ตอนที่ 1-5 ความฝันของโคลเอ้
1-5 ความฝันของโคลเอ้
โคลเอ้ ทำงานเก็บเกี่ยวและคัดเลือกดอกลาเวนเดอร์คุณภาพดี สำหรับนำไปแปรรูปเป็นแยมลาเวนเดอร์เพื่อนำไปขายในเขตปกครองของบารอนแฮนเซ่น
ดอกลาเวนเดอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรได้มากที่สุดในบรรดาสินค้าทั้งหลายของตระกูลแอตวูด การคัดเลือกคุณภาพของดอกลาเวนเดอร์จึงสำคัญมาก เพราะไม่มีใครจ่ายเงินเพื่อซื้อแยมดอกลาเวนเดอร์คุณภาพต่ำ
โคลเอ้เดินเลียบไปตามทุ่งลาเวนเดอร์และคัดเลือกเฉพาะดอกลาเวนเดอร์คุณภาพดีอย่างเงียบเชียบ
เธอสามารถแยกแยะคุณภาพของดอกลาเวนเดอร์ได้อย่างเชี่ยวชาญ กลับกันในมุมมองของมีเลียจะดอกไหนก็ดูเหมือนๆ กันไปหมด
(โคลเอ้-โอเน่จัง มีพรสวรรค์โดดเด่นเป็นอย่างมากสำหรับเด็กที่อายุเพียง10ขวบ ฉันจำได้ว่าเมื่อชาติก่อน ในตอนที่ตัวเองอายุ10ขวบ ฉันมักจะทำอาหารให้เจ้าพ่อไร้ประโยชน์กินอยู่เสมอ เขาบอกให้ฉันทำงานทุกอย่างและฉันก็ทำตามที่เขาสั่งมาตลอด ซึ่งเขาก็ไม่แม้แต่จะซื้อสมุดจดสำหรับไปโรงเรียนให้ฉันเลยด้วยซ้ำ
ฉันก็เลยเก็บหนังสือพิมพ์ที่มีพื้นที่ว่างๆ มาทำเป็นสมุดจดด้วยตัวเอง…
อา ลืมๆ ความทรงจำอันเลวร้ายนั่นไปดีกว่า ใจความสำคัญคือฉันรู้สึกดีใจที่มีคนอย่างโคลเอ้-โอเน่จังเป็นพี่สาว
เธอเพิ่งอายุ10ขวบ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความคิดและความเป็นผู้ใหญ่แถมยังเป็นอัจฉริยะอีกต่างหาก หรือว่าบางทีสภาพแวดล้อมในครอบครัวที่ซับซ้อนนี้จะไปเร่งให้โคลเอ้-โอเน่จังต้องโตเร็วขึ้นก็อาจเป็นได้)
พอได้เห็นโคลเอ้ทำงานคัดเลือกดอกลาเวนเดอร์อย่างหนักมีเลียก็อยากจะช่วยแบ่งเบาบ้าง แต่สิ่งเดียวที่เธอทำได้ก็มีแค่ถือตะกร้าเดินตามโคลเอ้ต่อยๆ ซึ่งเพียงเท่านั้นก็ทำให้โคลเอ้รู้สึกมีความสุขมากๆ แล้ว
[รู้ไหมมีเลีย? ถ้าพี่เข้าเรียนได้ พี่อยากจะเรียนสายบริหารธุรกิจล่ะ]
[บริหารหรอ?]
[ใช่แล้ว พี่จะสร้างเส้นสายในโรงเรียนให้ได้มากที่สุดแล้วก็จะเปิดร้านค้าให้ทั่วอาณาจักรจะได้ขายของได้ทุกทีเลย
สุดท้าย ฉันก็จะทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในชนบทห่างไกลสามารถเข้าถึงสินค้าต่างๆ ได้ในราคาที่ยุติธรรม คิดดูสิว่ามันจะวิเศษแค่ไหน?]
[อื้อ! เป็นความฝันที่สุดยอดไปเลยค่ะ!]
มีเลียรู้สึกประทับใจกับความฝันอันยิ่งใหญ่ของโคลเอ้ ขณะเดียวกันเธอก็ตระหนักได้ว่าโคลเอ้จะไม่มีทางมีความฝันที่สุดยอดแบบนี้ได้ ถ้าหากว่าเธอไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกลเช่นนี้
ร้านค้าแห่งเดียวภายในหมู่บ้านนี้ เป็นแค่ร้านค้าเล็กๆ ที่จำหน่ายเพียงของใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันและการนำเข้าสินค้าจากที่อื่นมาขายนั่นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะหมู่บ้านนี้ตั้งอยู่สุดขอบตะวันตกของอาณาจักรอแดรสเฮล์ม
แค่จะเดินทางไปยังฮานูมาเล่ที่เป็นเมืองใกล้เคียงเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้ายังใช้เวลาถึง1เดือนเต็ม ยิ่งไปกว่านั้นการจะเดินทางไปฮานูมาเล่ยังต้องผ่านเส้นทางอันเป็นถิ่นที่อยู่อยู่มอนเตอร์อีกต่างหาก
สามารถผ่านเส้นทางนั้นได้แค่ในช่วงเวลากลางวันที่มอนเตอร์กำลังอ่อนแอเท่านั้น ดังนั้นถ้าคนที่ไม่คุ้นเคยกับเส้นทางเป็นอย่างดีล่ะก็ คงจะกลายเป็นขนมหวานให้มอนเตอร์เคี้ยวเล่นอย่างแน่นอน
บารอนแฮนเซ่นผู้ผู้ปกครองเขตเมืองฮานูมาเล่จะส่งกองคาราวานที่มีอัศวินคุ้มกันเพื่อมาขายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่เขตของแอตวูดเพียงปีละ2ครั้งเท่านั้น นั่นจึงทำให้สินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ซึ่งถ้าบารอนแฮนเซ่นไม่ได้รับคำสั่งจากทางอาณาจักรเข้าก็คงไม่มีทางมาเหยียบเขตปกครองของตระกูลแอตวูด เพราะจากใจจริงเขาไม่อยากสูญเสียอัศวินของตนเองจากเส้นทางที่เต็มไปด้วยมอนเตอร์ยั้วเยี้ย
เขามักจะเหน็บแนมในสังคมชนชั้นสูงอยู่บ่อยครั้งว่า “การเดินทางไปเขตของตระกูลแอตวูด ‘หมายถึง’ ฉันต้องเสียเปล่าทั้งกำลังคนและเงินทอง แต่ไม่มีทางเลือกเพราะเป็นคำสั่งจากทางอาณาจักร”
[อะฮ่ะฮ่ะ… หนูไม่รู้มาก่อนเลยว่าบ้านเราอยู่ไกลปืนเที่ยงขนาดนี้…]
มีเลียอดหัวเราะอย่างขมขื่นไม่ได้ เมื่อได้ยินโคลเอ้อธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลแอตวูด
(อืม… การจะหนีออกจากที่นี่ด้วยตัวคนเดียวแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ฉันไม่อยากจะเป็นขนมหวานให้พวกมอนเตอร์เคี้ยวเล่นก่อนจะได้ใช้ชีวิตสุขสบายในโลกนี้หรอกนะ…)
[ป่าที่เต็มไปด้วยมอนเตอร์ครอบคลุมตลอดทางทิศใต้จรดถึงฝั่งตะวันตก ทางตะวันออกเต็มไปด้วยหน้าผาสูงชัน ส่วนทางเหนือเป็นพื้นที่รกร้างที่ยังไม่มีใครเคยไปสำรวจ… ฮ่ะฮ่ะ… เหมือนกับเราอาศัยอยู่กลางเกาะร้างเลยคิดว่างั้นไหม…]
เมื่อกล่าวจบ โคลเอ้ก็ทอดสายตามองไปยังทุ่งลาเวนเดอร์อย่างว่างเปล่า
เมื่อเปรียบเทียบกับบ้านของมีเลียในชาติที่แล้ว ถือว่าสถานการณ์ของทางนี้แย่กว่ามาก
ชีวิตก่อนที่ญี่ปุ่นนั้น เธอเดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงร้านสะดวกซื้อแล้ว แต่ตอนนี้ต้องใช้เวลาถึง1เดือนเพื่อไปซื้อของในเมืองใกล้เคียง ยิ่งกว่านั้นยังเป็นการเดินทางที่อันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิตได้อีกด้วย
โคลเอ้เด็ดดอกลาเวนเดอร์ตรงหน้าเธออย่างระมัดระวังมาถือไว้ ก่อนจะหันมาหามีเลียและกล่าวว่าー
[มีเด็กๆ มากมายที่อาศัยอยู่ในชนบทห่างไกลที่มีปัญหาคล้ายกับพวกเรา เมื่อไม่มีสิ่งที่จะชักจูงจิตใจ พวกเขาก็จะกลายเป็นคนที่อยู่อย่างแร้นแค้น
หากไม่สามารถอ่านหนังสือได้หรือไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอก พวกเขาก็จะไม่มีความหวังหรือว่าความฝัน
พี่อยากจะช่วยเด็กๆ พวกนั้น แต่มันต้องใช้เงินจำนวนมากถึงจะทำได้ เพราะงั้นจึงต้องไปเรียนที่วิทยาลัยก่อน… อืมม… มีเลีย เข้าใจสิ่งที่พี่ต้องการจะสื่อไหม?]
[อื้อ หนูเข้าใจค่ะ]
[ช่วยเก็บไว้เป็นความลับด้วยนะ ตกลงไหม? อย่าบอกเรื่องเกี่ยวกับความฝัน นี้ของพี่ให้ใครฟัง โดยเฉพาะท่านพี่โรบิน… เรารู้ใช่ไหมว่าทำไม?]
มีเลียจ้องมองสบตาโคลเอ้และพยักหน้า
เมื่อตระหนักได้ว่าบุคลิกของโรบินเป็นคนที่นิสัยแย่ขนาดไหน มีเลียก็จินตนาการอนาคตออกเลยว่า ถ้าหากโรบินล่วงรู้เรื่องความลับนี้เข้า หล่อนจะสร้างปัญหาให้เราขนาดไหน
[นี่เป็นความลับระหว่างเราแค่2คนนะ~]
โคลเอ้ยิ้มอย่างมีความสุขและหย่อนดอกลาเวนเดอร์ในมือลงตะกร้าที่มีเลียถือไว้
ในตอนนั้นเองー
ก๊องー ก๊องー ก๊องー ก๊องー
เสียงแหลมสูงที่ได้ยินมาจากทิศทางของคฤหาสน์ก็ดังขึ้น
เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า การทำงานในวันนี้จบลงแล้ว
โคลเอ้คว้าตะกร้าในมือมีเลียไปถือไว้และส่งยิ้มให้เธอ
[กลับบ้านกันเถอะมีเลีย ดูเหมือนว่าวันนี้เวลาอาหารมื้อเย็นจะเร็วกว่าทุกทีนะ]
[อื้อ!]
‘กลับบ้านด้วยกันกับใครสักคน’
มีเลียแอบรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
โคลเอ้มองท่าทางเขินอายของน้องสาวที่เอื้อมมาจับมือที่ยังว่างอยู่ของเธออย่างประหลาดใจก่อนจะหันไปจ้องฝ่ามืออันเล็กป้อมของมีเลีย
[…ฮุฮุ… ฉันอยากจะปกป้องมือเล็กป้อม นี่จัง…]
[หืม? โอเน่จังพูดว่าอะไรนะคะ?]
[ไม่มีอะไรจ่ะ จับมือพี่แน่นๆ นะ ถ้าเกิดเราหกล้มพี่สาวจะปวดใจมากๆ เลย]
[อื้อ!]
มีเลียจับมือโคลเอ้ให้แน่นขึ้น
ไม่รู้ว่าทำไม มันถึงทำให้โคลเอ้รู้สึกปลื้มปริ่มมากๆ
[ฮุฮุ~]
[ฮ่ะฮ่ะ~]
ทั้งสองคนยิ้มแย้มให้กันและกันขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน
แต่แล้วมีเลียก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
เธอหยุดเดินและดึงสีหน้าเคร่งเครียด
(เดี๋ยวนะ… นี่เรากำลังจะไปทานมื้อเย็นใช่ไหม? นั่นหมายความว่า… คนทั้งครอบครัวจะต้องรวมตัวกันที่ห้องอาหาร? ดังนั้นฉันจะต้องกินข้าวกับเจ้าพ่อสมองกล้าม พี่สาวที่เพิ่งหย่าชอบทำตัวเหมือนนางร้าย และ… พี่เขยโรคจิตใคร่เด็กสาว…?
OH・MY・GOD! ฉันไม่รู้เลยว่าต้องทำสีหน้าแบบไหน…?!
ไม่สิ ประเด็นสำคัญคือ ฉันไม่สามารถเอนจอยไปกับการกินข้าวร่วมกับคนพวกนี้ได้!)
ถึงตัวมีเลียจะมีความทรงจำที่ได้ทานอาหารพร้อมกับครอบครัวนี้หลายครั้งก็ตาม แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอระลึกความทรงจำเมื่อชาติก่อนขึ้นมา
[เป็นอะไรไปมีเลีย? เร็วเข้าเถอะ ถ้าเราไปช้า ท่านพ่อจะโกรธ]
[อะ อืม…] มีเลียยิ้มตอบอย่างฝืนๆ
โคลเอ้เอียงศีรษะฉงนเล็กน้อยก่อนจะดึงมือมีเลียและพากันวิ่งออกไปจากท้องทุ่งลาเวนเดอร์
—-
TL : ชื่อเมืองฮานุมาเล่ = จริงๆ อิ้งแปลทับศัพท์ออกมาอีกคำ แต่เราอ่านได้อีกคำนึง ก็เลยเลือกจะใส่พ้องเสียงญี่ปุ่นไปเลยนะคะ
Chapters
Comments
- ตอนที่ 1-5 ความฝันของโคลเอ้ กันยายน 2, 2021
- ตอนที่ 1-4 ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว กันยายน 2, 2021
- ตอนที่ 1-3 ความสามารถทางเวทมนตร์ กันยายน 2, 2021
- ตอนที่ 1-2 บุตรสาวคนที่6 โคลเอ้ กันยายน 2, 2021
- ตอนที่ 1-1 ฝ่าฝันหาทางออก กันยายน 2, 2021
- ตอนที่ 0 เกริ่นนำ 2 กันยายน 2, 2021
- ตอนที่ 0 เกริ่นนำ 1 กันยายน 2, 2021
MANGA DISCUSSION