[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ - ตอนที่ 46.04: เพื่อนแท้
ตอนพิเศษ 04
เพื่อนแท้
“เครื่องรางนั่น จะดูเหมือนยัดเยียดเกินไปหรือเปล่า…”
ในสวนแห่งหนึ่งในพระราชวังเฮลิฟาลเต้ ริมสระน้ำขนาดย่อม มารีถอนหายใจและพูดออกมาเบาๆ เมื่อวันก่อน เธอได้แลกเปลี่ยนเครื่องราง ‘มิตรภาพนิรันดร์’ กับเซเลน แต่มันกลับทำให้มารีรู้สึกกังวลอยู่ในตอนนี้
ถึงจะเป็นแค่ความเชื่อที่บอกเล่าต่อๆกันมา แต่สำหรับมารีที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการวางตัวของบรรดาชนชั้นสูงทั้งหลายจึงไม่เคยคิดผูกมิตรกับใครมาก่อนจนกระทั้งได้มาเจอกับเซเลน พอคิดย้อนกลับไป มารีสงสัยว่าเซเลนรับไปเพราะไม่อยากผิดใจกับเธอหรือเปล่า
“ไม่ใช่ว่าเซเลนรู้สึกอึดอัดอยู่หรอกนะ…”
มารีไม่เคยมีเพื่อนในวัยเดียวกันมาก่อน จึงไม่รู้วิธีเข้าหาคนอื่น แม้ว่าจะมีคนมากมายเสนอตัวเข้ามาใกล้ชิดกับเธอ แต่ก็เป็นเพราะตำแหน่งของเธอเท่านั้น ไม่มีใครที่นับเป็นเพื่อนได้เลย
และเซเลนเป็นเด็กที่อ่อนโยนโดยธรรมชาติ การแสดงความคาดหวังออกไปต่อหน้าก็อาจทำให้เธอไม่กล้าปฏิเสธ หากเป็นเช่นนี้จริง จะยังเรียกว่าเป็นเพื่อนกันได้อยู่หรือเปล่า พอคิดได้เช่นนั้นก็หยุดกังวลไม่ได้
“อ๊ะ”
อาจเป็นเพราะเธอกำลังหมกมุนอยู่กับความคิดนี้ แหวนวงหนึ่งก็เลื่อนหลุด ตกลงไปในสระน้ำ แม้ว่าจะเป็นสระน้ำที่สร้างขึ้นเพื่อตกแต่งสถานที่เท่านั้น และน้ำก็ตื้นพอที่จะเอื้อมมือให้ถึงก้นสระได้ แต่เธอก็ไม่อยากเปียกไปกับเรื่องนั้น
“อืม ช่างเถอะ”
มันไม่ใช่ของสำคัญ ราคาก็ไม่ได้แพงมากมาย เครื่องประดับชิ้นอื่นก็มีอีกเยอะแยะ มารีจึงตัดใจและเดินกลับไปที่ปราสาท
หลังจากกลับมาถึงปราสาท มารีตรงไปที่ห้องของเซเลนทันที ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากต้องการพบกับเซเลนเท่านั้น เพราะเธอมีความเชื่อว่าหากไม่พูดคุยใกล้ชิดกันเป็นประจำจะเกิดความเหินห่างจนไม่สามารถคบหากันได้ การสูญเสียสิ่งสำคัญที่มีอยู่ น่าเจ็บปวดกว่าการที่ไม่มีสิ่งนั้นตั้งแต่แรก
“มารี อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์อะไรกัน พระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้วนะ”
สภาพตามปรกติของเซเลนที่อ่อนเอเชื่องช้าในตอนกลางวัน เธอลุกจากเตียงโดยที่ยังดูง่วงนอนอยู่เล็กน้อย สำหรับเซเลนแล้ว การพูดคุยกับมารีคือหนึ่งในกิจกรรมเยียวยาหัวใจสำหรับการที่เธอต้องออกห่างจากพี่สาว
มารีบอกเล่าถึงบทเรียนที่เธอได้เข้าเรียนมาในช่วงกลางวันของวันนี้ กับคุยเล่นถึงเรื่องทั่วๆไป ซึ่งกลายมาเป็นกิจวัตรประจำวันของทั้งสองคนไปแล้ว ทั้งที่จริงมารีได้แต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว เพราะไม่มีทางที่เซเลนจะสนทนาเป็นประโยคยาวๆได้ จึงตอบรับสั้นๆไปตามเรื่องราวทำให้ดูเหมือนเป็นผู้ฟังที่ดี เรียกได้ว่าโชคดีสำหรับมารีและเซเลน
“ชุดแบบใหม่ของร้านเสื้อผ้าที่เมืองรอบปราสาทกำลังเป็นที่นิยมเลยล่ะ อยากไปดูด้วยกันหรือเปล่า?”
“อือ ได้…”
“(ที่คุยกันอยู่นี่จะคิดว่าน่าเบื่อหรือเปล่า)”
มารีพยายามหาหัวข้อที่รู้มาว่าผู้หญิงคนอื่นๆให้ความสนใจ แต่เซเลนได้ฟังก็แค่พยักหน้าช้าๆกับรอยยิ้มที่ดูเรียบๆเท่านั้น ทำให้มารีคิดมากยิ่งขึ้นไปอีก ว่าเซเลนจะรู้สึกแบบเดียวกับเธอหรือเปล่า
ตั้งแต่แรกแล้ว เซเลนเป็นชายวัยกลางคน จะให้คุยกันอย่างถูกคอกับเด็กสาวอายุสิบขวบมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะมารีพูดแต่เรื่องน่าเบื่อ แต่ความสนใจของเซเลนมันแตกต่างกันเกินไป
“ออ แล้วก็วันนี้ฉันเผลอทำแหวนตกลงไปในสระด้วยล่ะ”
“สระ? ที่ไหน?”
ในที่สุด เซเลนที่นั่งนิ่งพยักหน้าอย่างเดียวมาตลอดก็มีการตอบสนอง ดูเหมือนจะสนใจสระน้ำที่พูดถึงเมื่อครู่ เธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นเล็กน้อย มารีจึงได้พูดต่อ
“ในสวนหย่อมมีสระน้ำเล็กๆอยู่น่ะ บางทีฉันก็ไปเดินเล่นแถวนั้นแล้วก็ได้ทำของตกลงไป แต่ก็ไม่ใช่ของสำคัญอะไรหรอก ถึงจะหายไปก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่”
“เข้าใจแล้ว”
คนที่ไม่สนใจเรื่องการแต่งตัวกับไม่ชอบสวนกุหลาบกลับถามถึงสระน้ำ มารีนึกสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามกลับไปเพราะวันนี้ได้คุยกับเธอมานานพอแล้ว และมารีเคยรบกวนการพักผ่อนของเซเลนจนเธอเป็นลมล้มพับมาก่อนหน้านี้ จึงยอมออกจากห้องไปแต่โดยดี
“ไปล่ะ…”
“องค์หญิง ต้องการให้กระผมช่วยอะไรหรือเปล่าครับ?”
“รอนี่ ไปเดินเล่น”
เมื่อมารีออกจากห้องไปแล้ว เซเลนก็ลุกขึ้นจากเตียง เปลี่ยนเสื้อผ้า และออกจากห้องไปเพียงลำพัง เธอบอกกับบัตเลอร์ที่เตรียมพร้อมอยู่ใต้เตียงว่าจะออกไปเดินเล่นรอบๆพระราชวังเฮลิฟาลเต้ ไม่ออกไปไหนไกล เพราะเป็นเวลาเย็น ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว
ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์แตะขอบฟ้าจนเกิดเป็นเงายาว เซเลนมาถึงสระน้ำที่ได้ยินมา ถึงขนาดของสวนแห่งนี้จะกว้างใหญ่แต่ก็อยู่ใกล้กับปราสาท แม้แต่เซเลนก็เดินมาได้อย่างไม่มีปัญหา สระน้ำก็ไม่ได้มีไว้กักเก็บน้ำ แต่เป็นของที่ทำขึ้นเพื่อประดับสวนหย่อมเท่านั้น ขนาดกับความลึกจึงมีไม่มาก
สระน้ำมีปลาสวยงามตัวเล็กตัวใหญ่หลายชนิดว่ายวนอย่างเชื่องช้า ข้างสระเป็นสนามหญ้าชุ่มชื้นเขียวชอุ่ม เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การจัดงานเลี้ยงน้ำชาในวันที่อากาศดี
นั่นคือสิ่งที่คนทั่วไปจะคิดเมื่อได้มาเห็น แต่ไม่ใช่สำหรับเซเลนที่มีเป้าหมายแตกต่างออกไป
เซเลนก้มลงไปตรงแนวหินรอบสระ พับแขนเสื้อขึ้นและจุ่มแขนลงไป ระดับความลึกไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง กะคร่าวๆก็ราวๆ30เซนติเมตร แม้แต่เด็กอย่างเซเลนยังแตะถึงก้นสระ อุณหภูมิของน้ำที่สัมผัสกับแสงแดดฤดูใบไม้ผลิมาทั้งวันก็ไม่เย็นจนเกินไป เซเลนที่ไม่ถนัดการว่ายน้ำก็ไม่ต้องกลัวว่าจะจม
“เอาล่ะ อาหารว่าง!”
รอยิ้มอันสดใสปรากฏใบหน้าของเซเลน ทั้งเฮลิฟาลเต้และอาร์คุยล่ามีพื้นที่ติดทะเลน้อย อาหารประเภทปลาจึงไม่เป็นที่นิยม อดีตชาวญี่ปุ่นอย่างเซเลนมีช่วงเวลาที่อยากอาหารประเภทปลาอยู่บ่อยครั้ง แม้จะไม่รู้ว่าเบื้องหน้าเป็นปลาอะไร อร่อยแค่ไหน แต่ปลาในสระก็มีอยู่มาก จะหายไปสักตัวสองตัวก็ไม่มีใครสงสัย เพราะฉะนั้น ปลาย่างจึงถูกเพิ่มเข้ามาในเมนูมื้อดึกของคืนนี้โดยพลการ
การจับปลาที่อยู่ตามธรรมชาติเป็นเรื่องยาก แต่ปลาที่อยู่ในสระน้ำเล็กๆไม่มีศัตรูตามธรรมชาติจะเชื่องกว่าปลาทั่วไป ซ้ำยังไม่มีที่ให้หนี การจะจับพวกมันขึ้นมาไม่ใช่เรื่องยาก
“แค่นี้ อ่อนๆ”
เซเลนพูดอยู่คนเดียว เป็นการเล่นคำ คำว่า “อ่อน” ที่หมายถึงอุณหภูมิของน้ำและหมายถึงความยากในการจับปลา แม้เธอจะคิดว่าเล่นมุกออกมาได้ยอดเยี่ยม แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้น หรือออกจะฝืดด้วยซ้ำ
ในคืนนี้ เธอหลอกบัตเลอร์ไปว่าจะมาเดินเล่นในสวนหย่อม แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือบ่อปลาแห่งนี้ หรือที่ถูกต้องคือปลาสวยงามในสระน้ำ
“ตาข่าย ไม่มี…”
แสงจันทร์เริ่มส่องสว่างทำให้เซเลนเดินไปตามริมสระได้อย่างไม่มีปัญหา และบ่นถึงอุปกรณ์ที่เธอลืมไปสนิท ไม่มีแหสำหรับจับปลา และถึงจะมี เธอก็เหวี่ยงแหไม่เป็นอยู่ดี ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่น่าจะทำให้ยอมแพ้ไปแล้ว แต่เซเลนที่เห็นเป้าหมายอยู่ใกล้แค่เอื้อมก็ตัดสินใจลงไปจับปลาด้วยมือเปล่า
เมื่อก่อน ตอนที่เซเลนเคยอายุเท่านี้ เธอก็เคยออกไปจับปลาตามทุ่งนาแถวบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผ่านมาหลายสิบปีแล้ว เธอจึงคิดว่ามันง่ายเหมือนการกลับไปทำข้อสอบระดับประถมให้ได้ร้อยคะแนน ทั้งที่มันไม่สามารถเทียบกันได้
“ข้าคือ หมีสีน้ำตาล!”
ณ เวลานี้ เธอจะเป็นหมีสีน้ำตาลที่กำลังจับปลาเซลมอนกลางแม่น้ำอันเชี่ยวกรากในฮอกไกโด เซเลนประกาศออกมาและพับชายกระโปรงขึ้นมัดไว้ก่อนจะก้าวลงไปในสระ เหยียบพื้นดินก้นสระด้วยเท้าเปล่าโดยไม่ลังเล ชุดราคาแพงเทียบเท่าบ้านหลายหลังจากอาร์คุยล่าถูกใช้เป็นชุดอเนกประสงค์ไปโดยปริยาย
“ย้าก!”
ผิวน้ำนิ่งเรียบใสสะอาดถูกเซเลนตะปบลงไปใส่ปลาที่อยู่ใกล้ที่สุดในระยะการมองเห็นของเธอ แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายอย่างที่คิดไว้ ถึงปลาในสระจะไม่เคยเจอศัตรูตามธรรมชาติ แต่ก็มีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดพอที่จะหนีจากการนักล่าไม่ได้เรื่องอย่างเซเลนได้
“อุหวา!”
ถึงอย่างนั้น ความดื้อดึงของเซเลนก็ยังมีอยู่เหลือเฟือ เธอตะปบมือลงไปในน้ำอีกครั้ง และอีกหลายๆครั้ง ซึ่งทุกครั้งก็พลาดเหมือนกันหมด เธอพยายามคว้าลงไปในน้ำอย่างรวดเร็วเหมือนหมี แต่ถ้ามีคนอื่นมาเห็นก็จะดูเหมือนเธอกำลังตีน้ำเล่นเท่านั้น
“นี่ไงล่ะ!”
ในที่สุด ความพยายามกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเซเลนก็ทำให้เธอคว้าบางอย่างขึ้นมาได้ แต่สิ่งนั้นก็เป็นแค่สาหร่าย เธอกำมันไว้อย่างผิดหวัง และที่ต้นของมันก็มีแหวนประดับอัญมณีสีเขียว พันติดขึ้นมาด้วย
“ชิ”
มันก็แค่แหวน มารีบอกว่าวันนี้เธอทำแหวนหายไปในสระ และยังบอกอีกว่าไม่ใช่ของสำคัญ อีกทั้งยังดูเหมือนไม่ใส่ใจ น่าจะเป็นของราคาถูก ถึงจะน่าเสียดายที่ไม่ใช่ปลาแต่เธอก็เก็บแหวนนั้นลงใสกระเป๋า จากนั้นก็เริ่มจับปลาอีกครั้ง
“เซเลน! มาทำอะไรที่นี่!”
“อุหวา!?”
เสียงทักจากข้างหลังดังจนเซเลนสะดุ้งและหันกลับไปมองทันที ที่ตรงนั้นมีมารียืนอยู่ มองมาอย่างสงสัยด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนัก
“เอ่อ มารี ทำไม?”
“ไม่ใช่ ทำไม สิ! ฉันไปหาเซเลนที่ห้องก็ไม่อยู่ หาที่ไหนก็ไม่เจอ ตอนนี้คนทั้งปราสาทตามหาเธอกันวุ่นวายไปหมดแล้ว!”
“เอ๋!?”
“อย่าทำให้เป็นห่วงสิ… อะไรเนี่ย! ทำไมถึงเปื้อนไปทั้งตัวแบบนี้! ทำอะไรของเธอเนี่ย!”
“เอ่อ คือว่า เดินเล่น ตกน้ำ เอ่อ…”
เซเลนยิ้มกลบเกลื่อนคิดหาข้อแก้ตัว แต่ก็ไม่เป็นผล มารีสั่งคนรับใช้ที่ตามมาที่หลังให้พาเซเลนขึ้นจากสระน้ำในทันที
และแล้ว เซเลนก็ถูกจับอาบน้ำโดยไม่เปิดโอกาสให้แก้ตัวใดๆ หลังจากทำตัวให้สะอาดเรียบร้อยดีแล้วก็ถูกพาตัวไปให้ไอบิสเทศนา ถ้าเป็นมิลานก็คงเมินแล้วหนีออกไปทั้งอย่างนั้น แต่เพราะเกรงใจหน้าอกคู่นั้นของราชินี เซเลนจึงก้มหัวขอโทษอย่างสง่างาม จึงทำให้ไม่ถูกเอาผิดใดๆเพิ่มเติมอีก
“เฮ้อ…”
เมื่อกลับมาถึงห้อง เซเลนเปลี่ยนเป็นชุดนอนและขึ้นไปประจำที่บนเตียง วันนี้โชคไม่ดีเลย ออกแรงจนเหนื่อยแต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ปลามากิน เป็นความพยายามที่สูญเปล่าโดยแท้ ยังดีที่ถูกไอบิสกอดและพูดข้างๆหูว่า ‘เป็นห่วงนะ’ อย่างน้อยก็ถือว่าไม่ได้แย่สักเท่าไหร่
[“ลำบากแย่เลยนะครับ องค์หญิง”]
“เหนื่อย”
[“เพียงแค่สั่งมา กระผมก็จะไปจัดการให้เรียบร้อยแล้วแท้ๆ ทำไมถึงไม่ทำอย่างนั้นล่ะครับ?”]
“ไม่ได้ ต้องทำเอง”
การขโมยปลาของคนอื่นมากินนั้น คนที่มีนิสัยซื่อตรงอย่างบัตเลอร์ต้องคัดค้านเซเลนแน่ จึงต้องแอบไปลงมือด้วยตัวเอง
แต่บัตเลอร์ที่ได้ยินคำตอบของเซเลนก็หลับตาลง ทำท่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง
[“จริงอยู่ องค์หญิงทำด้วยตัวเองจะเป็นการดีที่สุด และในส่วนนั้นท่านก็ทำได้ดีแล้ว โปรดพักผ่อนให้สบายเถิด กระผมจัดการส่วนที่เหลือให้เรียบร้อยแล้ว”]
“…หา?”
ขณะที่เซเลนกำลังจะถามบัตเลอร์ว่าพูดถึงเรื่องอะไร ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ประตูก็เปิดออกในทันทีและมารีก็เข้ามาในห้องก่อนที่เซเลนจะตอบกลับ
“มารี ทำไม?”
“เซเลน คือว่า… เมื่อกี้ขอโทษนะที่พูดเสียงดังใส่เธอ”
“ไม่เป็นไร”
ถูกโลลิผมทองตวาดใส่ สำหรับเซเลนอาจจะคิดว่าเป็นรางวัลด้วยซ้ำ แต่มารีก็ดูเหมือนรู้สึกผิดอยู่จริงๆ
“นี่ เซเลน พูดมาตามตรงเถอะ ว่าไปทำอะไรที่สระน้ำนั่น?”
“เอ่อ นั่นมัน…”
นึกอยากกินปลาขึ้นมาก็เลยว่าจะไปขโมยมากิน เซเลนจะตอบออกไปแบบนี้แต่ก็พูดไม่ออก เพราะเห็นมารีเหมือนจะร้องไห้ออกมา ในสระนั้นอาจเป็นปลาที่เธอตั้งใจเลี้ยงเอาไว้อย่างดี ความเงียบเข้าปกคลุมระหว่างเซเลนและมารี ผ่านไปไม่นานมารีก็เดินเข้ามาที่เตียงและยื่นของที่อยู่ในมือให้เซเลนเห็น
“ไปหาไอ้นี่มาสินะ?”
“…เอ๋?”
สิ่งที่มารีนำมาด้วยคือแหวนที่เหมือนกับวงที่เก็บได้จากสระน้ำ เซเลนหดหู่จากการไม่ได้กินปลาจนลืมแหวนวงนั้นไปแล้วด้วยซ้ำ และมันก็ควรจะอยู่ในชุดที่ถูกถอดไปซัก ไม่เข้าใจว่าทำไมมารีถึงมีมันได้
[“ตอนที่ชุดขององค์หญิงถูกนำไปทำความสะอาด กระผมไปเอาสิ่งนั้นออกมาและวางไว้หน้าห้องของท่านมารีเบลครับ”]
บัตเลอร์กระซิบบอกอย่างถูมิใจจากใต้เตียง
ก่อนหน้านี้มารีพูดถึงแหวนที่ทำหายไปในสระ บัตเลอร์ก็ฟังอยู่ตลอด แต่เจ้านายที่เขารับใช้มีเพียงเซเลนคนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่มารี เขาจึงไม่คิดกระทำการใดๆ
เมื่อเซเลนไปเดินเล่นบริเวณสระน้ำในตอนเย็นและหายไปจนถึงเวลากลางคืน บัตเลอร์ก็รู้ถึงความตั้งใจของเซเลน
เพื่อเพื่อนคนแรกคนสำคัญ ต่อให้ต้องลงน้ำเปียกปอนเปื้อนดินโคลนก็จะหาแหวนไปคืนให้ได้
บัตเลอร์มั่นใจในความปลอดภัยเพราะเขาได้ตรวจสอบจนแน่ใจมาก่อนหน้านี้แล้ว แค่ไม่พูดออกมาเท่านั้น และถ้าเกิดเหตุอันตรายขึ้นมา ก็ยังมีฝูงหนูพร้อมรับคำสั่งให้เข้าไปช่วยเหลือได้ทันที ดังนั้นบัตเลอร์จึงไม่เข้าไปก้าวก่ายเจ้านายที่จดจ่ออยู่กับสระน้ำในตอนนั้น
นื่คือการกระทำจากใจของเซเลนในฐานะเพื่อนของมารี ตนที่เป็นแค่พ่อบ้าน ไม่ว่าจะต้องการช่วยเหลือสักแค่ไหนก็ไม่ควรเข้าไปแทรก แค่เฝ้ามองเซเลนอยู่ห่างๆก็พอ
โชคดีที่เซเลนหาแหวนกลับมาได้สำเร็จ แต่ไม่ทันไรก็ตกไปอยู่ในมือของคนอื่นก่อนที่จะนำไปคืน พ่อบ้านผู้ซื่อสัตย์จึงต้องเคลื่อนไหว บัตเลอร์แอบนำแหวนออกมาจากชุดของเซเลนได้สำเร็จ และนำไปวางไว้หน้าประตูห้องของมารีเบล จากนั้นก็กลับมารอแสดงความยินดีกับเจ้านาย
“ขอบคุณนะ เซเลน! ดีใจจังเลย! ฉันจะเก็บแหวนวงนี้เอาไว้อย่างดี!”
มารีเข้ามากอดเซเลนเอาไว้แน่น มารีรู้สึกได้ในทันทีว่าในใจของเธอในตอนนี้ไม่หลงเหลือความกังวลใดๆอีกแล้ว
คิดแล้วก็น่าอายที่สงสัยในตอนแรก มารีไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนอย่างเซเลนที่ยอมกระโดดลงน้ำเพื่อหาเครื่องประดับราคาถูกมาคืนเธอ เพราะเซเลนเป็นคนพูดน้อย จึงแสดงออกผ่านการกระทำ เมื่อเข้าใจในตัวเธอมากขึ้นแล้วก็ทำให้มารีมีความสุขยิ่งขึ้นไปอีก
“ฉันเอง ก็ดีใจ”
เซเลนยิ้มและตอบกลับมารี แม้จะผิดหวังเพราะสิ่งที่จับได้ไม่ใช่ปลา แต่แหวนวงนั้นก็ทำให้ถูกกอดอยู่ตอนนี้ มารีในวัยนี้ยังไม่ค่อยมีหน้าอกก็จริง สัมผัสถึงความนุ่มนิ่มได้ไม่เต็มที่ แต่ด้วยความที่เป็นโลลิผมทองและยังเป็นฝ่ายเข้ามากอดเอง จึงทำคะแนนได้ค่อนข้างสูง
ปลาก็เอาไว้ไปจับวันหลังตอนเรื่องเริ่มเงียบแล้วก็ได้ จะได้มีเวลาเตรียมแหหรือคันเป็ดด้วย ก้าวข้ามความล้มเหลวในครั้งนี้เพื่อความสำเร็จในครั้งหน้า สำหรับเวลานี้ เซเลนขอดื่มด่ำไปกับอ้อมกอดของมารีไปก่อนก็แล้วกัน
แผนการร้ายของเซเลนจึงไม่ถูกรับรู้ มารีถือแหวนในมือของเธออย่างระมัดระวัง ไม่ยอมให้หล่นหายไปไหนอีก เมื่อกลับถึงห้องก็เก็บมันลงไปในกล่องใส่เครื่องประดับ จัดวางไว้ในส่วนของสำคัญ และแหวนธรรมดาที่ประดับด้วยอัญมณีเม็ดเล็กนี้ก็กลายมาเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของมารี
หลังจากเหตุการณ์นี้ อย่างที่ทราบกันดีว่าเซเลนจะเข้าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายอย่างต่อเนื่องจนไม่มีเวลาออกหาปลาได้อีกครั้ง