ตอนที่ 14
พรจากเทพธิดา
เช้าตรู่ซึ่งหมอกในยามเช้ายังไม่จางหายไปไหน มิลานทำงานอยู่ภายในห้องของเขาก่อนการฝึกในรอบเช้า ภายในห้องมีเครื่องเรื่อนอยู่ไม่กี่ชิ้น กระจกบานใหญ่เต็มตัว โต๊ะและเตียงเป็นแบบที่ดูเรียบง่าย มีแต่สิ่งจำเป็นขั้นต่ำสุดเท่านั้น เป็นห้องที่ดูธรรมดาเกินไปสำหรับเจ้าชายของประเทศขนาดใหญ่ แต่มิลานที่ยุ่งอยู่ตลอดทั้งวัน ไม่ค่อยได้ใช้ห้องนี้บ่อยนัก จึงไม่รู้สึกไม่สะดวกสบายแต่อย่างใด
“เฮ้อ ในที่สุดก็มีวี่แววว่าจะเสร็จสักที…”
มิลานนั่งอยู่ที่โต๊ะ ขยับไหล่เพื่อคลายความเมื่อยล้า
“ตอนนั้นไม่ทันคิดว่าจะต้องมาลำบากอยู่อย่างนี้สินะขอรับ”
“อย่าเอาแต่มองสิ มาช่วยกันหน่อย”
นอกจากมิลานที่จมอยู่กับกองเอกสาร ก็มีคุมะฮาจิที่กำลังเยาะเย้ย นั่งอยู่ที่เตียง แม้ว่าในเฮลิฟาเต้จะมอบอิสระให้กับบุคลากรมากอยู่ แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าออกห้องของเจ้าชายได้ เนื่องจากเป็นทั้งเพื่อนสนิทและคนคุ้มกัน คุมะฮาจิจึงเข้ามารับใช้อยู่บ่อยๆ หรือก็คือมาแหย่เล่นนั่นเอง
“หน้าที่ของข้าน้อยคือคุ้มกันนะขอรับ อีกอย่าง การที่จะเอาซามูไรมาทำงานเอกสารเนี่ย ไปบอกกับฝ่ายพลเรือนน่าจะได้เรื่องกว่านะขอรับ”
“มันเป็นเรื่องที่ผมก่อไว้เอง ก็ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเองนั่นแหละ”
ที่มิลานกำลังทำอยู่นั้นคือขั้นตอนการรับตัวเจ้าหญิงอาลัว ซึ่งเริ่มทำมาระยะหนึ่งแล้ว ในพระราชวังเฮลิฟาเต้ก็มีข้าราชการฝ่ายพลเรือนฝีมือดีอยู่มากมาย จะสั่งให้คนเหล่านั้นจัดการงานเอกสารทั้งหมดนี้ก็ทำได้ แต่เขาก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องสักเท่าไหร่
พ่อของเขาได้พูดอยู่บ่อยๆว่าให้เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ และเขาตัดสินใจไว้แล้วว่าจะจัดการเรื่องที่เป็นผลพวงมาจากเรื่องของเซเลนให้เรียบร้อยด้วยตนเองให้ได้มากที่สุด
ต้องใช้เวลามากกว่าที่เขาคิดในการเรียบเรียงประโยคและถ้อยคำที่จะทำให้ทางโรงเรียนยอมรับเจ้าหญิงจากประเทศเล็กๆอันห่างไกลจากบรรดาผู้สมัครที่มีเข้ามาอย่างล้นหลามจากทั่วทั้งทวีป โดยที่ห้ามเอ่ยถึงเซเลนโดยเด็ดขาด ทั้งหมดนี้ได้ถูกเตรียมพร้อมแล้ว หลังจากทางโรงเรียนอนุมัติ ที่เหลือก็รอให้เจ้าหญิงอาลัวเดินทางมาถึงเท่านั้น
“ต้องขอบคุณเซเลนสินะ”
มิลานพูดออกมาเบาๆขณะรวบรวมเอกสารที่จัดการเสร็จแล้ว คุมะฮาจิก็พยักหน้าอยู่เงียบๆ
นับตั้งแต่ได้พบกับเซเลน วันวันของมิลานก็ได้ถูกเติมเต็มไปอย่างมาก เมื่อมีเซเลนช่วยเป็นคนกลาง ความสัมพันธ์ของเขากับมารีก็ดีขึ้น พ่อกับแม่ก็ดูจะชอบเซเลนที่น่ารักคนนั้น มักจะถามไถ่หรือพูดถึงอยู่เสมอ
โดยเฉพาะแม่ของเขา ไอบิส ได้ให้เสื้อผ้ามากมายที่น่าจะเข้ากับเซเลน เขาจำได้ดีว่าเธอมักบ่นให้เขาฟังว่าชุดเหล่านั้นไม่ได้ถูกสวมใส่เลย นอกจากชุดสีขาวนวลที่เห็นเป็นประจำ
มิลานเองก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาดีขึ้นมากหลังจากได้รับการดูแลจากเซเลน อาการอ่อนเพลียที่ทำให้การเคลื่อนไหวติดขัดก็หายไป ทำให้รู้สึกว่ายังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีก
การรับตัวเซเลนเข้ามาทำให้ต้องมีงานเอกสารที่ยุ่งยากและเรื่องที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มขึ้น แต่มันก็ทำให้เขารับรู้ถึงภาระที่ต้องแบกรับกับสิ่งที่ควรทำ ไม่ใช่แค่ไหลไปตามกระแสความคาดหวังของคนอื่นแบบเมื่อก่อน สำหรับมิลาน หรือกระทั่งสำหรับครอบครัวเฮลิฟาเต้แล้ว เซเลนเปรียบเสมือนเทพธิดาที่มาประทานพรให้ วันวานอันน่าเบื่อที่เคยปล่อยผ่านไปอย่างเรื่อยเปื่อยนั้นไม่มีอีกแล้ว
“ตอนนี้เซเลนทำอะไรอยู่เหรอ?”
“ตอนที่ผ่านก่อนมาที่นี่ก็เห็นว่ายังหลับอยู่ในห้องนะขอรับ”
“งั้นเหรอ เดี๋ยวผมแวะไปเยี่ยมก่อนไปฝึกก็แล้วกัน”
“ย่องเข้าหากลางดึก(Yobai)… ต้องเรียกว่า ย่องเข้าหาตอนเช้า(Asabai) แทนสินะขอรับ?”
“อย่าไปเล่นมุขแบบนี้ให้ใครเขาได้ยินเชียวนะ”
หลังจากตอบกลับคำพูดล้อเล่นของคุมะฮาจิ มิลานก็เดินออกจากห้องไปยังห้องนอนของเซเลน จนถึงตอนนี้เซเลนไม่เคยรู้ตัวเลยว่า พักหลังมานี้มิลานมาเยี่ยมเธอทุกเช้าก่อนที่เขาจะไปฝึก เพื่อดูอาการของเซเลน และแน่นอนว่าเซเลนที่ร่างกายอ่อนแอในช่วงกลางวันนั้นยังคงหลับอยู่ เขาจึงได้แต่มองดูอย่างเงียบๆเท่านั้น
มิลานเคาะประตูเบาๆ รอให้แน่ใจว่าไม่มีเสียงตอบรับใดๆแล้วจึงเปิดประตูช้าๆเพื่อไม่ให้เซเลนต้องตื่น ภายในห้องมีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ในยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา เซเลนนอนหลับอย่างสบายใจด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
เมื่อคิดถึงว่าในอีกไม่กี่ชั่วโมง เด็กสาวคนนี้จะตื่นขึ้นมาและรีบไปทำอาหารให้กับเขา มันก็ทำให้เขารู้สึกปลาบปลื้มได้แล้ว
“ผมคงหักโหมเกินไปหน่อยสินะ”
มิลานพึมพำออกมา เอามือลูบไปที่แก้มนุ่มๆสีขาวราวกระเบื้องไร้ตำหนิของเซเลน
เมื่อมองดูเธอที่หลับอย่างสบายใจและไร้การป้องกันตัว มิลานรู้สึกว่าความยุ่งเหยิงในใจก่อนหน้านี้ได้จางหายไปราวกับหมอกในยามเช้าที่เริ่มเลือนราง เขาเคยตั้งใจว่าจะต้องเป็นรัชทายาทที่คู่ควรโดยเร็วที่สุด และจะต้องเป็นคนที่สามารถแบกรับอนาคตของประเทศให้ได้ เขาถูกครอบงำด้วยความมุ่งมั่นนี้โดยไม่รู้ตัวจนใกล้จะระเบิดออกมา จนถึงที่อาร์คุยล่า
เขามักจะฝืนทำทุกอย่างอยู่เสมอ เมื่อมองมาที่เซเลนก็เริ่มรู้ตัวทั้งๆที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน อดีตที่ผ่านมาจึงดูเหมือนเป็นเรื่องตลก ภายในจิตใจของเขาได้ผ่อนคลายลงไปอย่างมาก
ถึงจะรู้สึกผิดกับเซเลน แต่มิลานก็ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เซเลนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่มีโอกาสรู้จักกับเธอ ได้พูดคุยกันอย่างในทุกวันนี้ ขณะเดียวกันก็อยากกล่าวโทษพระเจ้าที่มอบร่างกายอันอ่อนแอจนไม่สามารถเผชิญกับแสงอาทิตย์ได้
ในความคิดของเซเลน เธอได้แต่ขอบคุณพระเจ้าเท่านั้น ร่างกายที่แพ้แสงแดดหรือสภาพความเป็นอยู่ที่ถูกจำกัด เท่านี้ก็สามารถทำตัวขี้เกียจ นอนได้ทั้งวันโดยไม่มีใครมาว่าอะไรเธอได้ จะมิลานหรือแม้กระทั้งพี่สาวของเธอ อาลัว ก็ยังคิดว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
“ถึงจะไม่อยากเลยก็เถอะ แต่น่าจะถึงเวลาที่ต้องไปวัลเบิร์ตได้แล้ว”
เขาจงใจหลีกเลี่ยงโดยการตระเวนไปตามพื้นที่ห่างไกล และหลังจากกลับมาเขาก็อ้างว่าต้องจัดการตามขั้นตอนเพื่อต้อนรับเจ้าหญิงอาลัว ถ้าคิดจะถ่วงเวลาไปมากกว่านี้ เกรงว่าทางนั้นจะเล่นงานเขายับแน่นอน
ตามแผนการแล้วไม่คิดจะอยู่ที่นั่นนานนัก จึงต้องให้ความสำคัญกับการหลีกเลี่ยงเรื่องไม่พึงประสงค์ด้วย
เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อเป็นการเปิดหูเปิดตาให้กับเซเลนแล้ว การที่ต้องไปประเทศเพื่อนบ้านครั้งนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ยังพอรับได้
มิลานสร้างขวัญกําลังใจให้ตนเองก่อนมุ่งหน้าไปฝึกช่วงเช้า
◆ ◇ ◆ ◇ ◆
“เจ้าชาย!”
เซเลนโผล่มาที่สนามฝึกพร้อมหิ้วตะกร้ามาด้วย
ช่วงหลังๆมานี้ ทหารได้หยุดพักจากการฝึกซ้อมบ่อยขึ้น เนื่องจากการบุกรุกของหญิงสาวที่เสมือนเป็นไอดอลของเหล่าทหาร
ตั้งแต่เซเลนปรากฏตัวให้เห็น ขวัญและกำลังใจของทหารก็เพิ่มสูงขึ้น เพราะจนถึงตอนนี้ เจ้าชายได้เข้ามาร่วมฝึกและฝึกหนักโดยไม่หยุดพัก สำหรับทหารธรรมดาทั่วไปจะให้พักผ่อนอยู่ฝ่ายเดียวมันก็รู้สึกว่าไม่สมควรจนยากที่จะพักแบบสบายใจได้
หลังจากนั้น เซเลนก็ได้เข้ามา บังคับให้เจ้าชายกินมื้อกลางวันและบังคับให้เจ้าชายหยุดพัก ในช่วงเวลานั้นทหารคนอื่นๆจึงได้หยุดพักไปด้วยโดยไม่ต้องรู้สึกผิดอยู่ในใจ ไม่เพียงแค่นั้น ทหารหนุ่มที่ยังไม่มีคู่ครอง ได้หลงเสน่ห์ในความงดงามของเซเลนผู้เยาว์วัยอีกด้วย
เฮลิฟาเต้เป็นประเทศที่เปิดกว้าง ทุกๆคนรวมถึงคุมะฮาจิ ต่างก็ประสบความสำเร็จได้หากพวกเขามีความซื่อสัตย์และความสามารถที่คู่ควร เซเลนถือเป็นอีกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของ ‘ผู้มีฐานะต่ำแต่มีศักยภาพพิเศษให้อาณาจักรยอมรับ’ เป็นเรื่องที่รู้กันทางสาธารณะ
อีกนัยหนึ่งคือ เซเลนไม่ใช่คู่หมั้นของเจ้าชาย เป็นดอกไม้งามที่อยู่สูง แต่ก็ไม่สูงเกินเอื้อม
อีกไม่กี่ปีก็จะเป็นสาวงามผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่มีท่าทีเสแสร้ง อีกทั้งการที่เธอทุ่มเทเอาใจใส่ดูแลเจ้าชายเป็นอย่างดีจนรู้สึกได้แม้ไม่ได้ใกล้ชิด เป็นเรื่องธรรมดาที่ทหารหนุ่มทั้งหลายจะอยากได้เธอผู้นั้นมาครอง เหล่าชายฉกรรจ์จึงตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างแข็งขันกว่าที่เคย
เซเลนเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานอย่างงดงามเพียงดอกเดียวในสนามฝึกนี้ เปรียบดั่งในนิทานสโนว์ไวท์ที่เป็นที่รักของคนแคระทั้งเจ็ด แต่ในความเป็นจริงแล้วบทของเธอไม่ใช่สโนว์ไวท์ แต่เป็นแม่มดใจร้ายที่นำแอปเปิ้ลพิษมาให้ต่างหาก ถ้ามีคนรู้ความจริงในส่วนนี้เข้ามันก็จะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นหลายอย่างเลยทีเดียว
“บาร์บีคิว โอเคนะ?”
เซเลนเดินผ่านทหารคนอื่นๆไปที่มิลานด้วยท่าทีแข็งขัน นำส่วนหนึ่งของเนื้อที่เน้นรสเค็มออกมาพร้อมถามคำถามด้วยภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ
“เซเลนรู้อยู่แล้วใช่ไหมครับว่าผมอยู่ในระหว่างเดินทางเพื่อการศึกษา? ตอนนี้ผมดำเนินการเรื่องของเจ้าหญิงอาลัวเรียบร้อยแล้ว ก็เลยคิดว่าจะออกเดินทางไปวัลเบิร์ต ที่เป็นประเทศข้างๆ”
“เจ้าชาย จะไม่อยู่เหรอ?”
หากเจ้าชายไม่อยู่ พิษก็จะไม่ได้ถูกสะสมอย่างต่อเนื่อง เซเลนผิดหวังด้วยสาเหตุนั้น แต่เมื่อมิลานมองมาก็เห็นเป็นภาพลูกแมวที่ถูกเจ้าของทิ้งซ้อนทับขึ้นมา จึงเข้าใจว่าเซเลนคงจะเหงาที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เขาจึงยิ้มอย่างอ่อนโยนไปที่เธอ
“ก็คิดอยู่ว่าเซเลนอยากจะไปด้วยกันไหม? ถ้าอยู่แต่ในวังหลวงของเฮลิฟาเต้ก็คงจะเบื่อสินะ ประเทศนั้นก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ จะถือว่าไปชมทิวทัศน์ก็ได้”
“เอ๋?”
“ก็อยากจะให้เป็นแขกของทางราชวงศ์อยู่หรอก แต่ครั้งนี้ต้องขอปิดบังฐานะของเธอไปก่อน ให้เป็นหนึ่งในสาวใช้ที่ติดตามมาด้วย”
มิลานกล่าวและขอโทษอีกครั้ง แต่ปัญหาของเซเลนไม่ได้อยู่ตรงจุดนั้น จะเป็นสาวใช้หรือเป็นอะไรก็ตามใจก็แล้วกัน แต่ทำไมต้องให้ไปยุ่งเกี่ยวกับความสนุกส่วนตัวของเจ้าชายด้วยล่ะ? ต่อให้ไปด้วยแต่ถ้าใช้ห้องครัวไม่ได้มันจะไปมีประโยชน์อะไรถ้าทำอาวุธลับ ข้าวกล่องสังหาร ออกมาไม่ได้
มันก็ต้องไม่ไปอยู่แล้ว ถ้าเจ้าชายไม่อยู่เมื่อไหร่ก็จะได้นอนทั้งวัน สานสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมารี และให้บัตเลอร์ออกหาข้อมูล ดูจะเข้าท่ามากกว่า
ไม่เป็นไร ขอบคุณ ก่อนที่เซเลนจะได้ตอบออกไป มิลานก็พูดขึ้นมาก่อน
“แล้วก็มีอีกเรื่องที่อยากจะให้รู้ไว้ก่อน จริงๆแล้วมีข่าวลือว่าเจ้าหญิงแห่งวัลเบิร์ตมีคำสาป”
“สาป?”
“ก็แค่ข่าวลือ ไม่มีหลักฐานว่าเธอเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนั้นจริงๆ”
มิลานอธิบายให้เซเลนที่ทำท่าสงสัยได้ฟัง ว่ากันว่าเจ้าหญิงแห่งวัลเบิร์ตเกี่ยวข้องกับเรื่องลึกลับ
เธอเป็นเจ้าหญิงของประเทศที่ยิ่งใหญ่ลำดับสองของทวีป ถ้าไม่นับมารีเบล เฮลิฟาเต้ เธอเป็นเจ้าหญิงที่มีชายหนุ่มมากมายต้องการแต่งงานกับเธอ ถึงอย่างงั้น ก็มีข่าวลือว่าบรรดาผู้ที่มาขอหมั้นหมายกับเธอนั้นต่างก็ล้มป่วยไปทีละคน
ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุ อาจเป็นเพราะพลังเวทย์เฉพาะตัวของเธอ หรือเป็นเพราะสภาพอากาศ แต่เรื่องที่บอกว่ามีคนล้มป่วยไปนั้นเป็นความจริง
“อืม ถ้าให้ผมเดาก็คงจะเป็นเพราะเหนื่อยจากการเดินทางไกลนั่นแหละ กับผมเองก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็เห็นๆกันอยู่ว่าตอนนี้ก็ยังแข็งแรงดี”
“เพื่อนสมัยเด็ก!?”
“จะเรียกอย่างนั้นก็ไม่ผิด… ว่าแต่ จู่ๆก็เป็นอะไรไปล่ะ?”
ตอนที่บอกไปว่า รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เซเลนก็หันมาจ้องที่เจ้าชายด้วยท่าทางที่บอกว่าอารมณ์ไม่ดี
มิลานยังไม่แน่ใจนักแต่ถ้าเทียบกับกรณีของคนอื่นที่เคยพบมา จึงตัดสินใจเลือกคำตอบที่คิดว่าเซเลนน่าจะพอใจมากที่สุด
“ผมไม่ได้มีความรู้สึกแบบชายหญิงกับทางนั้นหรอก แค่ได้เจอกันบ่อยๆจากการเยี่ยมเยียนระหว่างประเทศเท่านั้น”
“จริงเหรอ?”
“จริงๆ”
มิลานตอบไปเช่นนั้น เซเลนดูเหมือนจะยังไม่เชื่อในทันทีแต่ก็เห็นว่ายังพอรับได้อยู่
“(คิดว่าเซเลนยังเด็กอยู่ แต่หลังจากนี้คงต้องตระหนักไว้ว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งแล้วล่ะ)”
มิลานส่งยิ้มให้สาวน้อย เขาได้ไปประเทศอื่นๆอีกมากก่อนที่จะไปอาร์คุยล่า เมื่อพูดคุยกับชนชั้นสูงตามแต่ละพื้นที่ แล้วเขาได้ถึงพูดถึงว่ามีเพื่อนสมัยเด็กเป็นเจ้าหญิงที่วัลเบิร์ต หญิงสาวบางคนจะอารมณ์เสียขึ้นมาทันที
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงเปลี่ยนท่าทีกะทันหันแบบนั้น เมื่อไปถามคุมะฮาจิก็ได้ความว่า ‘เมื่อบุรุษที่อยู่เบื้องหน้าเอ่ยถึงสตรีอื่นที่เขาสนิทสนมด้วย สตรีในที่นั้นก็ต้องรู้สึกหงุดหงิดเป็นเรื่องธรรมดา’ จากนั้นเขาก็เข้าใจถึงเหตุผล
ตั้งแต่ตอนที่เขาตัดสินใจเป็นเพื่อนกับเธอ เขาไม่เคยคิดกับเธอนอกเหนือจากการเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเลย ถ้าจะให้พูดตรงๆแล้ว เขาคิดว่าเธอเป็นประเภทที่เขาไม่ถูกชะตาเลยด้วยซ้ำ
เซเลนยังเด็กเกินกว่าที่จะคิดถึงเรื่องอะไรแบบนั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้หญิงก็คือผู้หญิง ถึงจะตัวเล็กก็ยังเป็นผู้หญิง พอคิดเช่นนั้นมิลานก็ยิ้มออกมา
ทางด้านของเซเลนก็ยังคงด่าอยู่ในใจ ‘ไอ้พวกเพียบพร้อม มีแม้กระทั้งเพื่อนสมัยเด็ก นี่แกเป็นพระเอกในเกมจีบสาวเหรอไง!’ แต่ยังไงก็อยากเจอเจ้าหญิงข้างบ้านคนนั้นอยู่เหมือนกัน
เป็นเจ้าหญิงที่สามารถสาปให้ร่างกายอ่อนแอจนถึงขั้นเจ็บป่วยได้ แล้วยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กอีก ที่เซเลนกำลังทำอยู่คือการลอบสังหารเจ้าชาย แต่มันก็เป็นหนึ่งในวิธีการ ไม่ใช่เป้าหมาย ที่สำคัญที่สุดจริงๆแล้วคือต้องปกป้องพี่สาว อาลัว จากเจ้าชายนี่ให้ได้ จะได้กลับไปอยู่อย่างสงบสุขกับพี่สาวได้สักที เป้าหมายในตอนนี้ก็คือต้องทำให้เจ้าชายยื่นมือมาแตะต้องพี่สาวไม่ได้ เจ้าหญิงจากประเทศข้างๆก็ดูไม่น่าจะมีอำนาจทำอะไรกับมิลานในตอนนี้ได้ แต่ก็ยังมีสถานการณ์ที่น่าจะคาดหวังได้อยู่
“ที่ผมชวนเซเลนไปประเทศเพื่อนบ้านด้วยกัน เป็นแค่ข้อเสนอเท่านั่น ถ้าไม่อยากไปก็ไม่บังคับหรอกครับ”
“ไป!”
“…ไม่กลับไปคิดให้ดีก่อนเหรอครับ? เพื่อความปลอดภัยแล้ว ผมจะพยายามอยู่ใกล้เซเลนเข้าไว้ แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นการเดินทางที่สนุกนัก”
“ถ้าไปได้ ก็จะไป!”
“แล้วถ้ามันมีคำสาปอยู่จริงๆล่ะครับ? ไม่กลัวเหรอ?”
“เพราะมีคำสาป ถึงอยากไป”
เซเลนพูดประโยคน่าสงสัยออกมาทำให้มิลานต้องเอียงคอ อาจเป็นเพราะว่าเซเลนเป็นห่วงในความปลอดภัยของเขา แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล ในทางกลับกัน ตัวเจ้าหญิงเองนี่แหละ จะเป็นปัญหามากกว่าข่าวลือพรรคนั้นอีก แต่ก็ไม่แน่ว่าหากพาเซเลนที่เป็นเหมือนเทพธิดาที่คอยประทานพรให้กับเขาไปด้วย การเดินทางพบปะอันน่าอึดอัดนี้อาจราบรื่นกว่าที่คิด
“เข้าใจแล้วครับ งั้นก็เตรียมตัวให้พร้อมแล้วออกเดินทางพรุ่งนี้กันเลย”
“อือ!”
เซเลนพยักหน้าอย่างหนักแน่น ถึงคำสาปจะไม่มีผลอะไรเลยจริงๆ ก็ยังมีโอกาสได้จับคู่มิลานกับเพื่อนสมัยเด็กคนนั้นให้ลงเอยกัน จะได้ไม่ต้องมายุ่มย่ามกับอาลัว มีคนเคยพูดไว้ว่า การแต่งงานคือจุดจบของชีวิตเจ้าสําราญ งั้นก็จงจบเห่ไปซะเถอะ
“(เจ้าชาย จับคู่กับ เพื่อนสมัยเด็ก!)”
ก็ไม่รู้หรอกว่าคำสาปของเจ้าหญิงมันเป็นยังไง แต่ก็จะพยายามดึงสายตาของมิลานไปหาทางนั้น จะเป็นกามเทพให้พวกเขาเอง ยิงลูกศรแห่งความรักไปที่เธอ และยิงลูกศรอาบยาพิษทะลุหัวใจเขา
“ปิ้ว”
หลังจากมื้อกลางวันสิ้นสุดลง เข้าชายเดินกลับไปฝึกซ้อมต่อ เซเลนยกนิ้วชี้ไปที่แผ่นหลังของเจ้าชาย ทำท่าเหนี่ยวไกพร้อมคิดถึงกระสุนที่ทะลวงผ่านหัวใจของมิลานและยิ้มออกมาอย่างพอใจ
MANGA DISCUSSION