ตอนที่ 37
ผูกมิตร
“เอาล่ะนะ!”
กีใส่พลังเวทย์ลงไปในไม้ศักดิ์สิทธิ์ ปลดปล่อยคมดาบเรืองแสงสีฟ้าออกมา มิลานแปลกใจกับอาวุธที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ไม่นานนักเขาก็ทำความเข้าใจได้ว่ามันเป็นผลจากการใช้เวทมนตร์กับสิ่งนั้น
“ดาบเก่าๆนั่นจะรับการโจมตีได้สักแค่ไหนกันเชียว”
“เดี๋ยวก็รู้เอง!”
กีกระโดดขึ้นสูงและเหวี่ยงดาบโจมตีมิลานจากด้านบน รวดเร็วและแม่นยำราวกับเหยี่ยวที่ลงมาจับเหยื่อ การโจมตีที่หวังเผด็จศึกมิลานโดยใช้ทั้งความเร็วจากแรงเหวี่ยงบวกกับน้ำหนักตัว แต่มิลานก็บัดป้องด้วยดาบใหญ่เล่มนั้นได้
หากกีมีพละกำลังเท่ากับคนทั่วไปที่มีรูปร่างใกล้เคียงกัน มิลานก็จะรับการโจมตีและสวนกลับไปได้ไม่ยาก แต่การโจมตีของกีก็รุนแรงกว่าที่เห็นมาก การรับการโจมตีแต่ละครั้ง สั่นสะเทือนไปถึงกระดูกของมิลาน
หลังจากหยุดชะงักไปช่วงพริบตา ดาบที่สวนกลับของมิลานก็แทงได้แต่อากาศอย่างศูนย์เปล่า โดยที่กีลงพื้นและถอยห่างออกไปนอกระยะดาบของมิลานแล้ว
“รับได้สวยไปเลยนี่นา โดนไปขนาดนั้นก็ยังไม่หักอีก”
“ดาบเล่มนี้เป็นของที่ ‘มีค่า’ สำหรับผมมาก ไม่ยอมให้หักหรอก”
“เฮอะ! จะเป็นของแพงแค่ไหน เดี๋ยวจะหักมันให้ดู!”
“…ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่ก็เอาสิ ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลอง!”
ทั้งสองต่างก็ไม่มีใครยอมใคร การต่อสู้ดุเดือดขึ้นไปเรื่อยๆ วิชาดาบของมิลานเป็นการใช้ความเร็วมากว่าพละกำลัง แต่การโจมตีของกีก็ยังมีความเร็วที่สูงกว่า
“โอ้ว!!”
“ฮื่ม!”
ครั้งแล้วครั้งเล่า แสงจากคมดาบที่เกิดจากเวทมนตร์พุ่งเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง โหมกระหน่ําดั่งพายุ การเคลื่อนไหวของกีดูไร้ระเบียบแบบแผนจนดูเหมือนเขาแค่เหวี่ยงแท่งไม้ไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น อันที่จริง การโจมตีของเขาไม่มี ‘รูปแบบ’ ตายตัว แต่เป็นการใช้พละกำลังและความเร็วให้เกิดประโยชน์สูงสุดเช่นเดียวกับการต่อสู้ของสัตว์ป่า และทั้งหมดนั้นกำลังพุ่งเป้าไปที่มิลาน
“พยายามเข้า! พยายามเข้า!”
เซเลนที่ดูอยู่ห่างๆพูดออกมาเหมือนไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เท่าที่ตาเห็น ดูเหมือนกีเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างท่วมท้น ทำได้ดีมาก กี ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็ ฆ่าเจ้าชายได้แน่! เซเลนมั่นใจเช่นนั้น เพราะไม่มีความรู้ในด้านการต่อสู้และไม่รู้กลยุทธ์ จึงตัดสินว่ากีต้องชนะอย่างแน่นอน
แต่ไม่ใช่กับบัตเลอร์ที่ยืนดูอยู่เงียบๆบนไหล่ของเซเลน เขาดูการต่อสู้นี้อยู่ตลอด เห็นทุกการเคลื่อนไหว และในที่สุดเขาก็เอ่ยปากออกมา
[“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ท่านกีเสียเปรียบแน่นอน”]
“เอ๋?”
[“ดูเหมือนเขาจะพยายามล้มคู่ต่อสู้ให้เร็วที่สุดถึงได้ทุ่มสุดตัว แต่ก็ยังทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บไม่ได้ อีกไม่นานก็ถึงคราวที่เจ้าชายมิลานจะโต้กลับได้แล้วครับ”]
“จริงเหรอ?”
[“ถ้ามีมีอะไรเหนือความคาดหมาย ก็น่าจะเป็นไปตามนี้ครับ”]
“อะไรกัน! พยายามเข้านะ!”
เซเลนไม่อยากจะยอมรับ แต่ที่บัตเลอร์พูดมาก็ถูกต้องทุกอย่าง
“(ไอ้เจ้านี่! ทำไมถึงไม่ถูกตัวสักที!?)”
ลมหายใจของกีเริ่มปั่นป่วนทีละน้อยจนส่งผลกับการเคลื่อนไหว และความเหนื่อยล้าที่สะสมอยู่ก็ทำให้ร่างกายอ่อนแรง การโจมตีที่ทำต่อเนื่องมาหลายครั้ง แต่ละครั้งรุนแรงพอที่จะทำให้จบได้ แต่มนุษย์คนนี้ก็ป้องกัน ‘การโจมตีปิดฉาก’ เหล่านั้นได้อย่างหมดจด ถึงจะทำได้อย่างยากลำบากแต่ก็ทำได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าจะรับการโจมตีที่รุนแรงไปแล้วหลายครั้ง มนุษย์ผู้นี้ก็ไม่มีท่าทีตื่นตระหนก และยิ่งโจมตีมากเท่าใด การตั้งรับก็ยิ่งมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น ไม่เคยเห็นใครที่เป็นแบบนี้มาก่อน แม้แต่ในหมู่นักรบของเอลฟ์ก็ไม่มี
“(เอลฟ์คนนี้ แข็งแกร่ง!)”
มิลานทำอะไรไม่ได้มาก ถึงจะป้องกันและหลบหลีกการโจมตีอันหนักหน่วงของกีได้อย่างฉิวเฉียด แต่พอจะยกดาบเพื่อสวนกลับ เอลฟ์คนนี้ก็เว้นระยะห่างออกไปแล้ว อาจเป็นเพราะดาบของพ่อเล่มนี้ใหญ่และหนักกว่าของที่เคยใช้ ทำให้ไม่คุ้นมือ ถึงจะแข็งแกร่งทนทาน แต่ก็แลกมาด้วยความเร็วที่ลดลง
“(ขอแค่โจมตีถูกสักครั้ง!)”
ดาบเล่มนี้มีพลังทำลายสูง แต่ใบดาบที่ใหญ่หนานั้น เหมาะกับการตั้งรับยิ่งกว่า ควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปตามต้องการได้ดีกว่าดาบเรียวแหลมที่เคยใช้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คืออดทนรอหาจังหวะสวนกลับที่แน่นอนเท่านั้น มิลานตัดสินใจว่านั่นคือทางออกที่ดีที่สุด
“พอจะเข้าใจแล้ว ว่าท่านพ่อให้ดาบเล่มนี้มาทำไม…”
“หา? บ่นอะไรของแกน่ะ?”
ท่ามกลางการต่อสู้ที่รุนแรง มิลานยิ้มออกมาเล็กน้อย ดาบของพ่อเล่มนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อฟาดฟันศัตรูอย่างบ้าระห่ำ แต่มีไว้สำหรับรักษาชีวิตและปกป้องสิ่งสำคัญ ถึงจะตอบออกไปก็ไม่ทำให้กีเข้าใจความรู้สึกในตอนนี้ของมิลานได้ มิลานจึงยิ้มอยู่เงียบๆโดยที่ไม่พูดอะไร
“อย่าเพิ่งได้ใจนัก!”
เพราะดูเหมือนเป็นการเยอะเย้ย กีจึงเข้าใจเช่นนั้น เขาถีบตัวกับต้นไม้ พุ่งเข้าโจมตีอย่างสุดกำลังราวกับที่ผ่านๆมาคือการออมแรง ครั้งนี้จะเป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุด แต่ก็เรียบง่ายและเป็นเส้นตรงที่สุดเช่นกัน มิลานที่มองหาโอกาสอยู่ตลอดย่อมไม่พลาด
“(ตอนนี้แหละ!)”
มิลานตวัดดาบขึ้นใส่ดาบที่ฟันลงมาโดยไม่สนการป้องกัน อาวุธเสริมเวทมนตร์ทั้งสองปะทะกันเสียงดัง และแล้ว ในที่สุดมิลานก็ทำสำเร็จ ไม้ศักดิ์สิทธิ์ในมือของกีหักครึ่ง กีส่งเสียงไม่พอใจและถอยออกไปเพื่อเว้นระยะอีกครั้ง
“ไม่มีอาวุธแล้ว จะเอายังไงต่อล่ะ?”
“…ดีเลย มีอาวุธเพิ่มขึ้นแล้ว”
“อะไรนะ?”
ขณะที่มิลานยังไม่เข้าใจในคำพูดนั้น กีหยิบอีกครึ่งหนึ่งของไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่หักไปขึ้นมา ถ่ายเทพลังเวทย์ลงไป และเศษไม้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองท่อนก็มีคมดาบปรากฏออกมา
“…ดาบคู่ อาวุธของเอลฟ์นี่มันแปลกจริงๆ”
“ดาบของมนุษย์เป็นแค่ดาบ แต่ไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นใช้งานได้หลากหลาย ต่อจากนี้ต่างหากคือของจริง!”
กีวิ่งตรงเข้าหามิลานด้วยท่าทางอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด และโจมตีด้วยดาบทั้งสอง จากที่เคยรวดเร็วดั่งพายุอยู่แล้วก็ยิ่งเร็วขึ้นไปอีก
“รับไป รับไป รับไป รับไป!”
“อึก!”
คมดาบจากเวทมนตร์ในมือทั้งสอง ฟันแทงเข้ามาไม่หยุดราวกับสายฝน มิลานไม่สามารถตั้งรับโดยไร้บาดแผลได้อีกต่อไป หากรับดาบเล่มหนึ่งก็จะถูกดาบอีกเล่มหนึ่งฟัน ถึงระยะโจมตีและความรุนแรงจะลดลง แต่ก็สร้างความเสียหายสะสมให้กับมิลานได้ดี หากไม่มีเวทมนตร์เสริมความแข็งแกร่งที่ใช้อยู่ตอนนี้ ก็คงจะมีกระดูกหักไปหลายท่อนแล้ว
“ไอ้บ้าเอ๊ย…! แพ้ไปได้แล้ว!”
“ดูตัวเองซะก่อนเถอะ…! แทบจะไม่ไหวแล้วไม่ใช่หรือไง!”
ทั้งสองใกล้ถึงขีดจำกัด หากวัดกันที่ความอดทนเพียงอย่างเดียว กีที่มีสภาพร่างกายด้อยกว่าก็น่าจะล้มไปก่อน แต่มิลานที่ฝืนรับการโจมตีกะทันหันในครั้งแรกก็สูญเสียพลังกายไปมาก และอ่อนล้าจากการตั้งรับอย่างเสียเปรียบอยู่ตอนนี้ ก็ทำให้สติเริ่มเลือนรางจนแทบจะยืนไม่อยู่
“พยายามเข้านะ!”
ทันใดนั้นเอง เสียงของเซเลนที่ดังสะท้อนอยู่ในป่าสีขาวก็แว่วเข้ามาในหู ใช่แล้ว นี่ไงล่ะ เหตุผลที่แพ้ไม่ได้! แม้จะเป็นเสียงเบาๆแต่ก็ทำให้พลังใจเต็มเปี่ยมขึ้นมาทันที ทั้งที่จริงแล้ว คนที่เธอหมายถึงคือกี แต่น่าเสียดาย คนที่ได้ยินคือมิลาน
“จะล้มตอนนี้ไม่ได้!!”
จะเฉือนเนื้อหักกระดูกก็เอา มิลานใช้แรงที่เหลืออยู่ เหวี่ยงดาบใหญ่ในมือขวาออกไปทางด้านขวา แต่การโจมตีอย่างสิ้นคิดนั้นก็ไม่มีทางถูกตัวกีได้ กลายเป็นว่า มิลานเผยช่องว่างออกมาด้วยตัวเอง ทำให้กีมีโอกาสปิดฉากได้อย่างสวยงาม
“จบแล้ว!”
กีโกนออกมา เตรียมแทงดาบสุดกำลังเข้าไปกลางลำตัวของมิลาน เมื่อเหวี่ยงดาบใหญ่ไปจนสุดแขนก็จะทำให้เสียสมดุลจนลำตัวเปิดโล่ง และนั่นคือจุดที่จะตัดสิน แต่ก็เกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย มิลานปล่อยมือออกจากดาบ
“อะไรกัน!?”
“ย้าก!!”
ดาบหลุดลอยออกไปไกล แต่แรงเหวี่ยงของร่างกายยังคงอยู่ มิลานใช้แรงเหวี่ยงนั้นบิดลำตัว ใช้พลังเวทย์ที่เหลืออยู่ทั้งหมดเสริมเข้าไปในร่างกาย รวมพลังทั้งหมดไว้ที่แขนซ้าย กำหมัดและหวดเข้าใส่ใบหน้าของกี
“อ๊าก!?”
กำปั้นที่ชนเข้าอย่างจัง ทำให้กีกระเด็นถอยกลับไปกระแทกกับต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังอย่างแรง หากกีไม่หยุดก่อนที่หมัดจะสัมผัสกับใบหน้า ก็อาจจะได้รับความเสียหายมากกว่านี้หรืออาจถึงชีวิตเลยก็ได้ และนี่เป็นเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้ตัดสินผลแพ้ชนะได้ทันที
แน่นอนว่ามิลานไม่ได้มีเจตนาฆ่าใคร แต่เอลฟ์คนนี้มีความสามารถสูงเกินกว่าที่จะออมมือให้ได้ ถ้าไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า มันเป็นการต่อสู้เช่นนั้น
“แก…! ไม่ใช่ว่าไอ้วิถีนักรบอะไรนั่น ถึงตายก็จะไม่ทิ้งดาบไม่ใช่เหรอ…!”
“อย่างที่คุณว่าไว้ ถ้าแพ้ก็คือตาย ถ้าตายก็คือจบ”
มิลานเต็มไปด้วยบาดแผลทั่วร่าง บาดเจ็บและอ่อนล้าจนแค่ยืนก็แทบจะไม่ไหว จะหมดสติไปตอนไหนก็ไม่แปลก
แต่ในที่สุด การต่อสู้ของมิลานและกีก็ถูกตัดสิน
“…ฆ่าซะสิ”
“…ว่าไงนะ?”
“ก็บอกว่าให้ฆ่าไงเล่า”
กีพูดอย่างไร้อารมณ์ ไม่ใช่เรื่องของศักดิ์ศรี แต่เป็นเรื่องปรกติสำหรับเอลฟ์ทุกคน เพราะสภาพแวดล้อมของที่นี่แตกต่างจากดินแดนของมนุษย์ที่อาศัยอยู่ตามทุ่งราบห่างไกลจากสัตว์ร้าย เอลฟ์ที่อาศัยอยู่ในป่าสีขาวนั้น ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับอันตรายและความตายมากกว่ามนุษย์ นั่นก็หมายความว่า หากกลายเป็นเหยื่อก็จะมีจุดจบเพียงอย่างเดียวคือความตาย การชนะหรือพ่ายแพ้ในมุมมองของกีก็เป็นเช่นนั้น
“ตามที่ได้บอกไว้ตั้งแต่แรก ผมไม่มีเจตนาทำอันตรายใดๆให้กับพวกคุณ”
“ท่าจะโง่จริงๆสินะ แกต้องการตัวเซเลนใช่ไหมล่ะ? ถ้าคิดจะไว้ชีวิตล่ะก็ ผมจะรวบรวมคนไปชิงตัวเธอกลับมาอีกแน่”
“…”
คำพูดของกีทำให้มิลานคิด ถ้าไม่กำจัดเอลฟ์คนนี้ ที่นี่ ตอนนี้ ระหว่างการเดินทางกลับก็จะถูกลอบจู่โจมอีก วางใจไม่ได้จนกว่าจะออกจากป่าสีขาว ถึงจะไม่มีคนที่มีความสามารถระดับนี้มาเพิ่ม แต่การต่อสู้ก็จะหนักหนาจนยากที่จะเอาชนะได้อีกครั้ง
มิลานคิดคำตอบในใจ ถอยออกมาจากกีที่หมอบอยู่กับพื้นและไปที่ต้นไม้ที่ดาบของพ่อที่เขาโยนไปนั้นปักอยู่ เขาดึงดาบออกมาและหันกลับมามองกีอีกครั้ง แต่ก็สังเกตเห็นสัตว์ตัวเล็กตัวหนึ่งที่ดูไม่เข้ากับสถานการณ์
“…หนู?”
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ บนกองใบไม้ที่พื้นมีหนูตัวเล็กยืนมองมาที่เขา ราวกับว่ามันต้องการขวางไม่ให้เข้าใกล้กี ภายนอกเป็นหนูธรรมดาที่ขนด้านบนสีดำด้านล่างสีขาวและมีริบบิ้นสีแดงผูกไว้เหมือนเป็นปลอกคอ ดวงตาสีดำของมันกำลังจ้องมาที่มิลาน แต่จากที่เห็น ไม่มีทางเป็นหนูป่าตามธรรมชาติ เป็นไปได้ว่ามันเกี่ยวข้องกับเอลฟ์
“อย่านะ!”
“เหวอ…!? เซเลน?”
ขณะที่มิลานกำลังสงสัยเกี่ยวกับหนูแปลกๆที่โผล่ออกมากะทันหัน เขาก็ถูกเซเลนกอดจากด้านหลัง หรือถ้าจะพูดให้ถูกคือพยายามจับทุ่มจากด้านหลัง แต่ไม่ว่าจะอ่อนล้าขนาดไหน มิลานที่ได้รับการฝึกฝนร่างกายมาอย่างดีก็ไม่พลาดท่าถูกทุ่มลงพื้นได้โดยเรี่ยวแรงอันปวกเปียกของเซเลน
“อย่านะ! อย่านะ!”
“ไม่อยากให้ทำร้ายเอลฟ์คนนี้หรือครับ?”
“อือ!”
มิลานถูกเซเลนกอดเอาไว้แน่น อ้อนวอนขอร้องให้เขาหยุด กับเอลฟ์ที่ต่างเผ่าพันธุ์และยังประสงค์ร้ายกับเซเลน ความเมตตาของเซเลนที่มีให้แม้แต่กับศัตรูทำให้มิลานตื้นตัน
“เอลฟ์คนนี้เป็นคนเลวที่จะทำอันตรายกับเธอนะครับ ถึงผมจะไม่อยากแต่ก็ต้องทำอะไรบางอย่าง… ”
“ไม่จริง! กี เอลฟ์ดี!”
เซเลนเห็นมิลานจับดาบ ก็มีความคิดอย่างตรงไปตรงมาว่าจะต้องฆ่าแน่ๆ จึงได้เข้าไปห้ามไว้ ถึงครั้งนี้จะแพ้ แต่กีเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งพอที่จะสังหารเจ้าชายได้ ไม่ยอมให้ตายเด็ดขาด และตั้งแต่แรก คนเลวน่ะ มันแกต่างหาก ที่บุกเข้ามาคุกคามทำร้ายเอลฟ์ผู้บริสุทธิ์
ก่อนที่มิลานจะตันสินใจได้ว่าจะเลือกรักษาความเมตตาหรือความปลอดภัยของเซเลน ก็รับรู้ถึงคนกลุ่มใหญ่ที่อยู่อีกฝั่งของหมู่ไม้ กีที่ยังไม่สามารถลุกไปไหนได้ก็รู้สึกได้เหมือนกัน จึงได้หันไปทางนั้น
“…ทำอะไรของนายน่ะ?”
ซานาและเอลฟ์คนอื่นๆปรากฏตัวขึ้นและเข้ามาหา ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีกลุ่มผู้ติดตามที่ร่วมเดินทางมากับมิลานด้วย
“ซานา!? นี่เธอก็แพ้มนุษย์เหมือนกันเหรอ?”
“พวกคุณถูกเอลฟ์จับตัวหรือครับ?
ทั้งกีและมิลานถามไถ่ถึงความปลอดภัยของพวกพ้อง แต่ซานาก็ถอนหายใจออกมา
“นี่ มนุษย์พวกนี้ไม่ใช่โบรคเค่นชาร์หรอกนะ”
“องค์ชาย เอลฟ์เหล่านี้คือคนคุ้มกันของท่านเซเลนครับ”
““…หา?””
คำตอบของทุกคนทำให้มิลานและกีถึงกับพูดไม่ออก
◆ ◇ ◆ ◇ ◆
“ต้องขอโทษด้วยครับ เป็นความเข้าใจผิดของผมเอง”
มิลานก้มหัวขอโทษกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ได้พบกับซานาและคนอื่นๆแล้วก็ได้พูดคุยกันจนเข้าใจเรื่องราว ซึ่งก็คือ กลุ่มของมิลานมีเป้าหมายคือออกตามหาเซเลนที่ถูกมังกรลักพาตัวไป ทางด้านของกีที่ได้พบกับเซเลนที่ถูกพาตัวเข้ามาในป่าสีขาวก็ได้รับมอบหมายให้ปกป้องและส่งตัวเธอไปยังดินแดนของมนุษย์อย่างปลอดภัย
“ผมเองก็ต้องขอโทษ… ซะที่ไหนล่ะ! เมื่อกี้เกือบตายเลยนะ!”
“แต่คนที่โจมตีเข้ามาก่อนก็คือคุณกีนะครับ ถือซะว่าผมป้องกันตัวก็แล้วกัน”
“…โธ่เว้ย งั้นเอาเป็นผิดทั้งสองฝ่ายก็ได้”
ถึงจะบ่นเหมือนไม่ยอมรับ แต่จริงๆแล้วกีเองก็รู้สึกผิดที่ด่วนสรุปไปเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่คิดจะพูดถึงมันอีก
“เรื่องที่ว่า มังกรตั้งใจพาเซเลนมาไว้ที่หมู่บ้านเอลฟ์เพื่อให้พากลับไปหามนุษย์นี่ แน่ในหรือครับ? เชื่อได้ยากอยู่เหมือนกัน”
“ไม่ผิดแน่ เพราะมังกรพูดออกมาเอง และเด็กคนนี้จะได้รับความคุ้มครองไปอีกร้อยปีอีกด้วย”
“ถ้าบอกว่าร้อยปีก็หมายถึงตลอดอายุขัยสินะครับ…”
“หรืออาจคิดได้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้คือสิ่งที่มังกรกำหนดไว้แล้ว”
“ก็เป็นไปได้ ถ้าไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เจ้าชายจากดินแดนของมนุษย์ กับหัวหน้าหมู่บ้านของเอลฟ์ ก็ไม่มีทางได้มาพบกัน”
มิลานมองไปยังเซเลนที่รับประทานอาหารร่วมกับคนอื่นๆอยู่ เขารู้อยู่แล้วว่าเซเลนเป็นคนที่พิเศษกว่าคนทั่วไป แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกี่ยวข้องกับมังกรด้วย
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอเป็นตัวแทนของอาณาจักรทางฝั่งของมนุษย์ ขอขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ ที่ช่วยดูแลและปกป้องเซเลนเป็นอย่างดีด้วยครับ คุณกี”
“แทนที่จะขอบคุณเป็นคำพูด ขอเป็นสิ่งของหรือของกินอร่อยๆจะดีกว่านะ”
คำพูดที่ปราศจากความเกรงใจนั้นทำให้มิลานหัวเราะออกมา ในตอนแรกเขามองว่าคนคนนี้เป็นโจรป่า แต่พอได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวแล้วก็รู้ว่า ถึงกีจะไม่มีมารยาทแต่ก็เป็นคนที่น่าสนใจคนหนึ่ง วิธีการต่อสู้ที่ไม่เคยเห็น กับตรรกะความรู้ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สำหรับมิลานที่ออกเดินทางไปสัมผัสกับวัฒนธรรมจากทั่วทวีป เขารู้สึกว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่มีค่ามากที่สุด
“ผมจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับนำบรรณาการมาให้สำหรับขอบคุณและขอโทษ หวังว่าจะไม่ถูกโจมตีเพราะดูเหมือนนักผจญภัยอีกนะครับ”
“ยังจะพูดเรื่องนี้อีกเหรอ คุณมิลาน คิดเล็กคิดน้อยไปได้”
“เข้าใจแล้วครับ เพราะคุณเกือบจะถูกฆ่านี่นา”
กีหัวเราะให้กับคำพูดเย้าแหย่ของมิลาน
กลุ่มคนคุ้มกันของซานากับเหล่าผู้ติดตามต่างก็มาล้อมวงอยู่รอบกองไฟที่ก่อขึ้นข้างแอ่งน้ำสะอาด ทั้งมนุษย์และเอลฟ์ล้วนพูดคุยกันได้อย่างกลมกลืน กลายเป็นบรรยากาศรื่นเริงของทุกคนทุกเผ่าพันธุ์
แต่ก็ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง เซเลนที่ต้องจากลาช่วงเวลาแห่งความสุขเร็วขึ้น ต้องออกจากดินแดงแห่งความฝัน แม้ว่าสักวันจะกลับมาอีก แต่ตอนนี้ก็ยังทำใจลำบาก
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกผมคงต้องกลับกันก่อน คุณกี คุณเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยครับ”
“เอาเถอะ นายเองก็เป็นคนแรกที่ไล่ต้อนผมได้ขนาดนี้”
“นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
ทั้งคู่ยิ้มให้กัน จากนั้นมิลานก็หันหลังเดินจากไปพร้อมกับเซเลนที่เขาจับมือเอาไว้แน่น เซเลนก็ได้แต่เดินตามไปด้วยความรู้สึกเดียวกับปศุสัตว์ที่ถูกจูงเข้าโรงเชือด เธอหันกลับไปหากีอีกครั้ง
“กี!”
“ว่าไง?”
“จะกลับมา! แน่นอน! รอด้วยนะ! ”
เซเลนตะโกนบอกความต้องการของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ‘จะกลับมาที่นี่อีกครั้งอย่างแน่นอน เก็บห้องนอนที่หรูหราห้องนั้นเอาไว้ให้ด้วย’ ด้วยอารมณ์ประมาณว่า ‘เดี๋ยวกลับมากินต่อ อย่าเพิ่งเก็บจาน!’ เซเลนโบกมือให้จนลับสายตา โดยที่คนอื่นๆจะเห็นเป็นเด็กสาวที่ถึงเวลากลับบ้านแล้วก็ยังอาลัยอาวรณ์กับเอลฟ์ที่เป็นเพื่อนใหม่
“จบไปอีกเรื่อง”
“นั่นสินะ เธออยู่กับมนุษย์พวกนั้นต้องปลอดภัยแน่ เป็นไปตามคำสั่งของมังกรแล้ว”
“ก็จริง”
“แล้วนายก็แพ้มนุษย์ด้วยสินะ”
“แพ้ซะที่ไหน! ก็เจ้านั่นมันโยนดาบทิ้ง! หลังจากนั้นก็ไม่ใช่การดวลดาบสักหน่อย! แต่ครั้งต่อไปต้องชนะแน่!”
ซานาหัวเราะใส่กีที่กำลังบ่นอยู่
และนั่นก็มีแต่จะทำให้กีโวยวายมากขึ้นเท่านั้น
“อะไรของเธออีกล่ะ!”
“‘ครั้งต่อไป’แปลว่า คิดจะไปเจอกับมนุษย์ที่ชื่อมิลานนั่นอีกใช่ไหม? หรือก็คือ ตัดสินใจว่าจะติดต่อกับมนุษย์แล้วสินะ?”
“อ๊ะ…”
คำพูดของซานาตรงกับความรู้สึกของกีในตอนนี้ เอลฟ์เกลียดมนุษย์มาโดยตลอด เผ่าพันธุ์ที่มีดีแค่สภาพร่างกายที่เหนือกว่าแต่ก็ไม่มีพลังเวทย์ โดยรวมแล้วจึงอ่อนแอ ความเชื่อนี้ของกีได้ถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดด้วยเวลาเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพราะได้พบกับเซเลนและมิลานจึงได้เข้าใจว่ายังมีความจริงอีกหลายอย่างที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับมนุษย์
“จะกลับมาแน่นอน เหรอ”
กียังคงคิดถึงคำพูดสุดท้ายที่เซเลนพูดไว้ ยุคสมัยที่เอลฟ์จะมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์อาจอยู่ใกล้แค่เอื้อม และเขาจะเป็นคนที่จะทำให้มันเกิดขึ้นเอง ชายที่ชื่อมิลานบอกไว้ว่าจะมอบสินน้ำใจให้กับเอลฟ์ นี่จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
“จะมีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีก”
กีเคาะหม้อเหล็กที่สวมอยู่บนหัว วิทยาการของมนุษย์ ตำแหน่งเจ้าชายนั้นดูแล้วน่าจะเทียบเท่ากับหัวหน้าหมู่บ้านของเอลฟ์ ได้รับโอกาสถึงขั้นนี้แล้ว ต้องทำได้อย่างแน่นอน กีลูบรอยบวมช้ำบนใบหน้า ในใจเต็มไปด้วยความคาดหวัง กีและคนอื่นๆขึ้นขี่สกิงค์ มุ่งหน้ากลับหมู่บ้านเอลฟ์
อีกด้านหนึ่ง หลังการเดินทางที่ยากลำบาก ในที่สุดมิลานก็ช่วยเซเลนกลับมาได้อย่างปลอดภัยราวกับปาฏิหาริย์ เรื่องราวของเจ้าชายรูปงามออกเดินทางไปช่วยเหลือเจ้าหญิงแสนสวยที่ถูกมังกรจับตัวไป เหล่าอาสาสมัครที่ร่วมเดินทางมากับมิลานรู้สึกภูมิใจว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของเทพนิยายนั้น แต่ในความจริงสำหรับบางคน มันใกล้เคียงกับ นักโทษแหกคุกถูกจับได้แล้ว มากกว่า
[“หลังจากผ่านอะไรมาหลายๆอย่าง ในที่สุดก็ได้กลับไปเป็นปรกติสักที น่ายินดีจริงๆครับ”]
บัตเลอร์พูดกับเซเลนอยู่บนไหล่โดยไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป ระหว่างการเดินทางกลับ มิลานได้ถามเซเลนเกี่ยวกับตัวตนของบัตเลอร์ และเซเลนก็คิดว่าไหนๆก็เคยเห็นไปตั้งหลายคนแล้วคงไม่ต้องซ่อนแล้ว จึงตอบไปสั้นๆว่า เอลฟ์ให้มา
มันจึงเป็นข้ออ้างที่ว่า ในเมื่อมันเป็นของขวัญจากเอลฟ์ก็ต้องดูแลให้ดี เพียงเท่านี้ มิลานก็ไม่ได้พูดถึงบัตเลอร์อีกเลย และทุกคนก็กลับมาถึงเฮลิฟาเต้อย่างปลอดภัย
เหตุการณ์ไม่คาดฝันของเซเลนที่เกี่ยวข้องกับมังกรและเอลฟ์ก็ผ่านพ้นไปอย่างเงียบๆโดยที่มีเพียงคนกลุ่มเล็กๆในพระราชวังเท่านั้นที่รู้ แต่เรื่องราวจะยังไม่จบเพียงแค่นี้
MANGA DISCUSSION