นช่วงเช้าอยู่มาก นักเรียนหลายคนยังคงหลับอยู่ เสียงของอาลัวจึงเป็นการปลุกคนเหล่านั้นให้ตื่น จากนั้นก็มีนักเรียนหลายคนเปิดประตูออกมาตรวจสอบที่มาของเสียงอยู่ตามทางเดินหน้าห้องของอาลัว
“นี่มัน อะไรกัน? คราบงู*?”
สิ่งที่บรรจุอยู่ในกล่องคือคราบงู ชิ้นส่วนที่งูลอกคราบออกมา ตัวกล่องมีขนาดเล็กดูสายงามห่อด้วยผ้าอย่างดีมีสีสันดูน่ารัก ใครจะไปคิดว่าของที่อยู่ข้างในจะเป็นของน่าเกลียดน่ากลัวแบบนี้ อาจจะเป็นการกลั่นแกล้งของผู้ที่ดูถูกดูแคลนเธอหรือเปล่า ความคิดเช่นนี้เข้ามาในหัวของอาลัวในทันที
“จริงๆนะ! มีปีศาจมาที่นี่ เมื่อวานฉันเห็นกับตาเลย!”
ขณะที่สายตาของอาลัวยังคงจับจ้องไปที่คราบงู ก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันจากทางเดินหน้าห้อง จากที่ได้ยิน ดูเหมือนนักเรียนบางคนเริ่มแสดงความตื่นตระหนกออกมาแล้ว
“มันอยู่ตรงนั้นแน่ๆ! เห็นชัดเลย! เที่ยงคืนเพิ่งนึกได้ว่าลืมของไว้ในห้องเรียน พอกลับไปเอาก็เห็นมันเข้าพอดีที่หน้าประตูรั้ว! สีดำทั้งตัวอย่างกับเงา ตัวใหญ่ตั้งสองเมตร… หรืออาจจะถึงสามเมตรด้วยซ้ำ! เห็นจริงๆนะ!”
คนที่พูดเสียงดังดูเหมือนจะเป็นนักเรียนจากอาคารหอพักอื่นที่กำลังหวาดกลัวเพราะบังเอิญไปเห็นเงาดำที่ว่านั้น จนคิดฟุ้งซ่านนอนไม่หลับและรีบมาหาเพื่อนที่อยู่ในอาคารหอพักนี้แต่เช้าจนได้มาเจอกับเสียงกรีดร้องปริศนาที่นี่อีกที เธอเล่าด้วยน้ำเสียงจริงจังมากกว่าเป็นเรื่องล่อเล่น และท่าทางอกสั่นขวัญแขวนนั้นก็สมจริงจนคนอื่นๆคล้อยตามอย่างจริงจัง
“เงาดำ… ลางร้าย”
อาลัวพูดขึ้นมาและเชื่อมโยงเรื่องราวนั้นกับคราบงูในกล่องที่อยู่เบื้องหน้า สิ่งสยองขวัญทั้งหมดนี้อาจเกี่ยวข้องกับมนต์ดำหรือการอัญเชิญปีศาจ แต่มันถูกทำขึ้นโดยใคร? เพื่ออะไร? มาจากไหน? เป้าหมายคืออะไร? คำถามมากมายหลั่งไหลเข้ามาโดยไม่มีคำตอบ อาลัวตัวสั่นด้วยความกลัว
สำหรับตอนนี้ อาลัวปิดฝากล่องใส่คราบงู ห่อมันไว้อย่างแน่นหนา เธอจำได้ว่าภายในเขตสถานศึกษามีโบสถ์ตั้งอยู่ด้วย ของที่น่าขยะแขยงที่ดูเหมือนกับของต้องสาปนี้จะต้องถูกทางโบสถ์นำไปเผาทำลายโดยเร็ว
“เซเลน จะเป็นอะไรหรือเปล่า…”
เมื่อได้พบสิ่งลึกลับที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันในครั้งนี้ คนแรกที่อาลัวเป็นห่วงคือเซเลน น้องสาวร่วมสายเลือดของเธอ หากมีคนต้องการใช้มนต์ดำหรือคำสาปกับตัวเธอ ก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้ใกล้ชิดอย่างเซเลนจะตกเป็นเป้าหมายด้วยเช่นกัน จึงช่วยไม่ได้ที่จะแสดงความวิตกกังวลออกมา
ถึงเธอจะไม่เคยบอกกับใครว่าตนเองเกี่ยวข้องกับเซเลนอย่างไร แต่เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องปรกติ จะเกิดเรื่องร้ายแรงตามมาก็ไม่น่าแปลกใจ อาลัวมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างใจลอย เป็นห่วงความปลอดภัยของน้องสาวคนสำคัญที่อาศัยอยู่ในพระราชวังเฮลิฟาลเต้
◆ ◇ ◆ ◇ ◆
“ท่านพี่ หวังว่า ถูกใจ”
เซเลนกลับมาอยู่ในห้องของเธอ เปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อย นอนคิดถึงเรื่องของเมื่อคืนอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง อาลัวเป็นคนตื่นเช้า น่าจะตื่นขึ้นมาแล้วและกำลังประหลาดใจกับของขวัญสุดพิเศษที่ให้ไปอยู่แน่ คราบงูอันนั้น
สำหรับคนญี่ปุ่น คราบงูคือสิ่งนำโชคมาตั้งแต่โบราณ ของขวัญพิเศษที่ไม่สามารถใช้เงินซื้อมาได้ ก่อนหน้านี้เซเลนได้เดินไปตามสถานที่ต่างๆภายในพระราชวังเฮลิฟาลเต้อยู่นานจนกระทั้งได้คราบงูชิ้นนี้มาครอบครองได้สำเร็จ เป็นของขวัญที่สมบูรณ์แบบจนเซเลนยิ้มอย่างภูมิใจ
“แปลกใจ อยู่แน่”
ใจจริงก็อยากเปิดเผยตัวต่ออาลัวอยู่บ้าง จะได้ถูกชมได้อย่างซึ่งๆหน้า แต่ซานตาคลอสมีกฎอยู่ว่าห้ามให้รู้ตัวจริง เพราะฉะนั้นจึงต้องเก็บเป็นความลับต่อไป ตราบใดที่ทำให้อาลัวมีความสุขก็นับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซเลนก็มุดเข้าไปอยู่ในผ้าห่มท่าเดียวกับเต่าและหลับลงไปในที่สุด
เหตุการณ์การพบเห็นฝูงหนู หรือที่เรียกว่าเงาดำ รายงานการพบเห็นสิ่งนั้นได้ถูกบันทึกเก็บไว้ และหลายเดือนต่อมา รายงานฉบับนั้นจะถูกนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบคดีความแมลงดับแสงสุริยา ทั้งที่จริงหนูพวกนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแมลงดับแสงสุริยาแม้แต่น้อย จึงเป็นการใส่ร้ายแมลงดับแสงสุริยาโดยที่ไม่มีใครช่วยแก้ต่างให้ แต่นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
____________________
*คราบงู วัตถุมงคลเสริมโชคลาภและความมั่งคั่ง
คนไทยจะเชื่อว่าแค่พบเห็นในเขตบ้านก็ถือว่าโชคดีแล้ว แต่ญี่ปุ่นจะเก็บมาพกติดตัวเป็นเครื่องราง (และถ้าจะให้ดีที่สุดต้องมาจากงูสีขาว)